• Tidak ada hasil yang ditemukan

Indicators and Their Range of Values to Indicate Obesity

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2024

Membagikan "Indicators and Their Range of Values to Indicate Obesity"

Copied!
8
0
0

Teks penuh

(1)

Review Article

ตÑǺ่§ªÕ้แÅะª่ǧ¢อ§¤่Ò·Õèใª้º่§ªÕ้โäอ้ǹ

สุÇÃÃณÒ ถÒÇÃÃุ่§โÃจ¹์

Indicators and Their Range of Values to Indicate Obesity.

Suwanna Tawonrungrojn

Cardio-Thoracic Technology Program, Faculty of Allied Health Sciences, Naresuan University, Muang, Phitsanulok, 65000, Thailand

E-mail: [email protected] Songkla Med J 2011;29(2):89-96

º·¤Ñดย่อ:

โรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำ�คัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งกำ�ลังเป็นปัญห�ส�ธ�รณสุข สำ�คัญของประเทศ บุคล�กรท�งก�รแพทย์มักใช้ดัชนีมวลก�ยหรือรอบเอวสำ�หรับคัดกรองโรคอ้วน แต่ยังมี

ตัวบ่งชี้อื่นๆ ได้แก่ สัดส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก สัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง และร้อยละของไขมันในร่�งก�ย นอกจ�กนี้

ช่วงของค่�ของตัวบ่งชี้เหล่�นี้ซึ่งใช้บ่งชี้โรคอ้วนยังแตกต่�งกัน บทคว�มนี้ได้แสดงช่วงของค่�ของตัวบ่งชี้

โรคอ้วนจ�กง�นวิจัยต่�งๆ ที่ผ่�นม� เพื่อให้นักวิจัยเลือกใช้ให้เหม�ะสมกับกลุ่มตัวอย่�งที่ใช้ศึกษ�

¤ำÒสำÒ¤Ñญ: รอบเอว, ร้อยละของไขมันในร่�งก�ย, โรคอ้วน, สัดส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก, สัดส่วนรอบเอวต่อ ส่วนสูง

Abstract:

Obesity is one of the main risk factors for cardiovascular diseases, along with being the important public health problem of Thailand. Health care professionals frequently use body mass index or waist circumference to screen for obesity, but there are more indicators remained:

waist-to-hip ratio, waist-to-height ratio, and the percentage of body fat. Moreover, the range of values of these indicators for identifying obesity are quite different. This article investigated the range of values of these obesity indicators got from the past studies for the researchers to select one that was proper for their study subjects.

Key words: obesity, percentage of body fat, waist, waist-to-height ratio, waist-to-hip ratio

ภÒ¤ÇÔªÒà·¤โ¹โÅยÕหÑÇใจแÅะ·Ãǧอก ¤ณะสหàǪศÒสตÃ์ มหÒÇÔ·ยÒÅÑย¹àÃศÇà อ.àมือ§ จ.พÔษณุโÅก 65000 ÃѺต้¹©ºÑºÇѹ·Õè 3 มÔถุ¹Òย¹ 2553 ÃѺŧตÕพÔมพ์Çѹ·Õè 6 พฤษภÒ¤ม 2554

(2)

º·¹ำÒ

โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำ�คัญของโรคหัวใจ และหลอดเลือด แต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส�ม�รถลดหรือ กำ�จัดได้ด้วยก�รปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น เพิ่มกิจกรรม ท�งก�ย และลดปริม�ณอ�ห�ร เป็นต้น ตัวบ่งชี้ที่ใช้

ในก�รประเมินโรคอ้วน ได้แก่ ดัชนีมวลก�ย รอบเอว สัดส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก สัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง และปริม�ณร้อยละของไขมันในร่�งก�ย บุคล�กรหรือ นักวิจัยมักจะไม่แน่ใจว่�ควรเลือกใช้ตัวบ่งชี้ใดและเลือก ช่วงค่�ของตัวบ่งชี้ในช่วงค่�ใดจึงจะคัดกรองโรคอ้วนได้ดี

โดยนิยมใช้ดัชนีมวลก�ย และรอบเอว มีก�รใช้สัดส่วน รอบเอวต่อรอบสะโพก และสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง อยู่บ้�ง แต่มีก�รใช้ร้อยละของไขมันในร่�งก�ยค่อนข้�ง น้อย1-4

ÃะºÒดÇÔ·ยÒ

อัตร�คว�มชุกของโรคอ้วนในประเทศไทยเพิ่ม สูงขึ้นทุกกลุ่มอ�ยุ แต่เพิ่มสูงที่สุดในกลุ่มอ�ยุ 40-49 ปี

ต�มผลก�รสำ�รวจของกรมอน�มัย ในปี พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 25385 และผลก�รสำ�รวจสถ�นะสุขภ�พอน�มัย ของประช�ชนไทยของสถ�บันวิจัยระบบส�ธ�รณสุข ในปี พ.ศ. 2534-25356 พบคว�มชุกของผู้ที่มีดัชนี

มวลก�ยม�กกว่�หรือเท่�กับ 25 กิโลกรัมต่อต�ร�งเมตร ในเพศช�ยเท่�กับร้อยละ 13 และในเพศหญิงเท่�กับร้อยละ 23.2 คว�มชุกของคนกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นทั้งเพศช�ยและ เพศหญิงเป็นร้อยละ 18.6 และร้อยละ 29.5 ต�มลำ�ดับ ในปี

พ.ศ. 2539-2540 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.4 และ ร้อยละ 34.3 ในปี พ.ศ. 2546-25477 ห�กใช้รอบเอว บ่งชี้โรคอ้วนในข้อมูล พ.ศ. 2546-2547 โดยใช้รอบเอว ม�กกว่�หรือเท่�กับ 90 เซนติเมตรในเพศช�ย พบ คว�มชุกร้อยละ 15 และใช้รอบเอวม�กกว่�หรือเท่�กับ 80 เซนติเมตรในเพศหญิงพบคว�มชุกร้อยละ 367

