• Tidak ada hasil yang ditemukan

การศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจ Dr.Math & Toys ของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พร้อมคู่มือสาหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี

N/A
N/A
Nguyễn Gia Hào

Academic year: 2023

Membagikan "การศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจ Dr.Math & Toys ของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พร้อมคู่มือสาหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี"

Copied!
102
0
0

Teks penuh

(1)

Dr.Math & Toys ของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พร้อมคู่มือ ส าหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี

สิริกร ตั้งชัยกิจ

สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ปริญญาการจัดการมหาบัณฑิต

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2557

ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล

(2)
(3)

กิตติกรรมประกาศ

การจัดท าแผนธุรกิจ เรื่อง Dr.Math & Toys เป็นของเล่นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชา คณิตศาสตร์ พร้อมคู่มือส าหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี ฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ลุล่วงได้ด้วยความ ช่วยเหลือของผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนพล วีราสา และอาจารย์กฤษกร สุขเวชชวรกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา ในการศึกษาอิสระครั้งนี้ ด้วยความกรุณาที่ให้ค าปรึกษาแนะน า และชี้แนวทางที่ถูกต้อง ตลอดจน แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ด้วยความละเอียดถี่ถ้วน และเอาใจใส่ด้วยดีเสมอมา ทางผู้วิจัยโครงการรู้สึก ซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง จึงขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ผู้วิจัยขอขอบคุณ คุณครูสุขจันทร์ สุขประกอบ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการส่งเสริม พัฒนาการส าหรับเด็กที่ต้องการช่วยเหลือพิเศษโรงเรียนจิตตเมตต์ (ปฐมวัย) และโรงเรียนเพลิน พัฒนา ดร.อรพรรณ บุตรกตัญญู อาจารย์สาขาวิชา ปฐมวัยศึกษา ภาควิชาการศึกษา คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส านักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จ ากัด และบริษัท ส านักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จ ากัด ที่

คอยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเด็กปฐมวัย เด็กพิเศษ และของเล่นเด็ก รวมถึง ขอขอบคุณกลุ่มตัวอย่างที่ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามเพื่อใช้ในการประกอบการศึกษา แผนธุรกิจนี้ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวมา ณ ที่นี้ด้วย

คุณประโยชน์ของแผนธุรกิจฉบับนี้ ผู้วิจัยขอมอบให้บุคคลต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น และ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

สิริกร ตั้งชัยกิจ

(4)

บทสรุปผู้บริหาร

เนื่องจากธุรกิจของครอบครัวคือ ส านักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด เป็นบริษัทที่ผลิตสื่อการเรียนการสอน เช่น หนังสือเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบฝึกหัด ที่ใช้

ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับ อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่าง แพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาล และเอกชนทั่วประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี และเพื่อเป็นการต่อ ยอดธุรกิจด้านการศึกษาในการผลิตสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและครบวงจร ซึ่งจะส่งผลไปสู่

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษารวมทั้งการเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชน ไทยให้มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ทุกรูปแบบทั้งในและนอกห้องเรียนตามวัยและพัฒนาการของ ผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ และเต็มศักยภาพตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และยังมี

บริษัทในเครืออีก 2 บริษัทคือบริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จ ากัด ซึ่งเป็นโรงงาน ที่ผลิตของเล่นไม้ รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ท าจากวัสดุประเภทไม้ยางพารา ที่ได้รับความ น่าเชื่อถือในด้านคุณภาพของสินค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี และบริษัท ส านักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จ ากัด เป็นบริษัทที่ท าการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ส าหรับใช้ประกอบการศึกษา ทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้น ทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐาน และหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และจากปัญหาที่พบในปัจจุบันคือ ผลการประเมินการ ท ด ส อ บ Programmer for International Student Assessment (PISA) ทั้ ง ด้ า น ค ณิ ต ศ า ส ต ร์

วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ในปีพ.ศ. 2552 พบว่าเด็กไทยมีผลการประเมินต ่ากว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติ

ทุกวิชาจัดอยู่ในอันดับที่ประมาณ 48 - 52 จาก 65 ประเทศและห่างไกลจากประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคะแนนสูงนักเรียนไทยเกินครึ่ง รู้เรื่องคณิตศาสตร์ต ่ากว่าระดับพื้นฐาน และที่รู้

(5)

บทสรุปผู้บริหาร (ต่อ)

เรื่องสูงกว่าระดับพื้นฐานมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น ผลการประเมินดังกล่าวใกล้เคียงกับผลในปีพ.ศ.

2549 แต่มีแนวโน้มต ่าลงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 เป็นต้นมา

และปัญหาในปัจจุบันด้านเทคโนโลยีที่มีผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการทางสมองเด็ก มีงานวิจัยจ านวนมากที่ไม่สนับสนุนให้เด็กอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปอย่างน้อยในวัยที่ต ่ากว่า 15 ปี เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อสายตาของเด็ก และตาถือเป็น อวัยวะเดียวกับสมอง การอยู่กับเทคโนโลยีมากท าให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เพราะการเก็บสายตาให้

ล็อคไว้ในที่แคบ ๆ เช่น จอของแท็บเล็ต หน้าจอของมือถือ ไอโฟน หรือหน้าจอของโทรทัศน์

คอมพิวเตอร์ เป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปส าหรับการใช้ตาของมนุษย์ ซึ่งในระยะยาว ส่งผลถึงการ ผิดปกติต่างๆ ของสมอง

อีกทั้งข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาการของเด็ก ปฐมวัยอายุ 3-5 ปี ที่ได้กล่าวว่า เด็กไทยในปัจจุบันมีปัญหาทางด้านวิขาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งข้อมูลนี้ทราบมาจาก ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และของเล่นของเด็กปกติกับเด็กพิเศษจะเหมือนๆกัน แต่ต่างกันตรงที่ "วิธีการเล่น" ขึ้นอยู่กับความ บกพร่องของเด็กแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท, วิธีการสอนตั้งแต่เด็กเริ่มเข้าเรียนในชั้นอนุบาลจะต้องมี

วิธีการสอนที่ถูกต้องตามหลักทฤษฎี ซึ่งในปัจจุบันคุณครูจ านวนน้อยมากที่รู้หลักวิธีการสอนที่

ถูกต้อง อย่างการเรียนรู้ของเด็กเริ่มต้นเด็กจะต้องมีการเรียนรู้จากรูปธรรมเป็นนามธรรมก่อนเพราะ นี่คือธรรมชาติของเด็ก

ข้อมูลดังกล่าวยังเป็นตัวที่บ่งชี้เรื่องการเรียนการสอนด้วยวิธีใดถึงจะท าให้เด็กมีการ รับรู้เป็นไปตามล าดับขั้นของการเรียนรู้ในแต่ละพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย การที่เด็กนักเรียนไทยได้

คะแนนสอบที่ต ่าลงนั้นเป็นผลลัพธ์ที่แสดงออกมาที่ปลายเหตุ แต่ความจริงนั้นควรแก้ที่ต้นเหตุของ ปัญหานั้นคือการวางรากฐานของการเรียนรู้ตั้งแต่เด็กปฐมวัย เพราะช่วงวัยนี้เป็นเวลาส าคัญที่สุดของ การพัฒนาเซลล์สมอง ล าดับความคิด และยังพบอีกด้วยว่ามีปัญหาด้านวิชาการตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เพราะคุณครูผู้สอนไม่มีแนวทางการสอนที่ถูกต้องตามทฤษฎีต่างๆที่เข้าถึงการพัฒนาการ, การเรียนรู้

, จิตวิทยาของเด็กในแต่ละวัยอย่างแท้จริง เช่น ทฤษฎีของเพียงเจต์(Piaget) ทฤษฏีรุนเนอร์ (Bruner) ทฤษฎีไวก็อตสกี้ (Vygotsky) เป็นต้น

จุดแข็งของบริษัท Dr.Math & Toys ตั้งอยู่ที่ 701 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 คือ มีบริษัทแม่ที่เป็น ส านักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด

(6)

บทสรุปผู้บริหาร (ต่อ)

ที่ท าหนังสือเรียนใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความ เชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมานาน กว่า 30 ปี บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) โรงงานผลิตของเล่นส่งออกไปยัง ต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี และบริษัท ส านักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จ ากัด เป็นบริษัทที่ท าการผลิตสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ส าหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับ อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับ พัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ

(7)

สารบัญ

หน้า

กิตติกรรมประกาศ

บทสรุปผู้บริหาร

สารบัญตาราง

สารบัญภาพ

บทที่ 1 ความเป็นมาแนวคิดธุรกิจ 1

1.1 ความเป็นมา 1

บทที่ 2 สภาพแวดล้อมและการวิเคราะห์โอกาสของธุรกิจ 5

2.1 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมจากการวิเคราะห์ SWOT ANALYSIS 5

2.1.1 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน 5

2.1.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก 5

2.2 การวิเคราะห์โอกาสของธุรกิจจากการวิเคราะห์สภาพการแข่งขันด้วย

Five Force Model 6

2.3 การวิเคราะห์โอกาสด้านผลิตภัณฑ์ 7

2.4 การวิเคราะห์โอกาสจากกลุ่มเป้าหมาย 9

บทที่ 3 การวิเคราะห์อุตสาหกรรมและการตลาด 10

3.1 การวิเคราะห์อุตสาหกรรม 10

3.2 การวิเคราะห์โอกาสทางการตลาด 12

3.2.1 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล 12 3.2.2 จ านวนโรงเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล

แบ่งตามขนาด A,B 12

3.2.3 จ านวนนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล

แบ่งตามขนาด A,B 13

3.3 การวิเคราะห์โอกาสทางการแข่งขัน 14

3.3.1 Direct competition 14

(8)

สารบัญ (ต่อ)

หน้า

3.3.2 Indirect competition 15

3.3.3 Competitive Advantages 16

บทที่ 4 แนวคิดธุรกิจและรูปแบบธุรกิจ 17

4.1 ภาพรวมของบริษัท 17

4.2 รูปแบบธุรกิจ 18

4.2.1 ลักษณะของธุรกิจ 19

4.2.2 แผนการด าเนินงานของธุรกิจ 23

4.2.3 วิสัยทัศน์ และพันธกิจ 26

4.2.4 วัตถุประสงค์ 26

4.2.5 เป้าหมายของบริษัท 26

4.2.6 แนวคิดผลิตภัณฑ์ 26

4.2.7 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ 26

4.2.8 ตัวอย่างประเภทสินค้า และคู่มือสื่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์สร้าง

อัจฉริยะ 32

4.2.9 รายละเอียดด้านการบริการ 34

บทที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะในการพัฒนาธุรกิจ 35

บรรณานุกรม 37

ภาคผนวก 39

ภาคผนวก ก ค านิยม 40

ภาคผนวก ข คู่มือแนะน าวิธีการเล่นของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้

วิชาคณิตศาสตร์ 41

ภาคผนวก ค เอกสารใบเสนอราคา 58

ภาคผนวก ง แบบสอบถาม 60

ภาคผนวก จ ผลวิจัยประกอบการวิเคราะห์ 72

ภาคผนวก ฉ บทสรุปผลวิจัยประกอบการวิเคราะห์ 90

ประวัติผู้วิจัย 93

(9)

สารบัญตาราง

ตาราง

หน้า

1 แสดงการเปรียบเทียบคู่แข่งกับ Dr.Math & Toys 14

2 แสดงการเปรียบเทียบคู่แข่งทางตรงในปัจจุบัน 14

3 แสดงการเปรียบเทียบคู่แข่งทางอ้อมในปัจจุบัน 15

(10)

สารบัญรูปภาพ

รูปภาพ

หน้า

1 แสดงแนวโน้มคะแนนจาก PISA 2000 – PISA 2009 2

2 แสดงจ านวนการเพิ่มขึ้นของเด็กออทิสติก 11

3 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (แห่ง) 12 4 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ขนาด AและB) 12 5 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ขนาด AและB) 13

6 ตราสัญลักษณ์ของบริษัท 17

7 แสดงรูปแบบ Back office ในการผลิตของเล่น 18

8 แสดงรูปแบบร้านมองจากภายนอกของ Dr.Math & Toys 18

9 แสดงรูปแบบร้านในการจัดตั้งของเล่น Dr.Math & Toys 19

10 แสดงรูปแบบ Business model 20

11 แสดงรูปภาพขั้นตอนการด าเนินงานด้านผลิตภัณฑ์ 23

12 แสดงรูปภาพขั้นตอนการด าเนินงานด้านการผลิต 24

13 ลูกคิดสิงโตเจ้าปัญญา 32

14 ชุดนาฬิกาพาเพลิน 32

15 รถไฟเรขาคณิตน่ารู้ 32

16 ชุดแบบรูปตัวหมี 33

17 ชุดกล่องหยอดอาหารสัตว์น่ารักพร้อมกระดานแผนภูมิรูปภาพ 33

18 คู่มือสื่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์สร้างอัจฉริยะ 34

19 ภาพรายละเอียดด้านการบริการ 34

(11)

บทที่ 1

ความเป็นมาของแนวคิดธุรกิจ

1.1 ความเป็นมา

เนื่องจากธุรกิจของครอบครัวคือส านักพิมพ์ บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด เป็นบริษัทที่ผลิตสื่อการเรียนการสอน เช่น หนังสือเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบฝึกหัด ที่

ใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่

ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับ อย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี อีกทั้งยังมีบริษัท ในเครือคือ บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จ ากัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตของเล่นไม้

รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ท าจากวัสดุประเภทไม้ยางพารา ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในด้าน คุณภาพของสินค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี และบริษัท ส านักพิมพ์ เวิลด์

คิดส์ จ ากัด เป็นบริษัทที่ท าการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ส าหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะ กระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและ หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านการศึกษาในการผลิตสื่อการ เรียนการสอนที่มีคุณภาพและครบวงจร ซึ่งจะส่งผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐาน การศึกษารวมทั้งการเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชนไทยให้มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ทุก รูปแบบทั้งในและนอกห้องเรียนตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ และเต็มศักยภาพ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สื่อการเรียนการสอนคณิตศสาตร์ เป็นการปูพื้นฐานทางคณิตศสาตร์ โดยการใช้

อุปกรณ์ที่เป็นรูปธรรมในการให้เด็กได้สัมผัสไปสู่การเรียนรู้สัญลักษณ์ที่เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์

ค่าของจ านวน เรขาคณิต แบบรูปความสัมพันธ์ เวลา การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น ซึ่งเป็น เรื่องที่มีความยากและความซับซ้อนขึ้นเป็นล าดับ อย่างไรก็ตามสื่อการเรียนรู้นี้นอกจากจะเหมาะกับ เด็กปฐมวัยแล้ว ยังเหมาะกับเด็กพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเด็กออทิสติก ที่มีความสามารถทางสติปัญญา แตกต่างจากเด็กปกติ ซึ่งมีความสามารถมากกว่า หรือเด็กเรียนรู้ช้าก็อาจใช้สื่อชุดนี้ได้ เนื่องจากเป็น สื่อที่ปูพื้นฐานจากอุปกรณ์ที่เป็นรูปธรรมไปสู่ความเข้าใจในสัญลักษณ์และนามธรรมทางคณิต

(12)

ศสาตร์ ซึ่งมีความยากง่ายตามล าดับขั้น มีคู่มือวิธีการใช้ที่ชัดเจน ผู้น าไปใช้สามารถวิเคราะห์

ความสามารถของเด็กตามวัยจากการสังเกตการใช้สื่อที่สามารถประเมินความเข้าใจของเด็กได้

โดยง่าย โดยสามารถส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ได้ตามวัยและความสามารถ

ปัญหาในปัจจุบันพบว่าผลการประเมินการทดสอบ Programmer for International Student Assessment (PISA) ทั้งด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ในปี ค.ศ.2009 (โดยใน ปี ค.ศ.2009 เน้นคณิตศาสตร์ 60 %) พบว่าเด็กไทยมีผลการประเมินต ่ากว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติทุกวิชา จัดอยู่ในอันดับที่ประมาณ 48 - 52 จาก 65 ประเทศและห่างไกลจากประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่

อยู่ในกลุ่มคะแนนสูง นักเรียนไทยเกินครึ่งรู้เรื่องคณิตศาสตร์ต ่ากว่าระดับพื้นฐาน และที่รู้เรื่องสูง กว่าระดับพื้นฐานมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น ผลการประเมิน ใน PISA 2009 ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก นับจาก PISA 2006 แต่ถ้าดูแนวโน้มตั้งแต่ PISA 2003 เป็นต้นมา พบว่ายังมีแนวโน้มต ่าลง

ภาพที่ 1 แสดงแนวโน้มคะแนนจาก PISA 2000 – PISA 2009

ข้อมูลดังกล่าวยังเป็นตัวที่บ่งชี้เรื่องการเรียนการสอนด้วยวิธีใดถึงจะท าให้เด็กมีการ รับรู้เป็นไปตามล าดับขั้นของการเรียนรู้ในแต่ละพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย การที่เด็กนักเรียนไทยได้

คะแนนสอบที่ต ่าลงนั้นเป็นผลลัพธ์ที่แสดงออกมาที่ปลายเหตุ แต่ความจริงนั้นเราควรแก้ที่ต้นเหตุ

ของปัญหานั้น คือการวางรากฐานของการเรียนรู้ตั้งแต่เด็กปฐมวัย เพราะช่วงวัยนี้เป็นช่วงเวลาที่

ส าคัญสุดของการพัฒนาเซลล์สมอง ล าดับความคิด และยังพบอีกด้วยว่าพบสถิติมีปัญหาด้าน วิชาการตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เพราะคุณครูผู้สอนไม่มีแนวทางการสอนที่ถูกต้องตามทฤษฎีต่างๆที่

(13)

เข้าใจถึงการพัฒนาการ, การเรียนรู้, จิตวิทยาของเด็กในแต่ละวัยอย่างแท้จริง เช่น ทฤษฎีของเพียง เจต์(Piaget) ทฤษฏีรุนเนอร์ (Bruner) ทฤษฎีไวก็อตสกี้ (Vygotsky) เป็นต้น

และปัญหาในปัจจุบันด้านเทคโนโลยีที่มีผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการทางสมองเด็ก มีงานวิจัยจ านวนมากที่ไม่สนับสนุนให้เด็กอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปอย่างน้อยในวัยที่ต ่ากว่า 15 ปี เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อสายตาของเด็กและตาถือเป็น อวัยวะเดียวกับสมอง การอยู่กับเทคโนโลยีมากท าให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เพราะการเก็บสายตาให้

ล็อคไว้ในที่แคบๆ เช่น จอของแท็บเล็ต หน้าจอของมือถือ ไอโฟน หรือหน้าจอของโทรทัศน์

คอมพิวเตอร์ เป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปส าหรับการใช้ตาของมนุษย์ ซึ่งในระยะยาวส่งผลถึงการผิดปกติ

ต่างๆของสมอง โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอเมริกาพบว่า เด็กนั่งจ้องหน้าจอ โทรทัศน์วันละ 1 ชั่วโมง จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมาธิสั้นได้ 10% หมายความว่า ถ้าเด็กคน ไหนนั่งจ้องหน้าจอโทรทัศน์วันละ 5 ชั่วโมง เด็กคนนั้นจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมาธิสั้นถึง 50% หากเด็กคลุกคลีกับหน้าจอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย และไม่ได้

ลงมือเล่นอะไร การเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเด็กจะถูกกระทบ โดยแบ่งเป็นประเด็นดังนี้

1. อ้วนผอมเกินไปและเป็นเด็กกินยาก เด็กจะจมจ่ออยู่กับเทคโนโลยี ไม่มีการ เคลื่อนไหวร่างกาย

2. เด็กขาดสมาธิไม่สามารถสนใจจดจ่อ ซนอยู่ไม่นิ่ง อาการจะเหมือนเป็นเด็กที่ซน สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย ไม่อดทน รอคอยไม่ได้ และวอกแวก เป็นเพราะการ เปลี่ยนแปลงหน้าจออย่างรวดเร็ว

3. ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่คล่องแคล่วว่องไว ร่างกายไม่ยืดหยุ่น การใช้อุปกรณ์

