• Tidak ada hasil yang ditemukan

THE ACUTE AND CHRONIC EFFECTS OF DIFFERENT LOAD AND REPETITIONSOF RESISTANCE EXERCISE ON STRUCTURE AND FUNCTIONOF VASCULATURE IN ELDERLY

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2023

Membagikan "THE ACUTE AND CHRONIC EFFECTS OF DIFFERENT LOAD AND REPETITIONSOF RESISTANCE EXERCISE ON STRUCTURE AND FUNCTIONOF VASCULATURE IN ELDERLY"

Copied!
133
0
0

Teks penuh

40 ตารางที่ 3 การเปรียบเทียบ Flow-mediated dilation (FMD) ของการฝึกซ้ำแบบความเข้มข้นต่ำแบบเข้มข้นสูง 44 ตารางที่ 12 การเปรียบเทียบแบบคู่ของ Flow-mediated dilation (FMD) ของการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นต่ำ - การทำซ้ำสูง

บทน า

การศึกษาผลกระทบเฉียบพลันของการฝึกด้วยแรงต้านในผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายพบว่าส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นและ FMD ลดลง (Paditsaeree et al., 2018) ในขณะที่กลุ่มคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตจะไม่ส่งผลเสียต่อโรค FMD (Buchanan et al., 2017) แต่ก็น่าสนใจที่จะนำมาใช้ในการศึกษานี้ วิธีสร้างแรงต้านในการออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุ

บทที่ 2

ผู้สูงอายุ

เซลล์บุผนังหลอดเลือด

ถ่ายภาพด้วยอัลตราซาวนด์หลอดเลือดเพื่อถ่ายภาพหลอดเลือดแดงแขนและวัดความเร็ว Dmax = เส้นผ่านศูนย์กลางหลอดเลือดแดงแขนสูงสุดหลังการผูกข้อมือ Dmin = เส้นผ่านศูนย์กลางหลอดเลือดแดงแขนขณะพัก

การออกก าลังกาย

แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 15 คน กลุ่มที่ 1 ออกกำลังกาย TRX Mid Row กลุ่มที่ 2 ออกกำลังกาย TRX Squat และกลุ่มที่ 3 ออกกำลังกาย TRX Chest Press โดยการวัดความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ เส้นผ่านศูนย์กลางของ brachial artery การขยายการไหลเวียนของเลือดของหลอดเลือด 5 นาทีก่อนและหลังออกกำลังกาย ผลการวิจัยพบว่ากลุ่ม TRX Squat และ TRX Chest press เพิ่มความดันโลหิตซิสโตลิก TRX Mid Row และ TRX Chest Press ความดันโลหิตซิสโตลิกและอัตราการไหล เพิ่มขึ้น. และทั้ง 3 กลุ่ม ค่าความดันโลหิต ค่า shear stress และค่า FMD ไม่ลดลง สรุปได้ว่าการออกกำลังกายทั้ง 3 แบบสามารถใช้ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในสตรีสูงวัยได้โดยไม่มีผลเสียต่อหลอดเลือด

แบบประเมินความพร้อมก่อนการออกก าลังกาย (PAR-Q)

และนำข้อมูลที่ได้จากการบันทึกวิดีโอไปใช้ วัด PWV และ baPWV โดยโปรแกรม Brachial Analyser วัด PWV และ baPWV โดยผู้นอนหงายและข้อเท้าเครื่องมือนี้สามารถวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแดงตามระยะทาง ความยาวของหลอดเลือดแดงและระยะเวลาที่เลือดไหลเวียนไปที่แขนและเท้า คำนวณค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ของกลุ่มตัวอย่าง ตรวจสอบความโค้งปกติโดย .Shaopiro Wilk คำนวณค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ของกลุ่มตัวอย่าง ตรวจสอบความโค้งปกติตามวิธี เชาปิโร วิลค์.

บทที่ 4

ผลกำรด ำเนินงำนวิจัย

ต่อ)

จากตารางที่ 7 แสดงค่าเฉลี่ยความเร็วคลื่นพัลส์ (PWV) สำหรับการออกกำลังกายแบบหนักปานกลาง-ปานกลางซ้ำๆ ที่เส้นฐาน 0 นาที 10 นาที การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านสามแบบ ได้แก่ ความเข้มต่ำ-การทำซ้ำสูง ความเข้มสูง-การทำซ้ำต่ำ และการทำซ้ำแบบความเข้มปานกลาง-ปานกลาง

รูปที่ 8 แสดงการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน 3 รูปแบบ ความดันโลหิตขณะคลายตัวเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ต่อ)

