• Tidak ada hasil yang ditemukan

SCJMSU JOURNAL

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2024

Membagikan "SCJMSU JOURNAL"

Copied!
9
0
0

Teks penuh

(1)

1 นักวิจัย คณะสิ่งแวดลอมและทรัพยากรศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล จังหวัดนครปฐม 73170.

1 Researcher, Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University, Nakhon Pathom province, 73170 Thailand, E-mail: [email protected]

ผลของสารอินทรียปริมาณสูงในนํ้าเสียโรงงานขนมจีนตอประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียของ หญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูร

Influence of High Organic Substances Concentrations in Fermented Rice Noodle (Khanomjeen) Factory Wastewater on Efficiency Wastewater Treatment of Vetiveria Zizanioides Nash. and Cyperus Corymbosus Rottb.

ชิษณุพงศ ประทุม

1

Chitsanuphong Pratum

1

Received: 18 February 2016 ; Accepted: 17 June 2016 บทคัดยอ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงคเพื่อหาผลของสารอินทรียปริมาณสูงในนํ้าเสียโรงงานขนมจีนตอประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียของพืช บําบัดนํ้าเสีย (หญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูร) โดยการทดลองบําบัดนํ้าเสียในหนวยทดลองขนาดเล็กซึ่งทําการขังแชนํ้าเสีย เปนเวลา 5 วัน และพักใหแหงเปนเวลา 2 วันการศึกษาแบงออกเปน 2 สวนไดแก การบําบัดนํ้าเสียโดยใชวัสดุปลูกพืชเพียง อยางเดียวและการบําบัดนํ้าเสียโดยใชวัสดุปลูกพืชรวมกับพืชบําบัดนํ้าเสียผลการทดลองเผยใหเห็นวาสารอินทรียปริมาณสูง (แสดงในรูปของปริมาณซีโอดี) ที่ 3,669.70 ± 134.50 มิลลิกรัมตอลิตรสงผลกระทบอยางมากกับประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสีย ของทั้งหนวยทดลองที่ใชวัสดุปลูกพืชเพียงอยางเดียวและหนวยทดลองที่ใชวัสดุปลูกพืชรวมกับพืชบําบัดนํ้าเสีย หนวยทดลอง ที่ใชวัสดุปลูกพืชเพียงอยางเดียวสามารถลดซีโอดีไดที่ 121.65 ± 50.17 มิลลิกรัมตอลิตร ของรอบแรกของการบําบัด (7 วัน) ในสวนของหนวยทดลองที่ใชวัสดุปลูกพืชรวมกับพืชบําบัดนํ้าเสียหญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูรสามารถลดซีโอดีไดที่ 140.63

± 16.24 มิลลิกรัมตอลิตรของรอบที่ 4 ของการบําบัด (28 วัน) และ128.65 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตรของรอบที่ 3 ของการบําบัด (21 วัน) ตามลําดับโดยซีโอดีจากนํ้าทิ้งที่ไดเกินกวา 120 มิลลิกรัมตอลิตรซึ่งเกินกวามาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกําหนด จากหนวยทดลองที่ใชวัสดุปลูกพืชรวมกับพืชบําบัดนํ้าเสีย พบวา หญาแฝกหอมมีประสิทธิภาพในการบําบัดดีกวากกกลมจัน ทบูรโดยพบความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ p - value < 0.05 จากการทดลองทั้งหมดทําใหทราบวาพืชบําบัดนํ้า เสียมีความทนทานตอสารอินทรียปริมาณสูงในชวงระยะเวลาสั้นๆ ของการทดลองเทานั้น โดยประสิทธิภาพของการบําบัดนํ้า เสียจะลดลงตามระยะการบําบัด ดังนั้นผลทดลองจากการศึกษานี้สามารถนําไปประยุกตใชสําหรับการบําบัดนํ้าเสียจากโรงงาน ผลิตขนมจีนตอไปได

คําสําคัญ: นํ้าเสียโรงงานขนมจีนประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียหญาแฝกหอมกกกลมจันทบูร

Abstract

The purpose of this study was to determine the influence of high organic substances with concentrations in fermented rice noodle (Khanomjeen) factory wastewater on the efficiency wastewater treatment of plants (Vetiveria zizanioides Nash. and Cyperus corymbosus Rottb.). Addition, The continuous flow condition and 5-days stagnation and 2-days releasing condition experiments were performed in the bath – flow wastewater treatment system. This study was divided into 2 parts namely; wastewater treatment by use of grown materials (GMs) only and wastewater treatment by use of grown materials combining with plants (GPs). The results revealed that high concentrations of organic substances (show in form of chemical oxygen demand; COD) at 3.669.70 ± 134.50 mg/L have more effect with

(2)

efficiency wastewater treatment of GMs and GPs. The GMs could be reduced COD to 121.65 ± 50.17 mg/l at the 1 week-cycle (7 days). In part of GPs, Vetiveria zizanioides Nash. and Cyperus corymbosus Rottb. could be reduced COD to 140.63 ± 16.24 mg/l at the 4 week-cycles (28 days) and 128.65 ± 0.00 mg/l at the 3 week-cycles (21 days), respectively. The COD of effluent exceeded 120 mg/l which the limitation COD value of the Department of industrial works. From GPs experiment units, Vetiveria zizanioides Nash. has higher treatment efficiency than Cyperus corymbosus Rottb., which the statistically significant difference was detected with the p - value < 0.05. In conclusion, plants had tolerance to high concentration of organic substances for a short duration of the experiment only. The effectiveness of wastewater treatment will decreased following the period of treatment cycles. Therefore, the results of these studies could be considered to apply for fermented rice noodle (Khanomjeen) factory wastewater treatment.

Keywords: Fermented rice noodle factory wastewater, Efficiency wastewater treatment, Vetiveria zizanioides Nash., Cyperus corymbosus Rottb.

