Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
การศึกษาอุณหภูมิของชิ้นงานในขณะตัดเฉือนในการกัดวัสดุสเตนเลส แบบไมใชสารหลอเย็น
The Study of Workpiece Temperature During Machining in Dry Milling Stainless Steel
ปรเมศวร เบาวรรณ1* และชาญณรงค สายแกว1
Paramet Baowan1* and Charnnarong Saikaew1
Received: August 3, 2018; Revised: September 17, 2018; Accepted: September 19, 2018
บทคัดยอ
การกัดเปนหนึ่งในกระบวนการตัดโลหะที่สําคัญที่ตองพยายามคิดคนหาวิธีการที่ชวยเพิ่มประสิทธิภาพ การตัดเฉือนเพื่อหลีกเลี่ยงการใชสารหลอเย็นเพื่อความเปนมิตรตอสิ่งแวดลอม วัสดุสเตนเลสถูกขึ้นชื่อวา ตัดเฉือนไดยากเนื่องจากเปนวัสดุที่มีความเหนียว ความแข็งแรงสูง และการนําความรอนตํ่าเมื่อตัดเฉือน จะทําใหอุณหภูมิบริเวณการตัดเฉือนสูงเกิดการพอกติดของเศษบริเวณคมตัด วิธีแกไขสวนใหญใชสารหลอเย็น ในการระบายความรอนซึ่งสงผลกระทบตอสุขภาพของผูปฏิบัติงาน งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพื่อศึกษา ความสัมพันธระหวางอุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือนกับรูปรางดอกกัดและวัสดุเคลือบใหการตัดเฉือนวัสดุ
มีประสิทธิภาพและเปนมิตรกับสิ่งแวดลอม จากผลวิจัยพบวาดอกกัดมุมเลื้อย 60๐ เคลือบดวยสารเคลือบ
TiAlN สามารถปองกันการสึกหรอของคมตัดดอกกัดไดดีที่สุดและอุณหภูมิของชิ้นงานในขณะตัดเฉือน ที่สูงขึ้นนอกจากมาจากปริมาณแหลงความรอนบริเวณคมตัดที่เพิ่มมากขึ้นตามขนาดของมุมเลื้อยแลว การสึกหรอแบบแตกบิ่นก็มีสวนทําใหอุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือนเพิ่มสูงขึ้นดวย
คําสําคัญ : มุมเลื้อย; การสึกหรอแบบแตกบิ่น; งานเคลือบผิว
1 คณะวิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน ขอนแกน
1 Faculty of Engineering, Khon Kaen University, Khon Kaen
* Corresponding Author E - mail Address: [email protected]
Abstract
Milling is one of the most important machining processes that can be developed for more eff ective cutting performance to avoid use of coolants and maintain environmental friendliness.
Stainless steel is widely known as a hard-to-cut material due to its high ductility, strength and low thermal conductivity. The cutting temperature is high which causes a built-up edge on the cutting tool. A commonly used solution to this problem is to apply the coolant which has a harmful eff ect on workers’ health. Therefore, this research aimed to study the relationship between cutting temperature of workpiece and shapes of end mill as well as coating material for higher effi ciency and environmental friendliness. The results showed that the end mill with a 60-degree helix angle coated with TiAlN was the best one that could prevent the wear of the end mill’s cutting edge and the increase in cutting temperature since the higher cutting temperature did not only stem from the wider cutting edge, but also the chipping wear.
