34 สรุปได้ว่า การวัดความพึงพอใจเป็นการตรวจสองทัศนคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือวัดได้หลายแบบ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม เป็นต้น
35 ขั นตอนการน าแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไปหาประสิทธิภาพ
1. ทดลองกับกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างทั งกับเด็กเก่ง อ่อน ปานกลาง น าผลที่ได้มา ค านวณการหาประสิทธิภาพเสร็จแล้วปรับปรุงให้ดีขึ น ปกติคะแนนที่ได้ในขั นนี จะมีค่าต่ ากว่าเกณฑ์
มาก
2. ทดลองสนามคือ ทดลองกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง 35-100 คนน าผลการทดลอง ที่ได้ไปค านวณประสิทธิภาพแล้วน ามาปรับปรุงให้สมดุลอีกครั ง ผลลัพธ์ที่ได้ควรใกล้เคียงกับเกณฑ์
ที่ตั งไว้
2.7.2 วิธีการค านวณหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้
บุญชม ศรีสะอาด (2550) ระบุวิธีการหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ ดังนี
2.7.2.1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ (𝐸1) เป็นค่าที่บ่งบอกว่าแผนการจัดกิจกรรม เรียนรู้นั นสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ภายใต้สถานการณ์และกิจกรรม ที่ก าหนดให้ โดยจะมีการเก็บข้อมูลของผลการเรียนรู้อันเนื่องมาจากนวัตกรรม หรือแผนการเรียนรู้
ระยะๆซึ่งสามารถสะท้อนให้ถึงพัฒนาการและความงอกงามของผู้เรียนได้
2.7.2.2 ประสิทฺธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เป็นค่าที่บ่งบอกว่าแผนการจัดการเรียนรู้นั น สามารถที่ส่งผลเรียนรู้เกิดสัมฤทธิ์ผลได้หรือไม่บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป็นไปตามที่ก าหนดไว้ใน แผนการจัดการเรียนรู้มากน้อยเพียงใดซึ่งค านวณจากคะแนนที่ได้จากการท าแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนทุกคน
เกณฑ์ประสิทธิภาพ (E1/E2) มีความหมายแตกต่างกันหลายลักษณะในที่นี จะยกตัวอย่าง E1/E2 = 80/80 ดังนี
1. เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 1 ตัวเลข 80 ตัวแรก (E1) คือ นักเรียนทั งหมดท า แบบฝึกหัดหรือทดสอบย่อยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยล่ะ 80 ถือเป็นประสิทธิภาพของกระบวนการ ส่วน ตัวเลข 80 ตัวหลัง( E2 ) คือ นักเรียนทั งหมดที่ท าแบบสอบหลังเรียน ( Posttest ) ได้คะแนนเฉลี่ย ร้อยล่ะ 80 ส่วนการหา
ค่า E1 และ E2 ใช้สูตร ดังนี
𝐸1
∑ 𝑋1
𝑁𝐴 = 100
36 เมื่อ E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ
∑ 𝑥1 แทน คะแนนรวมจากการท าแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียน ของผู้เรียนทุกคน
N แทน จ านวนผู้เรียน
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียน
𝐸2
∑ 𝑋2
𝑁𝐵 𝑥 100
เมื่อ E2 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ
∑ 𝑥2 แทน คะแนนรวมจากการท าแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียน ของผู้เรียนทุกคน
N แทน จ านวนผู้เรียน
B แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียน
2. เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 2 ตัวเลข 80 ตัวแรก (E1) คือ จ านวนนักเรียนร้อยล่ะ 80 ท าแบบทดสอบหลังเรียน (Posttest) ได้คะแนนร้อยละ 80 ทุกคน ส่วนตัวเลข 80 ตัวหลัง (E2) คือนักเรียนทั งหมดที่ท าแบบทดสอบหลังเรียนครั งนั นได้คะแนนเฉลี่ยร้อยล่ะ 80
3. เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 3 ตัวเลข 80 ตัวแรก (E1) คือ จ านวนนักเรียนทั งหมด ท าแบบข้อสอบหลังเรียน (Posttest) ได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ส่วนตัวเลข 80 ตัวหลัง (E2) คือ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ที่นักเรียนท าเพิ่มขึ นจากแบบทดสอบนักเรียนโดยเทียบกับคะแนนท าได้ก่อน เรียน
4. เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 4 ตัวเลข 80 ตัวแรก (E1) คือนักเรียนทั งหมดท าแบบ ข้อสอบหลังเรียน (Posttest) ได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ส่วนตัวเลข 80 ตัวหลัง (E2) คือนักเรียน ทั งหมดท าแบบทดสอบหลังเรียนแต่ละข้อถูกมีจ านวนร้อยละ 80 ( นักเรียนท าข้อสอบใดถูกมีจ านวน ไม่ถึงร้อยละ 80 แสดงว่าไม่มีประสิทธิภาพและชี ให้เห็นว่าจุดประสงค์ที่ตรงกับข้อนั นมีข้อบกพร่อง ) กล่าวโดยสรุปว่าเกณฑ์ในการหาประสิทธิภาพของสื่อการเรียนการสอนจะนิยมตั งเป็น ตัวเลข 3 ลักษณะ คือ 80/80 , 85/85 , และ 90/90 ทั งนี ขึ นอยู่กับธรรมชาติของวิชาและเนื อหาที่
น ามาสร้างสื่อนั น ถ้าเป็นวิชาที่ค่อนข้างยากก็อาจตั งเป็นเกณฑ์ 80/80 หรือ 85/85 ส าหรับเนื อหาวิชา ง่าย ก็อาจตั งไว้ที90/90 เป็นต้น เมื่อค านวณแล้ว ค่าที่เชื่อถือได้ คือ 87.50/87.50 หรือ 87.50/90
37 ประสิทธิภาพของสื่อและเทคโนโลยีของการสอน จะมาจากผลลัพธ์ของการค านวณ 𝐸1/𝐸2 เป็นตัว แรก และตัวหลังตามล าดับถ้าตัวเลขเข้าใกล้ 100 มากเท่าไหร่ ยิ่งถือว่ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ น เป็น เกณฑ์ที่ใช้พิจารณาการรับรองประสิทธิภาพของการสอน
2.7 ดัชนีประสิทธิผลของคู่มือการฝึกอบรม