• Tidak ada hasil yang ditemukan

The Development of English Teacher Training Program towards Teaching Basic Reading and Spelling by the Use of Phonics Instruction in Schools under the Yasothon Primary Educational Service Area Office 2

N/A
N/A
Nguyễn Gia Hào

Academic year: 2023

Membagikan "The Development of English Teacher Training Program towards Teaching Basic Reading and Spelling by the Use of Phonics Instruction in Schools under the Yasothon Primary Educational Service Area Office 2"

Copied!
258
0
0

Teks penuh

TITLE Development of an English teacher training program to teach basic reading and spelling using phonics instruction in schools under the Yasothon Primary Educational Service Area Office 2. Second, to develop an English teacher training program to teach basic reading and spelling by Using phonics instruction in schools under to Yasothon Primary Education Office 2.

วิเคราะห์องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้

สังเคราะห์องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้

สรุปลักษณะหลักของการสอนโดยวิธีการแบบโฟนิกส์แต่ละประเภทที่เป็นที่นิยม

วิเคราะห์องค์ประกอบการสอนอ่านและสะกดคำศัพท์โดยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์

สังเคราะห์องค์ประกอบที่นำมาผนวกรวมการสอนอ่านและสะกดคำโดยวิธีการแบบโฟนิกส์

วิเคราะห์ตัวบ่งชี้ขั้นตอนการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้โฟนิกส์

แนวคิดและเทคนิคการอภิปรายกลุ่ม สืบค้นจาก www.krirk.ac.th/faculty/Communication/research04.html. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สืบค้นจาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/ ราชบัณฑิตยสถาน. )2012(. บทบาทของคลินิกแพทย์อังกฤษในการจัดการกับอาการของความบกพร่องทางภาษาอังกฤษ (ดิสเล็กเซีย) ในคนไทย ตามทฤษฎีใหม่ในการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการฝึกทักษะ การถอดรหัสเสียงภาษาอังกฤษ (Phonemic Awareness & Phonics) เพื่อเป็นการวางรากฐานสำหรับ การอ่าน ดึงมาจาก.

วิเคราะห์ตัวบ่งชี้ขั้นตอนตัวบ่งชี้การเตรียมความพร้อม (Warm-up)

วิเคราะห์ตัวบ่งชี้การสอนจดจำตัวอักษรและหน่วยเสียง (Letter and Sound

วิเคราะห์ตัวบ่งชี้การเชื่อมโยงระหว่างตัวอักษรและหน่วยเสียง (Letter and Sound

วิเคราะห์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (Evaluation)

วิเคราะห์แนวทางและวิธีการเสริมสร้างสมรรถนะครู

การวิเคราะห์องค์ประกอบของโปรแกรม

การวิเคราะห์กระบวนการพัฒนาโปรแกรม

ข้อมูลพื้นที่ให้บริการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 2

แสดงคะแนนผลการทดสอบระดับชาติระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา

แสดงคะแนนผลการทดสอบระดับชาติระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา

สาตรา สายสุนันธารารมย์ (2561) ศึกษาการพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างความสามารถของครูในการวัดผลและประเมินผลตามเงื่อนไขจริงสำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาตอนปลายที่ 32 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ตรวจสอบสถานะปัจจุบันและสถานะที่ต้องการ วัตถุประสงค์ของสมรรถนะครูในการวัดและประเมินผลตามหลักฐานเชิงประจักษ์ และ 2) พัฒนาโปรแกรมเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะครูในการวัดและประเมินผลตามหลักฐานเชิงประจักษ์สำหรับสถาบันการศึกษาภายใต้เขตอำนาจของตน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 32 ประชากรที่ศึกษาและกลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการและครูที่ทำงานในสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 32 ประจำปี พ.ศ. 2559 จำนวน 331 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) การประเมินองค์ประกอบและตัวบ่งชี้ความสามารถของครูในการวัดและประเมินผลตามเงื่อนไขจริง 2) แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและเงื่อนไขที่ต้องการสำหรับความสามารถของครูในการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง และ 3) การประเมิน โครงการเสริมสร้างสมรรถนะครูในการวัดและประเมินผลตามสภาพความเป็นจริงของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ผลการสำรวจมีดังนี้

ข้อมูลจำนวนประซากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

กรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัย

องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้และวิธีการสอนอ่านและสะกดคำโดยวิธีการแบบโฟ

ในด้านระดับความสามารถของนักเรียน พบว่าจากตารางที่ 28 พบว่าองค์ประกอบการสอนการอ่านออกเสียงและการสะกดคำด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิคส์สำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 2 มีการจัดวางตามลำดับ ความจำเป็นในการสอนการรู้จำตัวอักษรและหน่วยเสียงจากมากไปน้อย 4 อันดับ ดังนี้ ครูมีกิจกรรมสื่อ/การเรียนรู้เพื่อตรวจสอบความรู้ อักษรของนักเรียน (PNI = 0.42) ครูตรวจสอบความถูกต้องและชัดเจนของการออกเสียงของนักเรียน (PNI = 0.41) ครูนำเสนอตัวอักษรและหน่วยเสียงโดยจัดเรียงเป็นชุดตัวอักษรที่มีหน่วยเสียงคล้ายกัน การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างศักยภาพครูในการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นให้นักเรียนมีความสำคัญต่อสถาบันการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 (วิทยานิพนธ์ ม.) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาสารคาม ไพศาล สุวรรณน้อย . )2002). Phonics Theory and Practice ดึงข้อมูลจาก http://web.ntpu.edu.tw/~ language/workshop/phonics.pdf.

