ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน
วิทยำนิพนธ์
ของ ทรรณรต ทับแย้ม
เสนอต่อมหำวิทยำลัยมหำสำรคำม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำตำมหลักสูตร ปริญญำศิลปศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรวิจัยและสร้ำงสรรค์ศิลปกรรมศำสตร์
กันยำยน 2562
สงวนลิขสิทธิ์เป็นของมหำวิทยำลัยมหำสำรคำม
ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน
วิทยำนิพนธ์
ของ ทรรณรต ทับแย้ม
เสนอต่อมหำวิทยำลัยมหำสำรคำม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำตำมหลักสูตร ปริญญำศิลปศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรวิจัยและสร้ำงสรรค์ศิลปกรรมศำสตร์
กันยำยน 2562
สงวนลิขสิทธิ์เป็นของมหำวิทยำลัยมหำสำรคำม
The Legend of a Standing Buddha : Memories Space of Society and Creation of Community Drama
Tannarod Tabyam
A Thesis Submitted in Partial Fulfillment of Requirements for Master of Arts (Fine and Applied Arts Research and Creation)
September 2019
Copyright of Mahasarakham University
คณะกรรมกำรสอบวิทยำนิพนธ์ ได้พิจำรณำวิทยำนิพนธ์ของนำงสำวทรรณรต ทับแย้ม แล้วเห็นสมควรรับเป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำตำมหลักสูตรปริญญำ ศิลปศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำ กำรวิจัยและสร้ำงสรรค์ศิลปกรรมศำสตร์ ของมหำวิทยำลัยมหำสำรคำม
คณะกรรมกำรสอบวิทยำนิพนธ์
(รศ. ดร. ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ )
ประธำนกรรมกำร
(ผศ. ดร. พีระ พันลูกท้ำว )
อำจำรย์ที่ปรึกษำวิทยำนิพนธ์หลัก
(ผศ. ดร. ปัทมำวดี ชำญสุวรรณ )
กรรมกำร
(ผศ. ดร. อุรำรมย์ จันทมำลำ )
กรรมกำร
(รศ. ดร. สุพรรณี เหลือบุญชู )
กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิภำยนอก
มหำวิทยำลัยอนุมัติให้รับวิทยำนิพนธ์ฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำตำมหลักสูตร ปริญญำ ศิลปศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรวิจัยและสร้ำงสรรค์ศิลปกรรมศำสตร์ ของมหำวิทยำลัย มหำสำรคำม
(รศ. ดร. ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ )
คณบดีคณะศิลปกรรมศำสตร์
(ผศ. ดร. กริสน์ ชัยมูล ) คณบดีบัณฑิตวิทยำลัย
ง
บทคัดย่อ ภำษำไทย
ชื่อเรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำรสร้ำงสรรค์
ละครชุมชน ผู้วิจัย ทรรณรต ทับแย้ม
อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร. พีระ พันลูกท้ำว
ปริญญา ศิลปศำสตรมหำบัณฑิต สาขาวิชา กำรวิจัยและสร้ำงสรรค์ศิลปกรรม ศำสตร์
มหาวิทยาลัย มหำวิทยำลัยมหำสำรคำม ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
กำรวิจัย เรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำร สร้ำงสรรค์ละครชุมชน มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษำพื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคม ชุมชน กันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ผ่ำนกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน และ เพื่อสร้ำงและน ำเสนอผลงำน ละครชุมชนผ่ำนต ำนำนหลวงพ่อพระยืน อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
ผลกำรวิจัยพบว่ำพื้นที่วัดพุทธมงคล(วัดพระยืน)ในอดีตนั้นเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนใน ชุมชนต่ำงให้ควำมเคำรพเลื่อมใสพระพุทธรูปหลวงพ่อพระยืนมำตลอดจนถึงปัจจุบัน จนท ำให้พื้นที่วัด พุทธมงคลจนกลำยเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และพื้นที่ควำมทรงจ ำของคนใน และคนนอกชุมชนที่มำ สักกำระหลวงพ่อพระยืนอย่ำงไม่ขำดสำย โดยมีกำรสัมภำษณ์ เด็ก เยำวชน ผู้ใหญ่ คนในและนอก ชุมชนกับพื้นที่วัดพุทธมงคล ในกระบวนกำรกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชนนั้นมีล ำดับขั้นตอนกำร สร้ำงสรรค์ คือ กำรศึกษำข้อมูลชุมชน ผู้มีส่วนร่วม , แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ท ำควำมเข้ำใจเพื่อกำร ด ำเนินงำนสร้ำงสรรค์ละครชุมชน , สร้ำงเรื่องใหม่โดยยึดประเด็นจำกชุมชนเป็นแกนหลักและพัฒนำ ไปสู่กำรสร้ำงสรรค์ละคร , ฝึกซ้อมและพัฒนำผลร่วมกับคนในชุมชน , จัดกำรแสดงละคร เพื่อสื่อสำร สะท้อนประเด็นปัญหำชุมชน เพื่อผู้ชมในชุมชนได้รับรู้และเข้ำใจประเด็นปัญหำและน ำไปสู่กำร เปลี่ยนแปลงในชุมชน
ค ำส ำคัญ : ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน, พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคม, กำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน
จ
บทคัดย่อ ภำษำอังกฤษ
TITLE The Legend of a Standing Buddha : Memories Space of Society and Creation of Community Drama
AUTHOR Tannarod Tabyam
ADVISORS Assistant Professor Peera Phanlukthao , Ph.D.
