FACULTY OF ARCHITECTURE SRIPATUM UNIVERSITY
0 62 Architecture Website
ต้องยอมรับจริงๆ ว่าในโลกเราปัจจุบัน Social Network หรือเครือข่ายสังคม มีความสำาคัญ และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำาวันเรามาก ขึ้นทุกที และไม่มีทีท่าว่าจะลดบทบาทง่ายๆ ลองย้อนกลับไปดูกระแสความแรงของ Social Network ในประเทศไทยนี้จะว่าไปเริ่มมี
ความนิยมมาก ตั้งแต่ช่วงมีการชุมนุมทาง การเมืองของกลุ่มสีต่างๆ และมีเดียที่ถูก ใช้มากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Facebook จน เป็นกระแส “มั่นใจคนไทยเกินล้าน” เกิดขึ้น ในหลายๆ เพจ และในแต่ละเพจจะมีกลุ่มคน ที่เห็นด้วยเข้ามากด “Like” นับหมื่น นับแสน ราย จนกระทั่งสิ่งที่ทำาให้ยุคของ Social Network เป็นกระแสที่แรงอีกระลอกหนึ่งก็
คงจะเป็นช่วงสมาร์ทโฟนอย่าง BlackBerry เข้ามาจับตลาดกับคนดังในแวดวงต่างๆ ที่
Social Media
ต่างพากันใช้เกิดกระแสการ “Follow” ใน Twitter และในปัจจุบันกระแสTabletอย่าง
“iPad” ของค่าย Apple ยิ่งทำาให้สถิติการ ใช้งาน Social Network อย่าง Facebook ของคนไทย ติดอันดับ 16 ของโลกที่ใช้งาน เยอะที่สุด โดยมีคนใช้ประมาณ 11 ล้านคน นับว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมาก จะเห็นได้ว่า กระแสมีความนิยมมาก เกิดขึ้นจากสื่อใน Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter Foursquare ฯลฯ หรือเทคโนโลยีและ เครื่องมือสื่อสารต่างๆ เช่น ระบบเครือข่าย 3G หรือเครื่องมืออย่างเช่น BlackBerry, iPhone, iPad ฯลฯ
ถ้าจะพูดถึงการทำางานแบบเป็นระบบที่เข้า เชื่อมโยงกับการศึกษาที่มีเครือข่ายที่มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือ ระบบการศึกษาต่างๆ การสร้างเครือข่ายจึง มีส่วนสำาคัญในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ใน ด้านต่างๆ โดยเฉพาะระหว่างบุคคล อย่าง มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่มุ่งเน้นและให้ความ สำาคัญต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง บุคคลไม่ว่าจะเป็น นักศึกษากับบุคาลกร นักศึกษากับนักศึกษา หรือกระทั่งกับบุคคล ภายนอก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้ดึงข้อดีของ การทำางานอย่างเป็นเครือข่ายเพื่อมาเป็น ประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์อย่างเต็ม รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการช่วยสื่อสารให้มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นเครื่องมือสร้าง ความสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ แลกเปลี่ยน ความรู้ และการสามารถอัพเดทข้อมูลข่าว สารได้ดีขึ้น ทั้งนี้ในระบบเครือข่ายที่กล่าว
FACULTY OF ARCHITECTURE SRIPATUM UNIVERSITY
63 0
Architecture Website
มานั้น หมายถึงดึงกระแสที่กำาลังโดดเด่นและ เป็นที่จับตามองและเป็นที่รู้จักอยู่แล้วใน สังคมบ้านเรา จึงไม่ยากเลยที่จะดึงข้อดีเหล่านี้
เข้ามามีส่วนร่วมในการทำางานของระบบ มหาวิทยาลัย นักศึกษาที่มีความคุ้น เคยกับ การใช้โปรแกรม Social Media ทำาให้มี
การสานต่อโดยที่ไม่ต้องเริ่มใหม่ นอกจากนี้
การเข้าถึงใจและความต้องการของนักศึกษา ก็ทำาให้การทำางานในรูปแบบนี้ไปได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกด้วย การใช้ Social Network จะ ช่วยให้คุณได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ และ เทคนิคใหม่ ทำาให้คุณสามารถนำามาพัฒนา ฝีมือคุณเองได้ตลอดเวลา ซึ่งการเรียนรู้
เทคนิคพวกนี้จะเกิดขึ้น และเป็นไปอย่าง รวดเร็ว ดังนั้นหากคุณอัพเดตตัวนักศึกษา ก็มากที่สุดด้วยเช่นกัน
และในอนาคตการสื่อสารในรูปแบบ email และ Social media อย่าง Facebook หรือ Twitter ก็อาจจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบ ปกติของทุกคน โดยเข้ามาเปลี่ยนแปลงและ แทนที่การสื่อสารในปัจจุบันไปโดยปริยาย เทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตใหม่ๆ อย่าง 4G และอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ มากขึ้น จะเข้ามามีบทบาทและนำาพาไปสู่การ สื่อสารในรูปแบบใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น Streaming Media จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในรูปแบบอินเทอร์เน็ตทีวี และจะมีการแทรก เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ลงไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ตู้เย็น ฯลฯ การ สื่อสารในรูปแบบทางเดียวจะหมดไป และการ สื่อสารในรูปแบบสองทาง (การมีปฏิสัมพันธ์
ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร) จะเข้ามามี
บทบาทมากขึ้น ข้อมูที่มีเข้ามามากมายในแต่
ละวันจนเกิดอาการ Information Overload ในอนาคตจะต้องมีระบบที่จะเข้ามาคัดกรอง ข้อมูลที่จะเข้ามาในแต่ละวัน ตามความสนใจ ของผู้รับสาร
แต่ทั้งนี้ Social Network ไม่ได้มีแต่ด้านดีด้าน สวยงามแต่เพียงอย่างเดียว ความเปิดเผย ตัวตน ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรากำาลังนำาเสนอ ลงไปในมีเดียต่างๆ อาจเป็นผลเสียเรื่อง ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่น้อย ลง อาจเป็นผลเสียด้วยเช่นกัน ในฐานะเรา เป็นผู้โดนบังคับให้เสพเทคโนโลยีและมีเดีย ต่างๆ เหล่านี้ เราจึงควรเล่นอย่างมีสติและ ใช้มีเดียและเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดเวลานะครับ
