• Tidak ada hasil yang ditemukan

เกี่ยวข ้อง

4.1 ความหมายของลักษณะมุ่งอนาคต

Seginer (1991 pp. 224-237) กล่าวว่า ลักษณะมุ่งอนาคตเป็นการคาดการณ์ในอนาคต

ประกอบด้วยการวางแผน ความปรารถนา ความหวัง รวมทั้งการจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของแต่ละ บุคคล มีความต้องการให้ค่านิยมของแต่ละบุคคล ส่งเสริมแรงจูงใจให้เกิดขึ้นตามต้องการที่คาดหวังไว้

Mischel (1974 p. 287) กล่าวว่า ลักษณะมุ่งอนาคต เป็นความสามารถในการคาดการณ์ไกลและ เล็งเห็นความส าคัญ ของผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีความต้องการได้รับผลที่ดีกว่าในอนาคตหรือ มากกว่าผลที่ได้รับในปัจจุบัน โดยมีการวางแผนเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติและควบคุมตนเองให้ด าเนินการ ตามแผน เพื่อน าไปสู่เปูาหมายที่ตั้งไว้

Segura (1975 p. 5823 ได้ให้ความหมายลักษณะมุ่งอนาคต เป็นลักษณะมุ่งอนาคต ที่มี

ความสามารถในการมองอนาคตของตนเอง มีการวางแผนและสามารถจัดการอนาคตตนเองได้

ดวงเดือน พันธุมนาวิน (2550 หน้า 92) ได้ให้ความหมายลักษณะมุ่งอนาคต (Future

Orientation) มี 3 ขั้นตอนคือ 1) สามารถคิดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งไกลและใกล้ ที่เป็นนามธรรม เพราะยังไม่เกิดขึ้น 2) การยอมรับความส าคัญในสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ใกล้เคียงกับ

สิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว การยอมรับความส าคัญในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่เกิดขึ้นนั้น แสดงถึงระดับสติปัญญาขั้นสูงของ บุคคล 3) การยอมรับว่าสิ่งนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับตนได้ ทั้งสิ่งดีละไม่ดี ยอมรับผลเสียอาจเกิดขึ้นกับตนได้

ศศิธร คงครบ (2558) ได้ให้ความหมายลักษณะมุ่งอนาคต ว่าลักษณะมุ่งอนาคต เป็นการมองอนาคต ของบุคคลโดยผู้ที่มีลักษณะมุ่งอนาคต จะเป็นผู้ที่สามารถคาดการณ์ไกลและตัดสินใจเลือกกระท าได้อย่าง เหมาะสม หาแนวทางแก้ปัญหาและวางแผนการด าเนินการ เพื่อเปูาหมายที่ต้องการในอนาคต รู้จักการปฏิบัติ

ให้เกิดการอดไว้รอได้และมีความเพียรพยายามในปัจจุบันเพื่อประสบความส าเร็จในชีวิต

จากที่มีผู้ให้ความหมายของลักษณะมุ่งอนาคตดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยได้สรุป ความหมายของลักษณะ มุ่งอนาคตว่า เป็นความสามารถในการคาดการณ์อนาคตข้างหน้าของบุคคล สามารถวางแผนปฏิบัติ และ ด าเนินการตามแผนเพื่อให้บรรลุเปูาหมายในอนาคตได้ ทั้งยังสามารถเผชิญปัญหาอุปสรรคและหาทางออกได้

อย่างเหมาะสม มีความมานะอดทน เพียรพยายาม เพื่อความส าเร็จในอนาคต 4.2 พัฒนาการของลักษณะมุ่งอนาคต

Nurmi, (1991 pp. 1-59) กล่าวว่า หลักพัฒนาการของลักษณะมุ่งอนาคตไว้ 3 ข้อดังนี้

1. ลักษะมุ่งอนาคตมีพัฒนาการ อยู่ในสิ่งแวดล้อมด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เช่น ความคาดหวังต่างๆ ที่เป็นบรรทัดฐานและเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับอนาคต ที่เป็นพื้นฐานของความสนใจต่อการมุ่ง อนาคตและการวางแผน

2. ความสนใจการวางแผนและความเชื่อเกี่ยวกับอนาคต เกิดจากการเรียนรู้ การมีปฏิสัมพันธ์ กับ บุคคลอื่น ไม่เฉพาะพ่อแม่ แต่กลุ่มเพื่อนก็มีอิทธิพลต่อความคิดของเด็กในเรื่องการวางแผนส าหรับอนาคต

3. ลักษณะมุ่งอนาคตจะดีโดยมีอิทธิพลจิตวิทยาอื่นๆ ประกอบเช่น พัฒนาการด้านสติปัญญา และ สังคมนอกจากนี้ ลักษณะมุ่งอนาคตประกอบด้วยกระบวนการทางจิตวิทยา 3 ขั้นตอนดังนี้

3.1 ขั้นแรงจูงใจ บุคคลจะตั้งเปูาหมายขั้นต้นโดยเปรียบเทียบจากแรงจูงใจค่านิยม และความคาดหวังในอนาคตของตนเองเป็นพื้นฐานส าหรับเปูาหมายในอนาคต

3.2 ขั้นวางแผน บุคคลจะกระท าเพื่อให้เปูาหมายเป็นจริง โดยการวางแผนการ ท างานและวิธีการแก้ปัญหาจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อความส าเร็จในอนาคตของตน

3.3 ขั้นประเมินผล บุคคลจะประเมินผลถึงความเป็นไปได้ ของความสัมฤทธิ์ผลของ เปูาหมายและความสมบูรณ์ของแผนงาน ที่บุคคลวางไว้และตัดสินใจเลือกแนวทาง เพื่อความส าเร็จในอนาคต ของตน

บุญรับ ศักดิ์มณี (2532 หน้า 16-17) ได้เสนอแนวทางการพัฒนาลักษณะมุ่งอนาคตไว้ดังนี้

1. ให้รู้จักความหมายของการมุ่งอนาคต การมุ่งอนาคต หมายถึง ความสามารถทางการรู้ และการ คิด ตลอดจนการรับรู้ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทั้งที่เป็นเวลาใกล้ปัจจุบัน หรือห่างไกลปัจจุบันออกไป ทุกที สิ่งที่จะเกิดในอนาคตนั้น ในขณะที่คิดยังมีลักษณะเป็นนามธรรม ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรม ฉะนั้นผู้ที่มี

เชาว์ปัญญาและการรู้การคิดที่พัฒนาแล้วจึงจะสามารถคิดถึง อนาคตได้ชัดเจน และเห็นความส าคัญของ

อนาคต วิธีการฝึกให้บุคคลรู้จัก ความหมายของการมุ่งอนาคตนี้ กระท าโดยการกระตุ้นให้บุคคลรู้จักคิดถึงสิ่งที่

อาจจะเกิดในอนาคตอันใกล้และไกลอย่างมีเหตุผล โดยการยกตัวอย่าง ให้แบบอย่างของการคิดประเภทนี้ และ ให้ฝึกการรู้การคิดในท านองนี้ เพื่อให้เข้าใจความหมายของการมุ่งอนาคตในกาลเทศะต่างๆ

2. ให้เห็นความส าคัญของการมุ่งอนาคต หมายถึง การแจ้ง หรือแสดงให้ทราบถึงประโยชน์ของการ มุ่งอนาคต และโทษของการไม่มุ่งอนาคต ที่เคยปรากฏมาแล้ว หรืออาจจะเกิดขึ้นต่อไปโดยจะให้เห็นถึง

ประโยชน์และโทษ อันจะเกิดกับบุคคลและสังคมในแง่มุมต่างๆ เช่น ผลเสียอันเกิดจากการไม่มุ่งอนาคต อาจท า ให้บุคคลไม่ประสบความส าเร็จในการด าเนินชีวิตใน ขณะที่บุคคลที่มุ่งอนาคตนั้นสามารถประสบความส าเร็จได้

เป็นต้น วิธีฝึกให้บุคคลเห็นความส าคัญของการมุ่งอนาคต กระท าโดยการให้เห็นตัวอย่างของผลดีที่เกิดจากการ กระท ากิจกรรมที่มุ่งอนาคต

3. ให้รู้จักการคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคต หมายถึง ความสามารถที่จะวางแผนการและขั้นตอนการ ด าเนินการ หรือเข้าใจการเกิดและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ หรือความคาดหวังเกี่ยวกับเหตุการณ์ข้างหน้า และมองเห็นความเป็นไปได้ในอนาคตจากสภาพการณ์ในปัจจุบัน การรู้จักคาดการณ์ในอนาคต จะท าให้บุคคล รู้จักวางแผนในการท างาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตนต้องการ ดังนั้น การฝึกให้บุคคลรู้จักคาดการณ์

เกี่ยวกับอนาคต จะช่วยให้บุคคลรู้จักที่จะแลกประโยชน์ที่จะได้รับเพียงเล็กน้อยในปัจจุบันกับประโยชน์ที่

ยิ่งใหญ่กว่า ที่จะมีมาในอนาคต และตั้งเปูาหมายเกี่ยวข้องกับอนาคตได้ วิธีการฝึกนั้น อาจจะท าได้โดยวางแผน เกี่ยวกับชีวิตและการท างาน ฝึกเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความคาดหวังของตน เป็นต้น

ดังนั้น ลักษณะมุ่งอนาคตสามารถพัฒนาและส่งเสริมได้ โดยเบื้องต้นบุคคลจะต้องเข้าใจถึงความหมาย และความส าคัญของลักษณะมุ่งอนาคตเสียก่อน จากนั้นให้รู้จักคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคต โดยใช้เทคนิคต่างๆ ในการช่วยฝึก และรู้จักฝึกการวางแผนให้กับชีวิตตนเอง เพื่อให้บรรลุเปูาหมายที่ได้ก าหนดไว้ และสิ่งส าคัญคือ ต้องมุ่งเน้นให้บุคคลสามารถเข้าใจสภาพและแนวโน้มอนาคต ซึ่งจะท าให้บุคคลสามารถด ารงชีวิตอยู่ในสังคมที่

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีความสุข 4.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับลักษณะมุ่งอนาคต

Robbins and Bryan (2004) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะมุ่งอนาคต ความไม่ยั่งคิดและ พฤติกรรมเสี่ยงในกลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องคดี จากกลุ่มตัวอย่าง 300 คน พบว่า ลักษณะมุ่งอนาคตมีความสัมพันธ์กับ พฤติกรรมเสี่ยงความไม่ยั่งคิด สามารถคาดการณืถึงการใช้สุรา และสูบบบุหรี่ได้ และวัยรุ่นที่มีลักษณะมุ่ง อนาคตสูงจะมีแนวโน้มต่ าที่จะใช้สารเสพติด

Rise (2007) ศึกษาการวางแผนและการเลิกสูบบุหรี่ ด้วยการมุ่งอนาคต พบว่า ผลจากการใช้ลักษณะ มุ่งอนาคต สามารถลดการใช้บุหรี่ได้

เกษม จันทศร (2541) ศึกษาปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับการต้านทางการเสพยาบ้าของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น จ านวน 560 ราย ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่มีลักษณะมุ่งอนาคตสูง เป็นผู้มีพฤติกรรม ต้านทานการเสพยาบ้าสูงด้วย

นีออน พิณประดิษฐ์ และคณะ (2541) ศึกษาเรื่องปัจจัยทางจิตสังคมกับพฤติกรรมติดสารเสพติด ของ นักเรียนมัธยมศึกษาและนักเรียนอาชีวศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่าง จ านวน 1,491 คน เป็นนักเรียนมัธยมศึกษา จ านวน 661 คน นักเรียนอาชีวศึกษา จ านวน 568 คน นักเรียนสถานพินิจฯ จ านวน 225 คน และนักเรียนที่มารับการบ าบัดที่ศูนย์บ าบัด จ านวน 37 คน ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่มีพฤติกรรม ไม่เสพสารเสพติด มีลักษณะมุ่งอนาคตสูงกว่านักเรียนที่ติดสารเสพติด และเป็นตัวแปรที่ส าคัญที่เป็นภูมิคุ้มกันที่