DEGREE Master of Arts MAJOR Fine and Applied Arts
Research and Creation UNIVERSITY Mahasarakham
University
YEAR 2019
ABSTRACT
This research entitled The Legend of Standing Buddha: Space and Memory of Society and Creation of Community Drama aims at studying the physical space and social memory of Kantarawichai community, Mahasarakham province through the creation of community drama. To create and present the drama through the legendary priest Phra Yuen in Kantharawichai District, Mahasarakham province.
The results showed that the sacred Buddhist Temple (Wat Phra Yuen) is a sacred space, where people in the communities paid respect to the solemn Buddha Dhamma Yuen from the past to the present. Moreover, the interviewed children, youth and adults in the community, described this space as a Buddhist sacred area and people inside and outside the community worship the priest Yuen unremitting. In the process, Community Theater was created by involving the people from the community. People used their knowledge to understand Community Theater, create a new story based on the community's issues and develop into creative play, train and develop the people in the community, organizing theater performances. Thus, Community Drama can help to communicate with the community reflecting community issues. Also, the people in the community can understand the social issues and can lead to changes in the community.
ฉ Keyword : The Legend of a Standing Buddha, space of social memory, creation of community dram
ช
กิตติกรรมประกำศ
กิตติกรรมประกาศ
วิทยำนิพนธ์นี้ส ำเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยควำมกรุณำและควำมช่วยเหลืออย่ำงสูงยิ่งจำก ผู้ช่วย ศำสตรำจำรย์ ดร.พีระ พันลูกท้ำว ประธำนกรรมกำรควบคุมวิทยำนิพนธ์ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.อุรำ รมย์ จันทมำลำ กรรมกำรควบคุมวิทยำนิพนธ์ รองศำสตรำจำรย์.ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ ประธำน กรรมกำรสอบ และ รองศำสตรำจำรย์.ดร.สุพรรณี เหลือบุญชู กรรมกำรสอบ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณเป็น อย่ำงสูง
ขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.พีระ พันลูกท้ำว ผู้เชี่ยวชำญที่ช่วยตรวจเครื่องมือกำร วิจัย ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.อุรำรมย์ จันทมำลำ ช่วยตรวจเครื่องมือกำรวิจัย
ขอขอบคุณ พระครูอนุรักษ์ พุทธมงคล เจ้ำอำวำสวัดพุทธมงคล นำยวีระ เนื่องคันธีร์ นำยภำณุ
พงษ์ อันสนธิ นำยพุฒิพงศ์ มำตย์จันทร์ นำยคฑำวุฒิ มำป้อง นำงสุรีพร พลศรี และนิสิตเอกศิลปะกำร ละคร ชั้นปีที่2 ,ชั้นปีที่ 4 ที่มีส่วนช่วยในกำรลงพื้นที่สัมภำษณ์ และที่ส ำคัญขอขอบพระคุณ คุณแม่พินิช กุณ ทับแย้ม ที่มีส่วนช่วยในกำรสนับสนุนค่ำใช้จ่ำย และชำวบ้ำนชุมชนวัดพุทธมงคล หมู่ที่ 2 , หมูที่ 11 รวมไปถึงเด็ก เยำวชน อ ำเภอกันทรวิชัย มหำสำรคำมทุกท่ำน ที่ให้กำรช่วยเหลือสนับสนุนงำนวิจัยฉบับ นี้
ทรรณรต ทับแย้ม
สารบัญ
หน้า บทคัดย่อภำษำไทย ... ง บทคัดย่อภำษำอังกฤษ ... จ กิตติกรรมประกำศ... ช สำรบัญ ... ซ สำรบัญตำรำง ... ฎ สำรบัญภำพ ... ฏ