เทคโนโลยีท าให้เด็กขาดโอกาสเล่นกิจกรรมต่างๆ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการ และการเรียนรู้

4. ปัญหาต่อการเรียนรู้ผ่านการมอง เป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจน พบว่าเด็กตาลอย มีปัญหาด้านสายตามากขึ้น เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เป็นต้น

5. มีปัญหาการเรียนรู้ผ่านการฟัง พัฒนาการทางด้านภาษา เช่น เด็กพูดช้า หรือความ เข้าใจภาษาชั้นสูง (Language Comprehension) ไม่ได้ ฟังแล้วจ าไม่ได้ ฟังแล้วคิด ตามไม่ได้

6. มีปัญหาการเขียน องค์ประกอบส าคัญที่เด็กเขียนได้ดี คือร่างกายแข็งแรง

7. ขาดทักษะในการแก้ปัญหา เด็กจะแก้ปัญหาได้ ต้องเผชิญอุปสรรค ได้คิด ได้ลงมือ ท า (ลองผิด-ลองถูก) จากประสบการณ์ในชีวิตประจ าวัน

(14)

8. ขาดความสัมพันธ์กับผู้คน ท าให้เด็กอยู่ตามล าพังเป็นเวลานานๆ ขาดโอกาสในการ เข้าสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคนในบ้านหรือนอกบ้าน

9. การรับรู้มิติแห่งเวลาเปลี่ยนแปลงไป ท าให้เด็กไม่ได้ฝึกการจัดล าดับความส าคัญ ของสิ่งต่างๆในชีวิต เช่น สิ่งที่ต้องท า สิ่งที่ควรท า สิ่งที่อาจท า เป็นต้น

10.มีปัญหาด้านการนอน หน้าจอมีแสงที่สว่าง ซึงอาจกระทบต่อการสร้างสารที่จ าเป็น ต่อการนอน (สารนี้สร้างได้ดีเมื่ออยู่ในที่มืด) รวมถึงเด็กอาจถูกเร้าจนไม่สามารถ สงบตัวเองลงเพื่อการนอนได้

(15)

บทที่ 2

สภาพแวดล้อมและการวิเคราะห์โอกาสของธุรกิจ

2.1 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมจากการวิเคราะห์ SWOT ANALYSIS

2.1.1 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน 2.1.1.1 Strength

- Dr.Math & Toys เป็นธุรกิจใหม่ ที่มีธุรกิจเดิม (ส านักพิมพ์

บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี บริษัท คิดส์แอนด์

ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จ ากัด มีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี และและบริษัท ส านักพิมพ์

เวิลด์คิดส์ จ ากัด ตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ) คอยสนับสนุนช่วยเหลือ ซึ่งธุรกิจเดิมได้มีประสบการณ์และ Know How มานาน

- เพิ่ม service ให้กับลูกค้าด้วยการมี showroom ใช้ในการแสดง ของเล่น ท าให้ลูกค้าเห็น และสามารถน าบุตรหลานมาทดลองเล่น โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้

ค าแนะน าและค าปรึกษา มีฐานธุรกิจเดิมคอยเกื้อหนุน มี location ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า รวมทั้งยังมี

กลุ่มลูกค้าเดิมที่เชื่อมั่นในคุณภาพของทางบริษัท 2.1.1.2 Weakness

- สินค้าของเล่นสามารถน าวัสดุมาผลิตได้อีกนอกเหนือจากไม้

เช่น พลาสติก ยาง ซึ่งจะผลิตได้ง่าย ไม่ต้องใช้ฝีมือ และราคาถูกกว่า ซึ่งจะท าให้ลูกค้าไปเลือกซื้อ วัสดุอื่นที่ราคาถูกกว่า และเกิดการ stock ขึ้น

2.1.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก 2.1.2.1 Opportunity

- ไม่มีคู่แข่งโดยตรงรายใดที่ท าธุรกิจในรูปแบบนี้

- เป็นที่ยอมรับในวงการศึกษาที่จะช่วยพัฒนา และเสริมทักษะ ให้กับเด็กได้

(16)

2.1.2.2 Threat

- เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตของเล่นท ามาจากไม้ยางพารา หาก เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ภัยพิบัติต่างๆ, ขาดแคลนไม้ยางพารา เป็นต้น ท าให้มี

ผลกระทบต่อต้นทุนทางด้านการผลิต ส่งผลให้ต้นทุนมีราคาที่สูงขึ้น

2.2 การวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจจากการวิเคราะห์สภาพการแข่งขันด้วย Five Force Model

2.2.1 Bargaining power of suppliers

2.2.1.1 Bargaining power of suppliers

- ส าหรับ supplier ค่อนข้างจะมีอ านาจในการต่อรองสูง เนื่องจาก มีทีมนักวิชาการและโรงงานฝ่ายผลิตสินค้าที่เป็นบริษัทพันธมิตรกับบริษัท Dr.Math & Toys อยู่แล้ว

2.2.1.2 Bargaining power of buyers

- ส าหรับ customer ค่อนข้างจะมีอ านาจการต่อรองต ่า เนื่องจาก ทางบริษัทมีการบริการทีครบวงจรอยู่แล้ว และยังมีการจัดอบรมแนะน า การเรียนรู้และเข้าใจถึง พัฒนาการเด็กปฐมวัยในกรอบวิชาคณิตศาสตร์ให้กับผู้ปกครองและบุคคลที่สนใจโดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย ซึ่งยังไม่มีคนท า

2.2.1.3 Threat of new entrants

- ใช้เทคโนโลยีระดับสูงประกอบด้วยเครื่องจักรที่มีมูลค่าการ ลงทุนจ านวนมาก

- ต้องมีทีมอาจารย์ นักวิชาการท างาน และทีม R&D ท างาน ร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพราะต้องท างานร่วมกันตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงออกแบบสินค้าเสร็จ ข้อนี้

เป็นจุดแข็งที่ผู้เล่นรายใหม่ต้องใช้ความสามารถสูงที่จะประสานงานกันอย่างมีระบบกับบุคคลต่างๆ - ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจ านวนมากทั้งในด้านการออกแบบ สินค้าและการผลิต กล่าวคือต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะผลิตสินค้าได้ 1 ชิ้นออกมาวาง จ าหน่าย

- เครือข่ายในการขายกับร้านค้าพันธมิตรจะมีความสัมพันธ์กัน เหนี่ยวแน่น เพราะท าธุรกิจร่วมกันมานานจนเกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

(17)

2.2.1.4 Threat of substitute products

- ส าหรับภัยจากสินค้าทดแทนของเล่นไม้หลักๆก็จะเป็นของเล่น พลาสติกแต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนอย่างสมบูรณ์เนื่องของเล่นไม้ยังได้ความนิยมมากกว่า เพราะ เป็นของเล่นที่ทนทานไม่แตกหักง่าย การออกแบบไอเดียดีกว่าของเล่นพลาสติกและมีการพัฒนา ด้านการออกแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง

2.2.1.5 Competitive Rivalry

- หากมองภาพรวมของธุรกิจที่ผลิตสื่อการเรียนการสอนแบบครบ วงจรนั้นยังไม่มีผู้ประกอบการที่เป็นรายใหญ่ท าอยู่น้อยราย แต่ถ้าเทียบกับความต้องการของ ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยแล้วผู้ปกครองยังให้ความสนใจอยู่มาก เนื่องจากยังไม่ค่อยเห็นสินค้า ประเภทนี้วางขายในท้องตลาด

2.3 การวิเคราะห์โอกาสด้านผลิตภัณฑ์

ในเรื่องของ Supplier ทางบริษัท Dr.Math & Toys มีบริษัทแม่ที่เป็นธุรกิจของ ครอบครัว คือ ส านักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ ากัด เป็นบริษัทที่ผลิตสื่อการเรียน การสอนมานานกว่า 30 ปี บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จ ากัด ซึ่งเป็นโรงงานที่

ผลิตของเล่นไม้ รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ท าจากวัสดุประเภทไม้ยางพาราส่งออกไปยัง ต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี และบริษัท ส านักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จ ากัด เป็นบริษัทที่ท าการผลิตสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ส าหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับ อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิด เน้นความสอดคล้องกับ พัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้ง ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาการของเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี

ดังนี้

คุณครูสุขจันทร์ สุขประกอบ

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการส่งเสริมพัฒนาการส าหรับเด็กที่ต้องการช่วยเหลือพิเศษ โรงเรียนจิตตเมตต์ (ปฐมวัย) และโรงเรียนเพลินพัฒนา

ให้สัมภาษณ์ว่า “แม้ของเล่นของเด็กปกติกับเด็กพิเศษจะเหมือนๆกัน แต่ต่างกันตรงที่

"วิธีการเล่น" ค่ะ ซึ่งเด็กพิเศษแต่ละกลุ่มก็มีความต้องการในการเล่นต่างกันและความถนัดไม่

เหมือนกัน เราจึงต้องดูว่าเด็กพิเศษคนนั้นๆสนใจอะไรและต้องการความช่วยเหลืออย่างไร

(18)

ดังนั้นถ้าจะเลือกของเล่นให้เด็กกลุ่มนี้ ควรเลือกให้ตรงตามความถนัด และความสนใจ ของเขาเป็นหลัก เช่น เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย การใช้มือไม่แข็งแรง การประสานสัมพันธ์

ของมือและตา และการเคลื่อนไหวไม่สะดวก จึงควรพิจารณาเลือกใช้ของเล่นที่ใช้วัสดุและขนาดที่

ไม่หลุดมือได้ง่าย หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญาในระดับหนัก ไม่ตอบสนองต่อสิ่ง รอบตัว อาจจะชอบหรือสนใจเสียงดนตรี จึงควรเลือกใช้กล่องเพลง หรือของเล่นที่มีเสียงกระตุ้นเร้า ความสนใจให้เด็กมีการตอบสนอง ส่วนเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นก็ต้องการของเล่นที่มี

เสียงเช่นเดียวกัน

เมื่อของเล่นที่เป็นได้มากกว่าแค่ของเล่นได้พัฒนาสู่การบ าบัด ฟื้นฟูผู้ป่วย เด็กพิการ บางจ าพวกที่ร่างกายไม่เอื้ออ านวยต่อการหยิบจับหรือเล่นกับของเล่นได้ แต่จะมีผลทางด้านจิตใจ ส่งผลทางจิตใจให้กับพวกเขา ให้รู้สึกได้ว่ายังมีกลุ่มคนที่ยังสนใจและให้ก าลังใจเขาอยู่ ให้รู้ว่าพวก เขายังไม่ถูกทอดทิ้ง เพื่อให้เขามีก าลังใจในการสู้ชีวิตให้อยู่ต่อไป เป็นสิ่งของสวยๆงามๆเพิ่มเติม ความรู้สึกทางใจทดแทนส่วนที่พวกเขาได้ขาดหายไปนั่นเอง และอุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับเด็กพิเศษควร จะปูพื้นฐานให้รู้สึกดีในการใช้อุปกรณ์ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่แตกต่างกับคน อื่น”

คุณครูสุขจันทร์ เล่าว่าปัจจุบันของเล่นใน 1 ชิ้นที่ Design Product ออกมาควรจะมี

ความหลากหลายในการพัฒนาทักษะให้กับเด็กได้หลากหลายทักษะ เช่น ถ้วยเรียงล าดับและมี

ตัวเลขอยู่ที่ฐาน เด็กก็จะสามารถเรียนรู้สี, ขนาด และเรียงตัวเลข ในการเพิ่มความหลากหลายให้กับ ของเล่นชิ้นนี้คือ รูปสัตว์, ตัวอักษร, เจาะรูเพื่อเล่นกับน ้าหรือทราย เป็นต้น ทางกายภาพยังมีเลือกอยู่

ไม่มาก ของเล่นมันส าคัญที่กระบวนการ ท าให้อุปกรณ์ชิ้นนั้นเกิดประโยชน์ได้มากขึ้น ดร. อรพรรณ บุตรกตัญญู

อาจารย์สาขาวิชา ปฐมวัยศึกษา ภ า ค วิ ช า ก า ร ศึ ก ษ า ค ณ ะ ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ให้สัมภาษณ์ว่า “เด็กไทยในปัจจุบันมี

ปัญหาทางด้านวิขาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ ซึ่งข้อมูลนี้ทราบมาจาก ส านักงาน

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และของเล่นของเด็กปกติกับเด็กพิเศษจะเหมือนๆกัน แต่ต่างกันตรงที่ "วิธีการเล่น" ขึ้นอยู่กับความบกพร่องของเด็กแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท

วิธีการสอนตั้งแต่เด็กเริ่มเข้าเรียนในชั้นอนุบาลจะต้องมีวิธีการสอนที่ถูกต้องตามหลัก ทฤษฎี ซึ่งในปัจจุบันคุณครูจ านวนน้อยมากที่รู้หลักวิธีการสอนที่ถูกต้อง อย่างการเรียนรู้ของเด็ก

(19)

เริ่มต้นเด็กจะต้องมีการเรียนรู้จากรูปธรรมเป็นนามธรรมก่อนเพราะนี่คือธรรมชาติของเด็ก เนื่องจาก การสอนปกติคุณครูจะสอนบนกระดานด าเลย ท าให้เด็กรู้สึกว่ามันคืออะไร ต้องมาท่องจ า คิดเยอะ กับวิชาต่างๆเหล่านี้ ท าให้เด็กส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียน ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบ เรียนตั้งแต่เด็ก

ดร. อรพรรณ บุตรกตัญญู ยังเล่าอีกว่า เด็กกลุ่มพิเศษจะท าของเล่นที่มีความ หลากหลายไม่ได้ เนื่องจากว่าเด็กกลุ่มเหล่านี้เรียนรู้ได้ทีละอย่าง หากมีหลายๆอย่างในชิ้นเดียวจะท า ให้เด็กพิเศษกลุ่มนี้ไม่อยากที่จะเรียนรู้ในของเล่นไม้ชิ้นนั้น”

2.4 การวิเคราะห์โอกาสจากกลุ่มเป้าหมาย

จากการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ปกครองเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี เนื่องจากผู้ปกครอง ส่วนมากเวลาที่จะเลือกซื้อของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กประเภทต่างๆเมื่อซื้อมาแล้วผู้ปกครองบาง ท่านก็ยังไม่ทราบว่าของเล่นชุดนั้นช่วยเสริมพัฒนาการเด็กในด้านใดบ้างและวิธีการเล่นอย่างไรที่จะ สอนเด็กให้มีพัฒนาการเรียนรู้ที่เป็นล าดับขั้นที่ถูกหลักอย่างแท้จริง และได้ทราบข้อมูลว่าของเล่น ไม้นั้นมีราคาที่แพงกว่าของเล่นพลาสติก และผู้ปกครองจ านวนมากเมื่อซื้อของเล่นให้กับลูกแล้ว บางครั้งยังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่าของเล่นชุดนั้นจะช่วยเสริมพัฒนาการเรียนรู้ และจะน ามาช่วย สอนร่วมกับการบ้านที่คุณครูให้มาได้ไหม แต่ถ้ามีการออกแบบของเล่นพร้อมมีคู่มือการสอนเล่น รวมถึงบอกว่าจะช่วยพัฒนาการเด็กในเรื่องอะไร โดยมีทีมนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็ก ร่วมรับรองในชุดคู่มือนั้น ก็จะท าให้ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าง่ายขึ้นเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวางขาย ในท้องตลาด

