• Tidak ada hasil yang ditemukan

Cooperation between lecturer and librarian on information literacy skills learning of Khon Kaen University’s 1

N/A
N/A
Nguyễn Gia Hào

Academic year: 2023

Membagikan "Cooperation between lecturer and librarian on information literacy skills learning of Khon Kaen University’s 1"

Copied!
10
0
0

Teks penuh

(1)

ความร่วมมือระหว่างบรรณารักษ์และอาจารย์ ในการเรียนรู้ทักษะการรู้สารสนเทศ ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Cooperation between lecturer and librarian on information literacy skills learning of Khon Kaen University’s 1

st

year students

รัชนีกรณ์ อินเล็ก1 โชคธ ำรงค์ จงจอหอ2 Rachaneekorn Inlek1 Chokthumrong Chongchorhor2 ยศยำดำ สิทธิวงษ์3 กฤติกำ สุนทร4 Yodsayada Sitthivong3 Gritiga Soonthorn4 ปรำรถนำ อุดมศรี5 Prathana Udomsri5

บทคัดย่อ

กำรวิจัยนี้ เป็นกำรท ำวิจัยในชั้นเรียน (Classroom action research) เพื่อหำวิธีใหม่มำใช้ในกำรเรียนกำรสอน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนำกิจกรรมที่มุ่งเน้นประสบกำรณ์ในกำรเรียนรู้ทักษะ กำรรู้สำรสนเทศ และศึกษำผลของกำร จัดกิจกรรมในกำรเรียนรู้ทักษะกำรรู้สำรสนเทศร่วมกันระหว่ำงอำจำรย์ผู้สอนและบรรณำรักษ์ ด้วยกำรออกแบบกระบวนกำร เรียนกำรสอนแก่นักศึกษำชั้นปีที่ 1 มหำวิทยำลัยขอนแก่น ให้สอดคล้องกับกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กำรประเมินผลกำรจัด กิจกรรมใช้วิธีกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบสุ่มตำมสะดวก แล้วน ำข้อมูล ที่ได้มำวิเครำะห์เนื้อหำ (content analysis) และจำกกำร สังเกตแบบมีส่วนร่วม พบว่ำนักศึกษำมีพฤติกรรมสำรสนเทศที่เปลี่ยนไปจำกกำรเรียนรู้วิธีกำรเข้ำใช้ห้องสมุด ทรำบวิธีค้นหำ หนังสือและวำรสำรที่ท ำให้เข้ำถึงได้ง่ำยและสะดวกรวดเร็ว ตลอดจนรู้จักขั้นตอนกำรยืมหนังสือและวำรสำร ผ่ำนกิจกรรม กำรเรียนรู้ที่นักศึกษำรู้สึกสนุก สำมำรถท ำควำมเข้ำใจได้ง่ำยกว่ำเมื่อเปรียบเทียบกับกำรนั่งเรียนเฉพำะในห้องเรียน นอกจำกนี้

กิจกรรมที่จัดยังสำมำรถสร้ำงทัศนคติที่ดีต่อห้องสมุดในฐำนะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ส ำคัญในกำรศึกษำ และนักศึกษำเกิดผลสัมฤทธิ์

ทำงกำรเรียนและน ำควำมรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในรำยวิชำอื่นด้วย

ค าส าคัญ: กำรสอนทักษะกำรรู้สำรสนเทศ, กำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21, นักศึกษำชั้นปีที่ 1 มหำวิทยำลัยขอนแก่น หัวเรื่อง: กำรรู้สำรสนเทศ -- กำรศึกษำและกำรสอน, กำรเรียนรู้ -- กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน,

มหำวิทยำลัยขอนแก่น -- นักศึกษำ

Abstract

This classroom action research aims to find a new method used in the classroom. Its purposes are: to develop activities that focus on learning experience about information literacy skill ,and to study result of the activity that cooperated between a lecturer and librarians in designing a learning process for

1 บรรณำรักษ์ช ำนำญกำรพิเศษ กลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำรเรียนรู้ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น e-mail: [email protected]

2 อำจำรย์พิเศษ ส ำนักวิชำกำรศึกษำทั่วไป มหำวิทยำลัยขอนแก่น e-mail: [email protected]

3 บรรณำรักษ์ช ำนำญกำรพิเศษ กลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำรเรียนรู้ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น e-mail: [email protected]

4 บรรณำรักษ์ปฏิบัติกำร กลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำรเรียนรู้ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น e-mail: [email protected]

5 เจ้ำหน้ำที่งำนบริหำรทั่วไป กลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำรเรียนรู้ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น e-mail: [email protected]

(2)

was evaluated by content analysis from convenience sampling of the students, and by participant observation from the lecturer. The results found that students change their information behavior after their learning experience through the learning activity about how to use the library, how to access books and journals easily and more convenient, as well as how to borrowing books and journals from the library. The students feel enjoy and get their learning achievement on information literacy skill more easily compared to learning in a classroom only. This activity can also create their positive attitude towards the library as an education resource and their learning achievement as well as their information literacy knowledge to apply in their course assignment.

Keywords: Information Literacy Skills Learning, Learning in the 21st Century, Khon Kaen University’s first-year students

Subject Headings: Information Literacy -- Study and teaching, Twenty-first century -- Study and teaching, Khon Kaen University -- College students

ความน า

แหล่งสำรสนเทศที่ส ำคัญในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ ของสถำบันกำรศึกษำคือห้องสมุด นักศึกษำสำมำรถใช้เป็นแหล่งศึกษำค้นคว้ำ สำรสนเทศที่จ ำเป็นในกำรเรียนกำรสอน อำทิ กำร อ่ำนหนังสือเพิ่มเติม กำรท ำรำยงำนที่อำจำรย์

ผู้สอนมอบหมำยให้จัดท ำในแต่ละรำยวิชำ โครงงำนเพื่อจบกำรศึกษำ เป็นต้น นับได้ว่ำ ห้องสมุดมีส่วนส ำคัญในกำรท ำให้นักศึกษำประสบ ควำมส ำเร็จในกำรศึกษำจนจบกำรศึกษำตำม ก ำหนดเวลำ ซึ่งจ ำนวนนักศึกษำที่จบตำม ก ำหนดเวลำในหลักสูตรเป็นตัวชี้วัดควำมส ำเร็จ ของมหำวิทยำลัยที่ส ำคัญประกำรหนึ่ง ดังนั้น กำร เข้ำใช้ห้องสมุดครั้งแรกของนักศึกษำ ชั้นปีที่ 1 ที่

