85
การบริหารการศึกษาตามหลักพุทธธรรม
Educational Administration According to Buddhist Principles
พระมหาธีรวัฒน์ สกฺกธมฺโม (อาจภักดี) Phramaha theerawat Sakkathammo (Arphakdi)
นักวิชาการอิสระ Wat Mai Thong Sen E-mail: [email protected] วันที่รับบทควำม (Received) : 1 สิงหำคม 2564 วันที่แก้ไขบทควำม (Revised) : 8 กันยำยน 2564 วันที่ตอบรับบทควำม (Accepted) : 15 ตุลำคม 2564
บทคัดย่อ (Abstract)
กำรบริหำรกำรศึกษำตำมหลักพุทธธรรมของพระพุทธศำสนำนั้น นับว่ำเป็นพันธกิจจำกพุทธกิจ ประจ ำวันลงสู่ทำงปฏิบัติในทำงพระพุทธศำสนำสืบเนื่องมำยำวนำนประกำรหนึ่งของกำรบริหำรกำรศึกษำ ตำมหลักพุทธธรรมคือ กำรให้กำรสงเครำะห์แก่ประชำชน ตัวอย่ำงเช่น หลักสังคหวัตถุ 4 คือ กำรมีควำม โอบอ้มอำรี มีวจีไพเรำะ สงเครำะห์ผู้คน และวำงตนเหมำะสม กำรจัดกำรศึกษำถือว่ำเป็นภำระงำนหนึ่งใน กำรบริกำรวิชำกำรแก่สังคมของพระภิกษุ ในพระพุทธศำสนำ ตำมโรงเรียนกำรกุศลต่ำงๆ ของวัดใน พระพุทธศำสนำ จึงถือเป็นภำระงำนร่วม ที่มีกำรด ำเนินกำรจัดกำรศึกษำตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน พระภิกษุ
ตั้งแต่ระดับเจ้ำอำวำส เป็นผู้ด ำเนินกำรจัดตั้งโรงเรียน หรือมอบที่ดิน หรืออนุญำตให้ใช้ที่ดินของวัดเพื่อกำร จัดตั้งโรงเรียน ทั้งในส่วนที่เป็นโรงเรียนวัด ภำยใต้กำรบริหำรงำนของหน่วยงำนภำครัฐ และจัดตั้งโรงเรียน กำรกุศลที่สังกัดกำรศึกษำเอกชน บริหำรงำนโดยคณะสงฆ์ และรัฐเป็นผู้ให้กำรอุปถัมภ์และสนับสนุน ค าส าคัญ: บริหำรกำรศึกษำ, หลักธรรม
Abstract
Educational Administration According to Buddhist Principles was concerned with Buddha’s activity to practice in Buddhism as long time ago of Educational Administration According to Buddhist Principles that mean giving people housing, example for 4 group integration and leadership mean generosity, kindly speech, rendering service even and equal treatment. Education was the one of duty in social for monks in Buddhism such as in Buddhist accommodate school as cooperation management since passed up to now. Monks on ranking from abbot up to manager school owner or who give land or allow to use their
86 land for establish school both school and temple within governor management and then set accommodate school for private that administrate by monks and the government who sponsor and supporter.
Keywords: Educational Administration, Buddhist Principles.
บทน า (Introduction)
กำรบริหำรกำรศึกษำตำมหลักพุทธธรรมของพระพุทธศำสนำ ต้องสอดคล้องกับแผนกำรศึกษำ แห่งชำติเป็นกำรวำงกรอบเป้ำหมำยและทิศทำงกำรจัดกำรศึกษำของประเทศในกำรพัฒนำศักยภำพและขีด ควำมสำมำรถของคนไทยทุกช่วงวัยให้เต็มตำมศักยภำพ สำมำรถแสวงหำควำมรู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง อย่ำงต่อเนื่อง โดยกำรขับเคลื่อนภำยใต้วิสัยทัศน์คนไทยทุกคนได้รับกำรศึกษำและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่ำงมี
คุณภำพ ด ำรงชีวิตอย่ำงเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และกำรเปลี่ยนแปลงของ โลกศตวรรษที่ 21 เน้นกำรขับเคลื่อนแผนเพื่อสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจให้ทุกภำคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตระหนัก ถึงควำมส ำคัญและพร้อมเข้ำร่วมในกำรผลักดันแผนกำรศึกษำชำติ 20 ปี สู่กำรปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม สร้ำง ควำมเชื่อมโยงระหว่ำงแผนกำรศึกษำชำติ ยุทธศำสตร์ชำติ นโยบำยรัฐบำล แผนพัฒนำกำรศึกษำระยะ 5 ปี
แผนปฏิบัติรำชกำรระยะ 4 ปี และแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีของทุกหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกำร ปรับปรุงกฎ ระเบียบ และกฎหมำยต่ำงๆ ให้เอื้อต่อกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำกำรศึกษำในระดับต่ำงๆ และ สร้ำงช่องทำงให้ประชำสังคมมีโอกำสแสดงควำมเห็นและมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำ ทั้งระดับนโยบำย และพื้นที่กำรศึกษำ (ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ, 2560 : 60)
พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 พระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนรำชกำร ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร พ.ศ. 2546 ได้ก ำหนดให้ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำ กำรศึกษำมีหน้ำที่ในกำรพิจำรณำเสนอแผนกำรศึกษำแห่งชำติที่บูรณำกำรศำสนำ ศิลปะ วัฒนธรรม และ กีฬำกับกำรศึกษำทุกระดับ และด้วยเหตุที่แผนกำรศึกษำแห่งชำติฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552–2559) จะ สิ้นสุดใน ปี พ.ศ. 2559 ดังนั้นส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำจึงได้จัดท ำแผนกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ.