ความแตกต่างและความเชื่อมโยงของ Phonological awareness Phonemic

ความสำคัญของการออกเสียและสะกดคำโดยวิธีการแบบโฟนิกส์ต่อพัฒนาการการ

ความสำคัญของการออกเสียและสะกดคำโดยวิธีการแบบโฟนิกส์ต่อทักษะทางภาษา

หลักการสอนอ่านและสะกดคำโดยวิธีการแบบโฟนิกส์

ครูใช้กระบวนการฝึกหูเพื่อเข้าสู่กระบวนการอ่านเพื่อเรียนรู้ (การอ่านเพื่อการเรียนรู้) ก่อนกระบวนการสอนเสียงและการสอน อ่านรวมกันเป็นคำซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้ 1) การฝึกหูให้จดจำหน่วยต่างๆ เสียงภาษาอังกฤษทั้งหมด (การตระหนักรู้เกี่ยวกับสัทศาสตร์) 2) การฝึกการออกเสียง (Speech Training) โดยใช้วิธีถอดรหัสตามความรู้เรื่องโฟนิคส์ (Phonics) 3) การใช้วิธีสอนการอ่านเป็นคำศัพท์ (วิธีทั้งคำ) และการสอนการอ่านที่เน้น ความหมาย (ตามความหมาย) ของทั้งภาษา เขตการศึกษามัธยมศึกษา 24 2) ตรวจสอบสภาพปัจจุบัน สภาพที่ต้องการ และวิธีการปรับปรุง ทักษะการจัดการเรียนรู้ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 24 และ 3) จัดทำโครงการเสริมสร้างทักษะการจัดการเรียนรู้ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขตพื้นที่ 24 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นครูสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 24 จำนวน 570 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 3. โปรแกรมพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบของโปรแกรม องค์ประกอบคือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) รูปแบบและวิธีการพัฒนา 4) เนื้อหาและสาระสำคัญ ประกอบด้วย 3 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ การออกแบบการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ ซึ่งเน้นย้ำว่า ผู้เรียนมีความสำคัญในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และ 5) การวัดผล และการประเมินผลในส่วนของโปรแกรม

แสดงโมเดลภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model)

Iceberg Model ของสมรรถนะ

สมรรถนะเป็นส่วนประกอบท่ีเกิดขึ้นมาจากความรู้ ทักษะ เจตคติ

การกำหนดสมรรถนะ

61 สรุปได้ว่าการพัฒนาความสามารถของครูสอนภาษาอังกฤษในการสอนการอ่านและการสะกดคำ Phonics มีการพัฒนาตามสัดส่วน ตามกรอบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 70% คือการเรียนรู้และพัฒนาผ่านประสบการณ์ 20% คือการเรียนรู้และพัฒนาจากผู้อื่น และอีก 10% คือการเรียนรู้และพัฒนาผ่านหลักสูตรและโปรแกรมต่างๆ วิธีการสอนแบบมีเสียง ครู 20% แนะนำให้สอนการอ่านโดยท่องจำคำศัพท์จากรูปภาพ และครูอีกร้อยละ 20 แนะนำวิธีการสอนการอ่านโดยปฏิบัติตาม 131 จากตารางที่ 20 P2 โดยทั่วไปสถานะปัจจุบันของการสอนการรู้จำตัวอักษรและหน่วยเสียง การสอนการอ่านออกเสียงและการสะกดคำโดยใช้วิธีเสียง สำหรับสถานศึกษาในเครือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธรที่ 2 อยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.47) และมีเงื่อนไขที่ต้องการสอนการรู้จำตัวอักษรและหน่วยเสียง การอ่านออกเสียง และการสอนสะกดคำด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิคส์ สำหรับสถานศึกษาสังกัดโรงเรียนประถมศึกษายโสธร สำนักงานเขตพื้นที่ 2 อยู่ในระดับสูงสุด (x̅ = 4.64)

Performance Management System

ระยะของการวิจัย ขั้นตอนดำเนินการ และผลที่คาดหวังโปรแกรมเสริมสร้าง

A seven-year study of the effects of synthetic phonics instruction on reading and spelling achievement. Report of the National Committee on Reading: Teaching children to read: An evidence-based assessment of the scientific research literature on reading and its implications for reading instruction: Subgroup reports.

Referensi

Dokumen terkait

สุธรรม ธรรมทัศนานนท์ ปริญญา การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปีที่พิมพ์ 2563 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ

for educational institutions Kalasin Primary Educational Service Area Office 1 2 to study the current condition Desirable conditions and necessities of learning resource management