• Tidak ada hasil yang ditemukan

Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2024

Membagikan "Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)"

Copied!
11
0
0

Teks penuh

(1)

1 นิสิตปริญญาโท, 2 อาจารย, สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตําบลขามเรียง อําเภอกันทรวิชัย จังหวัด มหาสารคาม 44150

1 Graduate student, 2 Lecturer, Civil Engineering, Faculty of Engineering, Mahasarakham University, Kamriang, Kantarawichai District, Mahasarakham Province 44150.

* Corresponding author; Rattana Hormwichian, Ph.D., Faculty of Engineering Mahasarakham University,Kamriang, Kantarawichai District, Mahasarakham Province 44150, Thailand. E-mail: [email protected]

การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกที่มีตอปริมาณนํ้าทาในลุมนํ้าหวยหลวง The assessment of climate change impacts on runoff in Huai Luang watershed

กรรณิการ บุตรคํา ,

1

รัตนา หอมวิเชียร ,

2*

Kannika Buthkham,

1

Rattana Hormwichian,

2*

Received: 13 May 2016 ; Accepted: 12 September 2016 บทคัดยอ

ในชวงเวลาที่ผานมาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกสงผลกระทบตอปริมาณนํ้าในแหลงนํ้าระหวางชวงฤดูฝนและฤดูแลง โดยเฉพาะอยางยิ่งแหลงนํ้าที่ใชประโยชนสําหรับการสงนํ้าเพื่อเกษตรกรรมและการผลิตนํ้าประปา การศึกษานี้มีวัตถุประสงค เพื่อคาดการณปริมาณฝนในอนาคตของพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง โดยใชแบบจําลอง PRECIS เพื่อคาดการณปริมาณฝนกรณี A2 และ B2 และการวิเคราะหขอมูลในอดีตดวยสมการถดถอยเพื่อสรางสมการประเมินปริมาณนํ้าในลุมนํ้าระหวางปพ.ศ.2546-2558 ผลการศึกษาพบวาพื้นที่ศึกษามีปริมาณฝนเฉลี่ยที่มีแนวโนมเพิ่มขึ้นในชวงเวลา 30 ปอนาคตขางหนาจากการนําคาพารามิเตอร ของสถานีวัดนํ้าทา KH.53 และ KH.103 มาคํานวณปริมาณนํ้าทา พบวาปริมาณนํ้าทาในปอนาคตมีนํ้าทารายปของกรณี

คาดการณ A2 เทากับ 79.57 และ 246.75 ลานลูกบาศกเมตรตามลําดับและนํ้าทาเฉลี่ยรายปของกรณีคาดการณ B2 เทากับ 81.25 และ 271.58 ลานลูกบาศกเมตร ตามลําดับจากผลการศึกษาพบวานํ้าทาเฉลี่ยรายปในอนาคตมีคามากกวานํ้าทาเฉลี่ย รายปในปจจุบันทั้งกรณีคาดการณ A2 เทากับ 30.70 และ 33.10 เปอรเซ็นตตามลําดับและกรณีคาดการณ B2 เทากับ 37.82 และ 32.19 เปอรเซ็นตตามลําดับการศึกษาในครั้งนี้จึงสามารถนําไปประยุกตใชเพื่อที่จะทําใหไดขอมูลสําหรับการตัดสินใจและ วางแผนการจัดการทรัพยากรนํ้าในพื้นที่ศึกษาเพื่อการจัดการนํ้าสําหรับการอุปโภค-บริโภคและการเกษตรกรรมไดในอนาคต คําสําคัญ : การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศปริมาณนํ้าทาปริมาณนํ้าฝนคาดการณ

Abstract

In the past, climate changes affect the amount of water during the rainy season and dry season, especially the water use for agricultural irrigation, and water supply. This study aimed to predict the amount of rainfall in Huai Luang watershed by using the PRECIS model in case A2 and B2. And data analysis with regression coefficient to assess the amount of water in the watershed during the year 2003-2015. The results revealed that the average rainfall trends upward in the next 30 years. The parameter value of the station KH.53 and KH.103 in case A2 and B2 is used to calculate runoff. In the future the runoff of case A2 equals 79.57 and 246.75 MCM respectively, and case B2 equal to 81.25 and 271.58 MCM respectively. The study found that the average annual runoff of future in case A2 is greater than the average annual runoff of present were 33.10 percent and 4.39 percent respectively, and case B2 were 32.19 percent and 12.33 percent respectively. This study can be applied to therefore, is expected to lead to analyze problems, planning and management of water resources in the study area for consumption, and agriculture in the future.

Keywords : climate change, runoff, rainfall, forecasting

(2)

บทนํา

วิกฤตการณสิ่งแวดลอมระดับโลกที่กําลังสรางความเสียหาย และเปนภัยตอมนุษยมากที่สุดในปจจุบันคือการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ (climate change) ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลง ลักษณะอากาศเฉลี่ยในพื้นที่หนึ่งเชนอุณหภูมิลมฝนเปนตน ไมวาจะเนื่องมาจากความผันแปรตามธรรมชาติหรือกิจกรรม ของมนุษยก็ตามโดยเฉพาะสภาวะที่อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิว โลกเพิ่มสูงขึ้นหรือที่เรียกวาภาวะโลกรอน (global warming) ซึ่งเปนปรากฏการณที่เกิดจากการที่โลกไมสามารถระบาย ความรอนที่ไดรับจากดวงอาทิตยออกไปไดอยางที่เคยเปน ทําใหอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นแมวาในชวงศตวรรษที่

ผานมาอุณหภูมิดังกลาวสูงขึ้นเพียงไมกี่องศาแตก็ทําใหสภาพ อากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอยางมากและสงผลกระทบตอ สิ่งมีชีวิตบนโลกอยางรุนแรง1

