97
บทวิจารณหนังสือ Book Review
ทักษะแหงอนาคตใหม: การศึกษาเพื่อศตวรรษที่ 21
James Bellanca, Ron Brandt (บรรณาธิการ); วรพจน
วงศกิจรุงเรือง และอธิป จิตตฤกษ (ผูแปล). กรุงเทพฯ:
Open Worlds, 2554
โดย ยุวดี เพชระ
แมเรื่องศตวรรษที่ 21 จะพูดคุยกันมานาน วารสารอินฟอรเมชั่นขอนําเอามานําเสนออีกครั้งวาโลก ของศตวรรรษที่ 21 กับพฤติกรรมการเรียนรูของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงเปนเชนไร สอดคลองกับหลัก วิชาการที่ Bellanca และ Brandt ไดรวบรวมไวหรือไม ในยุคไรพรมแดนมีผลกระทบตอการศึกษาทั้งของไทย และของโลก การศึกษาของไทยจําเปนตองมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนใหแบบไมตกยุค หากใน
ปจจุบันนี้จะไมสายเกินไปที่จะนําเสนอหนังสือเรื่อง “ทักษะแหงอนาคตใหม: การศึกษาเพื่อศตวรรษที่ 21”
ซึ่งแปลมาจาก “21st Century skills : Rethinking how student learn” เพราะไมไดมีไวสําหรับครู
นักเรียนนักศึกษาเทานั้น แตเอาไวพัฒนาบุคลากรทุกกลุมทุกประเภท โดยมีเปาหมายเพื่อสรางคนใหมีคุณภาพ มีคุณคาเปนที่ยอมรับ สามารถทํางานและใชชีวิตในศตวรรษที่ 21 ไดในยุคที่ไรพรมแดน
จากคํานิยมของศาสตราจารย นายแพทยวิจารณ พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันสงเสริมการ จัดการความรูเพื่อสังคม แลรองประธานกรรมการมูลนิธิสยามกัมมาจล ที่วา หลังจากทานอานหนังสือ (ภาค ภาษาอังกฤษ) เลมนี้แลว ทําใหเกิดแรงบันดาลใจอยางแรงกลาในการเขียนบล็อก gotoknow.org โดยใชคําวา 21st Century Skills ซึ่งผูใดที่สนใจสามารถอานไดที่ http://gotoknow.org/blog/thaikm/tag/21st century skills จะชวยใหเกิดความเขาใจเกี่ยวกับสาระสําคัญของการเรียนรูเพื่อเตรียมเยาวชนออกไป ดํารงชีวิตในโลกแหงศตวรรษที่ 21 ซึ่งแตกตางไปจากศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยสิ้นเชิง ทั้งที่เปนบันทึกจาก การอานหนังสือเลมนี้และจากแรงบันดาลใจที่ไดจากกิจกรรมอื่นๆ โดยตอนทายทานไดกลาวา ทานไดติดตาม อานหนังสือเลมนี้ที่เปนฉบับแปลภาษาไทยแลว และทานยอมรับวารูสึกสนุก ตื่นเตนและไดสาระเพิ่มขึ้นอีกดวย (หนา 7)
นายแพทยประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษติ์วงศกลาวในคํานําถึงความหวงใย
ในการศึกษาของไทยตอนหนึ่งวา “ป พ.ศ. 2554 การศึกษาไทยอยูในภาวะวิกฤตดานคุณภาพดังจะเห็นไดจาก ตัวชี้วัดดานการศึกษาและการสอบหลายครั้ง ที่สําคัญกวาตัวชี้วัดคือ นักเรียนนักศึกษาซึ่งเปนผลผลิตของ การศึกษาไมมีศักยภาพที่จะเรียนรูความเปลี่ยนแปลงของโลกและพัฒนาตนเองอยางตอเนื่อง มูลนิธิฯ เชื่อวา การปฏิรูปการศึกษาที่แทควรปฏิรูปกระบวนทัศนดวย จากกระบวนทัศนเดิมที่ครูเปนผูมอบความรูใหแก
นักเรียนนักศึกษาในสถาบันตางๆ เปลี่ยนเปนชวยกันออกแบบกระบวนการเรียนรูรวมกันระหวางครูกับเด็ก และเยาวชนทุกคนในสังคม นั่นคือ “กระบวนการเรียนรูสําคัญกวาความรู” และ “ครูมิใชผูมอบความรู” แต