บทที่ 5

สรุปผลและอภิปรายผล

ลักษณะของกลุ่มประชากร

การศึกษาที่ 2

  • ลักษณะของกลุ่มประชากร

หลังออกก าลังกาย (Post-exercise hypotension; PEH) เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือด (vasodilation) โดยสารไนตริกออกไซด์ ที่หลั่งจากเซลล์เยื่อบุภายในหลอดเลือด ซึ่งสารนี้จะต้อง อาศัยการกระตุ้นจากการเพิ่มของการไหลของเลือด (blood flow) ที่เป็นผลมาจากการออกก าลัง กาย (Kapilevich et al., 2020) นอกจากนี้ PEH ยังเกี่ยวข้องกับการท างานของระบบประสาท อัตโนมัติและฮอร์โมน (neural and hormonal-mediated pathways) ในการยับยั้ง กระแสประสาท ซิมพาเทติกหลังการออกก าลังกาย (post-exercise sympathoinhibition) จึงสอดคล้องกับ การศึกษาในครั้งนี้ที่เกิดการลดลงแบบฉับพลันของความดันโลหิตในการออกก าลังกาบแบบแรง ต้านเงื่อนไข Low intensity - High repetition ซึ่งส่งผลต่อไปให้ไม่เกิดการลดลงของ FMD และ PWV. รายงานว่าการฝึกที่ความเข้มข้นมากกว่า 65% ของ 1 ครั้งในการยกได้สูงสุด เป็นระดับส าหรับการ ฝึกออกก าลังกายแบบเเรงต้านเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างมีนัยส าคัญ (McDonagh and Davies,1984) ซึ่งการออกก าลังกายแบบใช้แรงต้านมีผลดีต่อค่า FMD เช่นกัน (Maiorana et al., 2000) แต่ยังมีบางรายงานการศึกษาพบว่าการฝึกโดยใช้แรงต้านเป็นประจ าท าให้เกิดการของ การแข็งตัวของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น (Arterial Stiffness) ในกลุ่มวัยกลางคน (Bertovic et al., 1999; . Miyachi et al., 2003) เป็นไปได้ว่าการออกก าลังกายแบบแรงต้านที่มีความหนักมาก ท าให้เกิด การเพิ่มขึ้นของความดันโลหิต (MacDougall et al.,1985 & Jurva et al.,2006) โดยสิ่งที่ท าให้เกิด การลดลงของ FMD เกิดจากการลดระดับของ cNOS และการเพิ่มขึ้น endothelin-1 (Gonzales et al.,2011). ที่มักเกิดขึ้นในการออกก าลังกายแบบแรงต้านที่มีความหนักมาก (Buchanan et al.,2017) พบว่าการลดของความดันโลหิต ที่เกิดจากการออกก าลังกายช่วยขจัดความผิดปกติของ หลอดเลือดแดงในหลอดเลือดแดงในคนที่ไม่ออกก าลังกายเป็นประจ าซึ่งอาจเกิดได้จากความเค้น เฉือน(Shear stress) ถือเป็นตัวควบคุมที่ส าคัญของ การท างานของเซลล์บุผนังหลอดเลือด ระดับ ความเค้นเฉือนที่น้อยมีความสัมพันธ์กันกับการพัฒนาของโรคหัวใจและหลอดเลือด (Malek et al, 1999) และการเพิ่มขึ้นของแรงเฉือนกระตุ้นช่องทางของแคลเซียม (Calcium chanal) บนเซลล์บุ.

การศึกษาครั้งที่สองเป็นการศึกษาระยะยาว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ใน FMD PWV โดยผลของการออกกำลังกายระยะยาวเป็นผลมาจากความเครียดเฉือนที่เกิดจากการออกกำลังกายและการลดชนิดของออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยา (สายพันธุ์, ROS) ซึ่งนำไปสู่ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน เอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระบุผนังหลอดเลือด) เช่น ซุปเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส และกลูตาไธโอนเปอร์ออกไซด์ (GPx) (Inoue et al., 1996;.

บรรณานุกรม

Effects of resistance training on arterial stiffness in subjects at risk for cardiovascular disease: a meta-analysis. Impact of high-intensity interval training, moderate-intensity continuous exercise, and resistance training on endothelial function in older adults. Effects of short-term resistance training on endothelial function and inflammatory markers in elderly patients with type 2 diabetes: A. Circuit resistance training improved endothelial dysfunction in obese elderly women.

Effect of exercise order of combined aerobic and resistance training on arterial stiffness in older men.

ภาคผนวก

รหัส_________________

ข้อมูลตัวแปรทางสรีรวิทยา

อายุ

เพศ นํ้าหนัก

ส่วนสูง

อัตราการเต้นของชีพจรขณะพัก ความดัน โลหิต

ดัชนีมวลกาย

รหัส _______________ __ ❏ ก่อนการทดลอง ❏ หลังการทดลอง

ส่วนสูง ความดัน โลหิต

ประวัติผู้เขียน

Referensi

Dokumen terkait