• Tidak ada hasil yang ditemukan

of School Administrators Secondary Educational Servic

N/A
N/A
Nguyễn Gia Hào

Academic year: 2023

Membagikan "of School Administrators Secondary Educational Servic"

Copied!
248
0
0

Teks penuh

The Development of a Program to Enhance the Creative Leadership of School Administrators Secondary Educational Service Area 25. TITEL The Development of a Program to Enhance the Creative Leadership of School Administrators Secondary Educational Service Area 25.

กำรสังเครำะห์องค์ประกอบของภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์

กำรสังเครำะห์วิธีกำรเสริมสร้ำงภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์

สรุปตำรำงสังเครำะห์วิธีกำรเสริมสร้ำงภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์

ทฤษฎีเชิงสาเหตุ” ซึ่งทฤษฎีเชิงบรรทัดฐานจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับเป้าหมายหรือผลลัพธ์ การออกแบบและการใช้งานจะต้องได้รับการตรวจสอบหรือตรวจสอบ หัวข้อเกี่ยวกับทฤษฎีเชิงสาเหตุระบุปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ และการทำงานของโปรแกรมภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การตัดสินใจและผลลัพธ์

กำรสังเครำะห์องค์ประกอบของโปรแกรม

ผลกำรสังเครำะห์กระบวนกำรพัฒนำโปรแกรม

78 ภาพที่ 2: โครงสร้างการจัดการของสำนักงานมัธยมศึกษาภาค เขตพื้นที่ 25

จ ำนวนโรงเรียนในสังกัดแยกตำมสหวิทยำเขต จ ำนวน 11 สหวิทยำเขต สังกัดส ำนักงำนเขต

จ ำนวนโรงเรียนแยกตำมขนำด (จ ำนวนนักเรียน) สังกัดส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ

จ ำนวนครูและบุคลำกรที่ปฏิบัติงำนของ ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 25

จ ำนวนประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำงจ ำแนกตำมขนำดสถำนศึกษำ

แสดงค่ำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน สภำพปัจจุบันและสภำพที่พึงประสงค์ ในกำร

แสดงค่ำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน สภำพปัจจุบันและสภำพที่พึงประสงค์ ในกำร

แสดงค่ำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน สภำพปัจจุบันและสภำพที่พึงประสงค์ในกำร

แสดงค่ำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน สภำพปัจจุบัน และสภำพที่พึงประสงค์ในกำร

แสดงค่ำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน สภำพปัจจุบันและสภำพที่พึงประสงค์ในกำร