บทนํา

การลักลอบปลอยนํ้าเสียจากโรงงานผลิตอาหารณปจจุบันอยู

ในภาวะที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอยางยิ่งโรงงานผลิต อาหารขนาดเล็ก โรงงานขนมจีน ถือเปนโรงงานผลิตอาหาร ประเภทหนึ่งที่มีทั้งขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญกระจายอยูทั่ว ทุกภาคของประเทศไทย2,7โดยนํ้าเสียจากโรงงานขนมจีนจะมี

ลักษณะสีขาวขุน ซึ่งเกิดจากแปงขาวเจาในกระบวนการผลิต ทําใหนํ้าเสียมีปริมาณสารอินทรียประเภทพอลิแซกคาไรดสูง มากสงผลกระทบโดยตรงตอคาบีโอดี (biochemical oxygen demand:BOD) คาซีโอดี (chemical oxygen demand:COD) และคาของแข็งละลายนํ้าทั้งหมด (total dissolved solids:TDS) มีปริมาณสูงตามไปดวย จากการศึกษาคุณภาพนํ้าทิ้งของ โรงงานขนมจีนในจังหวัดฉะเชิงเทราราชบุรีและขอนแกนพบ วามีคาบีโอดีเฉลี่ยสูงถึง 23,253 มิลลิกรัมตอลิตร และมีคาซี

โอดีเฉลี่ยสูงถึง 17,109 มิลลิกรัมตอลิตร5,10,18,20,21,22ซึ่งสูงเกิน กวาคามาตรฐานนํ้าทิ้งของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่กําหนด ใหคาบีโอดีอยูที่ไมเกิน 60 มิลลิกรัมตอลิตรและคาซีโอดีอยูที่

ไมเกิน 120 มิลลิกรัมตอลิตร6จากรายงานของวรพจน8ยังเผย ใหเห็นวา โรงงานขนมจีนสามารถกอใหเกิดปญหาดานกลิ่น เหม็นรบกวนอยางรุนแรงที่เกิดจากกระบวนการยอยสลายสาร อินทรีย ประเภทพอลิแซกคาไรด ภายใต สภาวะที่ไม มี

ออกซิเจน25 ซึ่งสงผลกระทบตอสุขอนามัยของคนในชุมชน บริเวณโดยรอบโรงงาน ปจจุบันไดมีหลากหลายงานวิจัยที่

คิดคนและออกแบบเทคโนโลยีเพื่อใชในการบําบัดนํ้าเสียจาก โรงงานขนมจีน5,8,10,17,18,21 โดยการใชพืชบําบัดนํ้าเสียถือเปน หนึ่งในวิธีที่ไดรับความสนใจเปนอยางมากซึ่งการใชพืชบําบัด นํ้าเสียรวมกับระบบบึงตามธรรมชาติสามารถลดสารอินทรีย ไดสูงสุดถึงรอยละ 9615 นอกจากนี้การใชพืชบําบัดนํ้าเสียยัง เปนวิธีที่มีคาใชจายนอย ไมมีการใชสารเคมีแตยังมีขอจํากัด ดานพื้นที่ที่ตองใชพื้นที่จํานวนมากเพื่อทําใหระบบบําบัดมี

ประสิทธิภาพ ทั้งนี้พืชบําบัดนํ้าเสียที่นิยมใชกันในปจจุบัน ไดแก พืชบําบัดนํ้าเสียประเภทโผลพนนํ้า (emergent plant) อาทิธูปฤาษี ตนกกและตนออเปนตนและพืชบําบัดนํ้าเสีย ประเภทหญา (gramineae) อาทิหญาแฝกเปนตน1,4

จากปญหาดานการจัดการระบบบําบัด ขนาดพื้นที่

ในการบําบัด และรูปแบบที่เหมาะสมในการบําบัด จึงทําให ผูวิจัยตองการหาสภาวะเหมาะสมในการบําบัดนํ้าเสียจาก โรงงานขนมจีนโดยใชหนวยบําบัดนํ้าเสียขนาดเล็กรวมกับพืช บําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิด ไดแกหญาแฝกหอมและกกกลมจัน ทบูร โดยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาผลของปริมาณ สารอินทรียตอประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีน ดวยพืชบําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิด

วิธีการวิจัย

การเตรียมตัวอยางนํ้าเสีย

นํ้าเสียโรงงานขนมจีนที่ใชในวิจัยครั้งนี้แบงออกเปน 2 ประเภทไดแก (1) นํ้าเสียโรงงานขนมจีนที่ไมผานการบําบัด เบื้องตน ซึ่งจากโรงงานขนมจีนแหงหนึ่งในตําบลคลองหนึ่ง อําเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีโดยมีปริมาณสารอินทรีย (แสดงในรูปของปริมาณซีโอดี) อยูที่ 3,699.70 ± 134.50 มิลลิกรัมตอลิตร และ (2) นํ้าเสียโรงงานขนมจีนที่ผานการ บําบัดเบื้องตนโดยใชวิธีการบําบัดนํ้าเสียแบบชีวภาพจากงาน วิจัยกอนหนานี้17 นํ้าเสียที่ไดมีปริมาณสารอินทรีย (แสดงใน รูปของปริมาณซีโอดี) อยูที่ 988.93 ± 124.89 มิลลิกรัมตอลิตร ซึ่งนํ้าเสียโรงงานขนมจีนทั้ง 2 ประเภท ถูกเก็บรักษาที่

อุณหภูมิ 4 °C กอนนํามาใชในการทดลอง การเตรียมพืชบําบัดนํ้าเสีย

พืชบําบัดนํ้าเสียที่นํามาใชในวิจัยครั้งนี้ ไดแก หญา แฝกหอม (Vetiveria zizanioides Nash.) และกกกลมจันทบูร (Cyperus corymbosus Rottb.) ไดจากโครงการศึกษาวิจัยและ

(3)

พัฒนาสิ่งแวดลอมแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรีโดยเปนพืช บําบัดนํ้าเสียที่มีประสิทธิภาพและมีการใชบําบัดนํ้าเสียภายใน พื้นที่โครงการฯ วิธีการเตรียมกลาพันธุทําโดยนํากลาพันธุที่

มีอายุ 7 วัน มาตัดแตงลําตนและรากใหมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร นําไปปกชําลงในถุงพลาสติกขนาด 8 นิ้ว ทําการเพาะเลี้ยงเปนระยะ 7 วัน จากนั้นยายตนกลาลงปลูก ในถังพลาสติกทรงกลมขนาดความจุ 30 ลิตร ขนาดเสนผาน ศูนยกลาง 50 เซนติเมตรสูง 54 เซนติเมตรโดยทําการปลูก 2 ตนตอถังซึ่งภายในถังพลาสติกบรรจุโดยเรียงลําดับจากลาง ขึ้นบนจํานวน 4 ชั้นไดแก กรวดทรายหยาบทรายละเอียด และดินรวนเหนียวปนทราย (sandy clay loam) โดยปรับความ สูงของแตละชั้นใหอยูที่ 7, 2, 1.5 และ 20 เซนติเมตร ตาม ลําดับ (ดัดแปลงจาก Klomjek & Nitisoravut14)