2560–2579 ซึ่งเป็นแผนระยะยำว 20 ปีเพื่อเป็นแผนแม่บทส ำหรับหน่วยงำนน ำไปใช้เป็นกรอบในกำร พัฒนำกำรศึกษำในช่วงระยะเวลำดังกล่ำว (ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ, 2560 : 60)
ผู้เขียนจึงรวบรวมประเด็นส ำคัญที่เกี่ยวกับ กำรบริหำรกำรศึกษำตำมแผนกำรศึกษำแห่งชำติ
ควำมหมำยของกำรบริหำรกำรศึกษำตำมหลักพุทธธรรม แนวคิดเกี่ยวกับนโยบำยกำรบริหำรกำรศึกษำ และ แนวคิดเกี่ยวกับกำรขับเคลื่อนกำรบริหำรกำรศึกษำทั้งระบบ ดังเนื้อหำบทควำมต่อไปนี้
87
1. การบริหารการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ
กำรด ำเนินกำรจัดท ำแผนกำรศึกษำแห่งชำติได้ให้ควำมส ำคัญ กับกำรมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วน เพื่อสร้ำงกำรรับรู้ควำมเข้ำใจ กำรยอมรับ และเข้ำมำมีส่วนร่วมในกระบวนกำรจัดท ำแผนฯ เพื่อให้สำมำรถ ขับเคลื่อนแผนไปสู่กำรปฏิบัติได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยได้ศึกษำสภำวกำรณ์และบริบทแวดล้อมที่มี
ผลกระทบต่อกำรพัฒนำกำรศึกษำของประเทศ ทั้งด้ำนควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีดิจิทัลแบบก้ำวกระโดด ที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภูมิภำค และโลก กำรเปลี่ยนแปลงโครงสร้ำงประชำกร ไปสู่สังคมสูงวัย และทักษะของประชำกรในศตวรรษที่ 21 ที่ทั่วโลกต่ำงต้องเผชิญกับควำมท้ำทำยและมุ่ง พัฒนำประเทศไปสู่กำรพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมยุค 4.0 และน ำผลกำรติดตำมประเมินแผนกำรศึกษำ แห่งชำติ พ.ศ. 2552–2559 ซึ่งครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวกับบริบทกำรจัดกำรศึกษำ โอกำสทำงกำรศึกษำ คุณภำพกำรศึกษำประสิทธิภำพกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ และกำรใช้จ่ำย งบประมำณรวมทั้งกำรพัฒนำกำรศึกษำกับขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ นอกจำกนี้ยังได้
ศึกษำปัญหำและควำมท้ำทำยของระบบกำรศึกษำ ทั้งที่เกิดจำกปัญหำของระบบกำรศึกษำ และจำก สภำวกำรณ์ของโลกที่ประเทศต้องเผชิญ เพื่อน ำมำก ำหนดแนวคิดของกำรจัดกำรศึกษำ วิสัยทัศน์
วัตถุประสงค์ เป้ำหมำยกำรพัฒนำกำรศึกษำ บทบำทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ยุทธศำสตร์ เป้ำหมำยตัวชี้วัด และแนวทำงกำรพัฒนำ รวมทั้งโครงกำรเร่งด่วนที่ส ำคัญ และกำรขับเคลื่อนแผนกำรศึกษำแห่งชำติสู่กำร ปฏิบัติโดยมีสำระส ำคัญ คือ
ควำมจ ำเป็นในกำรจัดท ำแผนกำรศึกษำแห่งชำติ และควำมท้ำทำยระบบกำรศึกษำที่ยังมีปัญหำ หลำยประกำร นับตั้งแต่ปัญหำคุณภำพของคนไทยทุกช่วงวัย ปัญหำคุณภำพและมำตรฐำนกำรจัดกำรศึกษำ ในทุกระดับ จุดอ่อนของระบบกำรศึกษำและกำรพัฒนำบุคลำกรด้ำนวิทยำศำสตร์ ภำษำอังกฤษ เทคโนโลยี
และกำรบริหำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำที่ยังไม่เหมำะสม ขำดควำมคล่องตัว ยังมีควำมเหลื่อมล้ ำใน ด้ำนโอกำสและควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ รวมทั้งปัญหำด้ำนคุณธรรม จริยธรรม และกำรขำดควำม ตระหนักถึงควำมส ำคัญของกำรมีวินัย ควำมซื่อสัตย์สุจริต และกำรมีจิตสำธำรณะของคนไทยส่วนใหญ่
ส่งผลกระทบต่อระบบกำรศึกษำ ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้สนองและรองรับควำมท้ำทำยจ ำเป็นที่ประเทศไทย ต้องปฏิรูปกำรศึกษำ เพื่อให้ระบบกำรศึกษำเป็นกลไกหลักของกำรขับเคลื่อนประเทศ ภำยใต้รัฐธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจักรไทยฉบับใหม่ กรอบยุทธศำสตร์ชำติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579) และกรอบทิศทำง ของแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564) เพื่อให้สำมำรถน ำพำประเทศ ไปสู่ควำมมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนในอีก 20 ปีข้ำงหน้ำ
ผลกำรพัฒนำกำรศึกษำในช่วง ปี 2552-2559 พบว่ำ ไทยประสบควำมส ำเร็จในหลำยด้ำน และมี
อีกหลำยด้ำนยังเป็นปัญหำที่ต้องได้รับกำรพัฒนำอย่ำงเร่งด่วนในระยะต่อไปด้ำนโอกำสทำงกำรศึกษำ รัฐมี
88 นโยบำยส่งเสริมสนับสนุนโอกำสทำงกำรศึกษำค่อนข้ำงมำกส่งผลให้ประชำกรในวัยเรียน รวมทั้งเด็กด้อย โอกำสและผู้มีควำมต้องกำรจ ำเป็นพิเศษมีโอกำสได้รับกำรศึกษำสูงขึ้น แต่ยังเข้ำเรียนได้ไม่ครบทุกคนและมี
