การศึกษาถึง “การสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมในเขตคลองสานสู่ความเป็น เมืองสร้างสรรค์” ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพโดยแบ่งขั้นตอนการท าวิจัยดังนี้ คือ
1. การศึกษาจากต ารา เอกสาร วารสารและบทความตีพิมพ์ต่างๆ
2. การสังเกตุการณ์แบบมีส่วนร่วม (Participant obseravation) โดยการลงส ารวจ พื้นที่ในบริเวณโครงการเดอะแจมแฟคทอรี่ โครงการล้ง 1919 โครงการไอคอนสยาม และหอศิลป์
อ.กมล ทัศนาญชลี ตั้งแต่บริเวณถนนเชียงใหม่ไล่มาตามฝั่งตะวันตกของถนนสมเด็จเจ้าพระยาจน ชนส านักงานเขตคลองสาน เข้าสู่บริเวณรอยต่อเข้าสู่ถนนเจริญนครไปจดถนนเจริญนคร 5 และ บริเวณชุมชนเจริญนคร 14 แยก 25
3. การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth interview) โดยใช้แบบสอบถามแบบมี
โครงสร้างที่ผ่านการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการจริยกรรมในเชิงมนุษย์
พื้นที่ศึกษาแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. การศึกษาบริบทของพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในเขตคลองสาน
2. กระบวนการในการสร้างพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรมในเขตคลองสานสู่ความเป็น เมืองสร้างสรรค์
3. ศึกษาโครงการต่างๆ ในการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมในเขตคลอง สาน
ผู้วิจัยจะศึกษาไปพร้อมกัน และน าข้อมูลทั้ง 3 ส่วน มารวบรวบรวมข้อมูล และสรุปการ วิจัย เพื่อตอบโจทย์วิจัยให้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างลึกซึ้ง และน าเสนอแนะแนวทางต่อไป แสดง ดังภาพประกอบ 3 ขั้นตอนการด าเนินงาน ดังนี้
ภาพประกอบ 3 ขั้นตอนการด าเนินงาน ทั้งนี้ในการด าเนินงาน ทั้ง 3 ส่วน รายละเอียดมีดังต่อไปนี้
ส่วนที่ 1 การศึกษาบริบทของพื้นที่ชุมชนในเขตคลองสาน
ในเบื้องต้นการศึกษาบริบทของพื้นที่ในชุมชนเขตคลองสานบริเวณถนนเชียงใหม่จดถนน เจริญนคร 5 ผู้วิจัยใช้แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นการศึกษาผ่านเอกสาร (Document Research) โดยเป็นการศึกษาและตรวจสอบจากเอกสารชั้นต้นที่มีการอ้างอิง โดยทบทวน วรรณกรรม แนวคิด ทฤษฎี งานวิจัย หนังสือ ต ารา บทความเอกสารรายงานประจ าปี รวมถึงการ สืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ เพื่อสอบทานและค้นหาข้อมูลต่างๆ ล่าสุด ซึ่งเป็นข้อมูลประเภท สารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ ที่ผู้วิจัยใช้ท าการสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษา ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต และใช้วิธีการเดินส ารวจและสัมภาษณ์คนในชุมชนและผู้ประกอบการ ในพื้นที่ ดังนี้
สืบค้นทุนทางวัฒนธรรม
สรุป วิเคราะห์ และอภิปรายผล
ศึกษาการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมในเขต คลองสานสู่เมืองสร้างสรรค์
โครงการ ล้ง 1919
โครงการ The Jam Factory
โครงการ ไอคอนสยาม ชุมชน
คลองสาน
หอศิลป์
กมล ทัศนาญชลี
เมืองสร้างสรรค์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สู่การพัฒนาไทยแลนด์ 4.0
1. ประวัติความเป็นมาของชุมชนในเขตคลองสาน
2. ประวัติความเป็นของโครงการล้ง 1919 โครงการThe Jam Factory โครงการ ไอคอนสยามและบริเวณถนนกรุงธนบุรีย่านหอศิลป์ อ.กมล ทัศนาญชลี
ส่วนที่ 2 กระบวนการในการสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรม
เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของพื้นที่ในเชิงศิลปวัฒธรรมแล้วนั้น ผู้วิจัยด าเนินการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการในการสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมของพื้นที่โดยรอบ โครงการ The Jam Factory โครงการล้ง 1919 โครงการไอคอนสยาม หอศิลป์ อ.กมล ทัศนาญชลี โดยใช้การวิจัยเชิง คุณภาพ (Qualitative Research) แบบเดินส ารวจพื้นที่โดยรอบ โดยมีผู้ขั้นตอนการด าเนินงาน และกลุ่มประชากรที่ศึกษา ดังนี้
