การศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยผานนิทานการตูนแอนิเมชั่น สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี
STUDY OF MORAL REASONING AND DISCIPLINE THROUGH CARTOON ANIMATION STORIES FOR ELEMENTARY STUDENTS GRADE 5 AT
ANUBANLOPBURI SCHOOL
ผูวิจัย พัชรศิริ ทัศนศรี1 Phatcharasiri Thatsanasri earthanny28@gmail.com กรรมการควบคุม ผศ.ดร. ฤทธิชัย ออนมิ่ง2
ดร. ขวัญหญิง ศรีประเสริฐภาพ3 Advisor Committee Asst.Prof.Dr. Rittichai Onming
Dr. Khwanying Sriprasertpap
บทคัดยอ
การศึกษาวิจัยเรื่อง การศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรม ดานความมีวินัยผานนิทานการตูนแอนิเมชั่นสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี
ครั้งนี้ มีความมุงหมายของการวิจัย คือ 1. เพื่อพัฒนา นิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรม ดานความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรีใหมีคุณภาพตามเกณฑ 2. เพื่อ ศึกษาพัฒนาการดานเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมี
วินัย กอนใช ระหวางใช และหลังใช การใชนิทานการตูน แอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมี
วินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียน อนุบาลลพบุรีกลุมประชากร คือ นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปที่ 5/2 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี ภาคเรียนที่
1 ปการศึกษา 2556 จํานวน 49 คน ซึ่งไดมาโดยวิธีการ สุมอยางงาย เครื่องมือที่ใชในการศึกษาคือ แบบประเมิน
เหตุเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย แบบวัดเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัย และนิทานการตูนแอนิเมชั่น ใชการวิเคราะหขอมูลเชิงปริมาณ สถิติที่ใช สถิติแบบ วัดซ้ํา (Repeated Measures)
ผลการวิจัย พบวา
นิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัย สําหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรีมีคุณภาพระดับ ดีมากและมีพัฒนาการดานเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัย อยูในระดับปานกลาง โดยมีคาเฉลี่ย เทากับ กอนใช 2.33 ระหวางใช 2.50 และหลังใช 2.50 และ นักเรียนมีเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยหลัง ใชนิทานการตูนแอนิเมชั่นเพิ่มขึ้น อยางมีนัยสําคัญทาง สถิติที่ ระดับ .05
คําสําคัญ : เหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย นิทานการตูนแอนิเมชั่น
1นักศึกษาระดับมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2ผูอํานวยการสํานักสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา
3รองผูอํานวยการฝายบริหารสํานักสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา
ABSTRACT
The Educational research is to study of moral reasoning about a discipline by cartoon animation stories for elementary students grade 5, AnubanLopburi School. The purpose of this research was develop cartoon animation stories for supporting to moral reasoning about a discipline before, during and after use. The cartoon animation stories apply for supporting to moral reasoning about a discipline in elementary students grade 5, AnubanLopburi School. The samples in the research is elementary students grade 5/2, AnubanLopburiSchool,Semester 1 academic year 2556 which is acquired by simple random sampling. Material in the research is evaluation from of moral reasoning about a discipline, Measure form of moral reasoning about a discipline and cartoon animation stories.
Analysis of quantitative data and the statistics is using a Repeated Measures
The findings of this study revealed that : The results of the research found that cartoon animation stories for supporting to moral reasoning about a discipline in elementary students grade 5, AnubanLopburi School have a quality along with criteria. And development of moral reasoning about a discipline were at a moderate level that the average is 2.33 before, 2.5 between and 2.50 after. And the student has the discipline of moral reasoning after used cartoon animation stories increased there were significant at a 0.5 level.