จากการเปลี่ยนแปลงนี้จะนําไปสูการเกิดผลกระทบ อยางมากตอวัฏจักรอุทกวิทยาในระบบลุมนํ้าโดยเฉพาะอยาง ยิ่ง ปริมาณนํ้าฝนและอัตราการระเหย ซึ่งจะทําใหปริมาณ นํ้าทาในแหลงนํ้าธรรมชาติเกิดการเปลี่ยนแปลงรวมถึงปริมาณ ตะกอนที่เกิดขึ้นในลํานํ้า2 จากการศึกษาผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่ผานมาพบวา ทรัพยากร นํ้าไดรับผลกระทบจากเหตุดังกลาวมีผลทําใหระบบอุทกวิทยา เกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณนํ้าที่ใชการได (water yield) ใน แหลงนํ้าธรรมชาติ หรืออางเก็บนํ้าในชวงฤดูรอนอาจลดลง เนื่องจากมีอัตราการระเหยที่สูงขึ้น3ประกอบกับการเพาะปลูก พืชเกษตรกรรมในชวงเวลาดังกลาวมีความตองการนํ้าตนทุน4 ในชวงเวลาที่ผานมาการศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศโลกที่สงผลกระทบตอพื้นที่กักเก็บนํ้าในพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยสวนใหญจะมุงเนนศึกษา คาดการณสถานการณนํ้าในแหลงนํ้าหรืออางเก็บนํ้าขนาด ใหญ แตในบางพื้นที่การศึกษาจะยังไมครอบคลุมถึงอางเก็บ นํ้าขนาดกลางหรือขนาดเล็กที่มีอยูเปนจํานวนมากโดยเฉพาะ ในพื้นที่ชนบทที่ใชประโยชนสําหรับการผลิตนํ้าประปา การ อุปโภค-บริโภค การเกษตรกรรมในชวงฤดูแลง หรืออางเก็บ นํ้าเอนกประสงคทั่วไป (multi-purpose reservoir) ซึ่งจําเปน ตองพึ่งพานํ้าฝนตามธรรมชาติในชวงฤดูมรสุมเพื่อเพิ่มปริมาณ นํ้าในอางเก็บนํ้าเปนหลักทั้งนี้ยังรวมไปถึงการนําเสนอขอมูล แนวโนมสถิติปริมาณฝนที่มีความสัมพันธกับปริมาณนํ้าใน อางเก็บนํ้าในอดีตที่ผานมานํามาประยุกตใชใหเปนประโยชน หรือการนํามาสื่อสารกับผูมีสวนไดสวนเสีย เพื่อการปรับตัว หรือเตรียมตัวตอการใชทรัพยากรนํ้าในทางตรงหรือทางออม ลุมนํ้าหวยหลวง เปนลุมนํ้าสายสําคัญของจังหวัด อุดรธานีในระยะเวลาที่ผานมาจนถึงปจจุบันจังหวัดอุดรธานี

และพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง เผชิญกับความเสี่ยงที่เปนผลจาก ความแปรปรวนสภาพอากาศเกิดนํ้าทวมชุมชนเมืองและพื้นที่

รอบเมืองโดยเฉพาะในปพ.ศ. 2554 สงผลใหเกิดฝนตกหนัก ปริมาณฝนที่ตกมากในพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวงทําใหปริมาณนํ้า ในอางเก็บนํ้าหวยหลวงเกินระดับกักเก็บซึ่งทําใหเกิดสภาพ นํ้าทวม5 เขตเทศบาลนครอุดรธานีและพื้นที่โดยรอบจัดวามี

ความเสี่ยงจากภาวะนํ้าทวมเปนประจํา เนื่องจากปริมาณฝน ตกหนักในเขตเมืองและพื้นที่รอบเมืองซึ่งเปนพื้นที่ลุมรวมถึง พื้นที่ที่อยูติดลํานํ้าสายหลักซึ่งเกิดนํ้าเออลนตลิ่งในยามที่ฝน ตกหนัก ประกอบกับเปนพื้นที่รับนํ้าจากพื้นที่สูงทางดาน ทิศตะวันตกเฉียงใตและการพัฒนาที่กอใหเกิดสิ่งปลูกสรางตางๆ ซึ่งรวมถึงโครงขายถนนบางสวนก็เปนอุปสรรคตอการระบายนํ้า นอกจากนี้การเกษตรในจังหวัดอุดรธานีเผชิญกับความเสี่ยง จากสภาพอากาศที่ไมเหมาะสมซึ่งกอใหเกิดความเสียหายตอ ผลผลิตหลายประการทั้งในดานความผันผวนของปริมาณนํ้า เพื่อการเพาะปลูกพืชโดยเฉพาะการขาดแคลนนํ้าในชวงฤดูแลง และพื้นที่ดินเค็มซึ่งครอบคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี

ก็เปนปญหาใหญอีกประการหนึ่ง ซึ่งปญหาพื้นที่ดินเค็มนี้มี

ความรุนแรงมากขึ้นในปที่มีอากาศแลงจัดและหนารอนที่

ยาวนาน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงระดับนํ้าใตดิน จังหวัด อุดรธานีมีความเสี่ยงตอการขาดแคลนนํ้าจากภัยแลงครอบคลุม พื้นที่เปนบริเวณกวางเกือบทั้งจังหวัดซึ่งสงผลกระทบตอภาค สวนตางๆ ที่มีความจําเปนตองใชนํ้า ทั้งในเขตชุมชนเมืองที่

ตองการนํ้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและภาคเกษตรกรรมใน พื้นที่รอบเมืองที่ตองใชนํ้าจากแหลงเดียวกัน คือ อางเก็บนํ้า หวยหลวง ซึ่งในปที่ฝนตกนอยนั้น มักจะเกิดปญหาในการ จัดสรรนํ้าระหวางชุมชนและพื้นที่เกษตรโดยรอบ โดยเฉพาะ เปนแหลงนํ้าเพื่อการอุปโภค-บริโภคของพื้นที่อุดรธานี

ในการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงคเพื่อคาดการณปริมาณ ฝนในอนาคตของพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง ศึกษาความสัมพันธ ของปริมาณนํ้าฝนและนํ้าทาสําหรับการคาดการณปริมาณ นํ้าทาในลุมนํ้าหวยหลวง และเพื่อศึกษาพฤติกรรมปริมาณ นํ้าทาในลุมนํ้าหวยหลวงเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศโลกซึ่งจะนํามาวิเคราะหเพื่อคาดการณ ปริมาณนํ้าในอนาคต นําไปสูการวิเคราะหปญหา เพื่อที่จะ ทําใหไดขอมูลสําหรับการตัดสินใจ และวางแผนการจัดการ ทรัพยากรนํ้าในพื้นที่ศึกษาไดอยางเหมาะสม