แรกเข้ำมหำวิทยำลัยจึงเป็นเรื่องที่ส ำคัญอย่ำงยิ่ง ในกำรสร้ำงทัศนคติที่ดีต่อกำรเข้ำใช้ห้องสมุดเพื่อ กำรค้นคว้ำท ำรำยงำนในวิชำต่ำงๆ ตลอดจนกำร ค้นคว้ำในกำรท ำโครงงำนเพื่อจบกำรศึกษำเพื่อให้

นักศึกษำประสบควำมส ำเร็จในกำรศึกษำในเวลำที่

ก ำหนด และเป็นกำรเริ่มต้นให้นักศึกษำเห็น ควำมส ำคัญของทักษะกำรรู้สำรสนเทศ ซึ่งเป็น ทักษะส ำคัญต่อควำมส ำเร็จในกำรท ำงำนหลังจบ กำรศึกษำเนื่องจำก ทักษะกำรรู้สำรสนเทศเป็น ทักษะส ำคัญประกำรหนึ่งในกำรท ำงำนและกำรใช้

ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคสังคมแห่งกำร

เรียนรู้ (Knowledge-based Society) (Finegold

& Notabartolo, 2008) ทักษะกำรรู้สำรสนเทศมี

ขอบเขตวิชำครอบคลุมควำมรู้ในด้ำนต่ำงๆ ได้แก่

ก ำ ร รู้ ห้ อ ง ส มุ ด ( Library literacy) ก ำ ร รู้

ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ( Computer literacy) ก ำ ร รู้

เครือข่ำย(Network literacy) กำรรู้สำรสนเทศที่

เป็นภำพ (Visual literacy) กำรรู้สื่อ (Media literacy) ก ำ ร รู้ ส ำ ร ส น เ ท ศ ดิ จิ ทั ล ( Digital literacy) กำรมีควำมรู้ทำงภำษำ (Language literacy) กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ (Critical thinking) แ ล ะ จ ริ ย ธ ร ร ม ท ำ ง ส ำ ร ส น เ ท ศ (Information ethic) (Loyfar, 2002) ด้วยควำม ส ำคัญของทักษะดังกล่ำวนี้ สถำบันอุดมศึกษำจึง ควรสร้ำงคุณสมบัติพื้นฐำนกำรรู้สำรสนเทศแก่

นักศึกษำทุกสำขำวิชำเพื่อให้สำมำรถพัฒนำตนเอง สู่สังคมกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning society) (Jittisukaphong, 2012)

กำรศึกษำในสถำบันอุดมศึกษำได้รับ อิทธิพลจำกกระบวนทัศน์ใหม่ของกำรศึกษำใน ศตวรรษที่ 21 ที่เน้นกำรเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็น ศูนย์กลำง (Student center) กล่ำวคือกำรเรียนรู้

เกิดขึ้นได้จำกประสบกำรณ์ตรงของผู้เรียน ดังนั้น กำรสอนกำรใช้ห้องสมุดด้วยกำรถ่ำยทอดควำมรู้

จำกผู้สอนสู่ผู้เรียนแต่เพียงทฤษฏีในห้องเรียนโดย ไม่มีกำรปฏิบัติจึงไม่สำมำรถท ำให้ผู้เรียนเกิดกำร

(3)

เรียนรู้ได้ เนื่องจำกผู้เรียนไม่มีโอกำสลงมือปฏิบัติ

ในสถำนกำรณ์จริง ในสภำพแวดล้อมจริง กำรรู้

สำรสนเทศกับกำรเรียนกำรสอนในระดับ อุดมศึกษำจึงมีประโยชน์อย่ำงยิ่งในด้ำนกำร สนับสนุนกำรศึกษำของผู้เรียนและสถำบัน กำรศึกษำที่มีกำรจัดกำรศึกษำที่สำมำรถพัฒนำ ทั ก ษ ะ ก ำ ร รู้ ส ำ ร ส น เ ท ศ ข อ ง นั ก ศึ ก ษ ำ ไ ด้

(Sridoodta, 2004) ดังนั้น กำรสอนกำรรู้ทักษะ สำรสนเทศส ำหรับนักศึกษำชั้นปีที่ 1 ที่แรกเข้ำ มหำวิทยำลัย อำจำรย์ผู้สอนรำยวิชำนี้และ บรรณำรักษ์ควรร่วมมือกันจัดหลักสูตรกำรเรียนรู้

ทักษะกำรรู้สำรสนเทศโดยอำจำรย์เป็นผู้ให้

ค ำแนะน ำทำงด้ำนทฤษฎี ส่วนบรรณำรักษ์เป็นผู้ให้

ค ำแนะน ำทำงด้ำนกำรปฏิบัติเพื่อให้นักศึกษำได้

เกิดกำรเรียนรู้ ทั้งนี้ในกำรวำงแผนกำรสอนต้อง สร้ำงกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่สนุก ให้ได้มีกำรเรียนรู้

เป็นกลุ่ม เพรำะลักษณะหนึ่งของเด็กยุคใหม่ที่

วิจำรณ์ พำณิช กล่ำวไว้ คือ กำรเล่นเป็นส่วนหนึ่ง ของกำรท ำงำนและกำรเรียนรู้ รวมถึงควำมร่วมมือ และควำมสัมพันธ์กับเพื่อนก็เป็นส่วนหนึ่งของ กิจกรรมกำรเรียนรู้ เนื่องจำกกำรเรียนรู้เป็น กิจกรรมทำงสังคม (Panich, 2012) ทั้งนี้ต้องค ำนึง ด้วยว่ำในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่สนุก ต้อง สร้ำงโอกำสกำรเรียนรู้ที่มีประสิทธิผลสูงสุดให้

นักศึกษำ ซึ่งจะประเมินผลสัมฤทธิ์ทำงกำรศึกษำ จำกทัศนคติที่ดีของผู้เรียน และสิ่งที่ผู้เรียนได้

เรียนรู้ (Blanchett, Powis & Webb, 2012) ที่ผ่ำนมำหลักสูตรกำรเรียนรู้ทักษะกำรรู้

สำรสนเทศในสถำนศึกษำต่ำงๆ มักขำดควำม ร่วมมือกันระหว่ำงอำจำรย์ผู้สอนและบรรณำรักษ์

สำเหตุใหญ่มำจำกกำรที่อำจำรย์ผู้สอนมุ่งเน้น เนื้อหำสำระในกำรสอนให้ครบถ้วนตำมหลักสูตร จนไม่อำจเจียดเวลำให้บรรณำรักษ์เข้ำไปมี