Keyword : Moral Reasoning And Discipline Cartoon Animation Stories
บทนํา
การที่จะแกปญหาสิ่งตางๆ ที่เกิดขึ้นจะตองมี
การรวมมือรวมใจของคนทุกคนในหลายๆ ฝายจึงจะ สามารถชวยสังคมใหกลับมาอยูรวมกันอยางสงบและมี
ความสุขไดซึ่งสังคมที่พึงประสงคนั้นไดกลาวไวใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 9 พ.ศ.
2545–2549 ไดกําหนดวิสัยทัศนในการพัฒนาประเทศ ไทยโดยกําหนดสภาพสังคมที่พึงประสงคโดยมุงพัฒนา สู “สังคมที่เขมแข็งและมีดุลยภาพ” ใน 3 ดาน โดยเฉพาะ ดานสังคมคุณภาพมีคุณธรรมโดยเฉพาะการมีวินัยและ ไดใหความสําคัญเกี่ยวกับการพัฒนาคนใหมีคุณภาพ และรูเทาทันการเปลี่ยนแปลงสอดคลองกับแนวคิดของ ทัศนียทองสวาง (2549:167–169) ที่ไดกลาวไววา การ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เนนการปองกันการเสริมสราง ความเขมแข็งของครอบครัวและชุมชนก็ไดเนนเกี่ยวกับ การมีระเบียบวินัยจากแนวคิดขางตนจะเห็นวาการ แกปญหาตางๆ นั้นจะตองใหความสําคัญเกี่ยวกับการ พัฒนาคน ซึ่งมีปจจัยที่เกี่ยวของก็คือครอบครัวและ ชุมชนจะตองรวมมือกันเพื่อสรางคนใหมีคุณภาพใหกับ สังคม
ปญหาที่สําคัญและมีการกลาวถึงกันมากก็คือ ปญหาการมีวินัยของคนในชาติเราก็จะพบวาปญหา ดานวินัยนั้นเกิดขึ้นเริ่มตั้งแตหนวยเล็กๆ ขึ้นมาตั้งแต
ครอบครัวโรงเรียนชุมชนซึ่งเมื่อรวมกันก็กลายเปน ปญหาระดับประเทศขึ้นมาการแกปญหาจึงควรเริ่ม ตั้งแตหนวยเล็กๆ คือ ตั้งแตครอบครัวและโรงเรียนสู
สังคมที่ใหญขึ้นไปเมื่อคนในชาติมีวินัยแลวก็จะทําให
คนเราอยูรวมกันอยางมีความสุข กมลแสงทองศรีกมล (2550: 52–53) ไดกลาวถึงขอมูลขององคกรเพื่อความ โปรงใสนานาชาติ (Transparency International) CPI
เบอรลิน เยอรมนีไดสํารวจความเห็นของนักธุรกิจ นักวิชาการนักบริหารของบริษัทใหญๆ สอบถามความ เห็นของบุคคลที่มีตอเจาหนาที่ของรัฐในประเทศตางๆ ที่แสวงหาผลประโยชนในทางมิชอบทั้งการรับสินบน หรือการใหสินบนหรือการเบียดบังผลประโยชนของรัฐ จาก 99 ประเทศเมื่อป พ.ศ. 2542 โดยใหผลการสํารวจ มีคะแนนเต็ม 10 ผลการสํารวจพบวาประเทศไทยอยูใน อันดับที่ 68 ได 3.2 คะแนนซึ่งจะเห็นไดวาประเทศที่มี
ความโปรงใสสวนใหญเปนประเทศที่พัฒนาแลวประเทศ ในเอเชียประเทศที่ไดที่ 1 และที่ 2 คือสิงคโปรและญี่ปุน ประเทศในกลุมอาเซียนที่ติด 1 ใน 10 มีเพียงสิงคโปร
ประเทศเดียวและไทยยังเปนรองประเทศเพื่อนบานทั้ง มาเลเซียและประเทศฟลิปปนสในเรื่องความโปรงใส จากการพิจารณาจะเห็นความสัมพันธของสิงคโปรและ ญี่ปุนวาเปนประเทศที่พัฒนาแลวในเอเชียและเปน ประเทศที่มีวินัยสูงกวาคนในประเทศอื่นอยางเห็นไดชัด ดังนั้นวินัยของเด็กในวันนี้ก็คือวินัยของคนในชาติใน อนาคตนั่นเอง
สาเหตุที่ทําใหนักเรียนกระทําผิดวินัยของ ชั้นเรียนมีหลายสาเหตุดวยกันไมวาจะเปนสาเหตุที่มา จากสภาพแวดลอมนั่นก็คือทางครอบครัวทางโรงเรียน เพื่อนหรือจากคุณลักษณะของตัวเด็กเองไมวาจะเปน ความฉลาดทางอารมณทัศนคติตอความมีวินัยซึ่ง กาญจนา ศรีกาฬสินธุ (2544: 10) ไดกลาวถึงสาเหตุที่
ทําใหนักเรียนกระทําผิดวินัยของชั้นเรียนไวหลาย สาเหตุดังนี้สาเหตุที่มาจากโรงเรียนเชนการสอนที่ขาด ประสิทธิภาพภาระงานที่มอบหมายหนักเกินไปกิจกรรม ตางๆ จัดไมเหมาะสมไมนาสนใจเด็กที่เรียนไมทันไมได