วิธีการศึกษา

การศึกษานี้จะเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ

อากาศโลก กับปริมาณนํ้าทาในพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง โดย ศึกษาขอมูลปริมาณฝนรายวันการระเหยรายวันและปริมาณ

(3)

นํ้าทารายวัน ตั้งแต ปพ.ศ. 2550-2558 ซึ่งประยุกตใชแบบ จําลอง PRECIS (Providing REgional Climates for Impacts Studies) สําหรับการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกของ Intergovernmental Panel on Climate Change Special Report on Emission Scenario (IPCC SRES) คาดการณ ปริมาณฝนในอนาคตครอบคลุมพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง จังหวัดอุดรธานี ใชแบบจําลอง NAM Model ในการประเมิน ปริมาณนํ้าทารายวัน และทําการปรับเทียบแบบจําลอง (calibration) โดยใชขอมูลปริมาณนํ้าทาจากการตรวจสอบจริง ตั้งแตปพ.ศ.2550-2554 และตรวจสอบแบบจําลอง (valida- tion) ตั้งแตปพ.ศ. 2555-2558 สถานีที่ใชในการศึกษาปริมาณ นํ้าทา คือ สถานีบานหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

(รหัสสถานี KH.53) และสถานีบานทาตูมอ.เมืองจ.อุดรธานี

(รหัสสถานี KH.103) ซึ่งอยูในพื้นที่ลุมนํ้าหวยหลวง

พื้นที่ศึกษา

ลุมนํ้าหวยหลวง เปนลุมนํ้าสายสําคัญของจังหวัด อุดรธานีมีตนกําเนิดจากเทือกเขาภูพานในเขตอําเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานีประกอบดวยหวยโขงหวยตาลเหี้ยมหวยดําปา ไหลมารวมกันเปนหวยหลวง มีทิศทางการไหลของนํ้าจาก ทิศใตไปทิศเหนือ ไหลผานเทศบาลนครอุดรธานี และไหลไป รวมกับแมนํ้าโขงที่บานวัดหลวงตําบลจุมพลอําเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคายมีความยาวตลอดลํานํ้าหลักกวา 100 กิโลเมตร มีพื้นที่ลุมนํ้าคาบเกี่ยว 3 จังหวัดคือ หนองบัวลําภู อุดรธานี

และหนองคายมีพื้นที่ลุมนํ้าประมาณ 3,933 ตารางกิโลเมตร ความยาวของลําหวย 1,497.5 กิโลเมตร มีอางเก็บนํ้าหวย หลวงที่เปนแหลงนํ้าที่สําคัญในการอุปโภค-บริโภคของชุมชน เมืองจังหวัดอุดธานีภายในลุมนํ้ามีสถานีตรวจอากาศจังหวัด อุดรธานีของกรมอุตุนิยมวิทยา Figure 1

Figure 1 Location of Huai Luang watershed

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change)

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศอันเปนผลจากกิจกรรม ของมนุษยที่เปลี่ยนองคประกอบของบรรยากาศโลกโดยตรง หรือโดยออมและที่เพิ่มเติมจากความแปรปรวนของสภาวะ อากาศตามธรรมชาติที่สังเกตไดในชวงระยะเวลาเดียวกันไดแก อุณหภูมิความชื้นปริมาณนํ้าฝนฤดูกาลซึ่งเปนปจจัยสําคัญ ในการดํารงอยูของสิ่งมีชีวิตที่จะตองปรับตัวใหเขากับสภาพ ภูมิอากาศในบริเวณที่สิ่งมีชีวิตนั้นอาศัยอยู

ปริมาณกาซเรือนกระจกในบรรยากาศในอนาคตเปน ขอมูลสําคัญที่ใชเปนขอมูลนําเขาใหกับแบบจําลองภูมิอากาศ ปริมาณกาซเรือนกระจกอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตตาม แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในทิศทางตางๆกันซึ่ง คณะกรรมการระหวางรัฐบาลวาดวยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ climate change (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) ไดกําหนดความเปนไปไดของ การพัฒนาเปน 4 รูปแบบหลัก6

1. แบบ A เปนการพัฒนาโดยใหความสําคัญกับ การเติบโตทางเศรษฐกิจเปนหลักโดยแบงยอยเปน

แบบ A1 คืออนาคตการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ประชากรโลกสูงสุดในกึ่งศตวรรษและลดลงเล็กนอยหลังจาก นั้นมีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มีการพัฒนาบุคลากร มีปฏิสัมพันธระหวางวัฒนธรรม ความแตกตางของรายได ประชาชาติระหวางภูมิภาคลดลง ภาพจําลองการปลอยกาซ เรือนกระจก (emission scenario)

แบบ A2 คือ การพัฒนาในอนาคตของโลกมี

ความหลากหลายพึ่งตนเองมากขึ้นภายในภูมิภาค มีการ อนุรักษเอกลักษณทองถิ่น จํานวนประชากรเพิ่มขึ้นอยาง ตอเนื่องการพัฒนาเศรษฐกิจขึ้นอยูกับภูมิภาคการเติบโตทาง เศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีชากวาแบบอื่นและ กระจายตามทองถิ่นและภูมิภาค

2. แบบ B เปนการพัฒนาโดยใหความสําคัญกับสิ่ง แวดลอมมากกวาการพัฒนาแบบ A โดยแบงยอยเปน

แบบ B1 เปนภาพจําลองการพัฒนาที่ในอนาคต ประชากรเพิ่มสูงในตอนกึ่งกลางศตวรรษเชนเดียวกับแบบ A1 และลดลงหลังจากนั้น แตโครงสรางเศรษฐกิจเปลี่ยนอยาง รวดเร็วไปเปนภาคบริการและสารสนเทศลดการใชวัตถุมีการ ใชเทคโนโลยีที่สะอาด เนนที่การแกปญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืนในระดับนานาชาติมีความเสมอภาคแต ไมมีการนําประเด็นดานภูมิอากาศเปนแรงจูงใจ

แบบ B2 เปนภาพจําลองการพัฒนาที่เนนการ แกปญหาดานเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืนในระดับ

(4)