เปน “ผูออกแบบกระบวนการเรียนรูโดยเรียนรูไปพรอมๆ กันกับเด็กและเยาวชน” เพราะความรูมีมากมาย มหาศาลเกินกวาที่จะมอบใหนักเรียนได อีกทั้งนักเรียนในศตวรรษใหมมีหนทางคนหาความรูดวยตนเองจากทุก หนทุกแหงทั้งในสิ่งแวดลอมและอินเตอรเน็ต หากการศึกษาไทยยังย่ําอยูกับกระบวนทัศนเดิมคือ มอบความรู
อินฟอรเมชั่น
Information ปที่ 22 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2558) Volume 22 Number 2 (July-December 2015)
98
เปนรายวิชาก็จะไมทันสถานการณโลก ที่ควรทําคือ มีกระบวนทัศนใหมที่จะพัฒนาเด็กและเยาวชนใหเปนผูใฝ
เรียนรูตลอดชีวิต เด็กและเยาวชนจะเรียนรูอะไรบางขึ้นอยูกับบริบทของแตละคน แตที่ทุกคนควรมีคือ ความสามารถในการเรียนรูตลอดเวลา ตลอดชีวิตและพัมนาตนเองอยางตอเนื่อง... มูลนิธิฯ มีความตั้งใจ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาใหเปนการปฏิรูปการเรียนรูดวยการจัดการความรูระหวางครูที่มีประสบการณ
ตรงในการจัดการเรียนการสอนแบบ Problem-Based Learning (PBL) แลวสรางชุมชนการเรียนรูครูเพื่อ ศิษยที่เรียกวา Professional Learning Community (PLC) เพื่อใหชุมชนการเรียนรูครูเพื่อศิษยในทองถิ่น ตางๆ สามารถพัฒนาตนเองและการศึกษาของชาติอยางตอเนื่องและยั่งยืน” (หนา 10-11)
บรรณาธิการของหนังสือเลมนี้ มีความตั้งใจที่จะกําหนดประเด็นหลักเพื่อจะนําไปสูการตอบคําถาม พื้นฐาน 3 ขอที่จะอธิบายแนวคิดสําคัญของทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ดังนี้ (1) เหตุใดทักษะที่ระบุในกรอบ ความคิดจึงจําเปนตอการเรียนรูในอนาคต (2) ทักษะใดที่สําคัญที่สุด และ (3) เราทําอะไรไดบางที่จะชวย ผลักดันใหโรงเรียนบรรจุทักษะเหลานี้ในการสอนเพื่อใหการเรียนรูสําหรับศตวรรษที่ 21 บังเกิดผล (หนา 23)
หนังสือเลมนี้รวบรวมบทความของนักการศึกษาที่มีชื่อเสียงและเปนผูนําทางดานเศรษฐกิจ จํานวน 14 บท รวมถึงบทสงทายอีก 1 บท เนื้อหามีความเชื่อมโยงและครอบคลุมมิติตางๆ ที่นาสนใจ โดยบทที่ 1 บอกถึง ลักษณะที่สังคมควรปลูกฝงในคนรุนถัดไป จากนั้นบอกแนวทางในการพัฒนาการศึกษา กรอบแนวคิดและการ นํากรอบไปปฏิบัติในบทที่ 2-3 และ 7 ตามดวยบทบาทของชุมชน และสภาพแวดลอมนการเรียนรูแบบใหม ใน บทที่ 4-6 รวมถึงวิสัยทัศนของสิงคโปรของบทที่ 5 บทที่ 8-10 ทักษะการเรียนรู บทที่ 11-13 เทคโนโลยีเพื่อ การศึกษา และการประเมินทักษะในบทที่ 14 มีรายละเอียดดังนี้
ลักษณะที่สังคมความปลูกฝงในคนรุนถัดไป (บทที่ 1 จิตหาลักษณะสําหรับอนาคต ) Howard Gardner เปนศาสตราจารยดานการรูคิดและการศึกษา และไดรับการยกยองใหเปนปญญาชนหนึ่งในรอยคนผู
ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เขากลาวถึงจิต 5 ลักษณะที่สังคมควรปลูกฝงในคนรุนถัดไป คือ จิตที่เกี่ยวของกับการรู