รับการดูแลชวยเหลือความขัดแยงระหวางครูกับนักเรียน เปนตนสาเหตุจากตัวนักเรียนเชนการไมเขาใจกฎระเบียบ ตางๆ รวมถึงการมีความสัมพันธกับเพื่อนๆ ไปในทาง เสื่อมการมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจการมีความรูสึก
ขัดแยงกับครูกับเพื่อนๆ และกับทางโรงเรียนมีนิสัย การเรียนที่ไมดีมีปมดอยและสาเหตุจากทางบานและ ทางชุมชนเชนสภาพความขาดแคลนทางเศรษฐกิจและ สังคมตลอดจนขาดแคลนความรักและความสัมพันธที่ดี
ภายในครอบครัวสภาพการใชอํานาจภายในครอบครัว สภาพบานที่อยูในทําเลที่มีสิ่งยั่วยุและอาชญากรรม เปนตนกลาวโดยสรุปอาจแบงไดวามีสาเหตุมาจากทาง โรงเรียนจากตัวนักเรียนเองและจากทางบานและชุมชน ในปจจุบันมีนวัตกรรมทางดานสื่อการเรียน การสอนที่นาสนใจหลายอยาง เชน การใชการตูน แอนิเมชั่นประกอบการสอนภาพประกอบคําบรรยาย บทเรียนสําเร็จรูปการตูน เปนตน ซึ่งจะชวยใหนักเรียน เกิดความเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเรียน และเมื่อ เด็กไดเรียนจากการตูนแอนิเมชั่นพบวาสวนใหญมี
ความสนใจและไมมีสิ่งอื่นใดที่เขามาดึงความสนใจ เพราะการตูนแอนิเมชั่นสรางความเราใจ และความ สนใจของเด็กๆ อยางเห็นไดชัด การตูนแอนิเมชั่นทําให
เกิดความกระตือรือรนไมเบื่อหนาย และทําความเขาใจ ไดงาย ดังนั้นหากใชการตูนแอนิเมชั่นเปนสื่อสําหรับ การเรียนการสอน จะชวยเพิ่มความเราใจ ดึงดูดความ สนใจ กระตุนใหผูเรียนเกิดความสนใจและตั้งใจเรียน นอกจากนี้อาจยังใชเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน การสอนไดอีกดวย
จากเหตุผลดังกลาวผูวิจัยจึงมีความสนใจที่จะ ศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยผานนิทาน การตูนแอนิเมชั่นสําหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปที่
5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี เพื่อเปนแนวทางในการพัฒนา ความมีวินัยของนักเรียนในดานความรับผิดชอบ การตรงตอเวลา และความซื่อสัตยตอไป
วัตถุประสงคของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนานิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อ สงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี
ใหมีคุณภาพตามเกณฑ
2. เพื่อศึกษาพัฒนาการดานเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัย กอนใช ระหวางใชและหลัง ใชการใชนิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี
วิธีดําเนินงานวิจัย
1. ประชากรและกลุมตัวอยาง
ประชากร คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา
ปที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2556 จํานวน 6 หองเรียน โรงเรียนอนุบาลลพบุรี สํานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาลพบุรี เขต 1 รวมนักเรียนทั้งหมด 266 คน กลุมตัวอยางที่ใชในการศึกษาครั้งนี้ไดแก
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2556 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี สํานักงานเขต พื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 1 จํานวน 49 คน ซึ่งไดมาโดย วิธีการสุมอยางงาย (Simple random sampling)