(20)

บทที่ 3

การวิเคราะห์โอกาส อุตสาหกรรม และตลาด

3.1 การวิเคราะห์โอกาสทางอุตสาหกรรม

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเปิด 3 แผนหลักพัฒนาอุตสาหกรรมของเด็กเล่นไทย เนื่องจากเทรนด์ของเล่นที่จะมาแรงต้องช่วยเสริมฝึกสมองและทักษะในการเรียนรู้และเจริญเติบโต แผนด าเนินการ 3 ด้านที่จะสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมของเล่นเด็กไทยประกอบด้วย

1. การพัฒนากระบวนการผลิตของเล่นส าหรับเด็ก

2. ประเภทของเล่นเพื่อการศึกษาให้มีคุณภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความ ต้องการของตลาด

3. การส่งเสริมการใช้วัตถุดิบทางการผลิตที่ปลอดจากสารพิษ การเน้นการออกแบบ ที่สวยงามยากต่อการลอกเลียนแบบ

และในยุคที่เด็กให้ความสนใจกับของเล่นประเภทดิจิตอล เกมส์ออนไลน์ และแท็บเลต เกมส์ ฯลฯ มากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะไม่ช่วยในเรื่องการเสริมสร้างทักษะของเด็ก เพราะไม่ได้สัมผัสของ จริงที่จะท าให้เด็กได้เรียนรู้มากกว่า ย่อมส่งผลกระทบท าให้เด็กขาดทักษะในการสื่อสาร การเข้า สังคม และการตัดสินใจ รวมไปถึงการขาดพัฒนาการทางร่างกาย ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยง กับเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมของเล่นจะต้องพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ สีสัน ฟังก์ชัน และบรรจุภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของเด็กในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะของเล่นที่ท า จากไม้ยางพารานั้น ผู้ประกอบการไทยถือว่ามีศักยภาพด้านการผลิตเป็นอย่างมาก พร้อมส่งออกไป หลายประเทศทั่วโลก

ส าหรับมูลค่าอุตสาหกรรมของเล่นส าหรับเด็กในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายส าคัญอันดับที่ 14 ของโลกด้วยสัดส่วนร้อยละ 1.04 ของมูลค่าตลาดโลก ซึ่งตลาดส่งออกส าคัญได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป อย่างไรก็

ตามในปีพ.ศ. 2556 มีการส่งออกมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.678 เมื่อเทียบกับปี

พ.ศ. 2555

(21)

สินค้าของเล่นเด็กไทยที่น่าจะมีโอกาสในการเจาะตลาดคือ ของเล่นฝึกสมองและของ เล่นประเภทจ าลองที่ผลิตด้วยวัตถุดิบไม้ ซึ่งอยู่ในประเภทของเล่นเพื่อการศึกษา ทั้งนี้ผู้ประกอบการ ไทยมีชื่อเสียงด้านการผลิตที่มีคุณภาพของการออกแบบที่สวยงามและยากต่อการลอกเลียนแบบที่

จะท าให้สินค้าของไทยแตกต่างจากสินค้าที่วางจ าหน่ายทั่วไปในแต่ละประเทศพอสมควร นอกจากนี้สินค้าของเด็กเล่นฝึกสมองของไทยยังมีราคาไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศ ในแถบยุโรปที่มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าไทย

ที่มา : ส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ภาพที่ 2 แสดงจ านวนการเพิ่มขึ้นของเด็กออทิสติก

จากกราฟที่แสดงถึงจ านวนการเพิ่มขึ้นของเด็กออทิสติกตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553-2555 ชี้ให้เห็นว่า จ านวนเด็กออทิสติก มีเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีพ.ศ. 2555 เพิ่มสูงถึง 15,234 คน และมีการ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะขายของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชา คณิตศาสตร์ พร้อมคู่มือของเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปีก็จะมีมากขึ้น

(22)

3.2 การวิเคราะห์โอกาสทางการตลาด

3.2.1 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ภาพที่ 3 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (แห่ง)

3.2.2 จ านวนโรงเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลแบ่งตามขนาด A,B

ภาพที่ 4 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ขนาด AและB)

(23)

3.2.3 จ านวนนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลแบ่งตามขนาด A,B

ภาพที่ 5 จ านวนโรงเรียนและนักเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ขนาด AและB)

(24)

3.3 การวิเคราะห์โอกาสทางการแข่งขัน

3.3.1 Direct competition

ตารางที่ 1 แสดงการเปรียบเทียบคู่แข่งกับ Dr.Math & Toys

ตารางที่ 2 แสดงการเปรียบเทียบคู่แข่งทางตรงในปัจจุบัน

2.3.2 Direct competition

Referensi

Dokumen terkait

10 บทที การทบทวนวรรณกรรม ทังนีเพือให้การประเมินโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรีทัวไทย เทิดไท้องค์ราชัน” พืนทีภาคใต้ กรณีศึกษาจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูลดําเนินอย่างมีประสิทธิภาพ