Keywords: Helix Angle; Chipping; Hard Coating
บทนํา
การตัดเฉือนที่มีความเปนมิตรตอสิ่งแวดลอมดังที่เรียกวา กรีนแมชชีนนิ่ง (Green Machining) ไดกลายเปน ทางเลือกใหมที่เขามาชวยตอบโจทยปญหาการผลิตที่อาจสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม เนื่องจากในสารหลอเย็น มีสารเคมีบางตัวที่เปนอันตรายตอผิวหนังและทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับ การตัดโลหะที่ควรหันมาใหความสนใจมากขึ้น ในกระบวนการกัดวัสดุสเตนเลสถูกขึ้นชื่อวาตัดเฉือนไดยาก ก็เปนหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับการตัดโลหะที่ตองพยายามคิดคนหาวิธีการที่ชวยเพิ่ม ประสิทธิภาพการตัดเฉือนเพื่อหลีกเลี่ยงการใชสารหลอเย็น อยางไรก็ตามเปนที่ทราบกันดีวาสเตนเลส เปนวัสดุที่มีความแข็งเหนียวสูง และการนําความรอนตํ่า [1] โดยพื้นฐานวัสดุที่มีการระบายความรอนตํ่า เมื่อตัดเฉือนจะทําใหอุณหภูมิบริเวณการตัดเฉือนสูง [2] และเกิดการพอกติดบริเวณคมตัด (Built Up Edge, BUE) เปนสาเหตุทําใหอายุการใชงานดอกกัดสั้นและคุณภาพชิ้นงานตํ่า วิธีการแกไขปญหาแบบเดิมจะใช
สารหลอเย็นเพื่อลดอุณหภูมิการตัดเฉือนแตก็จะมีผลกระทบหลายอยางตามมา ทั้งการเกิดการแตกราว ในเม็ดเกรนที่ปลายคมตัดและที่สําคัญจะสงผลเสียตอสุขภาพของผูปฏิบัติงาน [3]
ดังนั้นการกัดโดยไมใชสารหลอเย็น (Dry Machining) ไดกลายเปนทางเลือกใหมที่เขามาชวย ตอบโจทยความทาทายเหลานี้อยางเลี่ยงไมได แนวทางหลักในเรื่องของการกัดแบบไมใชสารหลอเย็นคือ การพัฒนาสมบัติของวัสดุเครื่องมือตัดโดยใหมีความทนตอความรอนหรือทําใหเกิดความรอนตํ่าที่สุด ในขณะทํางาน ซึ่งจะไปลดพลังงานในการใชแรงตัดเฉือนและแรงเสียดทาน ดวยเหตุนี้จึงมีนักวิจัยหลายคน คิดหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในการกัดวัสดุสเตนเลสแบบไมใชสารหลอเย็น เชน Emel Kuran, et al. [4] ทําการหาสภาวะที่เหมาะสมของวิธีการหลอเย็นและคาตัวแปรในการตัดเฉือนวัสดุดวยวิธีการ ออกแบบการทดลองพบวา คาความหยาบผิวและอายุการใชงานของเครื่องมือตัดเพิ่มขึ้นเมื่อตัดเฉือนดวย คาที่เหมาะสมและสามารถพยากรณไดคาไดอยางมีประสิทธิภาพ Deng Jianxin, et al. [5] ไดศึกษากลไก
Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
การสึกหรอของเครื่องมือตัดคารไบดในการตัดเฉือนสเตนเลสพบวา การสึกหรอบริเวณหลังคมตัด (Flank Wear) และอุณหภูมิการตัดเฉือนสูงขึ้นตามความเร็วตัดที่เพิ่มขึ้น Munoz-Escalona, P. et al. [3]
ศึกษาอิทธิพลของสภาวะการตัดเฉือนที่มีผลตอคาความหยาบผิวและปริมาณการใชพลังงาน การตัดเฉือนพบวา การตัดเฉือนดวยวิธีการไมใชสารหลอเย็นเปนสภาวะการตัดเฉือนที่ดีที่สุดในดานของ การใชพลังงานและคาความหยาบผิวจะแปรผันไปตามการเลือกใชคาตัวแปรการตัดเฉือนที่เลือก
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องมือตัดใหมีความทนตอการสึกหรอและความรอนดวยการใช
สารเคลือบ เชน Endrino, J. L. et al. [6] เปรียบเทียบดอกกัดเคลือบดวย AlTiN กับ AlCrN รายงานวา ดอกกัดเคลือบดวย AlTiN มีอายุการใชงานมากกวา AlCrN ถึงสองเทา Li Chen, et al. [7]