2. เครื่องมือที่ใชในการวิจัย
เครื่องมือที่ใชในการศึกษาในครั้งนี้ประกอบดวย 1. นิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผล เชิงจริยธรรมดานความมีวินัย
2. แบบประเมินเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความ มีวินัยแบงเปน 3 ดาน
3. แบบวัดเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมี
วินัย สําหรับนักเรียนระดับใชประถมศึกษาปที่ 5 4. แบบประเมินคุณภาพของนิทานการตูน แอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน
3. วิธีการดําเนินการทดลอง
การศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมี
วินัยจุดมุงหมายเพื่อศึกษาผลการเรียนรูทางการเรียน วิธีดําเนินการดังนี้
1. ชี้แจงใหกลุมทดลองทราบถึงวัตถุประสงค
ของการทดลอง
2. ใหนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียน อนุบาลลพบุรี ทําแบบวัดเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความ มีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 กอนเรียน นิทานการตูนแอนิเมชั่น
3. ใหนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียน อนุบาลลพบุรี 1 หองเรียน คือหองเรียนที่ 5/2 จํานวน 49 คน เรียน กับนิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริม เหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย
4. หลังจากนักเรียนเรียนนิทานการตูน แอนิเมชั่นเสร็จในแตละเรื่องใหนักเรียนทําแบบประเมิน เหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยระหวางเรียนจบ นิทานการตูนแอนิเมชั่น
5. หลังจากเรียนกับนิทานการตูนแอนิเมชั่น เสร็จแลวใหนักเรียนทําแบบวัดเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัย สําหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ปที่ 5 หลังเรียน
6. นําผลจากการทําแบบประเมินเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยของนักเรียนและแบบวัด เหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 5 กอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียนไปวิเคราะหผลเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน
4. การเก็บรวบรวมขอมูล
ผูวิจัยไดทําการเก็บรวบรวมขอมูลดังนี้
1. ผูวิจัยขอหนังสือจากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒไปยังผูอํานวยการโรงเรียน อนุบาลลพบุรี เพื่อขออนุญาต และความอนุเคราะหให
การเก็บขอมูลจากกลุมตัวอยาง
2. ผูวิจัยนํานิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อ สงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ไปทดลองใชกับกลุม ตัวอยาง
3. ผูวิจัยทําการเก็บรวบรวมขอมูลโดยผูวิจัย ไดเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเองซึ่งประกอบดวย แบบสอบถามจํานวน 2 ฉบับ ไดแก แบบประเมินเหตุผล เชิงจริยธรรมดานความมีวินัยและแบบวัดเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัย สําหรับนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปที่ 5
4. ทําการเก็บรวบรวมขอมูลระหวางเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ถึงเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2556
5. นําแบบประเมินเหตุเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัย และแบบวัดเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความ มีวินัย สําหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ที่ได
จากกลุมตัวอยางมาตรวจใหคะแนนตามเกณฑที่
กําหนดไวเพื่อทําการวิเคราะหคาทางสถิติและทดสอบ สมมุติฐาน
5. การวิเคราะหขอมูล
ผูวิจัยนําขอมูลที่เก็บรวบรวมไดจากกลุม ตัวอยางมาทําการวิเคราะหขอมูลดวยระเบียบวิธีการ ทางสถิติมีขั้นตอน ดังนี้
1. วิเคราะหขอมูลพื้นฐานโดยการหาคารอยละ คาเฉลี่ย และคาสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
2. ใชวิธีการทางสถิติแบบ Repeated Mea- sures
3. การหาคาอํานาจจําแนกโดยใชสูตร Item–
Total Correlation
4. การหาคาความเชื่อมั่น โดยใชสูตรสัมประสิทธิ์
แอลฟา (α- Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach)
สรุปผลการวิจัย
จากการดําเนินการวิจัยและพัฒนานิทานการตูน เพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 สรุปผลการวิจัยไดดังนี้
1. ไดนิทานการตูนเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปที่ 5 จํานวน 3 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 ดานความซื่อสัตยเรื่อง องอาจและ วินัยกับกระเปาเงินที่หายไป
เรื่องที่ 2 ดานความรับผิดชอบเรื่อง ผลของการ ขาดความรับผิดชอบของจี๊ด
เรื่องที่ 3 ดานความตรงตอเวลาเรื่อง นาฬิกา ของนองแกว
2. ผลการหาคุณภาพของนิทานการตูนเพื่อ สงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5
2.1 ผลการประเมินคุณภาพนิทานการตูน เพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ดานเนื้อหา จากผู
เชี่ยวชาญพบวา คุณภาพของนิทานการตูนโดยรวมอยู
ในระดับดีมาก โดยมีคาเฉลี่ย เทากับ 4.89 คาเบี่ยงเบน มาตรฐาน เทากับ 0.27
2.2 ผลการประเมินคุณภาพนิทานการตูน เพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ดานเทคโนโลยีการศึกษา จากผูเชี่ยวชาญพบวา คุณภาพของนิทานการตูนโดย รวมอยูในระดับดีมาก โดยมีคาเฉลี่ย เทากับ 4.57 คา เบี่ยงเบนมาตรฐาน เทากับ 0.27
3. ผลการศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยกอนใช ระหวางใช และหลังการใชนิทาน การตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 พบวา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ที่เรียนโดยนิทาน
การตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยมีผลคะแนนโดยรวมแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงใหเห็นวานักเรียน มีพัฒนาการดานเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย หลังใชนิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยเพิ่มขึ้น เปนไปตามสมมติฐาน ที่ตั้งไว
อภิปรายผล
จากการพัฒนานิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อ สงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลพบุรี
พบวานิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปที่ 5 มีคุณภาพตามเกณฑ โดยสามารถอภิปราย ผลไดดังนี้
1. การหาคุณภาพภาพของนิทานการตูน แอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมี
วินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 พบวานิทาน การตูนแอนิเมชั่นที่ผูวิจัยไดสรางขึ้น โดยผานการประเมิน จากผูชี่ยวชาญดานเนื้อหา จํานวน 3 ทาน พบวา คุณภาพ ของนิทานการตูนแอนิเมชั่นโดยรวมอยูในระดับดีมาก โดยมีคาเฉลี่ย เทากับ 4.89 คาเบี่ยงเบนมาตรฐาน เทากับ 0.27 โดยคุณภาพของนิทานการตูนแอนิเมชั่น โดยรวมอยูในระดับดีมาก เมื่อพิจารณารายการประเมิน ในแตละดานพบวาดานเนื้อหาโดยรวมอยูในระดับดี
มาก โดยในเรื่องของเนื้อหาครอบคลุมวัตถุประสงค
การแบงยอยเนื้อหามีความเหมาะสม การจัดลําดับ ขั้นตอนการ นําเสนอเนื้อหา ความถูกตองของเนื้อหา ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา ความเหมาะสมของ เนื้อหาปฏิบัติการ ความละเอียดของเนื้อหา ความ ทันสมัยของเนื้อหา และความเหมาะสมของระยะเวลา ที่ใช มีคุณภาพระดับดีดานการใชภาษาโดยรวมอยูใน
ระดับดีมาก โดยในเรื่องของภาษาที่ใชถูกตองตาม หลักเกณฑการใชภาษา ภาษาสื่อความหมายถูกตอง กับเนื้อหา ภาษาเหมาะสมกับวัยของนักเรียนสํานวน ภาษาที่ใชเขาใจงาย และการใชภาษาถูกตองสื่อ ความหมายชัดเจนดานการนําไปใชโดยรวมอยูในระดับ ดีมาก โดยในเรื่องของ การสงเสริมใหเกิดความคิดริเริ่ม สรางสรรค การสงเสริมใหเกิดความกระตือรือรน ความ นาสนใจและทําใหเกิดแรงจูงใจตอการเรียน ความสะดวก รวดเร็ว และความเหมาะสมในการนําไปใชสอนแทนครู
นิทานการตูนแอนิเมชั่นที่ผูวิจัยไดสรางขึ้น โดย ผานการประเมินจากผูชี่ยวชาญดานเทคโนโลยีการ ศึกษา จํานวน 3 ทาน พบวาคุณภาพของนิทานการตูน แอนิเมชั่นโดยรวมอยูในระดับดีมาก โดยมีคาเฉลี่ย เทากับ 4.57 คาเบี่ยงเบนมาตรฐาน เทากับ 0.27 โดย คุณภาพของนิทานการตูนแอนิเมชั่นโดยรวมอยูใน ระดับดีมาก เมื่อพิจารณารายการประเมินในแตละดาน พบวาดานภาพและเสียงมีคุณภาพโดยรวมอยูในระดับ ดีมาก โดยในเรื่องของ ภาพที่ใชสอดคลองเหมาะสมกับ เนื้อหา ภาพเคลื่อนไหวชวยใหเกิดความเขาใจเนื้อหา ความเหมาะสมของขนาดภาพที่ใช ความสวยงามของ ตัวการตูนแอนิเมชั่นและฉาก การใชสีในการออกแบบ ไดเหมาะสม ภาพชวยใหเกิดความอยากรูและสนใจ มากขึ้น ความชัดเจนของเสียงบรรยาย และความ สัมพันธระหวางภาพกับเสียงบรรยาย การกระตุนความ สนใจของเสียงประกอบ มีคุณภาพระดับดีดานตัวอักษร มีคุณภาพโดยรวมอยูในระดับดี โดยในเรื่องของ ขนาด ของตัวอักษร รูปแบบของตัวอักษร ความถูกตองของ ตัวอักษร และสีของตัวอักษร สวยงาม ชัดเจน มีคุณภาพ ระดับดีมาก การนําไปใชมีคุณภาพโดยรวมอยูในระดับ ดีมาก โดยในเรื่องของ ความเหมาะสมของเวลาในการ นําเสนอ ความนาสนใจและทําใหเกิดแรงจูงใจตอ การเรียน ความเหมาะสมของการนํานิทานการตูนไปใช
ในการสอน และความสะดวกรวดเร็ว มีคุณภาพระดับดี
ซึ่งในการประเมินของผูเชี่ยวชาญไดใหขอเสนอแนะ เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงแกไข และผูวิจัยไดปรับปรุงแกไข นิทานการตูนใหดีขึ้น ดังนี้ ควรเพิ่มเสียงดนตรีเพื่อ กระตุนความนาสนใจและเพิ่มภาพในชวงการสนทนา เพื่อใหเกิดการเห็นจริง สอดคลองกับ ไพโรจน ตีรณธนากุล (2546:119) ไดกลาววา ในการตรวจสอบคุณภาพของ บทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอน ควรตรวจสอบทั้งดาน เนื้อหา และดานเทคโนโลยีการศึกษา ในการตรวจสอบ ดานเนื้อหา จะตองตรวจสอบถึงความถูกตองของการ นําเสนอเนื้อหารวมถึงแบบฝกหัดและแบบทดสอบดวย นอกจากนี้ ในการตรวจสอบดานเทคโนโลยีการศึกษา มีเกณฑในการพิจราณา คือ องคประกอบของหนาจอ พื้นหลัง ตัวอักษร ปุมตางๆ เสียง ภาพประกอบ รวมถึง การปฏิสัมพันธในบทเรียนดวย นอกจากนี้ บุปผชาติ