การวางแผนการทดลอง

การทดลองบําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีนในหนวย บําบัดนํ้าเสียขนาดเล็ก โดยทําการวางแผนการทดลองแบบ Factorial in CRD ซึ่งมีหนวยการทดลองทั้งหมด 3 หนวย ทดลองแตละหนวยทดลองมีจํานวน 3 ซํ้า ไดแก (1) หนวย ทดลองควบคุมที่ใชวัสดุปลูกพืชเพียงอยางเดียว (Treatment

1 ; T1), (2) หนวยทดลองที่ใชวัสดุปลูกพืชรวมกับหญา แฝกหอม (Treatment 2 : T2), และสุดทาย (3) หนวยทดลอง ที่ใชวัสดุปลูกพืชรวมกับกกจันทบูร (Treatment 3 ; T3) โดย แตละหนวยทดลองจะทําการบําบัดนํ้าเสียโรงงานจีนทั้งที่ไมมี

การบําบัดเบื้องตนและมีการบําบัดนํ้าเสียเบื้องตน การดําเนินการทดลอง

ทําการถายนํ้าประปาออก (จากขั้นตอนการเตรียม พืชบําบัดนํ้าเสีย) และพักวัสดุปลูกพืชใหแหงเปนเวลา 2 วัน จากนั้นจึงทําการขังแชนํ้าเสียโรงงานขนมจีนในหนวยทดลอง (ตามการวางแผนการทดลอง) โดยใหขังแชนํ้าเสียโรงงาน ขนมจีน เปนเวลา 5 วัน ถายนํ้าเสียโรงงานขนมจีนออกและ พักวัสดุปลูกพืชใหแหงเปนเวลา 2 วัน ซึ่งเปนระยะเวลาการ บําบัดนํ้าเสียรวมทั้งสิ้น 7 วันหรือเทากับ 1 รอบของการบําบัด (ดัดแปลงจาก Klomjek & Nitisoravut14) ทั้งนี้ใหทําการทดลอง จนกวาปริมาณซีโอดีในนํ้าทิ้งแตละรอบของการบําบัดจะเกิน กวามาตรฐานที่กําหนด6 รูปแบบการทดลองบําบัดนํ้าเสีย โรงงานขนมจีนในหนวยบําบัดนํ้าเสียขนาดเล็ก ดังแสดงใน Figure 1

Figure 1 Batch - flow wastewater treatment system

การวิเคราะหขอมูลทางสถิติ

ผลการทดลองที่ไดจะนํามาวิเคราะหความแปรปรวน แบบทางสอง (Two - way ANOVA) นอกจากนี้ยังทําการ ทดสอบเปรียบเทียบพหุคูณแบบ Scheffe’s Post hoc test Comparison (Scheffe) เพื่อแยกความแตกตางของคาเฉลี่ย อยางมีนัยสําคัญโดยกําหนดไว p – value < 0.05

ผลการวิจัย

การทดลองบําบัดนํ้าเสียในหนวยบําบัดนํ้าเสียขนาด เล็ก เพื่อใหทราบถึงผลของสารอินทรียปริมาณสูงในนํ้าเสีย โรงงานขนมจีนตอประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียของพืชบําบัด ผูวิจัยจึงแบงการทดลองออกเปน 2 สวนไดแก

(4)

การบําบัดนํ้าเสียดวยวัสดุปลูกพืช

หนวยทดลองควบคุมที่ใชนํ้าเสียแบบไมมีการบําบัด เบื้องตนพบวาสารอินทรียปริมาณสูง (แสดงในรูปของปริมาณ ซีโอดีที่ 3,669.70 ± 134.50 มิลลิกรัมตอลิตร) สงผลกระทบ โดยตรงตอความสามารถในการบําบัดนํ้าเสียของหนวยทดลอง ที่ใชนํ้าเสียแบบไมมีการบําบัดเบื้องตนโดยนํ้าทิ้งจากรอบแรก ของการบําบัดมีปริมาณซีโอดีอยูที่ 121.65 ± 43.45 มิลลิกรัม ตอลิตรและการบําบัดในรอบสุดทาย (รอบที่ 6 ของการบําบัด) พบวา ปริมาณซีโอดีอยูที่ 795.58 ± 77.91 มิลลิกรัมตอลิตร ดังแสดงใน Table 1 ซึ่งคาซีโอดีตั้งแตรอบแรกจนถึงรอบ สุดทายของการบําบัดเกินกวามาตรฐานที่กรมโรงงาน อุตสาหกรรมกําหนด (120 มิลลิกรัมตอลิตร) แตทําการ วิเคราะหประสิทธิภาพของระบบบําบัดนํ้าเสีย พบวา ระบบ บําบัดนํ้าเสียยังมีประสิทธิภาพสูงตั้งแตเริ่มตนจนสิ้นสุดการ ทดลอง โดยในรอบแรกของการบําบัดอยูที่รอยละ 96.69 ± 1.37 และในรอบสุดทายของการบําบัดอยูที่รอยละ 78.32 ± 2.12 ซึ่งนั้นเนื่องมาจากปริมาณซีโอดีที่สูงมากในนํ้าเสีย โรงงานขนมจีนที่ไมมีการบําบัด (3,699.70 ± 134.50 มิลลิกรัม ตอลิตร) เมื่อนํามาคํานวณกับปริมาณซีโอดีของนํ้าทิ้งหลังการ บําบัดในแตละครั้งจึงทําใหถูกมองวาหนวยทดลองดังกลาวมี

ประสิทธิภาพสูงในการบําบัด แตในความเปนจริงตองมอง ปจจัยในสวนของปริมาณซีโอดีของนํ้าทิ้งหลังการบําบัดที่ตอง ไมเกินกวามาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกําหนดดังนั้น

หนวยทดลองที่ใชตัววัสดุปลูกพืชเพียงอยางเดียวไมมีความ สามารถในการรอบรับสารอินทรียในปริมาณสูง (ซีโอดีปริมาณ สูง) ของนํ้าเสียโรงงานขนมจีนได ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้า เสียโรงงานขนมจีนที่ผานการบําบัดเบื้องตนแสดงใน Figure 2 (a)