ทองถิ่นหรือภูมิภาคประชากรเพิ่มขึ้นตอเนื่องแตนอยกวา A2 มีการพัฒนาเศรษฐกิจปานกลาง การเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยีหลากหลายและชาลงกวา B1 และ A1 โดยมีการ ปกปองสิ่งแวดลอมและความเสมอภาคของสังคมที่เนนที่ทอง ถิ่นและภูมิภาค7

ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้จะเลือกใชกรณีคาดการณ A2 และ B2 เนื่องจากพื้นที่ศึกษาในกรณี A2 มีการพัฒนาใน อนาคตของโลกมีความหลากหลายพึ่งตนเองมากขึ้นภายใน ภูมิภาค มีการอนุรักษเอกลักษณทองถิ่น จํานวนประชากร เพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง การพัฒนาเศรษฐกิจขึ้นอยูกับภูมิภาค การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีชากวา แบบอื่น และกระจายตามทองถิ่นและภูมิภาค กรณี B2 เปน ภาพจําลองการพัฒนาที่เนนการแกปญหาดานเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืนในระดับทองถิ่นหรือภูมิภาคประชากร เพิ่มขึ้นตอเนื่องแตนอยกวา A2 มีการพัฒนาเศรษฐกิจ ปานกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหลากหลายและชาลง กวา A1 และ B1 โดยมีการปกปองสิ่งแวดลอมและความเสมอ ภาคของสังคมที่เนนที่ทองถิ่นและภูมิภาคในขณะที่ A1 และ B1 เนนปญหาภาพรวมในระดับโลก

แบบจําลองเชิงตัวเลข PRECIS (Providing REgional Climates for Impacts Studies)

เปนแบบจําลองภูมิอากาศระดับภูมิภาค (Regional Climate Models; RCMs) ที่พัฒนาขึ้นที่ The met office hadley centre for climate prediction and research ประเทศ อังกฤษ โดยมีเปาหมายเพื่อสรางแบบจําลองที่สามารถนําไป ใชไดกับทุกพื้นที่ทั่วโลกโดยคํานวณไดบนเครื่องคอมพิวเตอร สวนบุคคลประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบสนองความตองการของ ประเทศตางๆ ที่มีความประสงคจะศึกษาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของภูมิภาคตัวเอง โดยมีพื้นฐานการพัฒนา มาจากแบบจําลองภูมิอากาศระดับภูมิภาค รุนที่ 3 ของ Hadley Centre โดยเนนการพัฒนาที่ความสะดวกของการใช งานและการแสดงผลแกผูใชแบบจําลอง PRECIS สามารถให ผลการวิเคราะหขอมูลสภาพอากาศที่ดีกวาแบบจําลอง GCMs โดยมีความละเอียดของขอมูลเชิงพื้นที่ประมาณ 0.22 องศา หรือประมาณ 25 กิโลเมตรและสามารถลดขนาด (downscale) ไดถึงประมาณ 20x20 ตารางกิโลเมตร6

ขอมูลที่ตองการจากแบบจําลอง PRECIS จะมีทั้งหมด 43 ป ซึ่งจะแบงเปนปฐาน จํานวน 13 ป คือระหวาง พ.ศ. 2546-2558 สําหรับการปรับเทียบและการตรวจสอบปอนาคต จํานวน 30 ปคือระหวางพ.ศ.2559-2589 แบบจําลอง PRE- CIS จะแสดงขอมูลปริมาณฝนเปนรายวันใน 1 ป ที่ตําแหนง

ตามพิกัดกริดแบบละติจูด (latitude) และลองติจูด (longitude) โดยพื้นที่ศึกษาจะอยูระหวางพิกัด 18° 00’00’’ N, 102° 12’00’’

E และ 16° 48’00’’ N, 103° 24’00’’ E และใชตําแหนงพิกัด กริดจํานวน 22 จุด Figure 2 เปนตําแหนงที่จําลองคาดการณ ปริมาณฝน

Figure 2 Location of grid point

เนื่องจากการคาดการณปริมาณฝนบนพื้นฐานของ แบบจําลองนั้นจะมีขอจํากัดที่อาจทําใหเกิดความคลาดเคลื่อน ไดดังนั้นการทดสอบความถูกตองของผลการคํานวณจากแบบ จําลองจึงมีความจําเปน8,9ดวยเหตุนี้ขอมูลที่ไดจากแบบจําลอง PRECIS ที่จะนํามาใชในการศึกษาจะตองมีการทดสอบความ ถูกตองโดยการใชขอมูลที่ไดจากการตรวจวัดจริงจากสถานี

ตรวจอากาศโดยการเปรียบเทียบผลการจําลองปริมาณฝนจะ ตองใชขอมูลที่ตําแหนงเดียวกัน วิธีการปรับเทียบและตรวจ สอบขอมูลสภาพภูมิอากาศสามารถแสดงไดดังตอไปนี้

1. ผูศึกษาไดเลือกพื้นที่สําหรับทําการปรับเทียบ และตรวจสอบขอมูลคือพื้นที่ลุมหวยหลวงซึ่งจะทําการเปรียบเทียบ กับสถานีตรวจอากาศจังหวัดอุดรธานี ณ ตําแหนงพิกัด 17°

23’ N, 102° 48’ E เนื่องจากเปนสถานีตรวจอากาศที่ใกลกับ ตําแหนงที่มีขอมูลคาดการณมากที่สุดดังแสดงใน Figure 2 2. ขอมูลที่ไดจากการตรวจวัดจริงระหวางป พ.ศ. 2546 - 2558 จะทําการเปรียบเทียบกับขอมูลที่ไดจากแบบ จําลองในปเดียวกันโดยจะตองทําการเฉลี่ยขอมูลเปนรายเดือน สําหรับแตละปจากการเปรียบเทียบระหวางขอมูลที่ตรวจวัด

(5)

จริง และขอมูลจากแบบจําลอง พบวาปริมาณฝนจากการ ตรวจวัดจริงมีคามากกวาปริมาณฝนจากแบบจําลองจึงควรมี