ส่วนร่วมในกำรเรียนกำรสอนได้ (Flaspohler, 2012) นักศึกษำมักถูกมอบหมำยให้มำเรียนรู้

ประสบกำรณ์กำรใช้ห้องสมุดเองตำมอัธยำศัย ซึ่งมี

โอกำสสูงที่นักศึกษำจะไม่ประสบควำมส ำเร็จใน กำรแสวงหำสำรสนเทศ หรือทรัพยำกรห้องสมุด

ที่ต้องกำรใช้ ด้วยเหตุนี้ ควำมร่วมมือกันระหว่ำง อำจำรย์ผู้สอนและบรรณำรักษ์ในหลักสูตรกำร เรียนรู้ทักษะกำรรู้สำรสนเทศจึงเป็นเรื่องส ำคัญต่อ กำรเสริมแรงกำรเรียนรู้ผ่ำนประสบกำรณ์จริงของ นักศึกษำชั้นปีที่ 1 ที่แรกเข้ำมหำวิทยำลัย ที่ถึงแม้

นักศึกษำยุคใหม่จะเติบโตมำกับเทคโนโลยี

สำรสนเทศและใช้เทคโนโลยีดังกล่ำวอย่ำงมำกใน ชีวิตประจ ำวัน แต่ยังคงต้องกำรค ำแนะน ำ ช่วยเหลือจำกบรรณำรักษ์ในกำรใช้สำรสนเทศ อย่ำงมีประสิทธิภำพ (Flaspohler, 2012) และ กำรมีโอกำสได้เรียนรู้เป็นกลุ่มจำกกำรลงมือปฏิบัติ

จริง

วิธีด าเนินการวิจัย

1 . ก า ร ศึ ก ษ า ส ภ า พ ปั จ จุ บั น แ ล ะ แนวทางการแก้ปัญหาด้วยการก าหนดรูปแบบ กิจกรรม

กำรให้บริกำรเชิงรุกอีกรูปแบบหนึ่ง ของห้องสมุดมหำวิทยำลัยในปัจจุบัน คือกำรน ำ บริกำรของห้องสมุดเข้ำไปเป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตรกำรเรียนกำรสอน กรณีส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น เมื่อกลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำร เรียนรู้ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัย ขอนแก่น ได้รับกำรประสำนงำนจำกอำจำรย์พิเศษผู้ร่วมสอน คนหนึ่งในรำยวิชำทักษะกำรรู้สำรสนเทศ (รหัส วิชำ 000 130) ของส ำนักวิชำกำรศึกษำทั่วไป มหำวิทยำลัยขอนแก่น ซึ่งจำกค ำอธิบำยรำยวิชำนี้

ในแบบ วช 04 ของมหำวิทยำลัยขอนแก่น ระบุว่ำ เป็นรำยวิชำบรรยำยและศึกษำด้วยตนเองจ ำนวน 3 หน่วยกิต ส ำหรับนักศึกษำระดับปริญญำตรี

และในส่วนของบรรณำรักษ์กลุ่มภำรกิจส่งเสริม กำรเรียนรู้ที่ได้รับกำรประสำนงำน คือ กำรเป็น ผู้รับผิดชอบจัดกิจกรรมในหัวข้อวิชำย่อยของ รำยวิชำนี้เฉพำะเรื่อง กลยุทธ์กำรค้นและทักษะ กำรค้นสำรสนเทศที่มีเนื้อหำ ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์และเทคนิคกำรค้นสำรสนเทศ 2) เครื่องมือค้นสำรสนเทศประเภทต่ำงๆ และ 3) ลักษณะของผลลัพธ์ที่ได้จำกกำรค้นสำรสนเทศ

(4)

(Office of General Education, Khon Kaen University, n.d.)

กลุ่มภำรกิจส่งเสริมกำรเรียนรู้

ส ำนักหอสมุด เห็นควำมส ำคัญของทักษะกำรรู้

สำรสนเทศ และแนวคิดตำมกระบวนทัศน์ใหม่ของ กำรศึกษำในศตวรรษที่ 21 ที่ให้ควำมสนใจกับกำร เรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลำง (Student center) ซึ่งกำรเรียนรู้เกิดได้จำกประสบกำรณ์ตรง ของผู้เรียน จึงได้ทดลองจัดกระบวนกำรเรียนกำร สอนให้สอดคล้องกับกำรเรียนรู้แบบใหม่เพื่อให้

ได้ผลบรรลุตำมหัวข้อวิชำย่อยที่ก ำหนดในรำยวิชำ โดยช่วยเหลืออำจำรย์ผู้สอนในกำรจัดกิจกรรมกำร เ รี ย น รู้ ใ ห้ มีลั กษณะ เ ป็ น กำ ร เ รี ย น มุ่ง เ น้ น ประสบกำรณ์ของนักศึกษำชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นกำรท ำ วิจัยในชั้นเรียน (Classroom action research) เพื่อหำวิธีใหม่มำใช้ในกำรเรียนกำรสอน โดยมี

วัตถุประสงค์ในกำรท ำวิจัย ดังนี้

1) เพื่อพัฒนำกิจกรรมที่มุ่งเน้น ประสบกำรณ์ในกำรเรียนรู้ทักษะกำรรู้สำรสนเทศ

2) เพื่อศึกษำผลของกำรจัดกิจกรรม ที่มุ่งเน้นประสบกำรณ์ในกำรเรียนรู้ทักษะกำรรู้

สำรสนเทศ

2. การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

1) กำรจัดกิจกรรมใช้ชื่อโครงกำร

“ขอเป็นบรรณำรักษ์สักครั้งให้ชื่นใจ” ก ำหนด ระยะเวลำด ำเนินกำร ในวันที่ 1-2 ตุลำคม 2558 แบ่งเป็นช่วงเวลำ 9.00-12.00 น. และ 13.30- 16.30 น. ในแต่ละวัน

2) วิธีกำรด ำเนินงำน กำรด ำเนินงำน กิจกรรมมีทั้งสิ้น 4 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 วางแผนการด าเนินงาน 1) สนทนำซักถำมอำจำรย์ผู้สอน เพื่อให้ทรำบถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขต และลักษณะ กำรเรียนกำรสอนที่ต้องกำร