ทัฬหิกรณ (2544: 157) ไดกลาวถึง การประเมินคุณภาพ ตัวสื่อมัลติมีเดียโดยมีหัวขอการประเมินจะตอง พิจารณาถึง การออกแบบการสอน การออกแบบหนาจอ มีการประเมินในดานขอความ ภาพ และกราฟก เสียง และการควบคุมหนาจอ รวมถึงการประเมินการใชงาน ของบทเรียนคอมพิวเตอรดวยโดยเกณฑที่ยอมรับควรมี
คาเฉลี่ยมากกวา 4.00 ขึ้นไป ซึ่งสอดคลองกับ พิสณุ
ฟองศรี (2549: 287) ไดกลาววา ขอคําถามหรือขอสอบ ควรมีคาเฉลี่ยแตละขอมากกวาหรือเทากับ 4.00 ขึ้นไป จึงจะนําไปใชได นอกจากนี้ขอคําถามที่ใชในการ ประเมินหาคุณภาพสื่อการเรียนการสอนควรมีความ เหมาะสมและมีรายละเอียดที่ชัดเจนใหมีคุณภาพเพียง พอที่จะนําไปใชในการหาคุณภาพสื่อไดจริง
2. ผลการศึกษาเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยกอนใช ระหวางใช และหลังการใชนิทาน การตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5
พบวา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ที่เรียนโดยนิทาน การตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความมีวินัยมีผลคะแนนโดยรวมแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงใหเห็นวานักเรียนมี
พัฒนาการดานเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย หลังใชนิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิง จริยธรรมดานความมีวินัยเพิ่มขึ้น เปนไปตามสมมติฐาน ที่ตั้งไวซึ่งสอดคลองกับ งานวิจัยของ ศศินันท นิลจันทร
(2547: บทคัดยอ) ไดศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเลา นิทานที่มีตอความมีวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยใน ชุมชนแออัดคลองเตยพบวาเด็กปฐมวัยในชุมชนแออัด คลองเตยหลังจากไดรับการจัดกิจกรรมเลานิทานมี
พฤติกรรมความมีวินัยในการเปลี่ยนแปลงของ พฤติกรรมความมีวินัยในตัวเองดานความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย การตรงตอเวลา และการควบคุมตนเอง สูงขึ้น ทั้งนี้อาจเปนเพราะนิทานการตูนเพื่อสงเสริม เหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยที่ผูวิจัยสรางขึ้น ไดรับการตรวจสอบและประเมินคุณภาพจากผูเชี่ยวชาญ ดานเนื้อหาและผูเชี่ยวชาญดานสื่อเทคโนโลยีเพื่อ ตรวจสอบความถูกตองทางดานรูปแบบเนื้อหามีความ เหมาะสม ซึ่งในชุดพัฒนานิทานการตูนแอนิเมชั่นเพื่อ สงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัยนั้น ผูวิจัย ไดกําหนดกิจกรรมใหนักเรียนเกิดการอยากเรียนรู ทํา ใหนักเรียนรูสึกสนุกสนานไปกับการเรียน เมื่อนํานิทาน การตูนเพื่อสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดานความมีวินัย ไปใช จึงทําใหนักเรียนทุกคนเรียนไดตามความสนใจที่
อยากเรียนรูได อีกทั้งเปนการเปดโอกาสใหนักเรียน แสดงความคิด ฝกตัดสินใจ แสวงหาความรูดวยตนเอง ซึ่งสอดคลองกับแนวคิดของ พัชรี วาศวิท (2537) ที่ได