พยÒธÔกำÒà¹Ôด

โรคอ้วนอ�จเกิดจ�กส�เหตุหล�ยอย่�ง8 เช่น ไฮโปท�ล�มัสส่วน ventromedial ถูกทำ�ล�ย โรคที่เกิดจ�ก

ต่อมหมวกไตชั้นนอกทำ�ง�นม�กกว่�ปกติ (Cushing’s disease) ส่งผลให้มีก�รสร้�งคอร์ติโคสเตียรอยด์เพิ่มขึ้น ก�รใช้ย�รักษ�โรคเบ�หว�นบ�งชนิด เช่น ซัลโฟนิลยูเรีย (sulfonylurea) หรือไธอะโซลิดีนไดโอน (thiazoli- dinedione) จะเพิ่มคว�มอย�กอ�ห�ร ย�รักษ�ภ�วะ ซึมเศร้�บ�งชนิด และย�ระงับอ�ก�รชักบ�งชนิด ทำ�ให้

มีส�รโมโนเอมีนในระบบประส�ทส่วนกล�งสูงขึ้น ส่งผล ให้น้ำ�หนักตัวเพิ่มขึ้น ก�รรับประท�นอ�ห�รที่มีไขมันสูง อ�ห�รรสหว�นจัด และก�รรับประท�นอ�ห�รปริม�ณม�ก เกินไป รวมทั้งก�รออกกำ�ลังก�ยน้อยหรือใช้พลังง�น น้อย อ�ยุม�กขึ้น ก�รได้รับย�สเตียรอยด์เป็นเวล�น�น โรคของต่อมไทรอยด์ และคว�มผิดปกติของกระบวนก�ร เผ�ผล�ญอ�ห�รจ�กส�เหตุต่�งๆ และคว�มผิดปกติของ อ�รมณ์และจิตใจ นอกจ�กนี้ยังมีส�เหตุจ�กคว�มผิดปกติ

ของยีน8 เช่น ตัวรับเมล�โนคอร์ติน 4 (melanocortin 4-receptor) ซึ่งทำ�หน้�ที่ควบคุมสมดุลอ�ห�รและ พลังง�น นอกจ�กนี้ยังเกิดจ�กเลปติน (leptin) และ ตัวรับเลปติน (leptin receptor) เลปตินเป็นฮอร์โมน ชนิดหนึ่งทำ�หน้�ที่กระตุ้นเซลล์ประส�ทซึ่งควบคุม คว�มอย�กอ�ห�ร ขณะเดียวกันเลปตินก็กระตุ้นเซลล์

ประส�ทที่อยู่ในไฮโปท�ล�มัสให้หลั่งส�รกดคว�มอย�ก อ�ห�ร รวมทั้งยับยั้งก�รหลั่งส�รกระตุ้นคว�มอย�ก อ�ห�รของเซลล์ประส�ทอีกชนิดหนึ่ง ผู้ที่เป็นโรคอ้วน จะเกิดภ�วะดื้อต่อก�รออกฤทธิ์ของเลปติน ทำ�ให้เกิด คว�มอย�กอ�ห�รม�กขึ้น

โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำ�คัญของก�รเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งโรคเรื้อรังต่�งๆ เช่น หลอดเลือดแข็งตัว กลุ่มอ�ก�รเมต�บอลิก เบ�หว�น คว�มดันโลหิตสูง นิ่วในถุงน้ำ�ดี ไขมันพอกตับ มะเร็ง ลำ�ไส้ใหญ่ มะเร็งเต้�นม มะเร็งต่อมลูกหม�ก มะเร็ง ตับอ่อน มะเร็งปอด เก๊�ท์ และข้อเสื่อม รวมทั้งเกิด คว�มผิดปกติของระบบห�ยใจ เช่น ห�ยใจเข้�ลำ�บ�ก เนื่องจ�กท�งเดินห�ยใจตีบแคบ และก�รหยุดห�ยใจ ขณะนอนหลับจนเกิดภ�วะพร่องออกซิเจน เป็นต้น ก�รรักษ�โรคอ้วนจึงต้องแก้ไขที่ส�เหตุ เช่น ก�รเพิ่ม กิจกรรมท�งก�ยเพื่อเพิ่มก�รเผ�ผล�ญ ก�รลดปริม�ณ อ�ห�ร ก�รรักษ�โรคที่เป็นส�เหตุ ก�รใช้ย�เพิ่มซีโรโทนิน

(3)

หรือแคทิคอล�มิน ย�ลดคว�มอย�กอ�ห�ร ก�รผ่�ตัด กระเพ�ะอ�ห�รเพื่อลดขน�ด ก�รผ่�ตัดหรือดูดไขมัน9 ดѪ¹ÕมÇÅกÒย (Body mass index; BMI) องค์ก�รอน�มัยโลกกำ�หนดช่วงค่�ดัชนีมวลก�ย 25-29.9 กิโลกรัมต่อต�ร�งเมตร สำ�หรับบ่งชี้ภ�วะ น้ำ�หนักเกิน และม�กกว่�หรือเท่�กับ 30 กิโลกรัมต่อ ต�ร�งเมตร สำ�หรับบ่งชี้โรคอ้วนในผู้ใหญ่ช�วยุโรป ในขณะที่กำ�หนดช่วงค่�ดัชนีมวลก�ยที่ม�กกว่�หรือ เท่�กับ 23 กิโลกรัมต่อต�ร�งเมตร สำ�หรับบ่งชี้ภ�วะ น้ำ�หนักเกินในช�วเอเชีย และม�กกว่�หรือเท่�กับ 25 กิโลกรัมต่อต�ร�งเมตร สำ�หรับโรคอ้วน10 สอดคล้องกับ ผลก�รศึกษ�ในช�วจีน11 รวมทั้งก�รศึกษ�ในสิงคโปร์2 ส่วนผลก�รศึกษ�ในประเทศไทย ในกลุ่มตัวอย่�งเพศช�ย อ�ยุ 20-84 ปี ได้ค่�จุดตัดของภ�วะอ้วนที่ 27 กิโลกรัม ต่อต�ร�งเมตร แต่กลุ่มตัวอย่�งเพศหญิงได้ค่�จุดตัดที่