ปัญหำกำรออกกลำงคันอยู่บ้ำง นอกจำกนี้ประชำกรที่อยู่ในวัยก ำลังแรงงำนแม้จะได้รับกำรศึกษำเพิ่มขึ้น แต่จ ำนวนแรงงำนที่มีกำรศึกษำต่ ำกว่ำระดับมัธยมศึกษำตอนต้นยังมีอยู่จ ำนวนมำก จึงต้องเร่งด ำเนินกำร สนับสนุนส่งเสริมกำรพัฒนำคนตลอดช่วงชีวิต และมีมำตรกำรต่ำง ๆ ให้เด็กและประชำชนทุกช่วงวัย สำมำรถเข้ำถึงโอกำสทำงกำรศึกษำที่มีคุณภำพมำตรฐำนเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับกำรศึกษำของคนไทยให้เป็น ก ำลังส ำคัญในกำรพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เป็นเป้ำหมำยที่ประเทศสมำชิกองค์กำรสหประชำชำติจ ำนวน 193 ประเทศได้ลงมติรับรองในกำร ประชุมสมัชชำใหญ่แห่งสหประชำชำติใน ปี พ.ศ. 2558 โดยจะใช้เป็นวำระแห่งกำรพัฒนำของโลกในอีก 15 ปีข้ำงหน้ำ (ค.ศ. 2016–2030) มีทั้งหมด 17 เป้ำหมำย โดยเป้ำหมำยด้ำนกำรศึกษำ คือ เป้ำหมำยที่ 4 สร้ำง หลักประกันว่ำทุกคนมีกำรศึกษำที่มีคุณภำพอย่ำงครอบคลุมและเท่ำเทียม และสนับสนุนโอกำสในกำร เรียนรู้ตลอดชีวิต แผนกำรศึกษำแห่งชำติจึงต้องพัฒนำคุณภำพและประสิทธิภำพกำรจัดกำรศึกษำของ ประเทศ เพื่อสร้ำงหลักประกันว่ำ เด็กปฐมวัยทุกคนจะได้รับกำรเตรียมควำมพร้อมก่อนเข้ำเรียน ประถมศึกษำ ทุกคนส ำเร็จกำรศึกษำระดับประถมศึกษำและมัธยมศึกษำที่มีคุณภำพและมีผลลัพธ์ทำงกำร เรียนที่มีประสิทธิผล ทุกคนสำมำรถเข้ำถึงกำรศึกษำระดับอำชีวศึกษำและอุดมศึกษำด้วยค่ำใช้จ่ำยที่
เหมำะสมและมีคุณภำพ ก ำลังแรงงำนมีทักษะที่จ ำเป็น รวมถึงทักษะทำงเทคนิคและอำชีพส ำหรับกำรจ้ำง งำน กำรมีงำนที่ดีและกำรเป็นผู้ประกอบกำร และโอกำสเข้ำถึงกำรศึกษำและกำรฝึกอำชีพทุกระดับอย่ำง เท่ำเทียม มีกำรเพิ่มจ ำนวนครูที่มีคุณภำพ เพื่อกำรศึกษำส ำหรับกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนและกำรมีวิถีชีวิตที่
ยั่งยืน
2. ความหมายของการบริหารการศึกษาตามหลักพุทธธรรม
การบริหารการศึกษา หมำยถึง กระบวนกำรเรียนรู้เพื่อควำมเจริญงอกงำมของบุคคล และสังคม โดยกำร ถ่ำยทอดควำมรู้ กำรฝึก กำรอบรม กำรสืบสำนทำงวัฒนธรรม กำรสร้ำงสรรค์จรรโลงควำมก้ำวหน้ำ ทำงวิชำกำร กำรสร้ำง องค์ควำมรู้อันเกิดจำกกำรจัดสภำพแวดล้อม สังคมกำรเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้
บุคคลเรียนรู้อย่ำงต่อเนื่องตลอดชีวิต
หลักพุทธธรรม หมำยถึง ควำมจริงก็ด ำรงอยู่ตำมธรรมดำของมันอย่ำงเป็นกลำงๆ พระพุทธเจ้ำ ทรงตรัสรู้คือ ค้นพบควำมจริงนั้นแล้วน ำมำเปิดเผยไว้ สำระของควำมจริงนี้ก็คือ (ควำมเป็นไปตำม)ธรรมดำ แห่งเหตุปัจจัยหรือกระบวนธรรมแห่งเหตุปัจจัย ผู้ที่มองสิ่งทั้งหลำยตำมที่มันเป็น ไม่ใช่มองตำมที่ตนอยำก หรือไม่อยำกให้มันเป็น จึงจะเข้ำใจควำมจริงที่เป็นกลำงนี้ได้ เมื่อเข้ำใจธรรมที่เป็นกลำงนี้แล้ว ก็ย่อม มองเห็นควำมจริงอย่ำงกว้ำงๆ ครอบคลุมทั่วไปทั้งหมด มีทัศนะเปิดกว้ำง หลุดพ้นเป็นอิสระอย่ำง แท้จริง โดยหลุดพ้นทั้งทำงจิต คือจิตหลุดพ้นจำกสิ่งบีบคั้นครอบง ำที่เรียกว่ำกิเลสและควำมทุกข์ กลำยเป็น
89 จิตที่ปลอดโปร่ง เบิกบำน เป็นสุข และด้ำนปัญญำ คือ หลุดพ้นด้วยรู้เท่ำทันธรรมดำ แล้วมองเห็นตัวควำม จริงที่ล้วน ๆบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเคลือบแคลงหรือท ำให้เอนเอียงและรู้ชัดแจ้งที่ควำมจริงโดยตรง ไม่ต้องรู้ผ่ำน ใคร ๆ หรือรู้ตำมที่ใครบอกอีกต่อไป
นโยบายปฏิรูปการศึกษา หมำยถึง นโยบำยกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนและส่งเสริมกำรเรียนรู้เพื่อ ลดควำมเหลื่อมล้ ำทำงกำรศึกษำและยกระดับมำตรฐำนกำรศึกษำในกำรขับเคลื่อนปฏิรูปกำรศึกษำทั้งระบบ เพื่อรองรับกำรพัฒนำประเทศ เตรียมควำมพร้อมเข้ำสู่ประชำคมอำเซียนตลอด ส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมของ ทุกภำคส่วนในกำรจัดกำรศึกษำและส่งเสริมกำรเรียนรู้ตลอดชีวิตและ ส่งเสริมระบบธรรมำภิบำลในวงกำร กำรศึกษำ
ผู้บริหารสถาน หมำยถึง บุคคลที่ปฏิบัติหน้ำที่ในต ำแหน่งผู้บริหำรสถำนศึกษำภำยใน เขตพื้นที่
กำรศึกษำ และสถำนศึกษำอื่นที่จัดกำรศึกษำปฐมวัย ขั้นพื้นฐำนและอุดมศึกษำที่ต่ ำกว่ำปริญญำตรีทั้งของ ภำครัฐและเอกชน
แนวทางพัฒนาเด็กนักเรียน หมำยถึง แนวทำงพัฒนำเด็กตำมช่วงวัยของนโยบำยปฏิรูป ของ ผู้บริหำรสถำนพัฒนำเด็กนักเรียนตำมกระบวนทัศน์ใหม่กำรพัฒนำประเทศภำยใต้ “ประเทศไทยที่เรียกว่ำ กำรศึกษำ 4.0”เพื่อบูรณำกำรกำรเรียนกำรสอนด้วยกำรใช้เทคโนโลยีแสวงหำควำมรู้ ต่อยอดองค์ควำมรู้แก่