คิดเปนหลักมี 3 ลักษณะไดแก จิตเชี่ยวชาญ (disciplined mind) จิตรูสังเคราะห (synthesizing mind) และ จิตสรางสรรค ( creating mind) และอีก 2 ลักษณะที่เกี่ยวของกับมนุษย นั่นคือ จิตรูเคารพ ( respectful mind) และจิตรูจริยธรรม ผ ethical mind) ซึ่งเขาไดอธิบายลักษณะสําคัญของจิตแตละลักษณะใหเห็นวา เกิดขึ้นไดอยางไร และอาจถูกบิดเบือนไดอยางไร และยังไดสรุปดวยคําแนะนําวาลักษณะทั้งหา ของจิตนาจะ หลอมรวมกันเปนหนึ่ง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของมนุษยที่เปนปจเจกบุคคล
แนวทางในการพัฒนาการศึกษา กรอบแนวคิดและการนํากรอบไปปฏิบัติ ประกอบดวย นโยบาย ใหมที่สนองความตองการในศตวรรษที่ 21 (บทที่ 2 หนา 88) เปนบทสัมภาษณของลินดา ดารลิง-แฮมมอนด
(Linda Darling-Hammond, Ph.D.) เปนผูกอตั้งสถาบันความเปนผูนําดานการศึกษาและเครือขายการ ออกแบบโรงเรียนใหมของสแตนฟอรด ( Standford Educational Leadership Institute and the School Redesign Network) ที่วา เธอไดเรียกรองใหมีการปรับนโยบายครั้งใหญเพื่อใชเปนแนวทางในการพัฒนา โรงเรียนสําหรับศตวรรษที่ 21 โดยแนะนําใหปรับเปลี่ยนมาตรฐาน หลักสูตร วิธีการสอนและการประเมินไปใน ทิศทางเดียวกัน สรางความเขมแข็งทางวิชาชีพในหมูครูและผูบริหารโรงเรียน ปรับเปลี่ยนตารางเวลาใหครูมี
สวนรวมในการตัดสินใจทางวิชาชีพมากขึ้น และจัดสรรทรัพยากรใหแกโรงเรียนตางๆ อยางเทาเทียม พรอมทั้ง กําชับใหสหรัฐอเมริกาใชแนวทางที่สมดุลมากขึ้นในการปฏิรูปโรงเรียน และเห็นวาการเปลี่ยนแปลงเหลานี้
จําเปนอยางยิ่งหากสหรัฐฯ ตองการกอบกูความเปนผูนําดานการศึกษา การเปรียบเทียบกรอบความคิด สําหรับทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 3 หนา 110) โดย คริส ดีดี้ ( Chris Dede, Ed.D.) ดํารงตําแหนง ศาสตราจารยทิโมธี อี. เวียรธ ดานเทคโนโลยีการเรียนรูที่บัณฑิตวิทยาลัยศึกษาศาสตรแหงอารเวิรด และเปน สมาชิกภาคีเพื่อทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ซึ่งเขาไดเปรียบเทียบทักษะสําคัญตางๆ สําหรับศตวรรษที่ 21 โดยตั้ง
อินฟอรเมชั่น
Information ปที่ 22 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2558) Volume 22 Number 2 (July-December 2015)
99 คําถามวา “คําวาทักษะแหงศตวรรษที่ 21 นั้นมีนิยามที่หลากหลายเพียงใด” และไดตั้งขอสังเกตวา ความไม
ชัดเจนของคําวา ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 อาจเปนปญหา การตรวจสอบของเขาจึงใหความกระจางวา กรอบ ความคิดทั้งหลายนั้นมีอะไรเหมือนกัน และมีอะไรบางที่เปนจุดตางชวยเสริมแนวคิดความหมายใหกับแนวคิดที่