ทําการปรับปรุงสมบัติสารเคลือบ TiAlN ดวยการเคลือบ TiN เปนชั้นที่สอง พบวา TiAlN/TiN ชวยเพิ่มอายุการใชงานใหกับเครื่องมือตัดมากกวา TiAlN Dirk Biermann, et al. [8] ศึกษาสารเคลือบ
CrN, TiN, AlCrN, AlTiN and TiAlN รายงานวาการเคลือบดวย TiAlN และ AlCrN มีสวนชวย ปองกันการสึกหรอไดดีรวมไปถึงคุณภาพของผิวชิ้นงานและสารเคลือบที่ดีที่สุดคือ AlTiN จะเห็นวา งานวิจัยเหลานี้มุงเนนการแกไขปญหาไปที่การหาสภาวะการตัดเฉือนที่เหมาะสมและการหาสารเคลือบ ที่สามารถชวยปองกันการสึกหรอของเครื่องมือตัด และอีกอยางหนึ่งการวิเคราะหการเกิดขึ้นของอุณหภูมิ
ของชิ้นงานในขณะตัดเฉือนก็มีความสําคัญเชนกันเพื่อที่จะหาวิธีการปองกันเพื่อใหการตัดเฉือน เกิดความรอนตํ่าที่สุด ตามทฤษฎีแหลงพลังความรอนที่อธิบายโดย Sen Lin, et al. [9] อธิบายไววา ในขณะที่มีการกัดงาน เมื่อวิเคราะหที่จุดที่มีการเสียดสีกันระหวางดอกกัดกับชิ้นงาน แหลงพลังงานความรอน ที่เกิดอุณหภูมิของชิ้นงานมี 2 แหลง คือ บริเวณหนาคมตัด (Shear Plane) และบริเวณดานหลังคมตัด (Flank Wear - Land) ซึ่งพื้นที่ทั้งสองเปนพื้นที่ที่เกิดจากการเสียดสีของวัสดุชิ้นงานในขณะที่เกิดการตัดเฉือน และยังสามารถคํานวณหาปริมาณพื้นที่ที่สัมผัสกับชิ้นงานไดจากความสัมพันธกันของมุมเลื้อยดอกกัด ที่อธิบายในบทความของ Baowan, P. et al. [10] เมื่อระยะความยาวคมตัดดานขางของดอกกัดที่
เปลี่ยนแปลงไปตามคาของมุมเลื้อยดอกกัดและสามารถคํานวณหาความยาวนี้ไดดวยสมบัติของ ตรีโกณมิติ เมื่อมุมเลื้อยมีคาสูงขึ้นเปนผลทําใหปริมาณพื้นที่ของแหลงความรอนเพิ่มขึ้นตาม
ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงนําเสนอความสัมพันธระหวางอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือนกับมุมเลื้อย ดอกกัดและวัสดุเคลือบที่ชวยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดเฉือนวัสดุสเตนเลสแบบแหง
วิธีดําเนินการ
1. การติดตั้งชุดการทดลอง
การออกแบบการทดลองในครั้งนี้มุงเนนการกัดแบบดานขางแบบตอเนื่องในระยะการตัด ความยาว 50 เมตร ดังนั้นการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณสําหรับการทดลองแสดงไดดังรูปที่ 1 ชิ้นงาน จะถูกเจาะรูเพื่อฝงสายเทอรโมคัปเปลชนิด K เขาไปเพื่อวัดอุณหภูมิชิ้นงานจํานวน 5 จุด เมื่อดอกกัดตัดเฉือน ชิ้นงานเคลื่อนที่เขาใกลบริเวณที่ฝงสายเทอรโมคัปเปลจะเกิดความรอนในชิ้นงานในขณะตัดเฉือน สัญญาณความรอนจะถูกสงเขาไปที่ชุดแปลงสัญญาณ (Data Logger) แลวแปลงเปนตัวเลขอุณหภูมิ
ของชิ้นงานที่เกิดขึ้นในขณะนั้นแลวแสดงผลสงออกมาที่หนาจอคอมพิวเตอรและบันทึกผล เพื่อติดตาม ตรวจสอบแนวโนมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิชิ้นงานในขณะตัดเฉือน
รูปที่ 1 การติดตั้งชุดการทดลองเก็บขอมูล 2. สภาวะการตัดเฉือน
วัสดุชิ้นงานทดลองใชวัสดุสเตนเลสเกรด 304L มีสมบัติการนําความรอนที่ 16.2 W/m•K [11]
เครื่องมือตัดใชเปนดอกกัดคารไบดที่มีมุมเลื้อยแตกตางกันดังรูปที่ 2 และมีรายละเอียดในตารางที่ 1 และ เคลือบดวยวัสดุที่ตางกันคือ Titanium Aluminium Nitride (TiAlN) และ Diamond Like Carbon