124 Formative Leader) นั้นจ ำเป็นจะต้องอำศัยทักษะกำรเอื้ออ ำนวยควำมสะดวก (Facilitation Skills) อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เพรำะสำระที่เป็นภำรกิจหลักของทฤษฎีนี้ ได้แก่ กำรท ำงำนแบบทีมในกำรสืบ เสำะหำควำมรู้ (Team Inquiry) กำรเรียนรู้แบบทีม (Team Learning) กำรร่วมมือร่วมใจกัน แก้ปัญหำ (Collaborative Problem Solving) กำรจินตนำกำรสร้ำงภำพของอนำคตที่ควรเป็น (Imaging Future Possibilities) กำรพิจำรณำตรวจสอบควำมเชื่อร่วมกัน (Examining Shared Beliefs) กำรใช้ค ำถำม (Asking Questions) กำรรวบรวมวิเครำะห์และแปลควำมข้อมูล (Collecting Analyzing, and Interpreting Data) ตลอดจนกระตุ้นครูอำจำรย์ตั้งวงสนทนำอย่ำงสร้ำงสรรค์ใน เรื่องกำรเรียนกำรสอน เป็นต้น ภำรกิจดังกล่ำวเหล่ำนี้ ล้วนแสดงออกถึงพฤติกรรมภำวะผู้น ำแบบ สร้ำงสรรค์ทั้งสิ้น ต่อไปนี้จะกล่ำวถึงหลักกำร 10 ประกำรของกำรเป็นผู้น ำแบบสร้ำงสรรค์ซึ่งแสดงว่ำ ทฤษฎีภำวะผู้น ำมีกระบวนกำรทัศน์ใหม่ของกำรเป็นผู้น ำเชิงคุณภำพ (Quality Leadership) ผู้น ำ แบบสร้ำงสรรค์ในฐำนะผู้น ำกำรเรียนรู้ ควรเปลี่ยนจุดเน้นเดิมที่เน้นเรื่องกระบวนกำรสอนของครู. Probing) และทักษะกำรให้ค ำแนะน ำ (Guiding) เป็นต้น ซึ่งทักษะเหล่ำนี้จะสะท้อนให้เห็นในกำรใช้. มำตรฐำนทำงวิชำกำรสูงที่ควรเป็นให้ท ำงำนที่มอบนักเรียนท ำทำงวิชำกำรส่วนใหญ่ยังขำดควำมรู้สึก น่ำท้ำทำยและให้ควำมสนุกเพลิดเพลินแก่ผู้เรียน เป็นต้น ด้ำนกำรบริหำรเวลำพบว่ำยังใช้เวลำเรียนไป อย่ำงขำดประสิทธิผล ส่วนเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกำรเรียนกำรสอนพบว่ำขำดแคลน หรือมีแต่ใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ นอกจำกนี้หลักสูตรเตรียมผู้บริหำรกำรศึกษำยังขำดควำมเข้ำใจสภำพ จริงของปัญหำตลอดจนแนวทำงปรับปรุงแก้ไขปัญหำเหล่ำนี้ กำรเป็นผู้น ำแบบสร้ำงสรรค์ (The Formative Leader) นั้นจ ำเป็นจะต้องอำศัยทักษะกำรเอื้ออ ำนวยควำมสะดวก (Facilitation Skills) อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เพรำะสำระที่เป็นภำรกิจหลักของทฤษฎีนี้ ได้แก่ กำรท ำงำนแบบทีมในกำรสืบ เสำะหำควำมรู้ (Team Inquiry) กำรเรียนรู้แบบทีม (Team Learning) กำรร่วมมือร่วมใจกัน แก้ปัญหำ (Collaborative Problem Solving) กำรจินตนำกำรสร้ำงภำพของอนำคตที่ควรเป็น (Imaging Future Possibilities) กำรพิจำรณำตรวจสอบควำมเชื่อร่วมกัน (Examining Shared Beliefs) กำรใช้ค ำถำม (Asking Questions) กำรรวบรวมวิเครำะห์และแปลควำมข้อมูล (Collecting Analyzing, and Interpreting Data) ตลอดจนกระตุ้นครูอำจำรย์ตั้งวงสนทนำอย่ำงสร้ำงสรรค์ใน เรื่องกำรเรียนกำรสอน เป็นต้น ภำรกิจดังกล่ำวเหล่ำนี้ ล้วนแสดงออกถึงพฤติกรรมภำวะผู้น ำแบบ สร้ำงสรรค์ทั้งสิ้น ต่อไปนี้จะกล่ำวถึงหลักกำร 10 ประกำรของกำรเป็นผู้น ำแบบสร้ำงสรรค์ซึ่งแสดงว่ำ ทฤษฎีภำวะผู้น ำมีกระบวนกำรทัศน์ใหม่ของกำรเป็นผู้น ำเชิงคุณภำพ (Quality Leadership) ผู้น ำ แบบสร้ำงสรรค์ในฐำนะผู้น ำกำรเรียนรู้ ควรเปลี่ยนจุดเน้นเดิมที่เน้นเรื่องกระบวนกำรสอนของครู. Probing) และทักษะกำรให้ค ำแนะน ำ (Guiding) เป็นต้น ซึ่งทักษะเหล่ำนี้จะสะท้อนให้เห็นในกำรใช้. ควำมคิดสร้ำงสรรค์ Module 4 กำรมีควำมยืดหยุ่นและปรับตัว และ Module 5 กำรท ำงำนเป็นทีม ในแต่ละโมดูลจะมีกิจกรรมพัฒนำหลำกหลำยรูปแบบเพื่อสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มีควำมสำมำรถ ครอบคลุมเป้ำหมำยของกำรพัฒนำภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ สังกัดส ำนักงำน เขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 25 ขั้นที่ 3 กรบูรณำกำรแบบสอดแทรกกับกำรปฏิบัติงำน (125 ชั่วโมง) ขั้นที่ 4 กำรประเมินหลังพัฒนำ (10 ชั่วโมง) โดยมีขอบข่ำยเนื้อหำรวมระยะเวลำกำรพัฒนำ 150 ชั่วโมง ดังตำรำงฝึกอบรมดังต่อไปนี้. ตำรำง 24 ฝึกอบรมโปรแกรมพัฒนำภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ สังกัดส ำนักงำน เขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 25. ควำมเข้ำใจ. โครงสร้ำงของโปรแกรม. โครงสร้ำงโปรแกรมกำรพัฒนำภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ประกอบด้วยโครงสร้ำงและขอบข่ำยเนื้อหำ รวมระยะเวลำ 150 ชั่วโมง ได้แก่ Module 1 กำรมี. ภำพประกอบ 4 โครงสร้ำงโปรแกรมกำรพัฒนำภำวะผู้น ำเชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ. เนื้อหำประกอบด้วย5 Module ดังนี้. การมอบหมายงานที่เหมาะสม. สถานศึกษาสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต24 -ทดสอบความรู้หลังการพัฒนา. 2.1 กำรค ำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล 2.2 กำรมอบหมำยงำนที่ เหมำะสม. Module 3 กำรมีควำมคิดสร้ำงสรรค์ เนื้อหำในโมดูลนี้เป็นกำรคิดหำค ำตอบได้อย่ำง อิสระไม่ตกอยู่ภำยใต้กฎเกณฑ์หรือควำมคุ้นเคยกำรปรับตัวให้เข้ำกับบุคคลและสภำพแวดล้อมที่. เปลี่ยนแปลงไปในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ กำรเปิดกว้ำงรับควำมคิดใหม่ ๆ อย่ำงอิสระและสร้ำงบรรยำกำศ ที่ดีในกำรท ำงำน เนื้อหำจึงมุ่งให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรมีควำมสำมำรถในกำรคิดหำค ำตอบได้. กำรระดมสมอง. กำรจัดท ำแผนพัฒนำตนเอง 8. ผลกำรตรวจสอบควำมเหมำะสมและควำมเป็นไปได้ของโปรแกรมเสริมสร้ำงภำวะผู้น ำ เชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ดังตำรำง 25.

Referensi

Dokumen terkait

https://doi.org/ 10.1017/jie.2019.13 Received: 17 September 2018 Revised: 17 October 2018 Accepted: 23 April 2019 First published online: 2 September 2019 Key words: Aboriginal