เด็กนักเรียนของสถำนพัฒนำเด็กนักเรียน ตำมนโยบำยปฏิรูปกำรศึกษำในโรงเรียน ใน 4 ด้ำน ได้แก่
1) พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย หมำยถึง เด็กมีร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยมีสุขภำพร่ำงกำยแข็งแรง และใช้อวัยวะของร่ำงกำยได้ประสำนสัมพันธ์กันระหว่ำงมือและตำ ฝึกให้เด็กรู้จักกำรคำดคะเนหรือกำรกะ ระยะทำงของสิ่งต่ำงๆ ที่อยู่กับรอบตัวเอง
2) พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ หมำยถึง กำรส่งเสริมกำรเลี้ยงดู กำรตอบสนองควำมต้องกำรด้ำน จิตใจ โดยกำรจัดสภำพแวดล้อมส่งเสริมให้เกิดควำมอบอุ่นและมีควำมสุข เช่น สบตำ อุ้ม สัมผัส เป็น แบบอย่ำงที่ดีในกำรแสดงออกทำงอำรมณ์ ตอบสนองต่อควำมรู้สึกที่เด็กแสดงออกอย่ำงนุ่มนวล อ่อนโยน เป็นต้น
3) พัฒนำกำรด้ำนสังคม หมำยถึง กำรส่งเสริมควำมสัมพันธ์กับพ่อแม่ ผู้เลี้ยง และบุคคลใกล้ชิด โดยกำรพูดเล่นหยอกล้อหรือเล่นกับเด็ก เช่น เล่น จ๊ะเอ๋ เล่นจ้ ำจี้ เล่นโยกเยก เล่นประกบ ค ำร้อง พำไปเดิน เล่นนอกบ้ำน กับเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่ภำยใต้กำรดูแลอย่ำงใกล้ชิด
4) พัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ หมำยถึง กำรส่งเสริมให้เด็กได้รับกำรเรียนรู้และสิ่งเรียนรู้ต่ำงๆ รอบตัวในชีวิตประจ ำวันผ่ำนประสำทสัมผัสทั้งห้ำและกำรเคลื่อนไหวได้พัฒนำกำรใช้ภำษำสื่อควำมหมำย
90 และควำมคิดรู้จักสังเกตคุณลักษณะต่ำงๆ เช่น ขำด สี รูปร่ำง รูปทรง ผิวสัมผัสจดจ ำชื่อเรียกสิ่งต่ำงๆ รอบตัว
ดังนั้น กำรขับเคลื่อนตำมแผนกำรศึกษำแห่งชำติให้ประสบควำมส ำเร็จต้องอำศัยปัจจัยข้ำงต้น ที่
ส ำคัญคือหลักพุทธธรรม จักส่งผลให้กำรพัฒนำกำรศึกษำของชำติบรรลุผลส ำเร็จตำมวิสัยทัศน์และ เป้ำหมำยในกำรพัฒนำคน สังคม ประเทศชำติตำมควำมมุ่งหวังเป็นแรงจูงใจ ตำมนโยบำยปฏิรูปกำรศึกษำ ในโรงเรียนกำรกุศลของวัดในพระพุทธศำสนำ เพื่อพัฒนำด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม และพัฒนำกำร ด้ำนสติปัญญำ
3. แนวคิดเกี่ยวกับนโยบายการบริหารการศึกษา
นโยบำยกำรบริหำรกำรศึกษำเพื่ออนำคตประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน “บริหำรและปฏิรูป กำรศึกษำเพื่ออนำคตประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนนโยบำยด้ำนกำรศึกษำของนำยกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชำ)” เป็นหนังสือด้ำนกำรศึกษำของส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ ที่จัดพิมพ์เผยแพร่
ให้แก่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำและที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทำงกำรศึกษำ ได้น ำไปใช้ประโยชน์
ในกำรประยุกต์ต่อยอดและสร้ำงแนวทำงพัฒนำกำรศึกษำทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ สำระส ำคัญ ของหนังสือได้มำจำกกำรสังเครำะห์ข้อมูลจำกรำยกำร “คืนควำมสุขให้คนในชำติ” ซึ่งเปรียบเสมือนรำยกำร นำยกรัฐมนตรี พบประชำชน ซึ่งออกอำกำศทำงโทรทัศน์รวมกำรเฉพำะกิจแห่งประเทศไทย ทุกคืนวันศุกร์
เป็นกำรสะท้อนมุมมองของนำยกรัฐมนตรีถึงปัญหำกำรศึกษำในมิติต่ำง ๆ ทั้งในด้ำนคุณภำพ มำตรฐำนและ ประสิทธิภำพกำร ตลอดจนปัญหำส ำคัญที่ชี้ชัดว่ำประเทศไทยยังมีควำมเหลื่อมล้ ำทำงกำรศึกษำ พร้อมทั้งได้
เสนอแนะวิธีกำรแก้ปัญหำกำรศึกษำและนโยบำยด้ำนกำรศึกษำที่มีควำมเชื่อมโยงและส่งผลดีต่อกำรพัฒนำ ประเทศด้ำนต่ำง ๆ อันน ำไปสู่กำรพัฒนำกำรศึกษำ 8 ประเด็นหลัก คือ 1) พัฒนำคุณภำพผู้เรียนและ ส่งเสริมกำรเรียนรู้ 2) ลดควำมเหลื่อมล้ ำทำงกำรศึกษำ และยกระดับมำตรฐำนกำรศึกษำ 3) ขับเคลื่อน ปฏิรูปกำรศึกษำทั้งระบบ 4) พัฒนำครู 5) ผลิตและพัฒนำก ำลังคนเพื่อรองรับกำรพัฒนำประเทศ 6) เตรียม ควำมพร้อมเข้ำสู่ประชำคมอำเซียน 7) ส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วนในกำรจัดกำรศึกษำและ ส่งเสริมกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต และ 8) ส่งเสริมระบบธรรมำภิบำลในวงกำรกำรศึกษำ (นโยบำยด้ำนกำรศึกษำ , นำยกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ: 2559)