การปรับแก

3. จากความแตกตางของขอมูลที่พบในขอ 2. ผูศึกษา จึงไดนําขอมูลปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ยในปเดียวกันมาคํานวณ หาคาความแตกตางระหวางขอมูลจริงกับแบบจําลอง ซึ่งจะ ทําใหไดคาคงที่ (CR) สําหรับใชในการปรับแกที่ไดจากแบบ จําลองเปนรายเดือนที่ตําแหนงนั้นๆดังแสดงในสมการที่ 1

CR = Rscenario (1)

Rbaseline

โดยที่ CR = คาคงที่สาหรับการปรับแกขอมูลฝน

Rscenario = ปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือน

จากแบบจําลอง (มิลลิเมตร) Rbaseline = ปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนปฐาน

4. คาที่ไดจากการปรับเทียบขอมูลจากสถานีตรวจ วัดจริงกับแบบจําลองจะถูกนําไปใชปรับความคลาดเคลื่อนผล การคํานวณ ปริมาณฝนที่ไดจากแบบจําลองเพื่อทดสอบคา ความถูกตองระหวางปพ.ศ.2556 – 2558 (จํานวน 3 ป) โดย จะตองมีการปรับแตงคา CRเพื่อใหไดคาความถูกตองระหวาง ขอมูลตรวจวัดจริง และขอมูลจากแบบจําลองมากที่สุด และ สมการที่ 2 เปนสมการสําหรับปรับลดความคลาดเคลื่อน ปริมาณฝนที่ไดจากแบบจําลองดังนี้

Rrev = Rmodel x CR (2)

โดยที่ Rrev = ปริมาณฝนที่ปรับแกแลว (มิลลิเมตร)

Rmodel = ปริมาณฝนจากแบบจำลอง (มิลลิเมตร)

CR = คาคงที่สำหรับการปรับปรับแก

ขอมูลฝน

นําคา C ที่ผานการปรับเทียบแลวไปทดสอบกับ ขอมูลตรวจวัดจริงในป พ.ศ.2556 - 2558 จากนั้นจึงนําผลที่

ปรับแกความคลาดเคลื่อนไปเปรียบเทียบขอมูลในปพ.ศ.2556 - 2558 สําหรับการประเมินประสิทธิภาพของขอมูลปริมาณฝน ที่ไดผานการปรับลดความคลาดเคลื่อนเปรียบเทียบกับขอมูล สภาพภูมิอากาศจากสถานีตรวจวัด ขอมูลทั้งสองชุดจะมีการ

ประเมินดวยคาสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (coefficient of deter- mination: R2) และคาความคลาดเคลื่อนสัมพัทธ (Relative Error, RE )

5. เมื่อคา C ที่ไดผานการปรับแตงคาดวยวิธีลอง ผิด – ลองถูกจนทําใหไดคาความสมรูปของขอมูล (goodness of fit) คาสัมประสิทธิ์การตัดสินใจและคาความคลาดเคลื่อน สัมพัทธ เปนที่นาพอใจแลว ขอมูลปริมาณฝนรายวันระหวาง พ.ศ.2559 – 2589 จะถูกนํามาปรับลดคาความคลาดเคลื่อน โดยใชคา C ตามวิธีการที่ไดแสดงในสมการที่ 2 ขอมูลปริมาณ ฝนที่ไดผานการปรับลดคาความคลาดเคลื่อนแลวจะถือวาเปน ขอมูลที่นําไปใชเพื่อการวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในอนาคตดวย แบบจําลองทางอุทกวิทยา

แบบจําลองสําหรับคํานวณปริมาณนํ้าทา

ในการศึกษาครั้งนี้ใชแบบจําลอง NAM Model ใน การวิเคราะหปริมาณนํ้าทา ซึ่งการปรับเทียบแบบจําลอง เปนการหาคาพารามิเตอรเฉพาะถิ่นของแบบจําลองที่ไมทราบ คาที่แนนอน แตในเบื้องตนไดมีการกําหนดชวงของคา พารามิเตอรเฉพาะถิ่นแตละตัวโดยมีการกําหนดคาเริ่มตนให กับแบบจําลองซึ่งในขั้นสุดทายแลวคาพารามิเตอรเฉพาะถิ่น ที่จะนํามาเปนตัวแทนของลุมนํ้าไดนั้นจะไดจากการปรับเทียบ ระหวางขอมูลที่คํานวณไดจากแบบจําลองกับขอมูลที่ตรวจวัด ไดจริงในสนามโดยใชหลักเกณฑทางสถิติมาพิจารณาในการ ตัดสินใจเลือกผลการปรับเทียบแบบจําลอง10

รายละเอียดการเทียบมาตรฐานแบบจําลองดําเนินการ ดังนี้

1. พิจารณาเลือกชวงเวลาการปรับเทียบแบบจําลอง โดยใชชวงพ.ศ. 2550-2557

2. นําเขาขอมูลขอบเขต (boundary) ของแบบ จําลอง ซึ่งไดแก ขอมูลปริมาณนํ้าฝนจากสถานีวัดนํ้าฝน คา แฟกเตอรถวงนํ้าหนักดวยวิธีธีสเสนซึ่งการหาฝนเฉลี่ยดวยวิธี

ธีสเสนจะมีการหาคาถวงนํ้าหนักโดยพิจารณาพื้นที่ของสถานี

ฝนที่แบงโดยวิธีธีสเสนเทียบกับพื้นที่ลุมนํ้าทั้งหมด พื้นที่ลุม นํ้ายอย 2 ลุมนํ้ายอยโดยแบงตามตําแหนงสถานี KH.53 และ KH.103 คาการระเหย และปริมาณการไหลที่ตรวจวัดจาก สถานีวัดนํ้าทาของกรมชลประทานชวงปพ.ศ. 2550-2557

3. ในขั้นตนไดทําการปรับเทียบแบบจําลองในพื้นที่

ลุมนํ้าหวยหลวงสถานี KH.53 และ KH.103 Figure 3

(6)

Figure 3 Location of gauging stations in Huai Luang watershed

4. ทําการปรับเทียบแบบจําลองโดยใชวิธีการปรับ เทียบในการ trial and error เพื่อหาคาพารามิเตอรเริ่มตน

5. ปรับแกคาพารามิเตอรที่ไดจากวิธีปรับเทียบ เพื่อใหไดผลการคํานวณปริมาณนํ้าทาจากปริมาณนํ้าฝนที่