กลาวถึงนิทานไววาเปนเรื่องราวที่มีผูแตงขึ้นเพื่อความ สนุกสนาน ตื่นเตน ทําใหชวนติดตาม และเต็มไปดวย จินตนาการและชีวิตชีวาใหกับเด็กไดเปนอยางดี
นอกจากนี้ ยังสอดคลองกับงานวิจัยของ สมปอง นิธิ
สกุลกาญจน (2538) ที่ไดทําการวิจัยเกี่ยวกับการ พัฒนาหนังสือการตูนชุดนิทานพื้นบานภาคใตเพื่อใช
ประกอบการเรียน กลุมทักษะภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปที่ 3 พบวา การเรียนโดยมีหนังสือการตูน เปนสื่อการ เรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงกวาการเรียนปกติ
ขอเสนอแนะ
1. ควรศึกษารูปแบบการตูนประเภทอื่น เพื่อ พัฒนาใหนักเรียนมีการพัฒนาดานการเรียนใหมากขึ้น เนื่องจากการตูนแอนิเมชั่นเปนสื่อดิจิตอลที่เขาถึง
นักเรียนงาย จึงจะทําใหนักเรียนมีพัฒนาการเรียน การสอนที่งายขึ้นดวย
2. ควรมีการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบผล สัมฤทธิ์ของผูเรียนระหวางการเรียนดวยนิทานการตูน แอนนิเมชั่น กับการเรียนรูของผูเรียนโดยใชกับสื่อประเภท อื่น เชน เปรียบเทียบกับการเรียนผานเครือขายอินเทอร
เน็ตหรือเปรียบเทียบกับการเรียนการสอนจากครูใน หองเรียนปกติ เปนตน
3. ควรศึกษาปจจัยที่สงเสริมการใหเหตุผลเชิง จริยธรรมในดานอื่นๆ เชน การสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรม ดานความเสียสละ การสงเสริมเหตุผลเชิงจริยธรรมดาน ความสามัคคี เปนตน
บรรณานุกรม
กมล แสงทองศรีกมล. (2550). จัดจิตใหมีวินัยจัดใจใหอัจฉริยะ. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ฐานบุคส.
กาญจนา ศรีกาฬสินธุ. (2544). วินัยนักเรียน. สารานุกรมศึกษาศาสตร. ฉบับที่ 22. คณะศึกษาศาสตร
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ทัศนีย ทองสวาง. (2549). สังคมวิทยา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพโอเอสพริ๊นสเฮาส.
บุปผชาติ ทัฬหิกรณ. (2544). ความรูเกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา. พิมพครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพราว.
พัชรี วาศวิท. (2537, มกราคม- เมษายน). นิทานกับเด็ก.วารสารคหเศรษฐศาสตร. 37(1): 59-65.
พิสณุ ฟองศรี. (2549). การประเมินทางการศึกษาแนวคิดสูการปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท.
ไพโรจน ตีรณธนากุล, ไพบูลย เกียรติโกมล, และเสกสรร แยมพินิจ. (2546). การออกแบบและผลิตบทเรียน คอมพิวเตอรการสอนสําหรับ e-learning. กรุงเทพฯ: ศูนยสื่อเสริม.
ศศินันท นิลจันทร.(2547). ผลของการจัดกิจกรรมเลานิทานที่มีตอความมีวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยใน ชุมชนแออัดคลองเตย. ปริญญานิพนธ กศ.ม. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ถายเอกสาร.
สมปอง นิธิสกุลกาญจน. ( 2538 ). การพัฒนาหนังสือการตูนชุดนิทานพื้นบานภาคใตเพื่อใชประกอบ การเรียนกลุมทักษะภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3. ปริญญานิพนธ ค.ม. (ศึกษาศาสตร). กรุงเทพฯ:
บัญฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. จากฐานขอมูลปริญญานิพนธ 77 มหาวิทยาลัย.