(DLC) ที่มีสมบัติดังตารางที่ 2 รูปแบบการตัดเฉือนชิ้นงานแบบตัดดานขางคมตัด (Side Milling) บนเครื่องกัดอัตโนมัติแกนตั้งยี่หอ Haas VM02 ดวยคาตัวแปรการตัดเฉือนตามคําแนะนําของบริษัท ผูผลิตเครื่องมือตัด ดังตารางที่ 3 จากนั้นวัดคาความหยาบผิว (Ra) ดวยเครื่องวัดความหยาบผิว
Mitutoyo SJ210 Stylus ISO 1997 ในแนวขนานกับทิศทางอัตราปอนตัดเฉือนแนวแกน ตรวจสอบ การสึกหรอของคมตัดดอกกัดดวยกลองอิเล็กตรอนแบบสองกราด (Scanning Electron Microscopy:
SEM) ในการทดลองครั้งนี้จะใชการออกแบบการทดลองแบบ 22 แฟคตอเรียล และมีจํานวน 3 ซํ้า รวมเปน 12 ชุดการทดลองเพื่อใหการทดลองมีความนาเชื่อถือทางสถิติ
รูปที่ 2 รูปรางมุมเลื้อย (β) ของดอกกัด
เครื่องแปลงสัญญาณ ชิ้นงานทดลอง
สายเทอรโมคับเปล
คอมพิวเตอร
Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
ตารางที่ 1 ลักษณะและคารูปรางดอกกัด
รายละเอียด คา
ขนาดเสนผานศูนยกลาง (มม) 10
ความยาวคมตัด (มม) 25
มุมเลื้อย (o) 30, 60
มุมหลบแนวแกน (o) 4
มุมหลบแนวรัศมี (o) 6
จํานวนฟน (ฟน) 4
ตารางที่ 2 สมบัติของสารเคลือบผิว
รายการ TiAlN DLC
ความหนาฟลม (ไมโครเมตร) 2.87 1.12
ความแข็ง (Hv) 2300 3000
สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.45 0.1
ตารางที่ 3 คาตัวแปรการตัดเฉือน
ตัวแปร คา
ความเร็วตัด: Vc (ม/นาที) 120
อัตราปอน: F (มม/ฟน) 0.05
ความลึกกัดแนวแกน: ap(มม) 20.0
ระยะปอนตัดแนวรัศมี: ae (มม) 0.2
ผลการทดลอง
1. อุณหภูมิของชิ้นงาน
การกัดอยางตอเนื่องถือวาเปนอีกหนึ่งปจจัยที่มีความสําคัญในการนําไปวิเคราะหเพื่อปรับปรุง กระบวนการกัดแบบดานขางใหมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ในสวนนี้เปนการอธิบายอิทธิพลที่เกิดขึ้นระหวาง ขนาดของมุมเลื้อยดอกกัดและชนิดของสารเคลือบที่มีผลตออุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือนจากรูปที่ 3 (ก) - (ง) จะเห็นวาอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือนมีแนวโนมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะทางการตัดเฉือนที่มากขึ้น ในแตละจุดที่มีการวัดอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือนที่ระยะ 10 - 50 เมตร T1 - T5 ในแตละจุด การวัดอุณหภูมิของชิ้นงานจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อดอกกัดเคลื่อนที่ตัดเฉือนเขามาใกลจุดที่ฝงสาย เทอรโมคัปเปลไวในแตละชวงระยะการวัดจนมาสัมผัสกับจุดที่ฝงไวก็จะไดอุณหภูมิของชิ้นงานในขณะตัดเฉือน ที่ระยะการตัดเฉือนนั้น ๆ หลังจากผานจุดที่ฝงสายเทอรโมคับเปลไปแลวสัญญาณอุณหภูมิของจุดนั้น ก็จะดิ่งลงมาสูอุณหภูมิปกติ จากรูปที่ 3 (ก) - (ข) กราฟดอกกัดมุมเลื้อยขนาด 30๐ และ 60๐ ที่เคลือบ
ดวย TiAlN มีคาอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือนแตกตางกัน สังเกตุจากคาอุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือน ที่กัดดวยดอกกัดมุมเลื้อย 60๐ มีคาสูงกวาดอกกัดมุมเลื้อย 30๐ ทุกระยะการตัดเฉือน ซึ่งเปนไปตามหลักทฤษฎี