ในขณะที่หนวยทดลองควบคุมที่ใชนํ้าเสียที่มีการ บําบัดเบื้องตน ซึ่งเผยใหเห็นวาตัววัสดุปลูกพืชที่ใชในหนวย บําบัดนํ้าเสียขนาดเล็กสามารถรอบรับสารอินทรียปริมาณตํ่า (แสดงในรูปของปริมาณซีโอดีที่ 988.93 ± 124.89 มิลลิกรัม ตอลิตร) โดยระบบบําบัดสามารถกําจัดซีโอดีใหมีปริมาณตํ่า กวามาตรฐานกําหนดไดถึง 2 รอบของการบําบัด ซึ่งในรอบ แรกของบําบัดปริมาณซีโอดีอยูที่ 40.44 ± 16.67 มิลลิกรัมตอ ลิตรและในรอบที่ 2 ของการบําบัดปริมาณซีโอดีอยูที่ 64.99

± 25.01 มิลลิกรัมตอลิตร ดังแสดงใน Table 1 และเมื่อ วิเคราะหถึงประสิทธิภาพของระบบบําบัดนํ้าเสีย พบวา ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียจะแปรผันตามระยะเวลาการ บําบัดซึ่งประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียจะลดลงอยางเห็นได ชัดเจนหลังจากรอบที่ 3 ของการบําบัด (รอยละ 85.17 ± 5.71 ของการบําบัด) และในรอบสุดทายของการบําบัดรอยละของ การบําบัดอยูที่ 38.05 ± 5.68 ตามลําดับ ประสิทธิภาพการ บําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีนที่ผานการบําบัดเบื้องตนดังแสดง ใน Figure 2 (b)

....

(a) (b)

Figure 2 The test of grown materials to treat (a) non pre-treated wastewater and (b) pre-treated wastewater

การบําบัดนํ้าเสียดวยพืชบําบัดนํ้าเสีย

การบําบัดนํ้าเสียดวยพืชบําบัดนํ้าเสียเปนการบําบัด นํ้าเสียรวมกันระหวางวัสดุปลูกพืชกับพืชบําบัดนํ้าเสียโดยรูป แบบการบําบัดนํ้าเสียคลายคลึงกับการบําบัดนํ้าเสียดวยระบบ พื้นที่ชุมนํ้าประดิษฐแบบนํ้าไหลใตผิวชั้นกรองในแนวนอน (Subsurface Flow Systems)12 ซึ่งในงานวิจัยนี้ใชพืชบําบัดนํ้า เสีย 2 ชนิด ไดแก หญาแฝกหอม (Vetiveria zizanioides

Nash.) และกกกลมจันทบูร (Cyperus corymbosus Rottb.) ผลการทดลองแสดงใหเห็นวาสารอินทรียปริมาณสูงในนํ้าเสีย สงผลกระทบโดยตรงตอความสามารถในการบําบัดนํ้าเสียของ ทั้งหญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูรโดยหนวยทดลองที่ปลูก หญาแฝกหอมสามารถบําบัดนํ้าเสียไดถึง 3 รอบของการบําบัด ดังแสดงใน Figure 3 (a) ซึ่งมีปริมาณซีโอดีในรอบแรกของการ บําบัดอยูที่ 16.03 ± 6.17 มิลลิกรัมตอลิตร, รอบที่ 2 ของการ

(5)

บําบัดอยูที่ 25.42 ± 4.51 มิลลิกรัมตอลิตรและในรอบที่ 3 ของ การบําบัดอยูที่ 79.17 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตรตามลําดับโดย รอยละของประสิทธิภาพของการบําบัดนํ้าเสียอยูที่ 99.56 ± 0.17, 99.31 ± 0.12 และ 97.84 ± 0.00 ตามลําดับในขณะที่

หนวยทดลองที่ปลูกกกกลมจันทบูรมีสามารถในการบําบัดนํ้า เสียนอยกวาหนวยทดลองที่ปลูกหญาแฝกหอม 1 รอบการ บําบัด (ดังแสดงใน Table 1) โดยปริมาณซีโอดีในรอบแรกของ

การบําบัดอยูที่ 26.72 ± 6.39 มิลลิกรัมตอลิตร และรอบที่ 2 ของการบําบัดอยูที่ 38.12 ± 8.05 มิลลิกรัมตอลิตรตามลําดับ โดยรอยละของประสิทธิภาพของการบําบัดนํ้าเสียอยูที่ 99.27

± 0.17 และ 68.96 ± 0.22 ตามลําดับประสิทธิภาพการบําบัด นํ้าเสียโรงงานขนมจีนที่ไมผานการบําบัดเบื้องตนดังแสดงใน Figure 3 (b)

.

(a) (b)

Figure 3 The test of Vetiveria zizanioides Nash. and Cyperus corymbosus Rottb. to treat non pre-treated wastewater ในสวนหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสียที่ผานการบําบัดเบื้อง

ตน พบวา สารอินทรียปริมาณตํ่า (แสดงในรูปของปริมาณซี

โอดี อยูที่ 988.93 ± 124.89 มิลลิกรัมตอลิตร) ในนํ้าเสียสง ผลกระทบนอยตอความสามารถในการบําบัดนํ้าเสียของทั้ง หญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูร โดยหนวยทดลองที่ปลูก หญาแฝกหอมสามารถบําบัดนํ้าเสียไดถึง 5 รอบของการบําบัด ดังแสดงใน Figure 4 (a) ซึ่งมีปริมาณซีโอดีในรอบแรกของการ บําบัดอยูที่ 10.69 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตร, รอบที่ 2 ของการ บําบัดอยูที่ 19.55 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตร, รอบที่ 3 ของการ บําบัดอยูที่ 24.74 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตรรอบที่ 4 ของการ บําบัดอยูที่ 35.16 ± 8.12 มิลลิกรัมตอลิตรและในรอบที่ 5 ของ การบําบัดอยูที่ 42.46 ± 9.80 มิลลิกรัมตอลิตรตามลําดับโดย รอยละของประสิทธิภาพของการบําบัดนํ้าเสียอยูที่ 98.92 ± 0.00, 98.02 ± 0.00, 97.50 ± 0.00, 96.44 ± 0.82, 95.71 ±

0.99 และ 95.71 ± 0.99 ตามลําดับในขณะที่หนวยทดลองที่

ปลูกกกกลมจันทบูรมีสามารถในการบําบัดนํ้าเสียเทากับหนวย ทดลองที่ปลูกหญ าแฝกหอม อยู ที่ 4 รอบการบําบัด (ดังแสดงใน Table 1) ปริมาณซีโอดีในรอบแรกของการบําบัด อยูที่ 16.03 ± 6.17 มิลลิกรัมตอลิตร, รอบที่ 2 ของการบําบัด อยูที่ 31.70 ± 9.16 มิลลิกรัมตอลิตร, รอบที่ 3 ของการบําบัด อยูที่ 49.48 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตร รอบที่ 4 ของการบําบัด อยูที่ 56.25 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตรและในรอบที่ 5 ของการ บําบัดอยูที่ 67.93 ± 0.00 มิลลิกรัมตอลิตรตามลําดับโดยรอย ละของประสิทธิภาพของการบําบัดนํ้าเสียอยูที่ 98.38 ± 0.62, 96.79 ± 0.93, 95.00 ± 0.00, 94.31 ± 0.00 และ 96.13 ± 0.00 ตามลําดับประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีน ที่ไมผานการบําบัดเบื้องตนดังแสดงใน Figure 4 (b)