โดยสรุปเป็นประโยชน์อย่ำงยิ่งต่อหน่วย งำนที่เกี่ยวข้องทำงกำรศึกษำ มีสถำบันกำรศึกษำอีกหลำย แห่งที่มีควำมสนใจและต้องกำรหนังสือ ได้ขอควำมอนุเครำะห์มำยังส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำเพื่อ ขอรับหนังสือส ำหรับน ำไปใช้ประโยชน์ในกำรวำงแผนกำรศึกษำและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อเพิ่ม ศักยภำพและขีดควำมสำมำรถให้แก่ผู้เรียน ที่ส ำคัญมีควำมเห็นว่ำเป็นองค์ควำมรู้ด้ำนกำรศึกษำที่ผู้ประกอบ
91 วิชำชีพทำงกำรศึกษำจ ำเป็นต่อกำรน ำไปใช้ในกำรพัฒนำกำรศึกษำไทย และสรุปสำระส ำคัญมีต่อกำรพัฒนำ กำรศึกษำและพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ของประเทศ หลำยประเด็นคือ
1) ด้านการศึกษา
1.1 ต้องระบุปัญหำกำรศึกษำในปัจจุบันและจัดล ำดับควำมส ำคัญของปัญหำให้ชัดเจนและผู้
ที่มีควำมเกี่ยวข้องต้องแสวงหำจุดร่วมของวิธีกำรแก้ปัญหำและบูรณำกำรร่วมกันให้ได้
1.2 ระบบกำรศึกษำต้องให้ควำมส ำคัญกับกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ตั้งแต่เด็กเล็ก โดยเฉพำะช่วง 3 ขวบแรก ที่สมองพัฒนำเต็มที่ และพัฒนำอย่ำงเป็นองค์รวม ทุกมิติทั้งด้ำนกำย จิต สังคม และปัญญำ ใช้ทฤษฎีกำรศึกษำ 4 H (Head Heart Hand Health) ให้เหมำะกับช่วงวัยส่งเสริมให้“เด็ก สมองดีมีคุณธรรม มีทักษะ และมีสุขภำพแข็งแรง” เป็นปัจจัยส ำคัญต่อ กำรด ำรงชีวิตประจ ำวันและกำรใช้
ชีวิตในกำรท ำงำน จึงต้องคิดหำวิธีกำรให้เด็กไทยมีสุขภำพร่ำงกำยแข็งแรง ไม่เครียด ไม่กดดัน และโจทย์
ส ำคัญท ำอย่ำงไรจึงจะมีปัญญำ “คิดเป็น คิดสร้ำงสรรค์”
1.3 กำรจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ต้องพัฒนำเด็กไทยมำกกว่ำให้มีควำมรู้ต้องให้มีทักษะ กำรท ำงำนร่วมกัน (Teamwork) เห็นคุณค่ำของควำมสำมัคคีให้มีแนวคิดและเตรียมควำมพร้อมในกำร รับมือกับกำรเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลก และมีทักษะควำมสำมำรถในกำรส่งเสริมและพัฒนำประเทศ ได้ในทุกมิติ
1.4 กำรน้อมน ำแนวคิดแนวทำงตำมแนวพระรำชด ำริของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว มำ ใช้ทำงกำรศึกษำ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติอย่ำงง่ำยๆ คือ ท ำอย่ำงไรให้ครูรักเด็กและเด็กรักครูสอนอย่ำงไรให้เด็กมี
น้ ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกันเอง แต่กำรแข่งขันกันเองและเสริมสร้ำงวิธีคิดให้เด็กที่เรียนเก่งกว่ำสอนเพื่อน ที่เรียนช้ำกว่ำอ่อนกว่ำ
1.5 กำรประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงกำรต่ำง ๆ ด้ำนกำรศึกษำ ควรเน้นกำรประเมินเชิง คุณภำพ มิใช่ประเมินเฉพำะเชิงปริมำณ รวมทั้งต้องให้เด็กมีส่วนร่วมในกำรประเมินผลด้วย
2) ด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
2.1 กำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ต้องบูรณำกำรวำงแผนและท ำงำนร่วมกันของทุกกระทรวง ทบวง กรม ในทุกภำคส่วน ที่เกี่ยวข้องทั้งภำคกำรศึกษำ ภำคเศรษฐกิจ ภำคกำรลงทุน กำรตลำดและควำม ต้องกำรของตลำดแรงงำนทั้งในประเทศและภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก ภำคสังคมและบริกำร ต้องร่วมคิด ร่วม วำงแผนและก ำหนดนโยบำยเพื่อกำรผลิต พัฒนำและใช้แรงงำนให้เพียงพอประเทศ ที่ส ำคัญอย่ำงยิ่งทุกคน ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ำใจทิศทำงกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ของประเทศ และด ำเนินกำรตำมแผนไปพร้อม ๆ กัน ตอบรับเป้ำหมำยในเรื่องเดียวกัน และต้องมองให้ครอบคลุมในทุกช่วงวัย หรืออำจด ำเนินกำรไปในแต่
ละช่วงวัยแต่ต้องเชื่อมโยงต่อเนื่องในทุกวัยให้ได้
92 2.2 ก ำหนดเป้ำหมำยปลำยทำงกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ในสำขำต่ำง ๆ ในแต่ละช่วงปี
เพื่อรองรับอนำคตประเทศให้ชัดเจน รวมถึงเป้ำหมำยกำรพัฒนำคุณลักษณะของคนไทยให้ชัดเจน ทั้งกำร เพิ่มศักยภำพเพิ่มประสบกำรณ์ เพิ่มประสิทธิภำพกำรท ำงำน กำรพัฒนำวิชำชีพและนวัตกรรมใหม่ๆ กำร พัฒนำสังคมและขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ
2.3 สถำบันกำรศึกษำทั้งระดับอำชีวศึกษำและอุดมศึกษำทั้งรัฐและเอกชน ต้องวำงแผน ชัดเจนด้ำนกำรผลิตก ำลังคนสำขำต่ำง ๆ และจ ำนวนกำรผลิตเพื่อป้อนเข้ำสู่ตลำดแรงงำน เรียนจบแล้วมี