กําลังมีอิทธิพลนี้ และกรอบความคิดในการนําไปปฏิบัติเพื่อสนับสนุนทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 7 หนา 240) เอลเลียต ซีฟ ( Elliott Seif, Ph.D.) และเจย แม็คไท (Jay McTighe, Ed.D.) ไดสํารวจและตอบคําถาม ที่วา การรวมผลลัพธที่พึงประสงคสําหรับศตวรรษที่ 21 เขาไปในหลักสูตรที่อัดแนนซึ่งตกคางมาจากศตวรรษ กอนไดอยางไร โดยใชแนวทางโดยรวมในการปฏิรูปการศึกษาจากหลักและแนวปฏิบัติของการออกแบบการ เรียนรูเพื่อสรางความเขาใจ ซึ่งประกอบดวยองคประกอบหลักที่สัมพันธกัน 5 ประการคือ 1) พันธกิจดานการ สอน 2) หลักในการเรียนรู 3) หลักสูตรและระบบประเมินผล 4) โปรแกรมการสอนและแนวปฏิบัติ และ 5) ปจจัยสนับสนุนโดยรวม ซึ่งสามารถนําแนวคิดนี้ไปปฏิบัติในการเรียนการสอนเพื่อสรางทักษะแหงศตวรรษใหม
แกนักเรียนทุกคน
บทบาทของชุมชนและสภาพแวดลอมในการเรียนรูแบบใหม ประกอบดวย บทบาทของชุมชนการ เรียนรูทางวิชาชีพตอความกาวหนาของทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 4 หนา 146) ริชารด ดูโฟร
(Richard DuFour, Ed.D.) และรีเบ็กคา ดูโฟร (Rebecca DuFour, M.Ed.) ทั้งคูเปนนักการศึกษาที่อภิปราย ถึงสภาพแวดลอมในโรงเรียน ที่จําเปนตอการสอนทักษะแหงศตวรรษที่ 21 โดยใหขอสังเกตวา สภาพแวดลอม ที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการสอนทักษะชีวิตและทักษะการทํางานอยางที่ภาคีเพื่อทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ตองการคือ ชุมชนการเรียนรูวิชาชีพ ( Professional Learning Community: PLC) ที่เปนตนแบบของทักษะ เหลานั้น จะชวยผลักดันใหเกิดการพัฒนาอยางตอเนื่องและผูที่มีความชํานาญในกระบวนการชองชุมชนการ เรียนรูทางวิชาชีพคือ ผูที่เหมาะสมที่สุดที่จะชวยเตรียมความพรอมใหนักเรียนและตนเองเพื่อรับมือกับความทา ทายและโอกาสในอนาคตที่ไมแนนอน และการออกแบบสภาพแวดลอมในการเรียนรูแบบใหมเพื่อสนับสนุน ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 6 หนา 196) บ็อบ เพิรลแมน ( Bob Pearlman) เปนผูนําเรื่อง การปฏิรูป การศึกษาระดับชาติของสหรัฐอเมริกา ชี้ใหเห็นวา การออกแบบอาคารเรียนแบบใหมตองคํานึกถึงประโยชน
กอนรูปแบบ นั่นคือ การมีสวนรวม การแกไขปญหา และการสื่อสาร ฉะนั้น การออกแบบอาคารเรียนแบบเดิม คือสไตลกลองสี่เหลี่ยมที่คุนเคยในปจจุบันเหมาะกับโมเดลของโรงงานที่ลาสมัยไปแลว
วิสัยทัศนการศึกษาของสิงคโปรที่วา วิสัยทัศนของสิงคโปร: สอนใหนอยลง เรียนรูใหมากขึ้น(บทที่5 หนา 170) โรบิน โฟการตี้ ( Robin Fogarty, Ph.D.) และไบรอัน เอ็ม พีท ( Brian M. Pete) เปนตัวแทนของ ภาคเอกชน ซึ่งทั้งสองคนทํางานเปนที่ปรึกษาดานการศึกษาใหกับโครงการ “สอนใหนอยลง เรียนรูใหมากขึ้น”
(Teach Less, Learn More) ซึ่งเปนกรอบวิสัยทัศนดานการศึกษาของสิงคโปรที่สรางขึ้นเพื่อเตรียมประเทศให
พรอมเขาสูศตวรรษที่ 21 โดยใชเปนแนวทางการสอนแบบใหมที่ใหนักเรียนทํางานเปนทีมและตัดสินใจรวมกัน ชวยกระตุนใหนักเรียนเขาใจไดมากกวาทองจํา