แหลงพลังงานความรอนที่มีปริมาณเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดของมุมเลื้อย ในทํานองเดียวกันดอกกัดมุมเลื้อย ขนาด 30๐ และ 60๐ ที่เคลือบดวย TiAlN มีความเสถียรมากในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของชิ้นงาน สังเกตจากมีความแปรผันนอยสามารถรักษาระดับของอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือนใหใกลเคียงกัน ตลอดระยะการตัดเฉือน เนื่องจากสารเคลือบ TiAlN มีความโดดเดนของความสามารถในการยึดเกาะที่ดี
และมีความแข็งทําใหสามารถตานทานการสึกหรอไดดีที่อุณหภูมิสูง [12] - [13]
(ก) มุมเลื้อย 30o เคลือบ TiAlN
(ข) มุมเลื้อย 60o เคลือบ TiAlN
(ค) มุมเลื้อย 30o เคลือบ DLC
รูปที่ 3 อิทธิพลของมุมเลื้อยและสารเคลือบตออุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือน
Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
(ง) มุมเลื้อย 60o เคลือบ DLC
รูปที่ 3 อิทธิพลของมุมเลื้อยและสารเคลือบตออุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือน (ตอ)
ในทางตรงกันขามดอกกัดมุมเลื้อยขนาด 30๐ และ 60๐ เคลือบดวยสารเคลือบ DLC มีอุณหภูมิ
ชิ้นงานขณะตัดเฉือนสูงกวาดอกกัดเคลือบดวย TiAlN อยางชัดเจนประมาณ 3 เทา ดังรูปที่ 3 (ค) - (ง) ดอกกัดมุมเลื้อยขนาด 30๐ เคลือบดวยสารเคลือบ DLC มีแนวโนมสูงขึ้นอยางรวดเร็วจนกระทั่งถึง ระยะทางการตัดเฉือน 50 เมตร มีอุณหภูมิชิ้นงานขณะตัดเฉือนสูงถึง 275 oC จนเกิดการหลอมของเศษตัด เขาไปพอกติดที่คมตัด เชนเดียวกันกับดอกกัดมุมเลื้อยขนาด 60๐ เคลือบดวยสารเคลือบ DLC มีอุณหภูมิ
ชิ้นงานขณะตัดเฉือนสูงถึง 250 oC อยางรวดเร็วเพียงแคระยะทางการตัดเฉือนแค 30 เมตร เกิดการหลอม ของเศษตัดเขาไปพอกติดที่คมตัดอยางรุนแรงจนทําใหดอกกัดไมสามารถตัดเฉือนตอไปไดอีก เนื่องมาจาก จุดดอยของวัสดุเคลือบ DLC ที่มีการยึดเกาะที่ไมดี [14] ทําใหไมสามารถปองกันการสึกหรอคมตัดจากการ ตัดเฉือนไดนานจึงเกิดการสึกหรออยางรวดเร็วนําไปสูการสูงขึ้นของอุณหภูมิของชิ้นงานขณะตัดเฉือน
จากรูปที่ 4 เปนที่นาประหลาดมากในการทดลองนี้เกิดการพอกติดของเศษที่คมตัดขึ้นกับดอกกัด ที่เคลือบดวย DLC เทานั้น ทั้งที่มีงานวิจัยจํานวนหนึ่งไดอธิบายวา DLC มีสมบัติโดดเดนอีกอยางหนึ่ง คือ คาสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตํ่าทําใหมีความลื่น [15] - [17] ซึ่งไมนาจะเกิดเหตุการณนี้ได อาจเปน เพราะงานวิจัยนี้เปนการตัดเฉือนแบบตอเนื่องเปนเวลานานจนทําใหชั้นเคลือบของ DLC ที่มีความบาง จนทําใหไมสามารถปองกันการสึกหรอไดนาน
รูปที่ 4 การพอกติดคมตัดของเศษตัดบนคมตัดดอกกัดเคลือบดวยวัสดุเคลือบ DLC
(ก) เศษตัดปกติ (ข) เศษตัดที่เกิดจากการพอก รูปที่ 5 รูปรางของเศษตัดที่ไดจากการตัดเฉือน
นอกจากนี้กอนเกิดการพอกอัดจนเครื่องมือตัดไมสามารถตัดเฉือนไดจะมีสัญญาณเตือนกอน โดยสามารถสังเกตไดจากลักษณะรูปรางของเศษตัดดังรูปที่ 5 (ก) - (ข) เปนความแตกตางกันของเศษตัด รูปที่ 5 (ก) เปนเศษตัดที่ไดจากการตัดเฉือนปกติทั่วไปที่มีรูปรางแบนยาวและมวนเปนเกลียวแตกตางจาก รูปที่ 5 (ข) เปนลักษณะเศษตัดที่เกิดจากการตัดเฉือนที่ไมสมบูรณเนื่องจากคมตัดเกิดการพอกอัดของเศษ