งำนท ำทันทีอำทิกำรเตรียมแรงงำนมีฝีมือ สำขำช่ำงต่ำง ๆ เครื่องยนต์ ไฟฟ้ำ ชิ้นส่วนยำนยนต์อิเล็กทรอนิกส์
พำณิชย์นำวีขนส่งระบบรำงปิโตรเคมีแม่พิมพ์เทคโนโลยีอำหำรปลอดภัย เป็นต้น ร่วมกับสถำนประกอบกำร และเปิดหลักสูตรเพื่อส่งเสริมควำมเป็นเลิศเฉพำะทำง โดยอยู บนแนวคิดควำมเหมำะสมกับศักยภำพกำร พัฒนำทำงเศรษฐกิจและอุตสำหกรรมที่แตกต่ำงกันในแต่ละ พื้นที่ด้วย
2.4 สถำบันกำรศึกษำในพื้นที่ต้องสร้ำงควำมเชื่อมโยงและเป็นเครือข่ำยที่จัดกำรศึกษำอย่ำง ต่อเนื่องในทุกระดับกำรศึกษำเพื่อรองรับคนในท้องถิ่น ภำยใต้แนวคิด “เรียนและท ำงำนในท้องถิ่นเพื่อ พัฒนำท้องถิ่นของตนให้ดีขึ้น”
กำรศึกษำเป็นหัวใจของชำติ เป็นกำรสร้ำงและพัฒนำคนเพื่ออนำคตของประเทศ นับเป็น ปัจจัยส ำคัญที่ต้องผลักดันเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์“ประเทศไทยมีควำมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยภำพรวมของ กำรศึกษำไทยในปัจจุบันยังเป็นปัญหำมำก โดยเฉพำะภำพสะท้อนคุณภำพของเด็กไทย เป็นควำมจ ำเป็น เร่งด่วนต้องมีกำรปฏิรูปกำรศึกษำเพื่อพัฒนำคนอย่ำงยั่งยืน
3) การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและส่งเสริมการเรียนรู้
“ระบบกำรศึกษำ หลักสูตรต่ำง ๆ ประวัติศำสตร์ สิทธิหน้ำที่เบญจศีล เบญจธรรมควรน ำกลับ เข้ำมำใหม่ในระบบกำรศึกษำเพื่อสร้ำงวินัยควำมเข้มแข็งคนในชำติ ทั้งกำย ใจ จิตส ำนึกควำมรับผิดชอบต่อ สังคม ให้มีกระบวนกำรคิดอย่ำงเป็นระบบ ไม่ใช่คิดสั้นๆ ต้องคิดให้ยำวๆ มีสมำธิ มีเหตุมีผล อย่ำเชื่ออะไรที่
คนเขำพูดมำอย่ำงเดียว ต้องพิสูจน์ทรำบก่อน โดยผลประโยชน์แห่งชำติเป็นหลัก เรื่องวัฒนธรรมควำมเป็น คนไทย ควำมภูมิใจในควำมเป็นชำติ รักสถำบัน เหล่ำนี้คงต้องช่วยกันพูด ช่วยกันแนะน ำ ช่วยกันสร้ำงและ บรรจุเข้ำไปในกำรเรียนกำรสอนของกระทรวงศึกษำธิกำรด้วย”
ระบบกำรศึกษำและกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ต้องมีเป้ำหมำยชัดเจนเพื่อสร้ำงคนไทยและ สังคมไทยให้เข้มแข็ง มีคุณภำพ โดยกำรจัดกำรศึกษำสำมำรถจัดได้หลำยๆ รูปแบบหลำยๆ แนวทำง ให้เป็น กลไกของกำรแสวงหำควำมรู้สิ่งต่ำง ๆ และบ่มเพำะให้สำมำรถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและเรียนรู้ตลอดชีวิต หลักสูตรกำรศึกษำควรปรับปรุง พัฒนำ และน ำไปใช้ให้เกิดผลผลิตตรงตำมเป้ำหมำย โดยหลักสูตรแต่ละ ระดับตั้งแต่เล็กจนโตควรให้มีควำมต่อเนื่องกันทั้งกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรศึกษำต่อในระดับอำชีวศึกษำ และมหำวิทยำลัย เมื่อจบกำรศึกษำแล้วมีงำนท ำ มีอำชีพและมีรำยได้หลักสูตรกำรศึกษำควรก ำหนดวิชำ
93 เรียนให้น้อยลงให้เหมำะกับวัยของเด็ก เน้นกำรเรียนรู้ที่มีคุณภำพ ไม่ใช่เน้นปริมำณรวมถึงควรเป็นหลักสูตร ที่มีกำรปรับพื้นฐำนของเด็กให้เท่ำกันก่อน และเมื่อถึงเวลำที่เหมำะสมของเด็ก ก็เปิดโอกำสให้เลือกได้ตำม ควำมชอบและควำมถนัดที่ส ำคัญเป็นหลักสูตรให้กำรศึกษำและกำรเรียนรู้ช่วยบ่มเพำะและสร้ำงค่ำนิยมที่
เข้มแข็งให้เป็นหลักในกำรด ำเนินชีวิตของคนไทย โดยน้อมน ำหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวเข้ำมำเป็นแนวปฏิบัติมีกำรปลูกฝังค่ำนิยม 12 ประกำรให้กับเด็กและเยำวชน เพื่อสร้ำงคนไทยให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง มีควำมเข้มแข็งทั้งร่ำงกำยและจิตใจ ค ำนึงถึงผลประโยชน์ของ ส่วนรวมและประเทศชำติเป็นหลัก มีจุดเน้นส ำคัญคือ“กำรใช้คุณธรรมและควำมรู้ที่ถูกต้อง กำรมีสติปัญญำ ควำมเพียร จะน ำไปสู่ควำมสุขในกำรด ำเนินชีวิตอย่ำงแท้จริง” น ำเรื่องประวัติศำสตร์สิทธิหน้ำที่เบญจศีล เบญจธรรม เข้ำมำในระบบกำรศึกษำ เพื่อให้เด็กและเยำวชนไทยเกิดควำมรัก ควำมภำคภูมิใจ รวมถึงรักษำ ขนบธรรมเนียม ประเพณีและสถำบันหลักของควำมเป็นชำติไทยไว้
กระบวนกำรเรียนกำรสอนต้องสร้ำงแรงจูงใจให้เด็กอยำกเรียนหนังสือยึดเด็กเป็นศูนย์กลำงของ กำรพัฒนำ เน้นให้อ่ำนออก เขียนได้และคิดวิเครำะห์เป็น สำมำรถสร้ำงวิสัยทัศน์และวำงแผนอนำคตที่ดีของ ตนเองได้และขยำยไปสู่สังคมและประเทศชำติกำรจัดกระบวนกำรเรียนกำรสอนของครูต้องเน้นกำรสอนใน ห้องเรียนเป็นหลักมำกกว่ำกำรสอนพิเศษเพื่อลดภำระค่ำใช้จ่ำยของผู้ปกครอง ปรับวิธีกำรสอนให้ง่ำยขึ้น โดยเน้นให้เด็กเกิดกระบวนกำรเรียนรู้มำกที่สุด ปรับปรุงระบบกำรวัดประเมินผลและประกันคุณภำพ กำรศึกษำให้สอดคล้องกับบริบทของกำรศึกษำไทย โดยวิธีกำรวัดและประเมินต้องมีควำมเหมำะสมและไม่