1. การลงส ารวจพื้นที่ (Field Research) ผู้วิจัยใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-Participant Observation) แบบสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเอง โดยสนามที่ผู้วิจัยได้เลือกศึกษาและ เก็บข้อมูล พื้นที่โดยรอบของชุมชนในเขตคลองสาน โครงการ The Jam Factory โครงการล้ง 1919 และโครงการไอคอนสยาม และหอศิลป์ อ.กมล ทัศนาญชลี
ทั้งนี้ผู้วิจัยได้น าเทคนิคต่างๆ มาใช้ เช่น การสัมภาษณ์ สังเกต และจดบันทึกเรื่องราว ต่างๆ เพื่อน ามาสรุปและวิเคราะห์เพื่อค้นหาค าตอบที่ผู้วิจัยสงสัยในระดับต่อไป ในการลงพื้นที่เพื่อ ศึกษาข้อมูลภาคสนามนั้นผู้วิจัยต้องการศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพื้นจริงว่าเกิดความ เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากน้อยเพียงใด อันจะท าให้ผู้วิจัยน าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาตัวแปร ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เทคนิคการสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลนั้น ผู้วิจัยจะใช้
เทคนิคการสัมภาษณ์แบบเป็นทางการ (formal) โดยการท านัดหมายกับผู้ประกอบการรายใหญ่
เพื่อเป็นการแจ้งขอรับข้อมูลเพื่องานวิจัยอย่างเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ (Informal interview) กับผู้ประกอบการรายย่อยและชุมชนเพื่อท าให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่รู้สึกเป็นกังวล ไม่อึดอัด และเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับชุมชน
2. การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-Depth Interview) โดยการคัดเลือกผู้ให้สัมภาษณ์
แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ด้วยการใช้ค าถามปลายเปิด เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ได้แสดง ความคิดเห็นอย่างเต็มที่ บุคคลที่เป็นผู้ให้ข้อมูลส าคัญ (Key Informants) ได้แก่
1) เจ้าของโครงการหรือบุคลากรของโครงการ ทั้งผู้บริหารระดับสูง และหรือ เจ้าหน้าที่ทั่วไป
2) ผู้ใช้บริการ
- ผู้ประกอบการในชุมชนและผู้ประกอบการรายใหม่ ประกอบด้วย คนใน ชุมชนและผู้ประกอบการรายเดิมที่ด าเนินธุรกิจในพื้นที่มาตั้งแต่อดีตก่อนที่จะมีการลงทุนจาก ผู้ประกอบการภายนอก ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตคลองสานประกอบด้วย โครงการ The Jam Factory โครงการล้ง 1919 โครงการไอคอนสยาม หอศิลป์ อ. กมล ทัศนาญชลี
- บุคลากรของโครงการ ประกอบด้วย กลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การบริหารจัดการ และแนวทางการพัฒนาของโครงการ
ส่วนที่ 3 แนวความคิดสร้างสรรค์ของบุคลากรโครงการ The Jam Factory
จะใช้การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-Depth Interview) โดยการคัดเลือกผู้ให้สัมภาษณ์
แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ด้วยการใช้ค าถามปลายเปิด เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ได้แสดง ความคิดเห็นอย่างเต็มที่ บุคคลที่เป็นผู้ให้ข้อมูลส าคัญ (Key Informants) ได้แก่
1. บุคลากรของโครงการ ทั้งผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ทั่วไป
2. หน่วยงานภาครัฐ บุคลากรของโครงการ ประกอบด้วย ทั้งผู้บริหารระดับสูง และ เจ้าหน้าที่ทั่วไปที่เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ทาง วัฒนธรรม การบริหารจัดการ และแนวทางการพัฒนาของโครงการ
การรวบรวมข้อมูลและการน าเสนอข้อมูล
ผู้วิจัยจะศึกษาบริบทของพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ริมแม่น ้าเจ้าพระยา ในเชิง ศิลปวัฒนธรรม ผ่านการศึกษาเอกสาร และสืบค้นข้อมูลทางระบบอินเทอร์เน็ตก่อน เพื่อเป็น แนวทางในการศึกษาในส่วนของการประเมินศักยภาพของบุคลากร และผู้ประกอบการที่มีผลต่อ ความส าเร็จของโครงการล้ง 1919 โครงการThe Jam Factory โครงการไอคอนสยามและหอศิลป์
อ.กมล ทัศนาญชลี หลังจากนั้นในส่วนของประเมินศักยภาพของบุคลากร และผู้ประกอบการ ไป พร้อมกัน และน าข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาหาข้อสรุปการวิจัยเพื่อตอบตอบโจทย์วิจัยให้ตรงตาม วัตถุประสงค์อย่างลึกซึ่ง และเสนอแนะแนวทางต่อไป