2) ออกแบบกิจกรรมกำรเรียนกำร สอนที่สอดคล้องกับควำมต้องกำรของอำจำรย์

ผู้สอน ที่คำดหวังให้นักศึกษำได้รับควำมรู้คู่ควำม

บันเทิง และได้ลงมือใช้ห้องสมุดเองเพื่อกำรเรียนรู้

จำกประสบกำรณ์จริง

3) อำจำรย์ผู้สอนให้นักศึกษำลงชื่อ ตำมช่วงเวลำและวันที่สะดวกในกำรเข้ำร่วม กิจกรรม เนื่องจำกเป็นกำรจัดกิจกรรมนอกเหนือ จำกชั่วโมงเรียนในหลักสูตร ท ำให้นักศึกษำไม่อำจ เข้ำเรียนในกลุ่มเดิมตำมที่ก ำหนดในตำรำงสอนได้

ขั้นตอนที่ 2 น าเสนอกิจกรรมแก่

อาจารย์ผู้สอนและก าหนดกิจกรรม 1) น ำเสนอกิจกรรมกำรเรียนกำร สอนที่ออกแบบไว้ต่ออำจำรย์ผู้สอนเพื่อขอควำม เห็นชอบ และรับฟังปัญหำ อุปสรรค และ ข้อคิดเห็นต่ำงๆ จำกอำจำรย์ผู้สอนเพื่อปรับแก้ไข ร่วมกัน

2) ก ำหนดกิจกรรม

(1) หัวหน้ำทีมงำนประสำนงำน กับทีมงำนกลุ่มส่งเสริมกำรเรียนรู้ เพื่อเตรียมกำร ก ำหนดกิจกรรมร่วมกันตลอดจนรับฟังปัญหำ อุปสรรค และข้อคิดเห็นต่ำงๆ จำกทีมงำนเพื่อ ปรับแก้ไขกิจกรรมร่วมกัน

(2) ก ำ ห น ด กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ประสบกำรณ์กำรใช้ห้องสมุดด้ำนกลยุทธ์กำรค้น และทักษะกำรค้นสำรสนเทศภำยในหอสมุดกลำง มหำวิทยำลัยขอนแก่น โดยเน้นทรัพยำกร สำรสนเทศหลัก 3 ประเภทที่มีตัวเล่มให้บริกำรใน หอสมุดกลำง ตำมควำมต้องกำรของอำจำรย์ผู้สอน คือ 1) หนังสือ 2) บทควำมวำรสำรภำษำไทย 3) งำนวิจัย/วิทยำนิพนธ์

ขั้นตอนที่ 3 การด าเนินการกิจกรรม กำรด ำเนินกำรกิจกรรมมีทั้งสิ้น 10 ขั้นตอน ใช้เวลำทั้งสิ้นประมำณ 2.30 ชั่วโมง ดังรำยละเอียดต่อไปนี้

1) กำรแบ่งกลุ่มน ำชมห้องสมุด (15 นำที) จุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ำร่วมกิจกรรมได้

เรียนรู้ คุ้นเคย และสัมผัสกับบรรยำกำศกำร ให้บริกำร ตลอดจนทรัพยำกรของห้องสมุดจำก สถำนที่จริง

(5)

2) กิจ กร ร ม ล ะล ำ ย พ ฤติ กร ร ม นักศึกษำที่มำจำกต่ำงกลุ่มด้วยกำรเล่นเกม (15-20 นำที) จุดประสงค์เพื่อสร้ำงควำมสนุกสนำน เป็นสื่อน ำกำรเรียนรู้ กระตุ้นให้ผู้เข้ำร่วมกิจกรรม ตื่นตัวและเกิดควำมสนใจ

3) อำจำรย์ผู้สอนกล่ำวต้อนรับและ เปิดงำน (5 นำที) จุดประสงค์เพื่อเป็นกำรเตรียม นักศึกษำเชื่อมต่อจำกกิจกรรมเกมเข้ำสู่ส่วน วิชำกำร

4) กำรบรรยำยแนะน ำApplication KKULibrary(15นำที)จุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ำร่วม กิจกรรมได้รู้จักเครื่องมือกำรสืบค้นทรัพยำกร สำรสนเทศภำยในห้องสมุดผ่ำน Mobile Device ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักศึกษำ Gen Y คุ้นเคยและให้

ควำมสนใจใช้

5) กำรบรรยำยแนะน ำกำรสืบค้น ทรัพยำกรสำรสนเทศของห้องสมุดแบบ One search และกำรสืบค้นบทควำมวำรสำรภำษำไทย (30 นำที) จุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ำร่วมกิจกรรมได้

รู้จักเครื่องมือกำรสืบค้นทรัพยำกรสำรสนเทศของ ห้องสมุดที่เป็น One Search

6) ให้นักศึกษำขำนหมำยเลขเพื่อ แบ่งกลุ่มแบบคละกัน กลุ่มละ 4-5 คน จำกนั้น วิทยำกรอธิบำยกติกำกำรแข่งขันให้แต่ละกลุ่มแข่ง กันหำทรัพยำกรสำรสนเทศจำกโจทย์ที่ได้รับ กลุ่ม ใดที่น ำตัวเล่มทรัพยำกรสำรสนเทศของห้องสมุด ที่ถูกต้องและผ่ำนกำรยืมออกมำส่งครบเป็นกลุ่ม แรกจะได้รับรำงวัล กลุ่มใดที่มำเป็นกลุ่มสุดท้ำย ต้องออกมำรำยงำนหน้ำชั้นถึงปัญหำและอุปสรรค ของกำรค้นหำและกำรยืมทรัพยำกรสำรสนเทศ (10 นำที)

7) กลุ่มส่งตัวแทนมำรับโจทย์จำกกำร จับฉลำกจำกต้นสอยดำวมำอย่ำงละ 1 สี รวม ทั้งหมด 3 สี แล้วน ำหมำยเลขฉลำกที่ได้มำแลก โจทย์รำยกำรบรรณำนุกรมทรัพยำกรสำรสนเทศ หลัก 3 ประเภทที่มีตัวเล่มให้บริกำรในหอสมุด กลำง คือ 1) หนังสือ 2) บทควำมวำรสำร ภำษำไทย 3) งำนวิจัย/วิทยำนิพนธ์ จำกนั้น

ช่วยกันหำตัวเล่มบนชั้น น ำมำยืม และรีบกลับมำที่

ห้องจัดกิจกรรมเพื่อชิงรำงวัล รำยกำรใดที่หำไม่

พบให้กลับมำเปลี่ยนโจทย์ได้จนกว่ำจะหำพบ (30 นำที)