(a) (b)

Figure 4 The test of Vetiveria zizanioides Nash. and Cyperus corymbosus Rottb. to treat pre-treated wastewater

(6)

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพการบําบัด ในงานวิจัยนี้ไดทําการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพ การบําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีนของ (1) พืชบําบัดนํ้าเสีย ทั้ง 2 ชนิด ไดแก หญาแฝกหอม (Vetiveria zizanioides Nash.) และกกกลมจันทบูร (Cyperus corymbosus Rottb.) และ (2) รอบการบําบัดนํ้าเสีย ผลการศึกษาแสดงใหเห็นวา หญาแฝกหอม มีประสิทธิภาพในการบําบัดนํ้าเสียที่ไมมีการ บําบัดเบื้องตน สูงกวาทั้งกกกลมจันทบูร และวัสดุปลูกพืช (หนวยทดลองควบคุม) โดยมีความแตกตางอยางมีนัยสําคัญ ทางสถิติที่ 0.05 ในสวนของการเปรียบเทียบการบําบัดนํ้าเสีย ของแตละรอบการบําบัด พบวา ในชวงแรกของการบําบัด (รอบที่ 1 และรอบที่ 2) ทั้งพืชบําบัดนํ้าเสียและวัสดุปลูกพืช ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียที่ไมมีการบําบัดเบื้องตนไมมี

ความแตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ แตในรอบการบําบัด ที่ 3 เปนตนไป ทั้งพืชบําบัดนํ้าเสีย และวัสดุปลูกพืช ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียที่ไมมีการบําบัดเบื้องตนมีความ แตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ 0.05

แตในสวนของหนวยทดลองที่บําบัดนํ้าเสียโรงงาน ขนมจีนที่มีการบําบัดเบื้องตน ผลการศึกษาพบวา หญา แฝกหอม มีประสิทธิภาพในการบําบัดนํ้าเสียที่ไมผานการ บําบัดเบื้องตนเทากับกกกลมจันทบูรโดยไมมีความแตกตาง อยางมีนัยสําคัญ แตในขณะที่พืชบําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิด มี

ประสิทธิภาพในการบําบัดนํ้าเสียที่มีการบําบัดเบื้องตนสูงกวา วัสดุปลูกพืช (หนวยทดลองควบคุม) สวนการเปรียบเทียบการ บําบัดนํ้าเสียของแตละรอบการบําบัด พบวา ในชวงรอบที่ 1 ถึงรอบที่ 3 ของการบําบัด ทั้งพืชบําบัดนํ้าเสีย และวัสดุปลูก พืช ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียที่มีการบําบัดเบื้องตนไมมี

ความแตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ แตในรอบการบําบัด ที่ 4 เปนตนไป ทั้งพืชบําบัดนํ้าเสีย และวัสดุปลูกพืช ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียที่มีการบําบัดเบื้องตนมีความ แตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ 0.05 โดยการเปรียบเทียบ ประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียทั้งที่ไมมีการบําบัดเบื้องตนและ มีการบําบัดเบื้องตนแสดงใน Table 1

Table 1 The comparison of efficiency wastewater treatment from Vetiveria zizanioides Nash. and Cyperus corymbosus Rottb.

The wastewater treatment efficiency

Treatment Week-cycles Non pre-treated wastewater Pre-treated wastewater

COD (mg/l) % removal COD (mg/l) % removal

1 121.65 ± 50.17 96.69 ± 1.37 ab 40.44 ± 16.67 95.91 ± 1.69 ab

2 193.94 ± 74.66 94.72 ± 2.03 ab 64.99 ± 25.01 93.43 ± 2.53 ab

T1 3 318.10 ± 73.46 91.33 ± 2.00 k 146.63 ± 56.44 85.17 ± 5.71 bc

4 554.95 ± 71.20 84.88 ± 1.94 l 369.97 ± 33. 36 62.59 ± 3.37 j

5 653.18 ± 68.94 82.20 ± 1.88 m 526.30 ± 46.74 46.78 ± 4.73 k

6 795.58 ± 77.91 78.32 ± 2.12 n 612.68 ± 56.19 38.05 ± 5.68 l

Mean 439.57 ± 9.90 88.02 ± 1.89 C 293.50 ± 16.65 71.32 ± 3.95 C

1 16.03 ± 6.17 99.56 ± 0.17 ab 10.69 ± 0.00 98.92 ± 0.00 ab

2 25.42 ± 4.51 99.31 ± 0.12 ab 19.55 ± 0.00 98.02 ± 0.00 ab

T2 3 79.17 ± 0.00 97.84 ± 0.00 c 24.74 ± 0.00 97.50 ± 0.00 bc

4 140.63 ± 16.24 96.17 ± 0.44 d 35.16 ± 8.12 96.44 ± 0.82 d

5 271.73 ± 29.79 92.60 ± 0.81 e 42.46 ± 9.80 95.71 ± 0.99 e

6 510.11 ± 3.28 86.10 ± 0.09 f 145.75 ± 33.66 85.26 ± 3.40 f

Mean 173.85 ± 11.14 95.26 ± 0.27 A 46.39 ± 13.05 95.31 ± 0.87 AB

1 26.72 ± 6.39 99.27 ± 0.17 ab 16.03 ± 6.17 98.38 ± 0.62 ab

2 38.12 ± 8.05 68.96 ± 0.22 ab 31.70 ± 9.16 96.79 ± 0.93 ab

T3 3 128.65 ± 0.00 96.49 ± 0.00 g 49.48 ± 0.00 95.00 ± 0.00 bc

4 253.14 ± 31.74 93.10 ± 0.87 h 56.25 ± 0.00 94.31 ± 0.00 g

(7)

The wastewater treatment efficiency

Treatment Week-cycles Non pre-treated wastewater Pre-treated wastewater

COD (mg/l) % removal COD (mg/l) % removal

5 373.63 ± 39.47 89.82 ± 1.08 i 67.93 ± 0.00 96.13 ± 0.00 h

6 590.27 ± 9.13 83.92 ± 0.25 j 163.96 ± 21.04 83.42 ± 2.13 i

Mean 235.09 ± 15.86 93.92 ± 0.25 B 64.23 ± 8.30 95.51 ± 0.61 AB

F-test - * - *

CV (%) 85.50 7.14 132.22 20.85

T1 = wastewater treatment by use of grown materials (Control treatment).