25 กิโลกรัมต่อต�ร�งเมตร แต่ก�รศึกษ�ในกลุ่มตัวอย่�ง คนไทยอ�ยุ 45-50 ปี ทั้งเพศช�ยและเพศหญิงพบว่�

ช่วงค่�ดัชนีมวลก�ยที่ม�กกว่�หรือเท่�กับ 23 กิโลกรัม ต่อต�ร�งเมตร มีคว�มสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงของโรค หัวใจและหลอดเลือด1 (ต�ร�งที่ 1)

ข้อจำ�กัดของดัชนีมวลก�ยที่สำ�คัญคือสะท้อน องค์ประกอบของร่�งก�ยทั้งส่วนของไขมันและส่วนที่

ไม่ใช่ไขมัน จึงไม่ส�ม�รถแยกแยะน้ำ�หนักที่เกิดขึ้นจ�ก มวลกล้�มเนื้อและมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้นออกจ�กภ�วะ อ้วนจ�กไขมันได้ นอกจ�กนี้ในเด็กมีก�รเปลี่ยนแปลง ของรูปร่�งค่อนข้�งเร็วม�ก โดยเฉพ�ะเด็กผู้หญิงจะ เปลี่ยนแปลงม�กกว่�เด็กผู้ช�ยในวัยเดียวกัน ดัชนี

มวลก�ยของวัยนี้จึงเปลี่ยนแปลงต�มอ�ยุและเพศ รวมทั้งค่�ดัชนีมวลก�ยจะสูงขึ้นในผู้สูงอ�ยุ เนื่องจ�ก อ�ยุม�กขึ้นมักจะมีคว�มสูงลดลง12

ÃอºàอÇ (Waist circumference; WC) วิธีก�รวัดมี 3 วิธี คือ วัดรอบแนวสะดือ วัดระยะ กึ่งกล�งระหว่�งซี่โครงซี่สุดท้�ยกับส่วนบนสุดของกระดูก สะโพก และวัดรอบส่วนบนสุดของสะโพก13,14 ขณะวัด ผู้ถูกวัดต้องยืนแยกเท้�ออกเล็กน้อย และวัดในช่วงสิ้นสุด ห�ยใจออก ช่วงค่�ของรอบเอวที่วัดแนวสะดือซึ่งใช้

บ่งชี้โรคอ้วนสำ�หรับช�วอเมริกัน คือ ม�กกว่� 102 เซนติเมตร (40 นิ้ว) สำ�หรับเพศช�ย และม�กกว่� 88 เซนติเมตร (35 นิ้ว) สำ�หรับเพศหญิง ส่วนค่�จุดตัด สำ�หรับช�วยุโรป คือ ม�กกว่� 94 เซนติเมตร ในเพศช�ย

ตÒÃÒ§·Õè 1 แสดงช่วงค่�ของดัชนีมวลก�ยที่ได้จ�กก�รศึกษ�ในช�วเอเชียและองค์ก�รอน�มัยโลก

»Ãะà·ศ/อ§¤์ก÷Õè·ำÒÇÔจÑย กÅุ่มตÑÇอย่Ò§·Õèใª้ ª่ǧ¤่Ò¢อ§ดѪ¹ÕมÇÅกÒย·Õèº่§ªÕ้อ้ǹ (กÔโÅกÃÑมต่อตÒÃÒ§àมตÃ)

องค์ก�รอน�มัยโลก ช�วยุโรป ทุกเพศ ม�กกว่�หรือเท่�กับ 30 องค์ก�รอน�มัยโลก ช�วเอเชีย ทุกเพศ ม�กกว่�หรือเท่�กับ 25 จีน ทุกเพศ อ�ยุ 37.5±9.2 ปี ม�กกว่�หรือเท่�กับ 25

สิงคโปร์ ทุกเพศ ม�กกว่�หรือเท่�กับ 25

ช�ย อ�ยุ 49.5±8.9 ปี

หญิง อ�ยุ 51.9±9.0 ปี

ไทย ช�ย อ�ยุ 20-84 ปี ม�กกว่�หรือเท่�กับ 27 หญิงอ�ยุ 20-84 ปี ม�กกว่�หรือเท่�กับ 25 ทุกเพศ อ�ยุ 45-50 ปี ม�กกว่�หรือเท่�กับ 23

(4)

และม�กกว่� 80 เซนติเมตร ในเพศหญิง ค่�จุดตัดสำ�หรับ ช�วเอเชียใต้และช�วเอเชีย คือ ม�กกว่� 90 เซนติเมตร ในเพศช�ย และม�กกว่� 80 เซนติเมตร ในเพศหญิง15 ก�รศึกษ�ในประเทศจีนพบช่วงค่�รอบเอวเพศช�ย ม�กกว่� 85 เซนติเมตร และเพศหญิงม�กกว่� 80 เซนติเมตร มีคว�มสัมพันธ์กับก�รเกิดโรคเรื้อรัง16 แต่

ผลก�รศึกษ�ในประเทศไทยในกลุ่มตัวอย่�งอ�ยุ 45-50 ปี พบรอบเอวที่สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด คือ 84 เซนติเมตร ในเพศช�ย และ 80 เซนติเมตร ในเพศหญิง1 โดยรอบเอวในเพศช�ย มีคว�มสัมพันธ์กับปริม�ณร้อยละของไขมัน17