2. การสึกหรอของคมตัดดานขาง
คมตัดดานขางของดอกกัดเปนอีกปจจัยหลักที่มีอิทธิพลตออายุการใชงานของดอกกัดใน การกัดแบบดานขางเนื่องจากเปนสวนที่ใชตัดเฉือนวัสดุจึงกลายเปนตัวชี้วัดอายุการใชงานของดอกกัด จากรูปที่ 6 (ก) - (ฌ) เมื่อทําการทดลองกัดชิ้นงานอยางตอเนื่องจนกระทั่งระยะการตัดเฉือนที่ 50 เมตร ดอกกัดที่มีมุมเลื้อย 30o และ 60o ที่เคลือบดวย TiAlN และ DLC พบวาเกิดการสึกหรอที่ชัดเจน 2 ชนิด คือ การสึกหรอหลังคมตัด (Flank Wear) และการสึกหรอแบบแตกบิ่น (Chipping) การสึกหรอแบบ หลังคมตัดเกิดบนดอกกัดที่เคลือบดวยสาร TiAlN การสึกหรอนี้ถือวาเปนการสึกหรอที่ไมมีความรุนแรง มากนัก สังเกตจากคมตัดที่มีการเปลี่ยนรูปรางนอยมากโดยเฉพาะดอกกัดมุมเลื้อย 60o ดังรูปที่ 6 (ช), (ฌ) เนื่องจากดอกกัดที่มุมเลื้อยสูงจะเกิดแรงในการตัดเฉือนตํ่า [18] - [19] รวมไปถึงสมบัติของสารเคลือบ
TiAlN ที่มีความแข็งและยึดเกาะที่ดีทําใหประสิทธิภาพในการปองกันการสึกหรอของดอกกัดดีขึ้น ในขณะที่ดอกกัดที่เคลือบดวยสารเคลือบ DLC พบการสึกหรอแบบแตกบิ่นที่เกิดจากการที่
ปลายคมตัด ไมสามารถรับภาระแรงในการตัดเฉือนไดนานทําใหคมตัดเสียรูปอยางเห็นไดชัดตาม รูปที่ 6 (จ) - (ซ) เนื่องจากขอดอยของวัสดุเคลือบ DLC ที่มีการยึดเกาะที่ไมดี ทําใหไมสามารถปองกัน การสึกหรอของปลายคมตัดจากการตัดเฉือนไดนาน การสึกหรอแบบแตกบิ่นนี้สงผลกระทบตอดอกกัดที่มี
มุมเลื้อยสูงอยางมากเพราะที่มุมเลื้อยสูงนั้นมีปริมาณพื้นที่แหลงความรอนมาก เมื่อดอกกัดเกิดการแพรกระจาย ของรอยแตกบิ่นที่คมตัดทําใหการตัดเฉือนไมสมบูรณสงผลใหเกิดอุณหภูมิของชิ้นงานสูงขึ้นอยางรวดเร็ว จนทําใหเกิดความลมเหลวของการตัดเฉือนดังดอกกัดมุมเลื้อย 60o เคลือบดวยสาร DLC ในการทดลองครั้งนี้
เมื่อวิเคราะหเชื่อมโยงไปถึงอุณหภูมิของชิ้นงานนอกจากปริมาณของพื้นที่แหลงความรอนแลว การสึกหรอแบบแตกบิ่นก็มีสวนทําใหอุณหภูมิของชิ้นงานเพิ่มสูงขึ้นดวย ซึ่งหมายรวมไปถึงอิทธิพล ชนิดของสารเคลือบที่จะตองมีความสามารถในการปองกันการเกิดการสึกหรอแบบนี้
Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
รูปที่ 6 การสึกหรอของคมตัดดอกกัดที่ตรวจสอบดวย SEM
(ก) ปลายคมตัดดอกกัดมุมเลื้อย 30๐ (ข) ปลายคมตัดดอกกัดมุมเลื้อย 30๐
เคลือบดวย DLC เคลือบดวย TiAlN
(ค) คมตัดดานขางดอกกัดมุมเลื้อย 30๐ (ง) คมตัดดานขางดอกกัดมุมเลื้อย 30๐
เคลือบดวยDLC เคลือบดวยTiAlN
(จ) ปลายคมตัดดอกกัดมุมเลื้อย 60๐ (ช) ปลายคมตัดดอกกัดมุมเลื้อย 60๐
เคลือบดวยDLC เคลือบดวยTiAlN
WD11.1mm 20.0kV x500
WD11.1mm 20.0kV x500 WD11.1mm 20.0kV x500
WD11.1mm 20.0kV x500 WD11.1mm 20.0kV x500
TiAlN, β= 30o TiAlN, β= 30o
TiAlN, β= 60o DLC, β= 30o
DLC, β= 60o
WD11.1mm 20.0kV x500 DLC, β= 30o
Chipping
Chipping
Chipping
Flank wear Flank wear
Flank wear
รูปที่ 6 การสึกหรอของคมตัดดอกกัดที่ตรวจสอบดวย SEM (ตอ)