T2 = wastewater treatment by use of grown materials combining with Vetiveria zizanioides Nash.

T3 = wastewater treatment by use of grown materials combining with Cyperus corymbosus Rottb.

Uppercase (A, B, and C) shown differ significance of treatment.

Lowercase (a, b, c ….. and f) shown differ significance of week-cycles.

Mean values on the same column with the same letters do not differ significantly.

* = Significant at p – value < 0.05

วิจารณและสรุปผล

ปจจัยหลักที่มีผลตอความสามารถในการบําบัดนํ้าเสียดวยวัสดุ

ปลูกพืช อาจแบงไดเปน (ก) ระดับความลึกของชั้นวัสดุปลูก พืช (โดยเฉพาะชั้นดิน) ซึ่งที่ความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร วัสดุปลูกพืชสามารถกรองของแข็งแขวนลอยในนํ้าเสียไดดีจึง ทําใหนํ้าเสียที่ผานวัสดุปลูกพืชมีลักษณะที่ใสขึ้น และในระยะ ความลึกประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไป วัสดุปลูกพืชสามารถ กรองสารอินทรียและสารพิษที่สามารถละลายนํ้าไดทั้งหมด (ข) ลักษณะเนื้อดิน โดยดินถือเปนองคประกอบหลักที่สําคัญของ วัสดุปลูกพืช ซึ่งเนื้อดินที่มีอนุภาคดินเหนียวตํ่า (low clay content) จะมีความสามารถในการกําจัดสารอินทรียไดมากวา รอยละ 909,13โดยชั้นดินที่มีอนุภาคของดินเหนียวเปนจํานวน มาก ชองวางระหวางดิน (pore space) จะมีจํานวนนอยซึ่ง ทําใหนํ้าเสียไหลผานไดนอยและเกิดสภาวะนํ้าขังแชในชั้นดิน นานเกินไป (ponded condition) สงผลใหประสิทธิภาพการ บําบัดนํ้าเสียลดลงเปนอยางมากในทางกลับกันดินที่มีทราย หรือกรวดผสมอยูมากเกินไปนํ้าเสียจะมีการไหลผานอยางรวด จึงไมเกิดการขังแชในชั้นดินจนทําใหกระบวนการยอยสลาย ทางชีวภาพเกิดขึ้นนอยหรือไมมีการเกิดขึ้น28

นอกจากนี้การใชกรวดทรายหยาบและทรายละเอียด ในสวนผสมของวัสดุปลูกพืชยังชวยใหพืชสามารถยึดเกาะและ เจริญเติบโตไดดีอีกดวย19และ (ค) จุลินทรียในวัสดุปลูกพืชซึ่ง เปนกลไกสําคัญในการยอยสารอินทรียโดยจุลินทรียในกลุมที่

ใชออกซิเจนจะทําหนาที่ยอยสารอินทรียในชวงแรกของการขัง แชนํ้าเสีย และเมื่อผานสักระยะหนึ่งออกซิเจนในระบบบําบัด จะหมดลงจุลินทรียในกลุมที่ไมใชออกซิเจนจะเริ่มทําหนาที่ใน

การยอยสลายสารอินทรีย โดยใชสารอนินทรียที่เหลืออยูใน ระบบบําบัดมาเปนตัวรับอิเล็กตรอนในกระบวนการเจริญ เติบโตจึงเกิดการบําบัดอยางตอเนื่องนั่นเอง แตในการบําบัด จะตองมีชวงการพักการบําบัด (ขังแชนํ้าเสีย) เพื่อปองกันการ อัดแนนของชั้นวัสดุปลูกพืช (โดยเฉพาะชั้นดิน) และเพื่อใหเกิด การถายเทอากาศภายในชั้นดินอีกดวย11

ในสวนของการบําบัดนํ้าเสียดวยพืชบําบัดนํ้าเสียผล การทดลองเผยใหเห็นวาหญาแฝกหอมมีประสิทธิภาพในการ บําบัดนํ้าเสียดีกวากกกลมจันทบูรในหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสีย ที่ไมมีการบําบัดนํ้าเสียเบื้องตนโดยมีความแตกตางอยางมีนัย สําคัญทางสถิติที่ 0.05 แตในหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสียที่มีการ บําบัดนํ้าเสียเบื้องตน ทั้งหญาแฝกหอม และกกกลมจันทบูร มีประสิทธิภาพการบําบัดนํ้าเสียเทากันโดยไมมีความแตกตาง อยางมีนัยสําคัญ ซึ่งพืชบําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิด ชวยใหการ บําบัดนํ้าเสียดีขึ้นทั้งในหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสียที่ไมมีการ บําบัดนํ้าเสียเบื้องตนและในหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสียที่มีการ บําบัดนํ้าเสียเบื้องตน โดยพืชบําบัดนํ้าเสียจะทําการเปลี่ยน ถายกาซที่เปนพิษออก (อาทิ CO2, N2, N2O และ CH4เปนตน) ใหกับจุลินทรียบริเวณรากพืชบําบัดนํ้าเสียสงผลทําใหจุลินทรีย ยอยสลายอินทรียอยางตอเนื่อง ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนกาซจะ เกิดในชั้นดินบริเวณรากพืช (rhizosphere) ซึ่งเปนการแลก เปลี่ยนกาซตางๆจากบริเวณรากพืชออกสูชั้นบรรยากาศและ ดึงเอากาซออกซิเจนจากบรรยากาศลงสูบริเวณรากพืชดวย เนื้อเยื่อแอเรงคิมา (aerenchyma) หรือเนื้อเยื่อลําเลี้ยงอากาศ3 จึงทําใหเกิดปฏิสัมพันธกันอยางตอเนื่องระหวางชั้นดิน เชื้อ จุลินทรียและสารอินทรีย23,24

(8)