สามารถท านายพฤติกรรมการไม่ติดสารเสพติดได้

กอบบุญ พึงประเสริฐ (2550) การศึกษาลักษณะมุ่งอนาคต การสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการ ดูแลสุขภาพ พบว่า ลักษณะมุ่งอนาคตมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการหลีกเลี่ยงการใชสารเสพติด และตัวแปร ด้านลักษณะมุ่งอนาคตสามารถท านายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองได้

พรรณี สมศักดิ์ (2550) ได้ศึกษาลักษณะมุ่งอนาคตของนักเรียนระดับช่วงชั้นที่ 3 ที่เรียนกลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จันทบุรีโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จันทบุรี

กลุ่มประชากร นักเรียน จ านวน 90 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีลักษณะมุ่งอนาคตมากที่สุด ด้านการศึกษาต่อ คือ จะมีการวางแผนการศึกษาก่อนตัดสินใจศึกษาต่อ ทางด้านการเลือกอาชีพที่ชอบที่สุดการปฏิบัติตนในสังคม คือจะปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม การสร้างครอบครัว

ดังนั้นสรุปลักษณะมุ่งอนาคต คือ ความสามารถในการคาดการณ์ไกลที่จะเล็งเห็น ความส าคัญของผลดี

ผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การตัดสินใจและการแก้ไขปัญหา การวางแผน การรู้จักเลือกที่จะกระท า รอคอย และความเพียรพยายามในปัจจุบัน เพื่อประสบผลส าเร็จชีวิตในอนาคต รวมทั้งความเพียรพยายามต่อสู้กับ อุปสรรคอันจะเกิดขึ้นต่อไป สามารถเผชิญเหตุการณ์ คิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ ใฝุหาความรู้ คิดปัญหาได้

หลายมุม ท าให้คิดมีคุณภาพ โดยปัจจัยที่ท าให้เกิดความคาดหวังในอนาคต คือ ความส าเร็จในการท างาน (Performance Accomplishment) การได้เห็นประสบการณ์ของผู้อื่น (Vicarious Experience) การพูดชัก จูงจากผู้อื่น (Verbal Persuasion) ความตื่นตัวทางอารมณ์ (Emotional Arousal) ลักษณะมุ่งอนาคตสามารถ พัฒนาได้หลากหลายวิธีด้วยกันขึ้นอยู่กับกลุ่มที่จะศึกษาและสถานการณ์นั้นๆ อีกทั้งลักษณะมุ่งอนาคตยังเป็น ปัจจัยที่สนับสนุนให้เยาวชนมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ไม่เป็นปัญหาสังคม และสามารถเป็นภูมิต้านทางในการ เข้าถึงแหล่งเสพติดต่างๆได้ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงท าให้ผู้ศึกษาสนใจที่จะน าเอาแนวคิดด้านลักษณะ มุ่งอนาคต ไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้มีลักษณะมุ่ง อนาคตในการที่จะมีพฤติกรรมที่เหมาะสม และลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะศึกษาผล การปรับพฤติกรรมทางปัญญาร่วมกับการมุ่งอนาคต ในวัยรุ่นที่มี

ความเสี่ยงในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาตามเทคนิคแนวคิดนี้ ในกลุ่ม วัยรุ่นที่มีความเสี่ยงในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่จะท ากับกลุ่ม ที่มีอาการติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ใช้เทคนิคการแก้ไขปัญหาและการปฏิเสธมากกว่า จึงประสบกับปัญหาการกลับไปดื่มซ้ าอีก เพราะการท า กิจกรรมในแนวคิดนี้เป็นการท ากิจกรรมที่ค่อนข้างสั้นและเป็นมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนความคิด ที่จ าเป็นต้องใช้

เวลานานจึงเห็นผล ฉะนั้นการน าแนวคิดนี้ไปใช้กับกลุ่มที่เริ่มดื่มจะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นการหยุดการดื่ม