ทักษะการเรียนรู ประกอบดวย การเรียนรูจากปญหา : รากฐานสําหรับทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 8) การเรียนรูแบบรวมมือและการแกไขความขัดแยง : ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 9) และการ เตรียมนักเรียนใหเชี่ยวชาญทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 10) โดยจอหน แบเรลล ( John Barell) (บทที่ 8 หนา 272) กลาวถึงการเรียนรูจากปญหาซึ่งเปนวิธีการที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะศตวรรษที่ 21 และอธิบาย วิธีการที่ครูจะสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรจากวิธีที่สอนอยูฝายเดียวไปสูการสอนที่เปดโอกาสแกนักเรียนใหมี
สวนรวมในการแกปญหาและรูจักการตั้งคําถาม ซึ่งสามารถใชไดกับนักเรียนทุกวัย ทุกระดับความสามารถ เด วิล ดับเบิลยู. จอหนสัน (David W. Johnson) และโรเจอร ที. จอหนสัน ( Roger T. Johnson) (บทที่ 9 หนา 304) ชี้ใหเห็นความทาทาย 4 ประการในศตวรรษที่ 21 ไดแก 1) การพึ่งพากันในระดับโลกที่มีมากขึ้น 2)
อินฟอรเมชั่น
Information ปที่ 22 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2558) Volume 22 Number 2 (July-December 2015)
100
จํานวนประเทศประชาธิปไตยที่เพิ่มมากขึ้น 3) ความสัมพันธระหวางบุคคลมีอิทธิพลตอการพัฒนาอัตลักษณ
สวนบุคคล โดยมีการอภิปรายวา การเรียนรูแบบรวมมือ การพิพาทเชิงสรางสรรค และการตอรองเพื่อ แกปญหา เปนแนวทางการสอนใหนักเรียนเพิ่มความสามารถที่จะเกิดประโยชนตอนักเรียนในการดําเนินชีวิต และดักลาส ฟเชอร (Douglas Fisher) และแนนซี เฟรย (Nancy Frey) (บทที่ 10 หนา 332) อธิบายวิธีการที่
ครูจะสามารถใชรับมือกับความกาวหนาทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงและตามความตองการของนักเรียนใน ศตวรรษที่ 21 ไดแก การพิจารณาหนาที่การใชงานมากกวาตัวเครื่องมือ การทบทวนนโยบายดานเทคโนโลยี
และการพัฒนาความคิดของนักเรียนผานการสอนอยางจงใจ
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ไดแก นวัตกรรมจากเทคโนโลยี (บทที่ 11 หนา 358) เชอริล เลมกี
(Cheryl Lemke) แนะนํานวัตกรรมที่สําคัญตอการเรียนรูแหงศตวรรษที่ 21 ไดแก การทําใหเห็นภาพ การทํา ความรูใหเปนประชาธิปไตย และวัฒนธรรมการมีสวนรวมในการเรียนรู ซึ่งตองใชเทคโนโลยีมาชวย ซึ่งแนนอน วาไดผลดีกวาการสื่อสารแบบเดิมที่ใชภาษาเปนหลัก เทคโนโลยีล้ําหนา ขอมูลลาหลัง (บทที่ 12 หนา 394) อลัน โนเวมเบอร (Alan November) กลาวย้ําเหตุผลของเพิรลแมนในการออกแบบโรงเรียนขึ้นมาใหม โดยชี้