นอกจากนี้สารอินทรียปริมาณสูงในนํ้าเสียโรงงาน ขนมจีนยังสงผลตอการเจริญเติบโตของพืชบําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิดพบวาหนวยทดลองที่ใชนํ้าเสียที่ไมมีการบําบัดนํ้าเสีย เบื้องตนกกกลมจันทบูรมีการเจริญเติบโตและการแตกกอนอยลง สวนในหญาแฝกหอมมีการเจริญเติบโตและการแตกกอนอยลง นอกจากนี้ยังพบอาการใบแหงกรอบซึ่งเริ่มเกิดตั้งแตรอบที่ 4 ของการบําบัด ในสวนของหนวยการทดลองที่ใชนํ้าเสียแบบ ผานการบําบัดเบื้องตนพืชบําบัดนํ้าเสียทั้ง 2 ชนิดมีการเจริญ เติบโตและการแตกกอตามปกติโดยพืชทุกชนิดจะตอบสนอง ตอปจจัยภายนอก (สภาพแวดลอม) ในการเจริญเติบโตอาทิ

ภูมิอากาศ, แสง, อุณหภูมิ, นํ้า, ชวงแสง, ลม, แก็สตางๆ, เนื้อดิน, โครงสรางของดิน, อินทรียวัตถุ, CEC, pH ของดิน, วัชพืช, แมลง, โรคระบาด, จุลินทรีย, และสัตวตางๆเปนตน26ซึ่งพืช จะไมแสดงอาการตอบสนองเมื่อมีปจจัยนั้นอยูในระดับตํ่าสุด (minimum) แตเมื่อมีการเพิ่มปจจัยนั้นมากขึ้นการตอบสนอง จะเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วจนแทบจะเปนสัดสวนกับปริมาณปจจัย ที่เพิ่มขึ้นและเมื่อเพิ่มปริมาณหรือความเขมขนของปจจัยนั้น ตอไป อัตราการตอบสนองจะคอยๆ ลดลงจนจุดเ หมาะสม (optimum) จากนั้นจะลดลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งระดับการตอบ สนองเทากับศูนยหรือเรียกวา จุดสูงสุด (maximum) ซึ่งเกิด จากพืชไดรับปจจัยในปริมาณที่มากจนเกินไปหลังจากถึงระยะ อิ่มตัว (saturation) จนทําใหเกิดการยับยั้ง (inhibition) หรือ เปนพิษตอพืชขึ้นจุดที่มีปริมาณของปจจัยที่ทําใหเกิดการตอบ สนองทั้งสามจุดอันไดแกจุดตํ่าสุด, จุดเหมาะสมและจุดสูงสุด ดังกลาวเรียกวา จุดคารดินัล (cardinal points) ในพืชแตละ ชนิดแตละพันธุจะมีการตอบสนองตอปจจัยตางๆในลักษณะ เดียวกัน แตจะแตกตางในเรื่องของระดับความเขมขนของ ปจจัยตอระดับและระยะเวลาการตอบสนองที่ไมเทากันเทานั้น โดยทั่วไปแลวการตอบสนองในเชิงปริมาณของพืชตอปจจัยที่

จําเปนตอการเจริญเติบโต27

งานวิจัยนี้จึงแสดงใหเห็นวา สารอินทรียปริมาณสูง ในนํ้าเสียโรงงานขนมจีนมีอิทธิพลอยางมากตอประสิทธิภาพ การบําบัดนํ้าเสียทั้งดวยวัสดุปลูกพืชอยางเดียวหรือดวยวัสดุ

ปลูกพืชรวมกับหญาแฝกหอมและกกกลมจันทบูรในหนวย บําบัดขนาดเล็กที่ใชในงานวิจัยนี้ (ถังพลาสติกทรงกลมขนาด ความจุ 30 ลิตร) สอดคลองกับงานวิจัยของ Mosse16ที่พบวา นํ้าเสียที่ไมผานการบําบัดเบื้องตนจะมีผลกระทบอยางมากกับ สภาพการแลกเปลี่ยนกาซของวัสดุปลูกพืช (soil respiration) การหมุนเวียนธาตุไนโตรเจน (nitrogen cycling) และจํานวน จุลินทรียในวัสดุปลูกพืช (microbial community structure) ซึ่ง ในทางกลับกันนํ้าเสียที่มีการบําบัดเบื้องตนจะไมสงผลกระทบ ใดๆทั้งสิ้นดังนั้นเพื่อที่จะใหหนวยบําบัดขนาดเล็กที่ใชในงาน

วิจัยนี้สามารถนําไปใชในการบําบัดนํ้าเสียโรงงานขนมจีนได อยางมีประสิทธิภาพจึงควรทําการบําบัดนํ้าเสียเบื้องตนกอน เขาสูหนวยบําบัดขนาดเล็กโดยรูปแบบการบําบัดนํ้าเสียทาง ชีวภาพ17ถือไดวามีความเหมาะสมมากที่สุด

กิตติกรรมประกาศ

ขอขอบคุณ Dr. Benjamin C. Schulte ผูเชี่ยวชาญ ตางประเทศที่ชวยใหความคิดเห็น แกไข ปรับปรุง และเพิ่ม เติมบทคัดยอภาษาอังกฤษใหเกิดความถูกตองและเหมาะสม

เอกสารอางอิง

1. กรมพัฒนาที่ดิน. เอกสารเพื่อการถายทอดเทคโนโลยี: การใชระโยชนหญาแฝกในการรักษาและฟ นฟูสิ่ง แวดลอม. กรุงเทพฯ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ; 2550.

2. กลุมเทคโนโลยีการปองกันมลพิษ. หลักปฏิบัติเทคโนโลยี

การผลิตที่สะอาด (การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ปองกันมลพิษ) อุตสาหกรรมรายสาขาแปงขนมจีน. สํานัก เทคโนโลยีนํ้าและการจัดการมลพิษโรงงาน. กรุงเทพฯ: กระทรวงอุตสาหกรรม; 2549.

3. กัญจนศิลปประสิทธิ์. ความสัมพันธทางสรีรวิทยาของตน ขาวกับการนําพากาศมีเทนจากนาขาวสูบรรยากาศ. วารสารวิชาปทุมวัน 2555;2(5):45-53.

4. ดาริกา วสุนธรากุล, สุดสาคร พุกงาม. การใชพืชนํ้าใน กระบวนการบําบัดนํ้าเสียทางชีวภาพ. วารสารวิทยาศาสตร ทักษิณ 2548;2(2):44-55.

5. ประมวล ทรายทอง. การผลิตกาซชีวภาพจากนํ้าทิ้งใน กระบวนการผลิตขนมจีนโดยวิธีการยอยสลายภายใต สภาวะไรออกซิเจนแบบสองขั้นตอน. วิทยานิพนธ ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจุลชีววิทยา. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร; 2548.