เป็นภำระต่อครูอำจำรย์มำกจนเกินไป รวมถึงควรสร้ำงควำมผูกพัน ควำมหวังดีต่อกันและกันให้ได้ระหว่ำง ครูผู้ปกครอง และเด็ก เพื่อเป้ำหมำยร่วมกันคือสร้ำงเด็กให้มีคุณภำพ
4) การลดความเหลื่อมล้ าทางการศึกษา และยกระดับมาตรฐานการศึกษา
หำวิธีกำรในกำรเพิ่มโอกำสทำงกำรศึกษำให้มำกขึ้น โดยสร้ำงโอกำสกำรเข้ำถึงบริกำรทำง กำรเงินเพิ่มขึ้น เช่น กำรให้กู้ยืมเงินที่ผูกกับรำยได้ในอนำคตกำรกระจำยทุนกำรศึกษำให้ทั่วถึง และ สนับสนุนทุนกำรศึกษำในด้ำนต่ำง ๆ ที่เป็นควำมต้องกำรสร้ำงคนให้ตรงกับกำรน ำมำพัฒนำท้องถิ่นของตน ยกระดับคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำอย่ำงต่อเนื่องเพื่อให้เกิดควำมทัดเทียมกัน และต้องค ำนึงถึงกำร สร้ำงคนเพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจในภูมิภำคและพื้นที่ของตน รวมถึงเพิ่มโอกำสและคุณภำพกำรศึกษำ ไทยโดยน ำเทคโนโลยีกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียมกระจำยไปยังสถำนศึกษำในพื้นที่ชนบทและพื้นที่
ห่ำงไกลให้มำกขึ้น ตลอดจนมีกำรน ำเทคโนโลยีสำรสนเทศรูปแบบต่ำง ๆ เข้ำไปบูรณำกำรกับกำรศึกษำ ทำงไกล เพื่อใช้เป็นช่องทำงของกำรเพิ่มกำรเรียนรู้ในทุกระดับ และต้องพิจำรณำเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้ให้
เหมำะสมกับนักเรียน ประยุกต์และปรับปรุงให้เหมำะตำมบริบทโดยครูต้องก ำกับดูแลอย่ำงใกล้ชิด เช่น กำร จัดท ำ Smart Classroom กำรพัฒนำระบบ e-learning เป็นต้น รวมถึงกำรจัดบริกำรกำรศึกษำควร พิจำรณำให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ด้อยโอกำสทุกกลุ่ม
94
4. แนวคิดเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาทั้งระบบ
โดยก ำหนดนโยบำยและเป้ำหมำยกำรพัฒนำด้ำนกำรศึกษำทั้งกำรยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ และกำรเรียนรู้เพื่อสร้ำงสังคมไทยให้เข้มแข็งอย่ำงมีคุณภำพแต่งตั้งคณะกรรมกำรนโยบำยและพัฒนำ กำรศึกษำ เพื่อท ำหน้ำที่ขับเคลื่อนกำรด ำเนินงำนตำมแนวนโยบำยของรัฐ โดยเฉพำะกำรปรับปรุงหลักสูตร กำรพัฒนำคุณภำพครูและผู้เรียน กำรยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรศึกษำ กำรใช้จ่ำย งบประมำณ และกำร กระจำยอ ำนำจทำงกำรศึกษำ มีกำรแต่งตั้งคณะอ ำนวยกำรปฏิรูปกำรศึกษำ เพื่อให้กำรปฏิรูปกำรศึกษำทั้ง ระบบเกิดผลอย่ำงเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภำพ และมีควำมเป็นเอกภำพ
การพัฒนาครู คือก ำหนดยุทธศำสตร์ด้ำนครูให้ชัดเจน และขับเคลื่อนสู่กำรปฏิบัติให้ครอบคลุม ทุกด้ำนและพัฒนำครู โดยผลิตครูมืออำชีพ รับประกันกำรมีงำนท ำ วำงแผนพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำอย่ำงเป็นระบบ เปลี่ยนกำรอบรมครูให้เป็นในเชิงรุก คือ สร้ำงทีมลงไปท ำกำรฝึกอบรมครูในพื้นที่
โดยตรง เพื่อไม่ต้องให้ครูออกจำกห้องเรียนและทอดทิ้งนักเรียน แก้ไขปัญหำกำรขำดครูในสำขำที่ขำดแคลน โดยผลักดันให้คุรุสภำออกประกำศเพื่อก ำหนดประเภทวิชำและสำขำวิชำชีพที่ขำดแคลน ผ่อนปรนให้ผู้ที่มี
คุณวุฒิสำขำขำดแคลนสำมำรถขอหนังสืออนุญำตปฏิบัติกำรสอนได้โดยไม่มีใบประกอบวิชำชีพ จำกนั้น พัฒนำตนเพื่อให้ได้รับใบประกอบวิชำชีพครูในภำยหลัง รวมถึงแก้ไขปัญหำหนี้สินครูทั้งในระยะสั้นระยะ ปำนกลำง และระยะยำว สิ่งที่ส ำคัญที่สุดที่ครูต้องพัฒนำ คือ ปรับและพัฒนำวิธีกำรสอนของตนให้มี
คุณภำพ ยึดกำรพัฒนำเด็กเป็นหลัก และใช้เวลำให้มำกขึ้นในกำรสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้อย่ำงมีคุณค่ำและ เกิดคุณภำพต่อตัวเด็ก
การผลิตและพัฒนาก าลังคนเพื่อรองรักการพัฒนาประเทศ มุ่งกำรผลิตก ำลังคนสำยอำชีพให้
สอดคล้องกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน สอดรับกับทิศทำงกำรพัฒนำของประเทศ ควำมต้องกำรของ ท้องถิ่นเพื่อกระจำยควำมเจริญไปสู่เขตภูมิภำค โดยบูรณำกำรกำรศึกษำทั้งในระบบนอกระบบ และตำม อัธยำศัยให้สอดคล้องกัน ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในกำรผลิตและพัฒนำก ำลังคน เน้นกำรสร้ำงคนให้มีควำมสำมำรถ มีทักษะในกำรท ำงำน สร้ำงอำชีพและ รำยได้จูงใจให้คนเข้ำสู่ระบบกำรศึกษำและหันมำเรียนสำยอำชีพมำกขึ้น ปรับภำพลักษณ์ของอำชีวศึกษำให้
