ศรัทธา

ศร ัทธามหาชนต้องมาก่อน ผศ.ชมพู โกติรัมย์

Chompoo.go@ spu.ac.th

นับจากนี้เป็นต ้นไปจากวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายเพื่อกำาหนดทิศทางที่จะ นำาพาประเทศไปแล ้วนั้น เราท่านก็ได ้เห็นแล ้วจะทำาได ้หรือยังไร หรือเป็น ประชานิยมต่อยอดอย่างไรก็จะไมขอแสดงความคิดเห็นในที่นี้ นับต่อจากนี้

จึงจำาเป็นยิ่งที่คนไทยทุกฝักฝ่าย ต ้องให ้กำาลังใจรัฐบาล สม ัคร สุนทรเวช ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมด ทั้งปวงไปให ้ได ้ เพื่อให ้รัฐบาลชุดนี้ประคับประคองการ บริหารประเทศในช่องปรับผ่านซ่อมเครื่อง สิ่งที่ผู ้นำารัฐบาลตระหนักเป็น อย่างยิ่งจะต ้องไม่ตามกระแสเสียทั้งหมดจนขาดจุดยืนแห่งตน ทั้งกระแสจาก ระดับโลกในเรื่องเศรษฐกิจการค ้าระหว่างประเทศที่มามีผลต่อการกำาหนด นโยบายและการนำานโยบายไปใช ้ และกระแสภายในประเทศและภายในพรรค ที่สร ้างกระแสจุดประเด็นจากการที่ตนไม่สบหวังจากตำาแหน่งในคณะรัฐมนตรี

ประเด็นตรงนี้เป็นปมปัญหาระหว่างจุดยืนแห่งตนและจุดยืนเพื่อส ่วนรวม เป็นจุดที่เป็นโจทย์ว่าอันไหนควรมาก่อนนับจากนี้ไป นั่นก็คือปัญหาเรื่องปาก เรื่องท ้องของประชนที่หาเช ้ากินคำ่าซึ่งเป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่ของประเทศ มาบัดนี้เงินที่อยู่ในกระเป๋ามีเท่าเดิมแต่ค่าใช ้จ่ายเพิ่มมากขึ้น นี่คือวาระเร่งด่วน ที่รัฐบาลควรแก ้ไขให ้ประชาชนพอให ้มองว่ามีที่พึงได ้บ ้าง อันปัญหาเรื่อง ปากเรื่องท ้องนี้เป็นปัญหาสากลกระทบไปหมดซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่นค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงรัดผู ้มีรายได ้น ้อยตัวเป็นเกลียวอันเกิดจากค่านำ้ามัน แพงเป็นต ้น เป็นความจำาเป็นที่รัฐบาลควรใส่ใจหรือแตะในเรื่องนั้นๆก่อน ถ ้า ทำาได ้ตรงจุดนี้แม ้ไม่ทั้งหมดเริ่มบางประเด็นที่เห็นว่ามีผลกระทบก่อนแล ้วค่อย ทยอยแก ้ไขตามลำาดับความเดือดร ้อน อันไหนควรมาก่อน เป็นความจำาเป็น ที่รัฐบาลควรใส่ใจ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นความสนใจและอารมณ์ร่วมใน ฐานะร่วมทุกข์ร่วมชะตากรรมเดียวกันไม่เลือกพรรค เมื่อทำาได ้ให ้เห็นเป็นรูป ธรรมตรงนี้ย่อมเรียกศรัทธามหาชนได ้ คนที่สนับสนุนก็จะไม่หนี คนที่หน่ายก็