ข้อจำ�กัดของรอบเอว คือ มีคว�มผันแปรของ วิธีวัด ค่�ที่วัดได้จึงอ�จแตกต่�งกัน

สÑดส่ǹÃอºàอÇต่อÃอºสะโพก (Waist-to- hip ratio; WHR)

เป็นค่�ที่ได้จ�กก�รคำ�นวณโดยห�รค่�รอบเอว ด้วยค่�รอบสะโพก ค่�นี้บอกก�รกระจ�ยของไขมัน ในทั้งบริเวณหน้�ท้องและบริเวณสะโพก ผู้ที่มีสัดส่วน เท่�กับ 1 มีคว�มเสี่ยงต่อก�รเกิดเบ�หว�น คว�มดัน โลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เพศช�ยที่มีสัดส่วนนี้

ม�กกว่� 0.9 และเพศหญิงม�กกว่� 0.8 จะมีคว�มเสี่ยง ต่อก�รเกิดกลุ่มอ�ก�รเมต�บอลิก แต่ช่วงค่� 0.89 ในกลุ่มตัวอย่�งช�ยไทย อ�ยุม�กกว่� 35 ปี สัมพันธ์

กับปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดีที่สุด18 สัดส่วนนี้และปริม�ณร้อยละของไขมันเพิ่มขึ้นต�มอ�ยุ

โดยมีคว�มสัมพันธ์กับคว�มดันโลหิต และปริม�ณเลือด ที่ออกจ�กหัวใจ (cardiac output)19

ข้อจำ�กัดของค่�นี้ คือ ค่�อ�จไม่เปลี่ยนแปลง ถ้�รอบเอวและรอบสะโพกเพิ่มขึ้นเท่�กัน20 หรือผู้หญิง ที่มีรอบสะโพกใหญ่ม�กจะมีค่�นี้ไม่สูง เพร�ะใช้รอบสะโพก เป็นตัวห�ร

สÑดส่ǹÃอºàอÇต่อส่ǹสู§ (Waist-to-height ratio; WHtR)

ค่�นี้ได้จ�กก�รคำ�นวณโดยห�รค่�รอบเอวด้วย

ค่�คว�มสูง ใช้แทนดัชนีมวลก�ยในนักกีฬ�ที่มีกล้�มเนื้อ ม�กได้ และค่�นี้เพิ่มขึ้นเมื่ออ�ยุม�กขึ้น เนื่องจ�ก ผู้สูงอ�ยุจะเตี้ยลงเพร�ะหลังค่อมหรือข�โก่ง แต่ก�ร ศึกษ�ในประเทศจีน พบว่�สัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง มีคว�มสัมพันธ์น้อยกับอ�ยุในกลุ่มอ�ยุ 8-18 ปี21 ก�รศึกษ�ในกลุ่มตัวอย่�งเพศช�ยช�วจีน 111 คน พบคว�มสัมพันธ์ของค่�นี้กับไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง บริเวณหน้�ท้องและอวัยวะภ�ยในซึ่งวัดด้วยเอกซเรย์

คอมพิวเตอร์22 แต่สัมพันธ์กับปริม�ณร้อยละของไขมัน น้อยกว่�ดัชนีมวลก�ย และรอบเอว17

ก�รศึกษ�ในประเทศอังกฤษ23 พบจุดตัดของ สัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูงที่ 0.5 ในผู้ใหญ่มีคว�มเสี่ยง ต่อก�รเกิดปัญห�สุขภ�พ ก�รศึกษ�ในประเทศไทย พบจุดตัดของสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูงที่ 0.51 สัมพันธ์

กับก�รเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในเพศช�ยอ�ยุ 35-54 ปี24 ในประเทศจีนพบจุดตัดของสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง ที่บ่งชี้ภ�วะน้ำ�หนักเกินในผู้ใหญ่ คือ เพศช�ย 0.48 และ เพศหญิง 0.4525 จุดตัดของสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง ที่บ่งชี้น้ำ�หนักเกินในเด็กทั้งเพศช�ยและเพศหญิงคือ 0.445 ส่วนจุดตัดที่บ่งชี้โรคอ้วนในเด็กผู้ช�ย คือ 0.485 และเด็กผู้หญิง คือ 0.47523 และในประเทศญี่ปุ่นพบช่วง ของค่�ที่ใช้บ่งชี้ภ�วะน้ำ�หนักเกิน คือ ม�กกว่�หรือเท่�กับ 0.5 เท่�กันทั้งในผู้ใหญ่เพศช�ย เพศหญิงและเด็ก2 โดย สอดคล้องกับผลก�รศึกษ�ในเด็กช�วคอเคเชียน26 สัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง 0.5 จึงใช้บ่งชี้โรคอ้วนทั้งใน เด็กและผู้ใหญ่ได้ แม้มีเชื้อช�ติต่�งกัน

ข้อจำ�กัดของตัวบ่งชี้นี้ คือ ในผู้สูงอ�ยุและวัยรุ่น อ�จมีสัดส่วนนี้ต่ำ�หรือสูงกว่�คว�มจริงเนื่องจ�กคว�มสูง ของร่�งก�ยเปลี่ยนแปลงต�มวัย28 และคว�มสูงเป็น ตัวห�รของตัวบ่งชี้นี้

»ÃÔมÒณไ¢มѹใ¹Ã่Ò§กÒย (body fat) ปริม�ณไขมันในร่�งก�ยแสดงด้วยค่�ร้อยละของ ไขมันในร่�งก�ย (percentage of body fat) ซึ่งเป็น ก�รเปรียบเทียบน้ำ�หนักของเนื้อเยื่อไขมันกับน้ำ�หนัก ส่วนที่ไม่ใช่เนื้อเยื่อไขมัน มีวิธีก�รวัด ดังนี้

(5)