8) วิทยำกรช่วยกันตรวจรับรอง ควำมถูกต้องของทรัพยำกรสำรสนเทศจำกโจทย์

ที่ได้รับที่กลุ่มทยอยกันน ำมำส่ง กลุ่มที่ท ำได้ส ำเร็จ ก่อนให้นั่งรวมกันเพื่อรอเพื่อนกลุ่มอื่น (3-5 นำที/

กลุ่ม)

9) เมื่อกลุ่มสุดท้ำยมำถึง ประกำศ ทีมชนะ เชิญทีมชนะออกมำรับรำงวัล โดยแจก รำงวัลปลอบใจกลุ่มที่มำถึงเป็นกลุ่มสุดท้ำยด้วย จำกนั้นให้ทั้งสองกลุ่มบอกเล่ำประสบกำรณ์ที่ท ำให้

มำถึงเป็นกลุ่มแรก และมำถึงเป็นกลุ่มสุดท้ำย (15 นำที)

10) วิทยำกรสรุปข้อคิดที่ได้จำก ประสบกำรณ์กลุ่มที่เพื่อนเล่ำ และให้ข้อคิด เกี่ยวกับประโยชน์ของทักษะกำรรู้สำรสนเทศ ซึ่งเป็นทักษะกำรท ำงำนที่ส ำคัญในศตวรรษที่ 21 (10 นำที)

3. การเก็บข้อมูล

1) คณะผู้วิจัยแจกกระดำษเปล่ำให้

นักศึกษำที่รอเพื่อนกลุ่มอื่นแบบสุ่มตำมสะดวก ให้

เขียนควำมคิดเห็นแบบอิสระลงในกระดำษเปล่ำ 2) อำ จ ำ ร ย์ ผู้ ส อ น เ ป รี ย บ เ ที ย บ พฤติกรรมกำรเรียนรู้ของนักศึกษำจำกกำรสังเกต และมีส่วนร่วม ทั้งก่อนและหลังกำรจัดกิจกรรม

4. การวิเคราะห์ข้อมูล

(1 ) ค ณ ะผู้ วิ จั ยวิ เ ค ร ำ ะห์ ข้ อมูล ควำมรู้สึกและควำมรู้ที่เข้ำร่วมกิจกรรม โดยใช้

วิธีกำรวิเครำะห์เนื้อหำ (Content analysis) สำมำรถแบ่งควำมคิดเห็นของนักศึกษำต่อกำรเข้ำ ร่วมกิจกรรมออกได้เป็น 6 ประเด็นหลัก คือ 1) ควำมรู้ที่ได้รับ 2) วิธีกำรเรียนรู้แบบใหม่

3) ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน 4) ทัศนคติที่ดีต่อ ห้องสมุด 5) ควำมคิดเห็นต่อกำรจัดกิจกรรม และ 6) ข้อเสนอแนะ ใช้ควำมถี่และค่ำร้อยละ จำก ควำมถี่ 5 ล ำดับแรก

(6)

5. ผลการวิจัย

1) ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

จำกกำรประเมินผลกำรเข้ำร่วม กิจกรรมพบว่ำนักศึกษำที่ได้เข้ำร่วมกิจกรรมใน โครงกำร “ขอเป็นบรรณำรักษ์สักครั้งให้ชื่นใจ” ใน

วันที่ 1-2 ตุลำคม 2558 ทั้ง 4 ช่วง มีจ ำนวนทั้งสิ้น 159 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงจ ำนวน 98 คน ( ร้ อ ย ล ะ 61.63) แ ล ะ เ ป็ น นั ก ศึ ก ษ ำ ค ณ ะ มนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์มำกที่สุด จ ำนวน 81 คน (ร้อยละ 50.94) ดังแสดงในตำรำงที่ 1 ตารางที่ 1 ผลกำรวิเครำะห์นักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรมจ ำแนกตำมคณะ/สำขำวิชำและเพศ

คณะ/สาขาวิชา จ านวน

ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน) 1) คณะศิลปกรรมศำสตร์

(ประติมำกรรม/ดนตรีไทย/ดนตรีพื้นบ้ำน/ดนตรีสำกล)

8.17%

(13 คน)

7.54%

(12 คน)

15.72%

(25 คน) 2) คณะมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์

(ภำษำอังกฤษ/ภำษำญี่ปุ่น/กำรจัดกำรกำรพัฒนำสังคม)

16.98%

(27 คน)

33.96%

(54 คน)

*50.94%

(81 คน) 3) คณะเกษตรศำสตร์

(พืชสวน/พืชไร่/สัตวศำสตร์/ประมง/เศรษฐศำสตร์เกษตร)

13.20%

(21 คน)

20.12%

(32 คน)

33.33%

(53 คน)

รวม 38.36%

(61 คน) *61.63%

(98 คน) 100%

(159 คน) จำกตำรำงที่ 1 พบว่ำนักศึกษำที่เข้ำร่วม

กิจกรรมมำกที่สุดเป็นนักศึกษำคณะมนุษยศำสตร์

และสังคมศำสตร์ จ ำนวน 81 คน (ร้อยละ 50.94) เป็นนักศึกษำวิชำเอกภำษำอังกฤษ ภำษำญี่ปุ่น/

และวิชำเอกกำรจัดกำรกำรพัฒนำสังคม โดยเป็น

เป็นนักศึกษำวิชำเอกภำษำอังกฤษ ภำษำญี่ปุ่น/และวิชำเอกกำรจัดกำรกำรพัฒนำ สั ง ค ม โ ด ย เ ป็ น

นักศึกษำหญิงจ ำนวน 54 คน (ร้อยละ 33.96) นักศึกษำชำยจ ำนวน 27 คน (ร้อยละ 16.98)

2) อ ำ จ ำ ร ย์ อ ำ จ ำ ร ย์ ผู้ ส อ น เปรียบเทียบพฤติกรรมกำรเรียนรู้ของนักศึกษำจำก กำรสังเกตและมีส่วนร่วม ทั้งก่อนและหลังกำรจัด กิจกรรม

ส่วนนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรมน้อยที่สุด จ ำนวน 25 คน (ร้อยละ 15.72) เป็นนักศึกษำคณะ ศิลปกรรมศำสตร์ วิชำเอก ประติมำกรรม ดนตรีไทย ดนตรีพื้นบ้ำน และดนตรีสำกล โดย เป็นนักศึกษำหญิงและชำยในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ จ ำนวน 12 คน (ร้อยละ 7.51) และ 13 คน (ร้อยละ 8.17) ตำมล ำดับ

(7)

2) ความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม

ตารางที่ 2 ผลกำรวิเครำะห์ประเด็นเนื้อหำจำกควำมคิดเห็นนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรม

ประเด็นหลัก ความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม ความถี่ ร้อยละ

1) ควำมรู้ที่ได้รับ

- วิธีกำรค้นหำหนังสือ (31) 13.78

- ควำมรู้เกี่ยวกับห้องสมุดเพิ่มขึ้นจำกที่ไม่เคยทรำบมำก่อน (16) 7.11

- กำรยืมหนังสือ (13) 5.78

- วิธีกำรดูหมวดหมู่หนังสือ อำคำร ชั้น ห้องที่แยกจัดเก็บทรัพยำกรสำรสนเทศ

ที่ต้องกำร (10) 4.44

- กำรเข้ำใช้ห้องสมุด (7) 3.11

2) วิธีกำรเรียนรู้

แบบใหม่

- เข้ำใจเนื้อหำมำกกว่ำนั่งเรียนในห้องเพรำะได้ปฏิบัติจริง (11) 4.89

- กำรได้ท ำกิจกรรมกับเพื่อน (11) 4.89

- ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่น่ำรัก (5) 2.22

- เป็นกำรเรียนแบบผ่อนคลำย ไม่เครียด (5) 2.22

- กระตุ้นควำมสนใจ รู้สึกมีพลัง (3) 1.33

3) ผลสัมฤทธิ์

ทำงกำรเรียน

- สำมำรถหำหนังสือให้เจอโดยง่ำย รวดเร็ว (3) 1.33

- สำมำรถยืมหนังสือได้ถูกต้อง (3) 1.33

- มีควำมพร้อมในกำรใช้ห้องสมุด มั่นใจ ไม่กลัวเวลำหำหนังสือ (3) 1.33 4) ทัศนคติที่ดีต่อ

ห้องสมุด

- บรรณำรักษ์ น่ำรัก และใจดี (4) 1.78

- ประทับใจในบริกำรของห้องสมุด (2) 0.89

- เป็นห้องสมุดที่ดีมำกๆ ที่หนึ่งที่เคยเห็นมำ (1) 0.44

- ห้องสมุดมีอะไรที่น่ำสนใจมำก (1) 0.44

- ห้องสมุดมหำวิทยำลัยขอนแก่นมีคุณภำพ (1) 0.44

5) ควำมคิดเห็นต่อ กำรจัดกิจกรรม

- สนุก (40) 17.78

- เป็นกิจกรรมที่ดี (24) 10.67

- กำรเรียนรู้จำกกำรปฏิบัติด้วยตนเอง (8) 3.56

- ก่อนมำคิดว่ำกิจกรรมจะน่ำเบื่อ แต่ไม่น่ำเบื่อเลย (8) 3.56

- มีประโยชน์ สำมำรถน ำไปใช้ได้จริง (8) 3.56

6) ข้อเสนอแนะ

- กำรยืมช้ำ มีอุปสรรคในกำรยืม (2) 0.89

- กำรหำตัวเล่มวำรสำรภำษำไทยค่อนข้ำงสับสนเพรำะไม่เคยค้นมำกก่อน

รู้สึกว่ำหำเจอตัวเล่มได้ยำก (2) 0.89

- อยำกให้เครื่องปรับอำกำศของห้องสมุดเย็นกว่ำนี้ (1) 0.44

- อยำกให้หำหนังสือของห้องสมุดได้ง่ำยกว่ำนี้ (1) 0.44

- อยำกให้มีเกมเพิ่มขึ้นอีก (1) 0.44

รวม 225 100

จำกตำรำงที่ 2 พบว่ำ ควำมคิดเห็น ของนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรมที่มีควำมถี่สูงสุด 5 อันดับแรก คือ ประเด็นหลักที่ 5 ควำมคิดเห็น ต่อกำรจัดกิจกรรม โดยอยู่ในประเด็นย่อยที่ระบุว่ำ

“สนุก” ซึ่งมีจ ำนวนควำมถี่ 40 ประเด็นแนวคิด

(ร้อยละ 17.78) รองลงมำ คือ ประเด็นหลักที่ 1 ควำมรู้ที่ได้รับ โดยอยู่ในประเด็นย่อยที่ระบุว่ำ

“วิธีกำรค้นหำหนังสือ” ซึ่งมีจ ำนวนควำมถี่ 31 ประเด็นแนวคิด (ร้อยละ 13.78) ถัดมำ คือ ประเด็นหลักที่ 5 ควำมคิดเห็นต่อกำรจัดกิจกรรม

(8)

โดยอยู่ในประเด็นย่อยที่ระบุว่ำ “เป็นกิจกรรมที่ดี”

ซึ่งมีจ ำนวนควำมถี่ 24 ประเด็นแนวคิด (ร้อยละ 10.67) และล ำดับสุดท้ำย คือ ประเด็นหลักที่ 1 ควำมรู้ที่ได้รับ โดยอยู่ในประเด็นย่อยที่ระบุว่ำ

“ควำมรู้เกี่ยวกับห้องสมุดเพิ่มขึ้นจำกที่ไม่เคย ทรำบมำก่อน” และ “กำรยืมหนังสือ” ซึ่งมีจ ำนวน ควำมถี่ 16 ประเด็นแนวคิด (ร้อยละ 7.11) และ 13 ประเด็นแนวคิด (ร้อยละ 5.78) ตำมล ำดับ

3) ผลกำรเปรียบเทียบพฤติกรรมกำร เรียนรู้ของนักศึกษำจำกกำรสังเกตแบบมีส่วนร่วม ทั้งก่อนและหลังกำรจัดกิจกรรม

จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้

ของนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรมของอำจำรย์ผู้สอน พบว่ำ ก่อนเข้ำร่วมกิจกรรมนักศึกษำยังไม่สำมำรถ เข้ำใจแนวคิดเกี่ยวกับกำรรู้สำรสนเทศได้อย่ำง ชัดเจนมำกนัก เนื่องจำกยังไม่เห็นตัวทรัพยำกร สำรสนเทศที่จัดไว้ให้บริกำรในรูปแบบต่ำงๆ รวมทั้งไม่คุ้นเคยถึงเครื่องมือสืบค้นและเข้ำถึงตัว ทรัพยำกรสำรสนเทศเหล่ำนั้นเพื่อที่จะน ำมำใช้

ประโยชน์ในโครงงำนต่ำงๆ ได้อย่ำงเหมำะสม นอกจำกนี้นักศึกษำยังรู้สึกประหม่ำในกำรเข้ำมำใช้