ดีขึ้นโดยเลือกชวงเวลา (time step) ที่เหมาะสม

6. ทําการปรับเทียบแบบจําลองขั้นสุดทาย โดย ประยุกตใชคาพารามิเตอรที่ปรับเทียบไดกับพื้นที่ลุมนํ้า ของสถานี โดยมีสรุปขั้นตอนการดําเนินงานของแบบจําลอง Figure 4

Data Requirements xInitial conditions xModel parameters xMeteorological data xHydrological data xPhysical data

ƒCollection of data

ƒData Verification

ƒData Processing

ƒInitial conditions

ƒInitial parameters Weighting factor of

Theissen method

ƒModel calibration

ƒModel validation Input data

Meteorological data - Daily rainfall data - Daily evaporation data Hydrological data

(Model calibration and validation) - Daily gauge-discharge data - Rating Curves data Physical data

- Watershed area data

Average daily rainfall Simulated hydrograph

Analysis of hydrograph result and accuracy criteria

Figure 4 Flow chart of modeling process

การตรวจสอบแบบจําลองเพื่อตรวจสอบคาพารามิเตอร ของแบบจําลองที่ไดจากการปรับเทียบมาแลววามีความเหมาะสม ดีหรือไม โดยใชวิธีนําคาพารามิเตอรจากการปรับเทียบแบบ จําลองในขั้นสุดทายมาใชสรางขอมูลปริมาณนํ้าทาเปรียบ เทียบกับขอมูลปริมาณนํ้าทาที่สถานีวัดนํ้าบันทึกไวในชวงป ขอมูลนอกเหนือจากชวงปที่ทําการปรับเทียบ เพื่อตรวจสอบ ความสัมพันธของขอมูลทั้งสองโดยใชหลักเกณฑในการตัดสินใจ เลือกผลการตรวจสอบแบบจําลองเชนกับแบบจําลองภูมิ

อากาศซึ่งในศึกษานี้จะพิจารณาชวงปพ.ศ. 2555 – 2557 มา ใชในการตรวจสอบแบบจําลอง

ผลการศึกษาและอภิปรายผล

ผลการจําลองสภาพภูมิอากาศ

การปรับลดความคลาดเคลื่อนของขอมูลจากแบบ จําลองขั้นตอนแรกในการเตรียมขอมูลปริมาณฝนในชวงระยะ เวลาที่ทําการศึกษาระหวาง พ.ศ.2546 - 2558 (ปฐาน) และ พ.ศ.2559 - 2589 (ปคาดการณ) จากแบบจําลอง PRECIS กรณีคาดการณ A2 และ B2 จําเปนจะตองมีการปรับลด ความคลาดเคลื่อนของขอมูลกอนโดยการนําขอมูลปริมาณฝน จากแบบจําลองนําไปเปรียบเทียบกับขอมูลปริมาณฝนที่ตรวจ วัดจริงจากสถานีตรวจอากาศจังหวัดอุดรธานี ผลการเปรียบ เทียบขอมูลระหวางปริมาณฝนจากแบบจําลองและสถานีตรวจ อากาศ ดังแสดงใน Figure 5 ซึ่งแสดงใหเห็นวาปริมาณฝนป ฐานเฉลี่ยรายเดือนจากแบบจําลอง PRECIS (เสนประสีแดง) มีคาสูงกวาคาปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนที่ตรวจวัดจากสถานี

ตรวจอากาศ (เสนทึบสีนํ้าเงิน) ดังนั้นจึงควรมีการปรับลดคา ปริมาณฝนจากแบบจําลองเพื่อใหมีความใกลเคียงกับคาที่

ตรวจวัดจริงมากที่สุด จากผลความแตกตางของขอมูลจาก แบบจําลอง และขอมูลตรวจวัดจริง ผูศึกษาจึงไดนําขอมูล ปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ยในปเดียวกันมาคํานวณหาคาความ แตกตางระหวางขอมูลจริงกับแบบจําลองแยกเปน 2 กรณี

คาดการณ A2 และ B2 โดยใชขอมูลปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ย ระหวางป พ.ศ.2546 - 2558 เปนฐานสําหรับการคํานวณคา ความความแตกตางระหวางขอมูลทั้งสองโดยใชสมการ 1 ซึ่ง จะทําใหไดคาคงที่ (CR) สําหรับใชในการปรับคาที่ไดจากแบบ จําลองกรณีคาดการณ A2 และ B2 เปนรายเดือนที่ตําแหนง นั้นๆ ผลการปรับเทียบและตรวจสอบขอมูลปริมาณฝน สามารถแสดงดังรูป Figure 6 และ Figure 7

(7)

0 100 200 300 400 500 600 700 800 900

1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900 1900

Daily Rainfall (mm.)

years baseline

PRECIS

Jan-09

Jan-08

Jan-03 Jan-04 Jan-05 Jan-06 Jan-07 Jan-15

Jan-10 Jan-11 Jan-12 Jan-13 Jan-14

Figure 5 Rainfall data from baseline and PRECIS model

Figure 6 Calibration and validation results (A2)

Figure 7 Calibration and validation results (B2)

ผลการวิเคราะหปริมาณนํ้าทา

ผลการปรับเทียบและตรวจสอบแบบจําลองสําหรับ สถานีวัดนํ้าทาการปรับเทียบแบบจําลอง สําหรับสถานีวัด นํ้าทาจํานวน 2 สถานีในลุมนํ้าหวยหลวงจากสถานี KH.53 และ KH.103 แยกเปนกรณีคาดการณ A2 และ B2 ไดพิจารณา เลือกชวงเวลาปฐานของแบบจําลองโดยใชชวงค.ศ. 2003 - 2015 (พ.ศ. 2546 - 2558) การปรับเทียบระหวางค.ศ. 2003 - 2012 (พ.ศ. 2546 – 2555) และตรวจสอบแบบจําลอง ค.ศ. 2013 – 2015 (พ.ศ. 2556 – 2558) นําเขาขอมูลขอบเขตของแบบ จําลองซึ่งไดแกขอมูลปริมาณนํ้าฝนจากสถานีวัดนํ้าฝนโดย หาคาสัดสวนการถวงนํ้าหนักของสถานีนํ้าฝนโดยวิธีธีสเสน พื้นที่ลุมนํ้ายอยจากพิกัดกริดของ PRECIS คาการระเหย และปริมาณการไหลที่ตรวจวัดจากสถานีวัดนํ้าทานําขอมูลที่