1. ก�รวัดคว�มหน�ของไขมันใต้ผิวหนัง (skin- fold thickness) โดยวัดร่�งก�ยซีกขว�ในตำ�แหน่งต่�งๆ ได้แก่ ต้นแขนด้�นหน้� (biceps) ต้นแขนด้�นหลัง (triceps) มุมล่�งของกระดูกสะบัก (subscapular) ผนัง หน้�อก หน้�ท้อง บริเวณที่อยู่ระหว่�งเส้นที่ล�กจ�ก กระดูกสะโพกตัดกับเส้นล�กจ�กรักแร้ (supraspinale) หน้�ข� (thigh) น่อง (calf) และเหนือสะโพกด้�นข้�ง (suprailiac)28 โดยใช้นิ้วมือดึงผิวหนังบริเวณนั้นขึ้น แล้วใช้ป�กคีบวัดค่�คว�มหน�ของไขมันในหน่วย มิลลิเมตร วัดซ้ำ�อย่�งน้อย 2 ครั้ง ค่�ต้องต่�งกัน ไม่เกิน 1-2 มิลลิเมตร นำ�ค่�ที่ได้ไปใช้คำ�นวณปริม�ณ ร้อยละของไขมันในร่�งก�ย ค่�ที่วัดด้วยวิธีนี้ใกล้เคียง กับวิธีก�รวัดด้วยเอกซเรย์ที่มีพลังง�น 2 ระดับ29

ข้อจำ�กัดของก�รวัดวิธีนี้ คือ ผู้วัดต้องมีคว�ม ชำ�น�ญ เพร�ะก�รดึงผิวหนังหรือไขมันใต้ผิวหนังน้อย เกินไปจะวัดได้ต่ำ� และก�รดึงม�กเกินไปอ�จดึง กล้�มเนื้อด้วย30

2. ก�รใช้เครื่องมือวัดค่�อิมพีแดนซ์ (Bio- electrical impedance analysis; BIA) โดยส่งไฟฟ้�

กระแสตรงประม�ณ 500 ไมโครแอมแปร์ คว�มถี่

50 กิโลเฮิร์ทซ์ เข้�ร่�งก�ยผ่�นแผ่นอิเล็กโตรดที่เท้�

เหยียบ เพื่อวัดคว�มต้�นท�นหรืออิมพีแดนซ์ ไขมันมีค่�

อิมพีแดนซ์ม�กกว่�กล้�มเนื้อ กระแสจึงไหลผ่�นได้ช้�

เครื่องจะคำ�นวณปริม�ณน้ำ�ทั้งหมดในร่�งก�ย เนื้อเยื่อ ส่วนที่ไม่มีไขมันและร้อยละของไขมันในร่�งก�ยโดยใช้

คว�มสูง น้ำ�หนัก อ�ยุ เพศ และอิมพิแดนซ์31 ปริม�ณ ไขมันที่วัดด้วยวิธีนี้บ่งชี้โรคอ้วนได้แม่นยำ�ม�กกว่�ดัชนี

มวลก�ย รอบเอว และสัดส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก32 และสัมพันธ์กับค่�ที่วัดด้วยป�กคีบ33 และค่�ที่วัดด้วย DEXA34 ค่�ที่วัดจะถูกต้องม�กห�กผู้ที่ถูกวัดงดน้ำ�และ อ�ห�รก่อนเข้�รับก�รวัด 4 ชั่วโมง ไม่ได้อยู่ในภ�วะ สูญเสียน้ำ�หรือเหงื่อหลังก�รออกกำ�ลังก�ย ไม่ได้ดื่ม แอลกอฮอล์ และไม่ได้กลั้นปัสส�วะ เป็นต้น

ข้อจำ�กัดของก�รวัดวิธีนี้ คือ ปัจจัยที่มีผลต่อค่�

อิมพีแดนซ์ ได้แก่ ปริม�ตรน้ำ�ในร่�งก�ย อ�ห�ร และ อุณหภูมิของผิวหนัง ซึ่งมีผลต่อค่�ที่วัดได้

3. ก�รใช้พลังง�นเอกซเรย์ 2 ระดับ (Dual- energy X-ray absorptiometry; DEXA) คือ 38 และ 70 กิโลอิเล็กตรอนโวลท์ อ�ศัยก�รดูดกลืนรังสีที่

ต่�งกันของเนื้อเยื่อ34 ผ่�นรังสีเข้�ท�งศีรษะจนถึงปล�ย เท้� เพื่อวัดปริม�ณไขมันและมวลกระดูก ก�รศึกษ�

ในเพศหญิงในรัฐฮ�ว�ยอ�ยุ 18-28 ปี พบว่�ดัชนีมวลก�ย รอบเอวและปริม�ณร้อยละไขมัน มีคว�มสอดคล้องกัน35

ข้อจำ�กัดของก�รวัดวิธีนี้ คือ เครื่องมือมีขน�ด ใหญ่ และค่�ใช้จ่�ยสูง34

4. ก�รวัดด้วยวิธีอื่นๆ เป็นก�รวัดปริม�ณไขมัน ที่ต้องทำ�ในโรงพย�บ�ล เนื่องจ�กเครื่องมือมีคว�ม ซับซ้อนและมีค่�ใช้จ่�ยสูงม�ก ได้แก่ ก�รสร้�งภ�พ ด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ ก�รวัดคว�มหน�แน่นของร่�งก�ย

ª่ǧ¤่Ò»ÃÔมÒณÃ้อยÅะ¢อ§ไ¢มѹใ¹Ã่Ò§กÒย·Õè º่§ªÕ้โäอ้ǹ

ช่วงค่�ของปริม�ณร้อยละของไขมันในร่�งก�ย แตกต่�งกันต�มอ�ยุ เพศ และเชื้อช�ติ36 องค์กร ควบคุมศูนย์ออกกำ�ลังก�ยในประเทศสหรัฐอเมริก�

(The American council on exercise) กำ�หนด ช่วงค่�ในเพศช�ย คือ ม�กกว่�ร้อยละ 25 และในเพศ หญิงม�กกว่�ร้อยละ 32 และยังกำ�หนดช่วงค่�แยกต�ม ช่วงอ�ยุ โดยใช้ดัชนีมวลก�ยเป็นเกณฑ์ 37 (ต�ร�งที่ 2) ก�รคำ�นวณปริม�ณร้อยละของไขมันในร่�งก�ย อ�จใช้สมก�รท�งสถิติ ซึ่งประกอบด้วยตัวบ่งชี้โรคอ้วน อื่นๆ สมก�รที่พบเป็นผลของง�นวิจัย 3 ฉบับ แต่ยัง สืบค้นไม่พบว่�มีผู้วิจัยอื่นนำ�ไปใช้ ดังนี้

1. สมกÒÃสำÒหÃѺàด็กแÅะผู้ใหญ่38 (แทน เพศช�ยด้วย 1 และเพศหญิงด้วย 0)

1.1 ร้อยละของไขมันในร่�งก�ยของเด็ก = (1.51 x ดัชนีมวลก�ย) - (0.70 x อ�ยุ) - (3.6 x เพศ) + 1.4

1.2 ร้อยละของไขมันในร่�งก�ยของผู้ใหญ่

= (1.20 x ดัชนีมวลก�ย) + (0.23 x อ�ยุ) - (10.8 x เพศ) - 5.4

(6)

2. สมกÒÃสำÒหÃѺผู้·ÕèมÕอÒยุ 20-84 »

แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ

2.1 ใช้คว�มหน�ของไขมันใต้ผิวหนัง รอบเอว รอบสะโพก สะบัก และดัชนีมวลก�ย39

2.1.1 ร้อยละของไขมันในร่�งก�ยเพศ ช�ย = (0.42 x ไขมันมุมล่�งกระดูกสะบัก) + (0.62 x ดัชนีมวลก�ย) - (0.28 x ไขมันต้นแขนด้�นหน้�) + (0.17 x รอบเอว) - 18.47

2.1.2 ร้อยละของไขมันในร่�งก�ย เพศหญิง = (0.42 x รอบสะโพก) + (0.17 x ไขมันมุมล่�ง กระดูกสะบัก) + (0.46 x ดัชนีมวลก�ย) - 23.75

3. ใª้ตÑÇแ»Ãàพศ อÒยุ แÅะดѪ¹ÕมÇÅกÒย40 (แทนเพศช�ยด้วย 1 และเพศหญิงด้วย 0)

ร้อยละของไขมันในร่�งก�ย = (1.65 x ดัชนี

มวลก�ย) + (0.06 x อ�ยุ) - (15.3 x เพศ) - 10.67 แม้ยังไม่ส�ม�รถบอกชัดเจนว่�ตัวบ่งชี้และช่วง ค่�ใดมีคว�มถูกต้องม�กที่สุด แต่ควรเลือกตัวบ่งชี้ที่

ส�ม�รถวัดค่�ได้ง่�ย ไม่สิ้นเปลืองค่�ใช้จ่�ยม�ก เช่น ดัชนีมวลก�ย รอบเอว สัดส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก และสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูง ดังผลก�รศึกษ�ในฝ�แฝด เพศเดียวกันช�วเก�หลี อ�ยุ 30 ปี เป็นเพศหญิง 995 คน และเพศช�ย 577 คน วัดปริม�ณไขมันในร่�งก�ย ด้วยวิธี DEXA พบว่�ตัวบ่งชี้เหล่�นี้มีคว�มสัมพันธ์

กับคว�มดันโลหิตสูง น้ำ�ต�ลในเลือดสูง ไขมันไตรกลี- เซอร์ไรด์สูงและไขมันเอชดีแอลต่ำ�41 ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง ของโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจ�กนี้ยังส�ม�รถ นำ�ค่�ที่วัดได้ไปคำ�นวณห�ร้อยละของไขมันในร่�งก�ย

สÃุ»

¢้อมูÅ¢้Ò§ต้¹แสด§ให้àห็¹Ç่ÒกÒú่§ªÕ้ภÒÇะ อ้ǹ¢ึ้¹กѺกÒÃàÅือกตÑǺ่§ªÕ้ ÇÔธÕกÒÃÇÑด¤่ÒแÅะª่ǧ

¤่Ò·Õèใª้ สำÒหÃѺ¤ÇÒมถูกต้อ§¢อ§»ÃÔมÒณÃ้อยÅะ

¢อ§ไ¢มѹ·Õèได้จÒกกÒäำҹǹ¢ึ้¹กѺ¤ÇÒมถูกต้อ§

¢อ§ตÑÇแ»Ã·Õèใª้ใ¹สมกÒÃด้Çย ผÅ·Õèได้จÒกกÒÃศึกษÒ ต่Ò§ๆ มÕ¤ÇÒมแตกต่Ò§กѹ à¹ืèอ§จÒกกÅุ่มตÑÇอย่Ò§

·ÕèศึกษÒมÕ¤ÇÒมแตกต่Ò§กѹ ·Ñ้§อÒยุ àพศ จำҹǹ¤¹ แÅะ¤ÇÒมªุก¢อ§โäอ้ǹใ¹กÅุ่มตÑÇอย่Ò§¹Ñ้¹ ¹อกจÒก

¤ÇÒมพยÒยÒมใ¹กÒäÑดกÃอ§โäแÅ้Ç ºุ¤ÅÒกÃต้อ§

·ำÒให้»ÃะªÒª¹àห็¹¤ÇÒมสำÒ¤Ñญ¢อ§กÒÃสÃ้Ò§àสÃÔม สุ¢ภÒพ¢อ§ต¹àอ§àพืèอª่Çย»้อ§กѹโäต่Ò§ๆ แÅะ

¹ำÒสู่กÒÃแก้»ัญหÒสÒธÒÃณสุ¢อย่Ò§ยÑè§ยื¹

àอกสÒÃอ้Ò§อÔ§

1. Narksawat K, Podang J, Punyarathabundu P, et al.

Waist circumference, body mass index and health risk factors among middle aged Thais. J Public Health 2007; 19: 10 - 5.