6. กรมโรงงานอุตสาหกรรม. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2539). กรุงเทพฯ: กระทรวงอุตสาหกรรม; 2540.

7. ลาวัณยไกรเดช. มาตรฐานคุณภาพและเอกลักษณความ เปนไทยของขนมจีนหมักที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรม. ปทุมธานี; ศูนยพันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแหง ชาติ; 2545.

8. วรพจนรัตนพันธุ. สภาวะการบําบัดนํ้าเสียจากการผลิต เสนขนมจีนโดยแอนแอรโรบิคคอนแทค. วิทยานิพนธ ปริญญาวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิศวกรรมสิ่ง แวดลอม. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร; 2550.

(9)

9. Akber A, Al-Awadi E, Rashid T. Assessment of the use of soil aquifer treatment (sat) technology in im- proving the quality of tertiary treated wastewater in Kuwait. Emirates Journal for Engineering Research 2003; 8(2):25-31.

10. Bunnag S, Pimda W, Pongpera S. Utilization of Spirulina platensis for wastewater treatment in fer- mented rice noodle factory. ELBA Bioflux 2010;

2(2):39-44.

11. Christen EW, Quayle WC, Marcoux MA, Arienzo M, Jayawardane NS. Winery wastewater treatment using the landfilter technique. Journal of Environmental Management 2010; 91:1,665-73.

12. Kadlec RH, Wallace S. Treatment Wetlands 2nd ed.

Taylor & Francis Group: USA; 2008.

13. Karen M, Brian S. Suitability of Ohio Soils for Treat- ing Wastewater. Bulletin 896: USA; 2002.

14. Klomjek P, Nitisoravut S. Constructed treatment wetland: a study of eight plant species under saline conditions. Chemospere 2005; 58:585-93.

15. Koottatep T, Polprasert C, Oanh NTK, Surinkul N, Montangero A, Strauss M. Constructed Wetlands for Septage Treatment – Towards Effective Faecal Sludge Management. AIT: Thailand; 2002.

16. Mosse KPM, Patti AF, Smernik RJ, Christen EW, Cavagnaro TR. Physicochemical and microbiological effects of long- and short-term winery wastewater application to soils. Journal of Hazardous Materials 2012; 201-2:219-28.

17. Pratum C, Tangkananuruk N, Tangkananuruk K, Sirivithayapakorn S. Enhancement of Biological Wastewater Treatment of Fermented Rice Noodle Industry using Bacillus subtilis KJP8. International Journal of Applied Environmental Sciences 2014:9(2) :285-94.

18. Ratanapongleka K, Siripattanakul S, Suvannapen W, Tummavong J. Utilization of fermented rice noodle effluents for bioethanol production. International Journal of Chemical and Environmental Engineering 2010:1(1):13-17.

19. Reed SC, Middlebrooks EJ, Crites RW. Natural Sys- tem for Waste Management and Treatment. McGraw-

Hill Inc.: New York; 1988.

20. Sirianuntapiboon S, Yommee S. Application of a new type of moving bio-film in aerobic sequencing batch reactor (aerobic-SBR). Journal of environmental management 2008; 78(2):149-56.

21. Siripattanakul S, Ratanapongleka K, Sangthean P, Yoottachana K, Pimwongnok K. Fermented rice noodle wastewater treatment and ethanol production potential using entrapped yeast cells. Water Practice Technol 2010; 5:1-7.

22. Siripattanakul-Ratpukdi S. Ethanol production poten- tial from fermented rice noodle wastewater treatment using entrapped yeast cell sequencing batch reactor.

Applied Water Science 2012; 2(1):47-53.

23. Stottmeister U, Wießner A, Kuschk P, Kappelmeyer U, Kästner M, Bederski O, Moormann H. Effects of plants and microorganisms in constructed wetlands for wastewater treatment. Biotechnology Advances 2003; 22(1):93-117.

24. Wenzel WW. Rhizosphere processes and manage- ment in plant-assisted bioremediation (phytoreme- diation) of soils. Plant and Soil 2009; (1-2):385-408.

25. Wilkie AC. Anaerobic digestion: biology and benefits.

In: Dairy Manure Management Conference; 2005 March 15-17; Cornell University, USA; 2005. P. 63- 72.

26. Gardner FP, Pearce RB, Mitchell RL. Physiology of Crop Plants. Iowa State University Press, USA; 1985.

27. Salisbury FB, Ross CW. Plant Physiology 2nd ed.

Wadsworth Publishing Company, Inc., Belmont, California, USA; 1978.

28. Loomis GW. Soil based wastewater treatment. 1999;

Available Source: http://bit.ly/2cI3baq, September 9, 2016.

Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)

Referensi

Dokumen terkait

Received:17 February 2022, Accepted:10 June 2022 Subject Editor: Ebrahim Ebrahimi ©2022 by Authors, Published by Entomological Society of Iran This Work is Licensed under Creative

Received April 2016 Accepted June 2016 Abstract This research aims to apply an image analysis technique to investigate relationships between liquid saturations and Average Optical

No 1, January-February 2019 คราบไขมันที่ติดผิวงาน จากนั้นใช้ลมเป่าจนผิวชิ้นงาน แห้ง น าชิ้นงานเข้าเตาอบเพื่อเชื่อมแพร่แบบผ่านเฟส ของเหลว ดังแสดงใน Figure 1 การศึกษาเบื้องต้นจะ ก

1 อาจารย, 2ผูชวยศาสตราจารย หนวยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตรสังคม, 3อาจารย หนวยปฏิบัติการวิจัยเภสัชกรรมคลินิก, 4นิสิตเภสัชศาสตร คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม *

1 เภสัชกรปฏิบัติการ กลุมงานเภสัชกรรมและคุมครองผูบริโภค โรงพยาบาลเปอยนอย จังหวัดขอนแกน 40340 2 ผูชวยศาสตราจารย หนวยปฏิบติการวิจัยเภสัชศาสตรสังคม คณะเภสัชศาสตร

Article history: Received: June 3, 2018 Revised: January 17, 2019 Accepted: March 18, 2019 Keywords: childbirth, post-traumatic stress disorder, pregnancy

Indonesian charcoal in China is used as a raw mate- ARTICLE INFO Received: 28 February 2023 Received in revised: 17 April 2023 Accepted: 20 May 2023 Published: 29 June 2023 Open

Mary’s Hospital, College of Medicine, The Catholic University of Korea, Republic of Korea Received February 18, 2020 and accepted June 4, 2020 Published online in J-STAGE June 13,