ไดจากการรวบรวมมาประยุกตใชกับแบบจําลองปริมาณนํ้าทา ทําการปรับเทียบแบบจําลองปริมาณนํ้าทา คาพารามิเตอรที่

ไดจากวิธีปรับเทียบเพื่อใหไดผลการคํานวณปริมาณนํ้าทาจาก ปริมาณนํ้าฝนรายวันที่ดีขึ้น โดยเลือกชวงเวลาที่เหมาะสม ทําการปรับเทียบแบบจําลองขั้นสุดทายโดยประยุกตใชคา พารามิเตอรที่ปรับเทียบไดกับพื้นที่ลุมนํ้าของสถานี

การตรวจสอบแบบจําลองเพื่อตรวจสอบคาพารามิเตอร ของแบบจําลองที่ไดจากการปรับเทียบมาแลววามีความ เหมาะสมดีหรือไมโดยใชวิธีนําคาพารามิเตอรเฉลี่ยจากการสอบ เทียบมาตรฐานแบบจําลองมาใชสรางขอมูลปริมาณนํ้าทา เปรียบเทียบกับขอมูลปริมาณนํ้าทาที่สถานีวัดนํ้าบันทึกไวใน ชวงปขอมูลนอกเหนือจากชวงปที่ทําการปรับเทียบเพื่อตรวจ สอบความสัมพันธของขอมูลทั้งสอง โดยใชหลักเกณฑคา สัมประสิทธิ์ของการตัดสินใจ เลือกผลการตรวจสอบแบบ จําลองมาพิจารณาจากการพิจารณาไดเลือกชวงปพ.ศ. 2555 - 2557 มาใชในการตรวจสอบแบบจําลองคํานวณปริมาณ นํ้าทา ดังกลาวไวในหัวขอวิธีการศึกษาตอไปนี้เปนการแสดง ผลการปรับเทียบและตรวจสอบแบบจําลองปริมาณนํ้าทา สําหรับแตละสถานีวัดนํ้าทาดังนี้

1. สถานีวัดนํ้าทา KH.53

สถานี KH.53 เปนสถานีวัดนํ้าทาที่ตั้งบาน หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานีสถานี KH.53 มีพื้นที่

รับนํ้าฝน 421 ตารางกิโลเมตร จากผลการศึกษาผลการสอบ เทียบแบบจําลองกรณีคาดการณ A2 และ B2 ชวงพ.ศ. 2550- 2554 เพื่อหาคาพารามิเตอรเริ่มตน ไดคาพารามิเตอรเฉลี่ย และคา R2เฉลี่ย (Table 1) พบวาคาพารามิเตอรเฉลี่ยจากการ ปรับเทียบแบบจําลองกรณีคาดการณ A2 ชวงปพ.ศ. 2550

(8)

- 2554 คาสัมประสิทธิ์ของการตัดสินใจ R2มีคาเทากับ 0.870 กรณีคาดการณ B2 คา R2 มีคาเทากับ 0.855 การตรวจสอบ แบบจําลองกรณีคาดการณ A2 ชวงปพ.ศ. 2555 - 2557 คา สัมประสิทธิ์ของการตัดสินใจ R2 มีคาเทากับ 0.921 กรณี

คาดการณ B2 คา R2 มีคาเทากับ 0.916 2. สถานีวัดนํ้าทา KH.103

สถานี KH.103 เปนสถานีวัดนํ้าทาที่ตั้งบาน ทาตูม อ.เมือง จ.อุดรธานี สถานี KH.103 มีพื้นที่รับนํ้าฝน 1,656 ตารางกิโลเมตรจากผลการศึกษาผลการปรับเทียบแบบ

จําลองกรณีคาดการณ A2 และ B2 ชวงพ.ศ. 2550-2554 เพื่อ หาคาพารามิเตอรเริ่มตน ไดคาพารามิเตอรเฉลี่ย และคา R2 เฉลี่ย (Table 1) พบวาคาพารามิเตอรเฉลี่ยจากการปรับเทียบ แบบจําลองกรณีคาดการณ A2 ชวงปพ.ศ. 2550 - 2554 คา สัมประสิทธิ์ของการตัดสินใจ R2มีคาเทากับ 0.851 กรณีคาด การณ B2 คา R2 มีคาเทากับ 0.877 การตรวจสอบแบบจําลอง กรณีคาดการณ A2 ชวงปพ.ศ. 2555 - 2557 คาสัมประสิทธิ์

ของการตัดสินใจ R2 มีคาเทากับ 0.933 กรณีคาดการณ B2 คา R2 มีคาเทากับ 0.920

Table 1 Correlation coefficient in simulated runoff

Station Calibration Period Correlation Coefficient Validation Period Correlation Coefficient KH.53

Scenario A2 2007-2011 0.870 2012-2015 0.921

Scenario B2 2007-2011 0.885 2012-2015 0.916

KH.103

Scenario A2 2007-2011 0.851 2012-2015 0.933

Scenario B2 2007-2011 0.877 2012-2015 0.920

จากคา R2 ที่คํานวณไดถือวาอยูในเกณฑที่ดี

ดังนั้นนําคาพารามิเตอรที่ไดไปใชในการคํานวณหาปริมาณนํ้า ทาในอนาคตจากขอมูลฝนและการระเหยของ PRECIS ชวงเวลา การวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในอนาคต 30 ปโดยใชชวงขอมูล ทุกๆ 5 ปคือพ.ศ. 2564, พ.ศ. 2569, พ.ศ. 2574, พ.ศ. 2579, พ.ศ. 2584 และพ.ศ. 2589

3. ผลการวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในปอนาคต การวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในปอนาคตสําหรับ สถานีวัดนํ้าทาจํานวน 2 สถานีในลุมนํ้าหวยหลวงจากสถานี