ตÒÃÒ§·Õè 2 แสดงปริม�ณร้อยละของไขมันในร่�งก�ย แยกต�มเพศ อ�ยุ และดัชนีมวลก�ย17

ª่ǧอÒยุ Ã้อยÅะ¢อ§ไ¢มѹใ¹Ã่Ò§กÒย (àพศªÒย) Ã้อยÅะ¢อ§ไ¢มѹใ¹Ã่Ò§กÒย (àพศหญÔ§)

(»‚)

ตÒมดѪ¹ÕมÇÅกÒย (กÔโÅกÃÑมต่อตÒÃÒ§àมตÃ) ตÒมดѪ¹ÕมÇÅกÒย (กÔโÅกÃÑมต่อตÒÃÒ§àมตÃ) ผอม »กตÔ ¹้ำÒห¹ÑกàกÔ¹ อ้ǹ ผอม »กตÔ ¹้ำÒห¹ÑกàกÔ¹ อ้ǹ BMI<18 BMI 18-24 BMI25 BMI30 BMI<18 BMI 18-24 BMI25 BMI30

20-40 <8 8-19 19-25 >25 <21 21-33 33-39 >39

41-60 <11 11-22 22-27 >27 <23 23-35 35-40 >40

61-79 <13 13-25 25-30 >30 <24 24-36 36-42 >42

หมÒยàหตุ: Body mass index; BMI หม�ยถึง ดัชนีมวลก�ย

(7)

2. Hsieh SD, Yoshinaga H, Muto T. Waist-to-height ratio, a simple and practical index for assessing central fat distribution and metabolic risk in Japanese men and women. Int J Obes Relat Metab Disord 2003; 27: 610 - 6.

3. Gallagher D, Heymsfield SB, Heo M, et al. Healthy percentage body fat ranges: an approach for developing guidelines based on body mass index.

Am J Clin Nutr 2000; 72: 694 - 701.

4. Rita S, Hung-Kwan S, Kai-Chow C, et al. Waist circumference and waist-to-height ratio of Hong Kong Chinese children. BMC Public Health 2008; 8:

324 - 6.

5. Chooprapawan C, editor. National health examination survey, 1991-1994. Nonthaburi: Health Systems Research Institute; 1996.

6. Health systems research institute and bureau of policy and strategy. Third national health examination survey, 2003-2004. Bangkok: The War Veterans Organization of Thailand; 2006; p.124 - 34.

7. Aekplakorn W, Mo-suwan L. Prevalence of obesity in Thailand. Obes Rev 2009; 10: 589 - 92.

8. Bray GA. Epidemiology, risks and pathogenesis of obesity. Meat Science 2005; 71: 2-7.

9. Nhlbi.nih.gov [homepage on the Internet]. North America: The practical guide to the identification, evaluation and treatment of overweight and obesity in adults [cited 2010 Oct 11]. Available from:

http://www.nhlbi.nih.gov/guidelines/obesity/

prctgd_c.pdf

10. World Health Organization, International asso- ciation for the study of obesity, international obesity task force. The Asia-pacific perspective: redefining obesity and its treatment [monograph on the Internet].

Sydney: Health Communications; 2000 [cited 2010 Oct 11]. Available from: http://www.asso.org.au/

profiles/profs/reportsguides/obesity/371.

11. Ko GTC, Chan JCN, Cockram CS, et al. Prediction of hypertension, diabetes, dyslipidemia or albumi- nuria using simple anthropometric index in Hong Kong Chinese. Int J Obes Relat Metab Disord 1999; 23:

1136 - 42.

12. Berecki-Gisolf J, Spallek M, Hockey R, et al.

Height loss in elderly women is preceded by osteoporosis and is associated with digestive problems and urinary incontinence. Osteoporos Int 2009; 21: 479 - 85.

13. Lau DC, Douketis JD, Morrison KM, et al.

2006 Canadian clinical practice guidelines on the management and prevention of obesity in adults and children (summary). CMAJ 2007; 176: S1 - 13.

14. Health promotion and environmental health department. 4th regional health promotion center [homepage on the Internet]. Rachaburi: Health Promotion Hospital [cited 2010 Oct 11]. Available from:

http://hpe4.anamai.moph.go.th/hpe/network/

ms_measure.php.

15. IDF.org [homepage on the Internet]. Belgium: The IDF consensus worldwide definition of the metabolic syndrome [cited 2010 Oct 11]. Available from: http://

www.idf.org/webdata/docs/MetSyndrome_FINAL.

pdf.

16. Zhu SK, Wang ZM, Heshka S, et al. Waist circum- ference and obesity-associated risk factors among whites in the third National Health and Nutrition Examination Survey: clinical action thresholds. Am J Clin Nutr 2002; 76: 743 - 9.

17. Flegal KM, Shepherd JA, Looker AC, et al.

Comparisons of percentage body fat, body mass index, waist circumference, and waist-stature ratio in adults. Am J Clin Nutr 2009; 89: 500 - 8.

18. Paniagua L, Lohsoonthorn V, Lertmaharit S, et al.

Comparison of waist circumference, body mass index, percent body fat and other measure of adiposity in identifying cardiovascular disease risks among Thai adults. Obes Res Clin Prac 2008;

2: 215 - 23.

19. Zhou XM, Qi BS, Pan YX, et al. The relationship between percentage body fat, waist-hip ratio and cardiovascular function in the adult females of Heilongjiang province. Zhonghua Yu Fang Yi Xue Za Zhi 2009; 43: 1056 - 9.