ขอควรระวังในการใชเทคโนโลยีราคาแพงซึ่งเปนการดําเนินกลยุทธที่ผิดพลาด ดังนั้น จึงนาจะใหความสําคัญ กับการออกแบบวัฒนธรรมของโรงเรียนขึ้นใหม เพื่อชวยใหนักเรียนเกิดความรับผิดชอบมากขึ้นในการบริหาร การเรียนรูของตนเอง และไดทํางานรวมกับเพื่อนในชั้นเรียนและผูคนทั่วไป และ ทองไปในเครือขายสังคมใน ฐานะเครื่องมือการเรียนรู (บทที่ 13 หนา 408) โดย วิล ริชารดสัน ( Will Richardson) ผูมีชื่อเสียงในระดับ นานาชาติจากการทํางานรวมกับนักการศึกษาและนักเรียนในการนําเทคโนโลยีมาใชในการสอน ซึ่งอดีตเปน ผูพัฒนาบล็อก ( weblog-ed.com) ในบทนี้เขาไดเรียกรองใหนักการศึกษาหันมาสนใจเทคโนโลยีเครือขาย สังคมออนไลนที่เปนที่นิยมอยางมาก ซึงทีพลังตอการสรางศักยภาพในการเรียนรูของนักเรียนแตก็เปนปญหา ซึ่งเกิดชั้นเรียนเสมือนในระดับโลก
และ การประเมินทักษะ กรอบกาประเมินทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 14) โดย Douglas Reeves ผูกอตั้งศูนยการเรียนรูและความเปนผูนํา ไดชี้ปญหาอันทาทายของการประเมิน โดยกลาววา การวัด ทักษะตางๆ ที่ผูสนับสนุนทักษะศตวรรษที่ 21 อยางถูกตองนั้น จะตองทิ้งการทดสอบแบบมาตรฐานเสียกอน ซึ่งเขาไดเสนอเกณฑ 3 อยางเพื่อกําหนดวิธีที่นักการศึกษาจะสามารถรูไดวานักเรียนกําลังเรียนรูเนื้อหาและ ทักษะของศตวรรษที่ 21 หรือไม? และสามารถนําเกณฑเหลานี้ไปใชไดอยางไร?
บทสงทาย ภาวะผูนํา การเปลี่ยนแปลง และอนาคตของวาระทักษะแหงศตวรรษที่ 21 โดยAndy Hargreaves ย้ําถึง ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ที่เกิดขึ้นผานการเรียนการสอนของโรงเรียนในศตวรรษใหม
เทานั้น ยุทธศาสตรสําคัญในการสรางโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษใหม ตองครอบคลุมถึงการสอนและการเรียน ที่ใสใจ นวัตกรรมและความยืดหยุนของหลักสูตร การเรียนรูเพื่อปรับตัวเขากับบุคคลและเชื่อมโยงกับแผนชีวิต ของนักเรียน และการกระตุนใหเกิดเครือขายเชื่อมโยงโรงเรียนตางๆ โดยผูบริหารคอยชวยเหลือโรงเรียนเพื่อน บานที่ยังไมเขมแข็งเพื่อผลประโยชนของสังคมโดยรวม โดยมุงพัฒนาชุดทักษะแหงศตวรรษที่ 21
หนังสือเลมนี้เปนหนังสือที่จะใหความรูและแนวคิดในการพัฒนาทักษะแหงศตวรรษที่ 21 และเพื่อให
เกิดความตื่นตัวตอการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก โดยเฉพาะการศึกษาที่แนบชิดกับการดําเนินชีวิตของผูคน การนําเสนอและลําดับเนื้อหาไดดี และมีบางบทที่นาจะนําเสนอแบบตอเนื่องกัน ไดแก เทคโนโลยีล้ําหนา ขอมูลลาหลัง (บทที่ 12) ที่ผูเขียนกลาวสนับสนุน Pearlman การออกแบบโรงเรียนที่อยูใน การออกแบบ สภาพแวดลอมในการเรียนรูแบบใหมเพื่อสนับสนุนทักษะแหงศตวรรษที่ 21 (บทที่ 6) อยางไรก็ตาม ผูเขียนและผูใหสัมภาษณนั้นลวนแตเปนผูนําและผูเชี่ยวชาญทางดานการศึกษา ถือวาไดนําเสนอนวัตกรรมทาง การศึกษาที่เกิดขึ้นใหมแตนําเสนอแนวทางที่สรางสรรค
อินฟอรเมชั่น
Information ปที่ 22 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2558) Volume 22 Number 2 (July-December 2015)