สรุปผลการวิจัย
ดอกกัดมุมเลื้อยสูงจะทําใหอุณหภูมิของชิ้นงานในขณะตัดเฉือนเพิ่มสูงขึ้นตามเนื่องจากมีปริมาณของ พื้นที่แหลงความรอนมากกวาดอกกัดมุมเลื้อยตํ่า ในขณะที่ความแตกตางกันของวัสดุเคลือบก็มีผลทําให
อุณหภูมิของชิ้นงานในขณะตัดเฉือนแตกตางกันเชนกัน ดอกกัดเคลือบดวยวัสดุ TiAlN จะมีอุณหภูมิ
ของชิ้นงานในขณะตัดเฉือนตํ่ากวาดอกกัดเคลือบดวยวัสดุ DLC เนื่องจากสารเคลือบ TiAlN สามารถ ปองกันการสึกหรอของคมตัดดอกกัดไดดีกวาสารเคลือบ DLC การสึกหรอแบบแตกบิ่นซึ่งเปนการสึกหรอ ที่มีความรุนแรงสูงทําใหอุณหภูมิของชิ้นงานสูงขึ้นอยางรวดเร็ว นําไปสูความลมเหลวของดอกกัดในการ ตัดเฉือนจะเกิดขึ้นกับดอกกัดที่เคลือบดวยวัสดุ DLC กลาวไดวานอกจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณพื้นที่
แหลงความรอนตามขนาดของมุมเลื้อยดอกกัดแลว ปจจัยที่มีผลกระทบตอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของ ชิ้นงานมาจากการแพรกระจายของการสึกหรอแบบแตกบิ่นบนคมตัดดอกกัดในการกัดวัสดุสเตนเลส แบบดานขางคมตัดโดยไมใชสารหลอเย็น
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบพระคุณสํานักงานบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแกน ในการใหการสนับสนุนทุนวิจัยในครั้งนี้
รหัสทุน 561T212 References
[1] Muammer, N. and Yakup, Y. (2011). Eff ect of Cryogenic Cooling in Milling Process of AISI 304 Stainless Steel. Transections of Nonferrous Metals Society of China. Vol. 21, pp. 72-79.
DOI: 10.1016/S1003-6326(11)60680-8
(ซ) คมตัดดานขางดอกกัดมุมเลื้อย 60๐ (ฌ) คมตัดดานขางดอกกัดมุมเลื้อย 60๐
เคลือบดวยDLC เคลือบดวยTiAlN
WD11.1mm 20.0kV x500 WD11.1mm 20.0kV x500
TiAlN, β= 60o DLC, β= 60o
Chipping Flank wear
Paramet Baowan and Charnnarong Saikaew
[2] Cordes, S. E. (2012). Thermal Stability of γ-alumina PVD Coatings and Analysis of Their Performance in Machining of Austenitic Stainless Steels. CIRP Journal of Manufacturing Science and Technology. Vol. 5, pp. 20-25. DOI: 10.1016/j.cirpj.2011.11.003
[3] Munoz-Escalona, P., Shokrani, A., and Newman, S. T. (2015). Infl uence of Cutting Environments on Surface Integrity and Power Consumption of Austenitic Stainless Steel. Robotics and Computer-Integrated Manufacturing. Vol. 36, pp. 60-69. DOI: 10.1016/j.rcim.2014.12.013 [4] Emel Kuram, Babur Ozcelik, Mahmut Bayramoglu, Erhan Demirbas, and Bilgin Tolga Simsek.
(2013). Optimization of Cutting Fluids and Cutting Parameters During end Milling by using D-optimal Design of Experiments. Journal of Cleaner Production. Vol. 42, pp. 159-166 [5] Deng Jianxin, Zhou Jiantou, Zhang Hui, and Yan Pei. (2011). Wear Mechanisms of Cemented
Carbide Tools in Dry Cutting of Precipitation Hardening Semi-Austenitic Stainless Steels.