KH.53 และ KH.103 แยกเปนกรณีคาดการณ A2 และ B2 ได พิจารณาเลือกชวงเวลาการวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในอนาคต 30 ปโดยใชชวงขอมูลทุกๆ 5 ปคือพ.ศ. 2564, พ.ศ. 2569, พ.ศ. 2574, พ.ศ. 2579, พ.ศ. 2584 และพ.ศ. 2589 นําเขา ขอมูลขอบเขตของแบบจําลองปริมาณนํ้าทา ซึ่งไดแก ขอมูล ปริมาณนํ้าฝนจากสถานีวัดนํ้าฝน PRECIS คาการระเหยโดย ใชคาพารามิเตอรเฉลี่ยจากการปรับเทียบแบบจําลองปฐานมา ใชในการการวิเคราะหปริมาณนํ้าทาในปอนาคต Figure 8 - 11

0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 110 120

0.00 0.03 0.06 0.09 0.12 0.16 0.19 0.22 0.25 0.28 0.31 0.34

Flow [cms]

Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Month

year 2020 year 2025 year 2030 year 2035 year 2040 year 2045

Figure 8 Simulated hydrographs of station KH.53 (Scenario A2)

(9)

0 10 20 30 40 50 60 70 80

0.00 0.03 0.06 0.09 0.12 0.16 0.19 0.22 0.25 0.28 0.31 0.34

Flow [cms]

Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Month

year 2020 year 2025 year 2030 year 2035 year 2040 year 2045

Figure 9 Simulated hydrographs of station KH.53 (Scenario B2)

0 25 50 75 100 125 150 175 200 225 250 275 300 325

0.00 0.03 0.06 0.09 0.12 0.16 0.19 0.22 0.25 0.28 0.31 0.34

Flow [cms]

Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Month

year 2020 year 2025 year 2030 year 2035 year 2040 year 2045

Figure 10 Simulated hydrographs of station KH.103 (Scenario A2)

0 25 50 75 100 125 150 175 200 225 250 275

0.00 0.03 0.06 0.09 0.12 0.16 0.19 0.22 0.25 0.28 0.31 0.34

Flow [cms]

Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Month

year 2020 year 2025 year 2030 year 2035 year 2040 year 2045

Figure 11 Simulated hydrographs of station KH.103 (Scenario B2)

(10)

Table 2 Runoff and peak flow of station KH.53

Base 2020 2025 2030 2035 2040 2045 Scenario A2

Runoff (mm./year) 114 145 138 134 127 178 171

Difference from baseline (mm./year) 31 24 20 13 64 57

Peak flow (m3/s) 55 95 50 57 63 113 51

Difference from baseline (m3/s) 40 -5 2 8 58 -4

Scenario B2

Runoff (mm./year) 119 162 156 159 143 184 179

Difference from baseline (mm./year) 43 37 40 24 65 60

Peak flow (m3/s) 59 70 62 56 47 68 68

Difference from baseline (m3/s) 11 3 -3 -12 9 9

Table 3 Runoff and peak flow of station KH.103

Base 2020 2025 2030 2035 2040 2045 Scenario A2

Runoff (mm./year) 142 186 193 159 155 242 201

Difference from baseline (mm./year) 44 51 17 13 100 59

Peak flow (m3/s) 161 326 145 155 183 272 167

Difference from baseline (m3/s) 165 -16 -6 22 111 6

Scenario B2

Runoff (mm./year) 146 209 187 168 163 234 197

Difference from baseline (mm./year) 63 41 22 17 88 51

Peak flow (m3/s) 162 146 252 162 130 166 169

Difference from baseline (m3/s) -16 90 0 -32 4 7

จากกราฟผลการวิเคราะหปริมาณนํ้าทากรณีคาดการณ A2 และ B2 มีความแตกตางกัน คาที่ติดลบเกิดจากใน บางป peak ตํ่าจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในป อนาคตกรณีคาดการณ A2 มีปริมาณนํ้าสูงสุด (peak) รุนแรง กวากรณีคาดการณ B2 ในป ค.ศ. 2020 (พ.ศ.2563), ค.ศ. 2025 (พ.ศ.2568) และ ค.ศ. 2040 (พ.ศ.2583) ปริมาณนํ้า สูงสุด (peak) จะสูงมากมีแนวโนมวานํ้าทาจะมีปริมาณมากมี

โอกาสเกิดนํ้าทวมฉับพลัน ควรที่จะระวังเรื่องนํ้าทวม ในป ค.ศ. 2030 (พ.ศ.2573) peak จะตํ่ามากๆมีแนวโนมวานํ้าทา จะมีปริมาณนอย ใหระวังในเรื่องนํ้าแลง และในปค.ศ. 2040 (พ.ศ.2583) เกิดฤดูกาลเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงคอนขางมาก มีฝนตกมากในเดือนธันวาคมซึ่งเปนฤดูหนาวกลับมีฝนตก ชวงฤดูฝนไมมีฝนตกเกิดภาวะนํ้าแลง ดังแสดงใน Table 2 และ 3 ผลการวิเคราะหนํ้าทาและปริมาณนํ้าสูงสุด (peak) ใน อนาคต

การวิเคราะหขอมูลในอดีตดวยสมการถดถอยเพื่อ สรางสมการประเมินปริมาณนํ้าในลุมนํ้าระหวางปพ.ศ.2546- 2558 ผลการศึกษาพบวาพื้นที่ศึกษามีปริมาณฝนเฉลี่ยที่มีแนว โนมเพิ่มขึ้นในชวงเวลา 30 ปอนาคตขางหนา จากการนําคา พารามิเตอรของสถานีวัดนํ้าทา KH.53 และ KH.103 มา คํานวณปริมาณนํ้าทาพบวาปริมาณนํ้าทาในปอนาคตมีนํ้าทา รายปของกรณีคาดการณ A2 เทากับ 79.57 และ 246.75 ลาน ลูกบาศกเมตรตามลําดับและนํ้าทาเฉลี่ยรายปของกรณีคาด การณ B2 เทากับ 81.25 และ 271.58 ลานลูกบาศกเมตรตาม ลําดับจากผลการศึกษาพบวานํ้าทาเฉลี่ยรายปในอนาคตมีคา มากกวานํ้าทาเฉลี่ยรายปในปจจุบันทั้งกรณีคาดการณ A2 เทากับ 30.70 และ 33.10 เปอรเซ็นต ตามลําดับและ กรณี

คาดการณ B2 เทากับ 37.82 และ 32.19 เปอรเซ็นตตามลําดับ

Referensi

Dokumen terkait