ได้รับกำรยอมรับ รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบกำรท ำข้อตกลงควำมร่วมมือจัดกำรศึกษำแบบทวิภำคี
หรือสหกิจศึกษำ เป็นกำรช่วยให้นักเรียนนักศึกษำได้ค่ำตอบแทนและได้ประสบกำรณ์จำกกำรท ำงำน ส่วน ผู้ประกอบกำรจะได้แรงงำนเมื่อเด็กจบกำรศึกษำ ซึ่งช่วยลดภำวะคนตกงำนของประเทศลง อีกประกำรหนึ่ง ร่วมกันปฏิรูปกำรอุดมศึกษำในด้ำนกำรผลิตก ำลังคนของประเทศ ที่น ำไปสู่คุณภำพของคนให้ชัดเจน มหำวิทยำลัยทั้งในระบบและนอกระบบควรวำงแผนกำรผลิตก ำลังคนในแต่ละปีตำมปริมำณและสำขำควำม ต้องกำรของตลำดแรงงำน แต่ละแห่งควรมีอัตลักษณ์หรือมีควำมเข้มแข็งทำงวิชำกำรและวิชำชีพที่เป็นเรื่อง
95 เฉพำะ รวมถึงมีกำรน ำเทคโนโลยีในวิชำชีพต่ำง ๆ เข้ำมำใช้ในกำรจัดกำรศึกษำ ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนำต่อยอดให้เกิดกำรวิจัยและพัฒนำนวัตกรรมใหม่ๆ ในทุกระดับกำรศึกษำ เพื่อเพิ่มศักยภำพกำร แข่งขันของประเทศและสร้ำงแรงจูงใจให้เด็กอยำกเป็นนักวิทยำศำสตร์
การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คนไทยและประเทศไทยต้องปรับตัว เตรียม พัฒนำก ำลังคน และสร้ำงควำมเข้มแข็งให้ทันต่อกำรก้ำวเข้ำสู่กำรเป็นประชำคมอำเซียน รวมถึงพัฒนำ ประเทศให้เป็นศูนย์กลำงของอำเซียน โดยกำรเดินหน้ำเรื่องกำรจดทะเบียน กำรเตรียมแรงงำน กำรเพิ่ม คุณวุฒิแรงงำนไทย กำรเพิ่มพูนควำมรู้ให้กับผู้ที่ยังไม่มีงำนท ำ กำรพัฒนำควำมช ำนำญในกำรประกอบอำชีพ กำรใช้เทคโนโลยีและทักษะกำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ เพื่อยืนยันว่ำแรงงำนไทยมีฝีมือจริง มีควำมรู้
ควำมสำมำรถท ำงำนได้ทั้งในประเทศและต่ำงประเทศ สำมำรถก้ำวสู่กำรเป็นแรงงำนขั้นสูงจนถึงระดับ ผู้บริหำรได้ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนให้ประชำชนเรียนรู้ถึงภำษำ ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้ำน
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการจัดการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอด ชีวิตส่งเสริมให้ทุกภำคส่วนของสังคมเกิดกำรรวมตัวเป็นเครือข่ำย และมีส่วนรับผิดชอบในกำรจัดกำรศึกษำ หันมำให้ควำมสนใจกำรพัฒนำเด็กและเยำวชนที่เป็นอนำคตของชำติภำครัฐและเอกชนส่งเสริมกำรเรียนรู้
ทั้งในและนอกสถำนที่ ให้เรียนรู้ผ่ำนแหล่งเรียนต่ำง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ให้ทันสมัย เพิ่มบทบำทของวัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์สร้ำงแรงจูงใจในกำรเข้ำชม ได้เรียนรู้อย่ำงสนุกและเพิ่ม จินตนำกำรให้กับเด็ก รวมถึงควรน ำปรำชญ์ชุมชนที่ได้รับควำมเชื่อถือและกำรยอมรับจำกชุมชน ให้เข้ำมำมี
ส่วนร่วมในกำรถ่ำยทอดควำมรู้และทักษะต่ำง ๆ ท ำให้เกิดสังคมแห่งกำรเรียนรู้นอกจำกนั้นทุกฝ่ำยที่ร่วมมือ กันจัดกำรศึกษำต้องให้แนวคิดและควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประชำธิปไตยสิทธิของตนเองและผู้อื่น เสรีภำพที่มีขอบเขตภำยใต้กำรเคำรพกฎหมำยตลอดจนรู้จักหน้ำที่พลเมืองที่ดีรู้จักให้เกียรติบุคคลอื่น และ ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่ำงสันติประเทศชำติจึงจะเดินหน้ำพัฒนำไปได้
การส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลในวงการการศึกษา กำรศึกษำในปัจจุบันต้องให้ควำมส ำคัญกับ ปัญหำกำรทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมไทย โดยกำรจัดกำรศึกษำควรมีกำรปลูกฝังเรื่องกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรทุจริตคอร์รัปชั่นตั้งแต่ยังเด็ก ๆ มีกำรบรรจุเข้ำไว้ในหลักสูตร อำจสอดแทรกไปในวิชำต่ำง ๆ หรือรูปแบบของกำรจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น โครงกำรโรงเรียนสีขำวกำรจัดท ำหลักสูตร “โตไปไม่
โกง” จะช่วยสร้ำงคน สร้ำงสังคมและสร้ำงชำติให้ต่อต้ำนกำรทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมไทยได้
สรุปว่า กำรศึกษำเป็นหัวใจของชำติ เป็นอนำคตของประเทศ เป็นบ่อเกิดของปัญญำ แต่ยังคง เป็นปัญหำส ำคัญหำกกำรศึกษำไม่สร้ำงคน ครอบครัวไม่มีเวลำ ขำดควำมอบอุ่นครูไม่มีก ำลังใจในกำรสอน ไม่มีประสิทธิภำพ เรำก็จะได้นักเรียนนักศึกษำ หรือผู้ที่จบไปเป็นคนที่คิดไม่ทัน ไม่มีวิสัยทัศน์ รับมือกับภัย