Wear. Vol. 270, Issue 7-8, pp. 520-527. DOI: 10.1016/j.wear.2011.01.006
[6] Endrino, J. L., Fox-Rabinovich, G. S., and Gey, C. (2005). Hard AlTiN, AlCrN PVD Coatings for Machining of Austenitic Stainless Steel. Surface and Coatings Technology. Vol. 200, Issue 24, pp. 6840-6845. DOI: 10.1016/j.surfcoat.2005.10.030
[7] Li Chen, Yong Du, Xiang Xiong, Ke K. Chang, and Ming J. Wu. (2011). Improved Properties of Ti-Al-N Coating by Multilayer Structure. International Journal of Refractory Metals and Hard Materials. Vol. 29, Issue 6, pp. 681-685. DOI: 10.1016/j.ijrmhm.2011.05.001
[8] Dirk Biermann, Markus Steiner, and Eugen Krebs. (2013). Investigation of Diff erent Hard Coatings for Micromilling of Austenitic Stainless Steel. Procedia CIRP. Vol. 7, pp. 246-251. DOI:
10.1016/j.procir.2013.05.042
[9] Sen Lin, Fangyu Peng, Jie Wen, Yizhi Liu, and Rong Yan. (2013). An Investigation of Workpiece Temperature Variation in end Milling Considering Flank Rubbing Eff ect. International Journal of Machine Tools and Manufacture. Vol. 73, pp. 71-86. DOI: 10.1016/j.ijmachtools.2013.05.010 [10] Baowan, P., Saikaew, C., and Wisitsoraat, A. (2017). Infl uence of Helix Angle on Tool
Performances of TiAlN and DLC-Coated Carbide end Mills for Dry Side Milling of Stainless Steel. International Journal Advanced Manufacturing Technology. Vol. 90, Issue 9-12, pp. 3085-3097. DOI: 10.1007/s00170-016-9601-5
[11] Peckner, D. and Bernstein, I. M. (1977). Handbook of Stainless Steels. McGraw-Hill Book Company. New York
[12] Prengel, H. G., Santhanam, A. T., Penich, R. M., Jindal, P. C., and Wendt, K. H. (1997).
Advanced PVD-TiAlN Coatings on Carbide and Cermet Cutting Tools. Surface and Coatings Technology. Vol. 94-95, pp. 597-602. DOI: 10.1016/S0257-8972(97)00503-3
[13] Jindal, P. C., Santhanam, A. T., Schleinkofer, U., and Shuster A. F. (1999). Performance of PVD TiN, TiCN, and TiAlN Coated Cementedcarbide Tools in Turning. International Journal of Refractory Metals and Hard Materials. Vol. 17, pp. 163-170. DOI: 10.1016/s0263-4368(99)000086
[14] James, C., Sung, Ming-Chi Kan, and Michael Sung. (2009). Fluorinated DLC for Tribological Applications. International Journal of Refractory Metals and Hard Materials. Vol. 27, pp. 421-426
[15] Haruyo Fukui, Junya Okida, Naoya Omori, Hideki Moriguchi, and Keiichi Tsuda. (2004).
Cutting Performance of DLC Coated Tools in Dry Machining Aluminum Alloys. Surface and Coatings Technology. Vol. 187, pp. 70-76. DOI: 10.1016/j.surfcoat.2004.01.014
[16] Robertson, J. (1999). Deposition and Properties of Diamond Like Carbon. Materials Research Society Symposium Proceedings. Vol. 555, pp. 12. DOI: 10.1557/PROC-555-291
[17] Yunn-Shiuan Liao, Ting-Chang Lin, Cheng-Yu Lai, Yen-Liang Chen, Hao-Hueng Chang, Chun-Pin Lin. (2014). Cutting Performance of Diamond-Like Carbon Coated Tips in Ultrasonic Osteotomy. Journal of Dental Sciences. Vol. 9, Issue 1, pp. 63-68. DOI: 10.1016/j.jds.2013.02.014 [18] Ema, S. and Davies, R. (1989). Cutting Performance of End Mills with Diff erent Helix Angles.
International Journal of Machine Tools and Manufacture. Vol. 29, Issue 2, pp. 217-227.
DOI: 10.1016/0890-6955(89)90033-3
[19] Omar, O. E. E. K., El-Wardany, T., and Elbestawi, M. A. (2007). An Improved Cutting Force and Surface Topography Prediction Model in End Milling. International Journal of Machine Tools and Manufacture. Vol. 47, Issue 7-8, pp. 1263-1275. DOI: 10.1016/j.ijmachtools.2006.08.021