บริกำร ณ ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น ซึ่งประเด็นดังกล่ำวมีผลต่อกำรมอบหมำยงำน ให้กับนักศึกษำเพื่อเข้ำมำค้นคว้ำและท ำรำยงำน วิชำกำรด้วยตนเองเป็นอย่ำงยิ่ง เมื่ออำจำรย์ผู้สอน ได้สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ดังกล่ำวแล้วจึงได้

ปรึกษำหำรือกับบรรณำรักษ์และคณะท ำงำนจำก ส ำนักหอสมุดกลำง มหำวิทยำลัยขอนแก่น เพื่อจะ จัดกิจกรรม “ขอเป็นบรรณำรักษ์สักครั้งให้ชื่นใจ”

เพื่อหวังจะทลำยก ำแพงที่ปิดกั้นกำรเรียนรู้ในหัวใจ ของนักศึกษำลงอันจะเป็นประโยชน์ต่อกำร แสวงหำควำมรู้ในยุคสำรสนเทศทะลักทลำยได้ด้วย ตนเอง

ส ำหรับพฤติกรรมกำรเรียนรู้ที่

อำจำรย์ผู้สอนสังเกตเห็นหลังจำกที่นักศึกษำได้เข้ำ ร่วมกิจกรรมพบว่ำ อำจำรย์ผู้สอนสำมำรถอธิบำย กระบวนกำรรู้สำรสนเทศที่ซับซ้อนขึ้นให้กับ นักศึกษำฟังได้อย่ำงเข้ำใจตรงกัน ไม่ว่ำจะอยู่ใน

บริบททรัพยำกรสำรสนเทศแบบตีพิมพ์ ทรัพยำกร สำรสนเทศแบบไม่ตีพิมพ์ หรือทรัพยำกร สำรสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ นักศึกษำก็สำมำรถจับ ประเด็นและตอบโต้กับอำจำรย์ผู้สอนในชั้นเรียนได้

อย่ำงดี นอกจำกนี้อำจำรย์ผู้สอนยังสำมำรถ มอบหมำยงำนให้แต่ละกลุ่มเข้ำไปใช้บริกำรห้อง ประชุมกลุ่มย่อยเพื่อเปิดพื้นที่ให้ได้อภิปรำยร่วมกัน เกี่ยวกับรำยงำนวิชำกำรที่จะต้องน ำส่งในช่วง ปลำยภำคเรียน ซึ่งกำรผลักให้นักศึกษำเข้ำไป เผชิญกับบริกำรต่ำงๆ ด้วยตนเองนั้นย่อมน ำมำสู่

กำรเรียนรู้แบบพึ่งตนเองได้แม้วิชำนี้จะสิ้นสุดกำร เรียนกำรสอนไปแล้วก็ตำม ในส่วนสุดท้ำยคือกำร เขียนอ้ำงอิงและจริยธรรมในกำรใช้สำรสนเทศเชิง วิชำกำร พบว่ำ อำจำรย์ผู้สอนสำมำรถแลกเปลี่ยน ควำมคิดเห็นกับนักศึกษำโดยเชื่อมโยงไปสู่

ประสบกำรณ์ที่นักศึกษำได้เห็นหลักฐำนเชิง ประจักษ์ในวำรสำรวิชำกำร รำยงำนกำรวิจัย และ วิทยำนิพนธ์ต่ำงๆ กล่ำวคือ เมื่อนักศึกษำเห็นภำพ จริงและสำมำรถเข้ำใจถึงควำมแตกต่ำงของ บทควำมวิจัยกับงำนเขียนทั่วๆ ไปที่มีให้บริกำรใน ห้องสมุดแล้ว ก็ย่อมเป็นกำรง่ำยดำยต่อกำรที่

อำจำรย์ผู้สอนจะหยิบยกขึ้นมำเป็นกรณีศึกษำใน กำรเขียนอ้ำงอิงและสอนให้ละเว้นกำรคัดลอก ผลงำนทำงวิชำกำร รวมทั้งสำมำรถเชื่อมโยงไปสู่

บริบทของทรัพยำกรสำรสนเทศดิจิทัล บน อินเทอร์เน็ตที่ผู้เรียนจะเลือกมำใช้ให้ได้อย่ำงมี

คุณภำพ ทันสมัย และสอดคล้องกับหัวข้อรำยงำน ของตนเอง

นอกจำกนี้ อำจำรย์ผู้สอนยังพบว่ำ นักศึกษำมีควำมกล้ำหำญ มั่นใจที่จะนัดกันเพื่อท ำ โครงงำนในรำยวิชำอื่นๆ ที่ส ำนักหอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น ด้วยเช่นกัน รวมทั้งมี

ควำมคุ้นเคยต่อกำรติดต่อสอบถำมบรรณำรักษ์

เพื่อให้ชี้แนะพวกเขำให้สำมำรถน ำสำรสนเทศที่มี

คุณภำพมำประกอบในรำยงำนได้อย่ำงเหมำะสม ข้อมูลจำกกำรสังเกตแบบมีส่วนร่วมนี้ อำจำรย์

ผู้สอนจึงมั่นใจว่ำนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรมจะมี

ทักษะกำรรู้สำรสนเทศที่สำมำรถน ำไปประยุกต์ใช้

(9)

ได้จริงและมีทักษะทำงสังคมที่สำมำรถเข้ำใจ บทบำทของบรรณำรักษ์ที่คอยเตรียมสำรสนเทศไว้

ให้บริกำร สรุปผลการวิจัย

คณะผู้วิจัยได้ทบทวนกิจกรรมและน ำผล กำรวิเครำะห์ข้อมูลที่ได้มำสนทนำกลุ่ม (Focus group) เพื่อทรำบถึงปัญหำ อุปสรรคที่พบ และ แนวทำงแก้ไข ตลอดจนกำรระบุถึงปัจจัย ควำมส ำเร็จ เพื่อจะได้น ำไปปรับปรุง/พัฒนำงำน กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนในครั้งต่อๆ ไป พบว่ำผู้จัด กิจกรรมได้ประสบกำรณ์กำรท ำงำนแบบใหม่ ที่