จะมานิยม แล ้วเมื่อนั้นรัฐบาลจะมีอำานาจ เพราะอำานาจที่แท ้จริงเกิดจาก การเป็นใจของประชาชน ศรัทธามหาชนจะเป็นเกราะคุ ้มกันให ้รัฐบาลเป็น อย่างดี ส่วนเรื่องการแก ้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการนิโทษกรรม 111 คน นั้น แม ้มีเจตนาบริบริสุทธิ์แต่ควรรอไประเวลาหนึ่งก่อนเพราะเป็นปัญหา ทางการเมืองที่มีผู ้ได ้เสียไม่มากนักเช่นปัญหาเรื่องปากท ้อง หากทำาในช่วง ศรัทธามหาชนยังไม่เกิดมี ย่อมไม่ง่ายสู ้รอให ้กาลเวลาสุกงอมด ้วยศรัทธา มหาชนเสียก่อนแล ้วค่อยมาทำา เพราะศรัทธานั้นต ้องเกิดจากปัญญาหากไม่ตั้ง อยู่บนบนปัญญาก็เป็นแค่ความนิยมชมชอบแบบลุ่มหลง ทั้งนี้เพราะรัฐบาลถูก เฝ้ามองพฤต ิกรรมในทุกจุดปัญหาที่เป็นพฤต ิกรรมแห่งอดีต การ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือพวกพ ้องให ้พ ้นผิด ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ ้อม จะต ้องไม่เกิดขึ้น นโยบายประชานิยมเช ิงทุจริตทับซ ้อน จะต ้อง ถูกปล่อยวางไม่หยิบฉวย มาสร ้างประโยชน์ให ้กับตัวเอง ซึ่งมีข ้อกังขาปักหลัง อยู่ หากมองในเชิงลึกของแก่นแท ้ สภาพการควบรวมรัฐบาล ภายใต ้ กฎหมายรัฐธรรมนูญอันเข ้มงวด อนาคตรัฐบาลสม ัครสุนทรเวชเป็นเรื่องยากที่

จะอยู่ครบเทอม4ปีนั่น ก็ไม่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาในแง่ความต่อเนื่องเช ิง

นโยบาย ซึ่งเป็นการมองจากผู ้มิได ้มีส่วนได ้เสียจากการแข่งขันเพื่อได ้มา ซึ่งอำานาจรัฐ เช่นประชาชนคนส่วนมากของประเทศที่กำาลังรอคอยการ บริหารจากรัฐ มิใช่คิดจะบริหารเสียเอง ก็อยากเห็นการเมืองที่นิ่งเพียงพอ ให ้การบริหารประเทศ เดินหน ้าอย่างมีคุณภาพ

และท ้ายที่สุดนี้นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะผู ้นำารัฐบาลมีสิทธิ

ใช ้อำานาจนายกฯ ตรวจสอบรายช ื่อผู ้ที่จะมาดำารงตำาแหน่งเลขารัฐมนตรี

ท่ามกลางเสียงโห่ของสังคม เพื่อเรียกศรัทธามหาชน หากนายสมัคร มี

จุดยืนที่มั่นคงต่อศรัทธามหาชน ย่อมเป็นความคลอนแคลนต่อสถานะของ ตัวเองในพรรค เพราะบรรดาแกนนำาในพรรคพลังประชาชนที่มีมือที่องเห็น คอยจับวางให ้ ซึ่งถ ้าผู ้ที่จะมาดำารงแหน่งเป็นไปตามที่คาด ตรงนี้เป็นความ ท ้าทายระหว่างการเจรจาต่อรองภายในพรรค และพรรคร่วมรัฐบาลให ้ลงตัวใน จุดหนึ่งเพื่อประคับประคองรัฐบาลให ้อยู่ได ้ แต่นั่นเท่ากับว่าเป็นความเสี่ยงต่อ วิกฤติศรัทธามหาชนเป็นยิ่งนัก ตรงนี้ตัวตนที่แท ้จริงของนายสมัครในฐานะ ผู ้นำาประเทศซึ่งจะต ้องเร่งสร ้างศรัทธามหาชน จะดำารงมั่น ไปพร ้อมๆกับตัว ตนตนในฐานะหัวหน ้าพรรคได ้อย่างไร เพราะคนอย่าง ยงยุทธ , , เฉลิม , มิ่งขว ัญ , , จ ักรภพ เป็นต้นต ้องพิสูจน์ให ้ได ้ว่ามีฝีมือจริง ไม่ใช่ขัดตาทัพ หรือ ประโยชน์ต่างตอบแทนอย่างที่นิยมดำาเนินการ เพราะนี่คือบทพิสูจน์

ศรัทธามหาชนอย่างแท ้จริงและขอลงท ้ายด ้วยพุทธภาษิตที่ว่า “ สนิมเกิดแต่

เ ห ล ็ก แ ล ้ว ม า ท ำา ล า ย เ ห ล ็ก ” ....