20. Molarius A, Seidell JC. Selection of anthro- pometric indicators for classification of abdominal

(8)

fatness: a critical review. Int J Obes Aug 1998; 22:

719 - 27.

21. Yan W, Bingxian H, Hua Y, et al. Waist-to-height ratio is an accurate and easier index for evaluating obesity in children and adolescents. Obesity 2007;

15: 748 - 52.

22. Wu HY, Xu SY, Chen LJ, et al. Waist to height ratio as a predictor of abdominal fat distribution in men. Chin J Physiol 2009; 52: 441 - 5.

23. Ashwell M, Hsieh SD. Six reasons why the waist-to-height ratio is a rapid and effective global indicator for health risks of obesity and how its use could simplify the international public health message on obesity. Int J Food Sci Nutr 2005; 56:

303 - 7.

24. Aekplakorn W, Pakpeankitwatana V, Lee CMY, et al. Abdominal obesity and coronary heart disease in Thai men. Obesity 2007; 15: 1036 - 42.

25. Lin WY, Lee LT, Chen CY, et al. Optimal cut-off values for obesity: using simple anthropometric indices to predict cardiovascular risk factors in Taiwan. Int J Obes 2002; 26: 1232 - 8.

26. Maffeis C, Banzato C, Talamini G. Waist-to-height ratio, a useful index to identify high metabolic risk in overweight children. J Pediatr 2008; 152: 207 - 13.

27. Biro FM, Huang B, Morrison JA, et al. Body mass index and waist-to-height changes during teen years in girls are influenced by childhood body mass index. J Adolesc Health 2010; 46: 245 - 50 28. Topensports.com [homepage on the Internet].

Perth: Fitness Testing Skinfold Measurement Site [cited 2010 Oct 11]. Available from: http://www.

topendsports.com/testing/skinfold-sites.htm

29. Fiore P, Merli M, Andreoli A, et al. A comparison of skinfold anthropometry and dual-energy X-ray absorptiometry for the evaluation of body fat in cirrhotic patients. Clin Nutr 1999; 18: 349 - 51.

30. Vansant G, Van GL, De Leeuw I. Assessment of body composition by skinfold anthropometry and bioelectrical impedance technique: a comparative study. J Parenter Enteral Nutr 1994; 18: 427 - 9.

31. Siconolfi SF, Gretebeck RJ, Wong WW, et al.

Assessing total body and extracellular water from bioelectrical response spectroscopy. J Appl Physiol 1997; 82: 704 - 10.

32. Ho SC, Chen YM, Woo JLF, et al. Association between simple anthropometric indices and cardio- vascular risk factors. Int J Obes Relat Metab Disord 2001; 25: 1689 - 97.

33. Peterson MJ, Czerwinski SA, Siervogel RM.

Development and validation of skinfold-thickness prediction equations with a 4-compartment model.

Am J Clin Nutr 2003; 77: 1186 - 91.

34. Thammakumpee N, Leelawattana R, Thamprasit A.

Comparison of body fat measurement by dual- energy absorptiometry and bioelectric impedance analysis. Songkla Med J 2004; 22: 95 - 9.

35. Novotny R, Nabokov V, Derauf C, et al. BMI and waist circumference as indicators of health among Samoan women. Obesity 2007; 15: 1913 - 7.

36. Jackson AS, Stanforth PR, Gagnon J, et al. The effect of sex, age and race on estimating percentage body fat from body mass index: The Heritage Family Study. Int J Obes Relat Metab Disord 2002; 26:

789 - 96.

37. Gallagher D, Heymsfield SB, Heo M, et al.

Healthy percentage body fat ranges: an approach for developing guidelines based on body mass index.

Am J Clin Nutr 2000; 72: 694 - 701.

38. Deurenberg P, Weststrate J, Seidell J. Body mass index as a measure of body fatness: age- and sex- specific prediction formulas. Br J Nutr Mar 1991;

65: 105 - 14.

39. Pongchaiyakul C, Kosulwat V, Rojroongwasinkul N, et al. Prediction of percentage body fat in rural thai population using simple anthropometric measurements. Obes Res 2005; 13: 729 - 38.

40. Pongchaiyakul C, Pongchaiyakul C, Wanothayaroj E, et al. Association between waist circumference and percentage body fat among rural Thais. J Med Assoc Thai 2006; 89: 1592 - 600.

41. Lee K, Song Y-M, Sung J. Which Obesity Indicators are better predictors of metabolic risk?:

halthy Ttin study. Obesity 2008; 16: 834 - 40.

Referensi

Dokumen terkait

Balanced low calorie diet was had shown to reduce BW, BMI, percentage of fat mass, to increase percentage of fat free mass, to reduce waist to hip ratio,

In European Society of Cardiology (ESC) 2016, secondary prevention by controlling risk factor could.. Damay V et al: Correlation of Waist to Height Ratio with Leptin Serum

To overcome these challenges and increase the efficiency and stability indicators of foreign investment projects, project managers must follow best practices in project management and

The aims of this research are as follows: 1 to analyze the indicators and to develop a measurement of learning engagement; 2 to develop a structural equation model of learning

List of Abbreviations BMI: Body Mass Index WHR: Waist to Hip Ratio BF: Body Fat HOMA-IR: Homeostasis Model Assessment of Insulin Resistance HOMA- β: Homeostasis Model Assessment

pylori to Overweight Patients and Patients with Obesity in two Obesity Centers-Sulaimani Governorate-Kurdistan-Iraq, Prospective Case Study Series Hiwa Omer Ahmed, Aso Saeed

However, several previous dietary surveys found little to no difference in nutritional intake between the two7, and whether Occurrence of Obesity and Its Relation to Fe Deficiency in

R E S E A R C H A R T I C L E Open Access Association between anthropometric indicators of obesity and cardiovascular risk factors among adults in Shanghai, China Yue Zhang1, Yi’an