วำงแผนจัดกำรเรียนรู้ทักษะสำรสนเทศร่วมกับ อำจำรย์ และต่ำงรู้สึกยินดีกับผลตอบรับที่ดีเกิน คำดจำกนักศึกษำที่เข้ำร่วมกิจกรรม แม้ว่ำจะเป็น กิจ กร รม ที่ บุคลำ กรห้ อง ส มุด ต้อง ใช้ เว ล ำ ประสำนงำนกับอำจำรย์ผู้สอนและใช้เวลำ เตรียมกำรล่วงหน้ำนำนกว่ำจะถึงวันจัดกิจกรรม จริง ซึ่งในวันจัดกิจกรรมวิทยำกรผู้น ำเล่นเกม ยอมรับว่ำต้องใช้แรงกำยและไหวพริบมำกในกำร น ำกลุ่มกิจกรรมแต่ละครั้ง ซึ่งหำกมีกำรจัด กิจกรรมต่อเนื่องมำกกว่ำนี้ต้องมีทีมงำนที่มี

ประสบกำรณ์ในกำรน ำกลุ่มกิจกรรมร่วมสับเปลี่ยน น ำทีม และช่วยคิดเกมแปลกใหม่ไม่ให้จ ำเจในแต่

ละครั้ง ในส่วนอำจำรย์ผู้สอนซึ่งมีโอกำสติดตำม พฤติกรรมหลังกำรจัดกิจกรรมพบว่ำ นักศึกษำน ำ ควำมรู้ที่ได้จำกวิทยำกรไปใช้งำนจริงในขณะกำร แข่งขันและกำรท ำงำนที่รับมอบหมำยหลังจำกนั้น ซึ่งเป็นกำรเรียนรู้ผ่ำนกำรเล่น ยืนยันโดยควำมเห็น ของนักศึกษำที่ว่ำ “กำรเรียนกำรสอนแบบนี้ดิฉัน คิดว่ำมันดีและมีประโยชน์มำกๆ เพรำะนั่งเรียนใน ห้องก็ยังไม่เข้ำใจ แต่กำรมำเรียนแบบนี้มันได้เล่น เกมผ่อนคลำย กระตุ้นควำมสนใจมำกกว่ำ และยัง ได้หำหนังสือเอง ได้ค้นหำหนังสือเอง เพรำะไม่เคย ท ำและดูไม่เป็น แต่พอท ำได้ก็ได้รู้ เข้ำใจ และ จดจ ำได้ดีกว่ำ” และ “กำรจัดกำรเรียนกำรสอน แบบนี้ถือเป็นกำรได้ลงมือปฏิบัติจริง ไม่ได้เรียนแค่

ทฤษฎีในห้องเรียน ไม่น่ำเบื่อ และได้รับสำระ

ควำมรู้ที่สำมำรถน ำไปใช้ในชีวิตประจ ำวันได้ครับ”

แสดงให้เห็นว่ำควำมรู้ที่ได้รับเป็นกำรเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมสำรสนเทศของนักศึกษำ สังเกตได้จำก กำรท ำรำยงำนหลังกำรจัดกิจกรรมมีกำรอ้ำงอิง แหล่งข้อมูลจำกห้องสมุดและมีกำรเขียนรำยกำร อ้ำงอิงในรูปแบบที่ถูกต้องมำกขึ้น และนักศึกษำ คณะมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์ที่มีจ ำนวนเข้ำ ร่วมกิจกรรมสูงสุดมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนดีกว่ำ นักศึกษำคณะอื่นอย่ำงเห็นได้ชัด นอกจำกนี้

นักศึกษำยังเกิดควำมมั่นใจในกำรใช้ห้องสมุด และ มีทัศนคติที่ดีต่อบุคลำกรห้องสมุดด้วย เช่น จำก ตัวอย่ำงควำมเห็นของนักศึกษำที่ว่ำ “กิจกรรม สนุกค่ะ ช่วยให้มีควำมรู้ในกำรใช้บริกำรห้องสมุด มำกขึ้น แต่ก่อนอยำกมำยืมหนังสือก็ต้องหำวิธี

ค้นคว้ำเอง งงมำก แล้วก็ไม่รู้เลขโค้ดคืออะไร หำได้

จำกหมวดไหน [หลังเข้ำร่วมกิจกรรม] มีควำม เข้ำใจมำกขึ้นค่ะ ได้ฝึกยืมหนังสือด้วยตนเอง รู้ว่ำ ห้องหนังสือมีหนังสือให้ค้นหำหลำยประเภท คิดว่ำ มีแค่ 2 ชั้นเพรำะไม่เคยไปเกินชั้น 2 เลย [ห้องสมุด อำคำร 2 มี 6 ชั้น]” และควำมเห็นที่ว่ำ “เป็น กิจกรรมที่ดีมำกๆ ท ำให้รู้จักห้องสมุดมำกขึ้น รู้จัก วิธีหำหนังสือจำกที่ไม่รู้อะไรเลย ท ำให้ต่อไปนี้จะ หำหนังสืออะไรก็ไม่ต้องกลัวแล้ว”

อย่ำงไรก็ดี คณะผู้วิจัยเห็นพ้องต้องกันว่ำ ควำมร่วมมือจำกอำจำรย์เป็นแรงจูงใจที่ส ำคัญ ที่สุดในกำรชักน ำนักศึกษำมำเข้ำร่วมกิจกรรม แม้ว่ำในชั้นแรกนักศึกษำจะมำโดยไม่คำดหวังกำร เรียนรู้ใด เช่น จำกตัวอย่ำงควำมเห็นของนักศึกษำ คนหนึ่งที่ว่ำ “สนุกมำกๆ ค่ะ ทีแรกคิดว่ำแค่มำนั่ง ฟังบรรยำยเฉยๆ เตรียมมำหลับเลยค่ะ แต่พอได้

เล่นกิจกรรมหำหนังสือรู้สึกมีไฟค่ะ อยำกชนะ มำกๆ ได้วิ่งด้วย ได้ควำมรู้เรื่องห้องสมุดด้วย”

อภิปรายผล

กำรจัดกิจกรรมโครงกำรขอเป็นบรรณำรักษ์

สักครั้งให้ชื่นใจเป็นกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้

ทักษะกำรรู้สำรสนเทศให้นักศึกษำชั้นปีที่ 1 ของ มหำวิทยำลัยขอนแก่น ที่ลงทะเบียนเรียนรำยวิชำ

Referensi

Dokumen terkait

Munculnya virus Covid-19 dengan dampak kematian yang tinggi, memaksa organisasi Kesehatan dunia (WHO) menyatakan bahwab Covid-19 merupakan pandemi darurat

Therefore, teachers need literacy activity teaching materials as a guidebook to help carry out the School Literacy Movement GLS activities using multimodal literacy so that teachers and