บทที่ 1 บทน ำ ... 1
ภูมิหลัง ... 1
ควำมมุ่งหมำยของกำรวิจัย ... 4
ค ำถำมในกำรวิจัย/กำรสร้ำงสรรค์ศิลปกรรมศำสตร์ ... 4
ควำมส ำคัญของกำรวิจัย ... 4
นิยำมศัพท์เฉพำะ ... 5
ระเบียบวิธีกำรวิจัย ... 6
กรอบแนวคิดกำรวิจัย ... 10
แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ... 11
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ... 15
งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ... 27
บทที่ 2 องค์ควำมรู้เกี่ยวกับชุมชนวัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ... 30
ประวัติศำสตร์ยุคกำรก่อตั้งชุมชนชุมชนเมืองโบรำณกันทรวิชัย (พ.ศ. 2413 -2456) ... 30
บริบทพื้นที่อ ำเภอกันทรวิชัย ... 33
ประวัติศำสตร์ต ำนำน "หลวงพ่อพระยืน" ... 35
ฌ
วัฒนธรรมประเพณี คติควำมเชื่อ ภูมิปัญญำ ชุมชนเมืองโบรำณกันทรวิชัย ... 37
บทที่ 3 พื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคม ชุมชนกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ... 45
พื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคมในสมัยอดีตของชุมชนกันทรวิชัย ... 45
พื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคมในปัจจุบันของชุมชนกันทรวิชัย ... 47
บทที่ 4 กระบวนกำรละครในพื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคม ชุมชนกันทรวิชัย จังหวัด มหำสำรคำม ... 53
สัมภำษณ์ และเก็บข้อมูลบริเวณวัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ... 53
กำรเก็บรวมรวบข้อมูลหำประเด็นส ำคัญของในชุมชนมำออกแบบกระบวนกำรสร้ำงสรรค์ละคร ชุมชน ... 56
ขั้นตอนและกระบวนกำรกิจกรรมสร้ำงสรรค์ละครชุมชนบนพื้นที่ทำงกำยภำพ ชุมชนกันทรวิชัย เรื่อง “ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน” ... 60
ขั้นตอนและกระบวนกำรก่อนกำรน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์ละครชุมชนเรื่อง “ต ำนำนหลวงพ่อ พระยืน” ... 86
บทที่ 5 กำรน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์ละครชุมชนเรื่อง “ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน” ... 98
วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์ละครชุมชน เรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน ... 99
ปัญหำ อุปสรรค และวิธีแก้ไข ... 100
ผลที่ได้จำกผู้มีส่วนร่วมในกระบวนกำรละครได้รับ ... 102
ผลที่ได้รับจำกกำรชมละครของผู้ชมที่มำชมละคร ... 104
สรุปผลกำรน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์ละครชุมชน เรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน ... 105
บทที่ 6 สรุปผล อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ... 106
บรรณำนุกรม ... 112
ภำคผนวก... 115
ภำคผนวก ก รำยนำมผู้ให้สัมภำษณ์ ... 116
ภำคผนวก ข บทละครเรื่อง ... 118
ภำคผนวก ค ภำพกิจกรรม ... 122
ญ ภำคผนวก ง แบบประเมินควำมพึงพอใจ ... 131 ประวัติผู้เขียน ... 134
สารบัญตาราง
หน้า ตำรำง 1 ควำมรู้เรื่องต ำนำนพ่อพระยืน กับพื้นที่ควำมทรงจ ำทำงสังคม วัดพุทธมงคล ที่ผู้วิจัยได้ถำม เยำวชนและผู้ใหญ่ในชุมชน วัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ... 58 ตำรำง 2 โครงเรื่องบทละคร ... 65 ตำรำง 3 บทละครเรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน และพื้นที่ควำมทรงจ ำวัดพุทธมงคล ... 67
สารบัญภาพ
หน้า
ภำพประกอบ 1กรอบแนวคิดกำรวิจัย ... 10
ภำพประกอบ 2 สภำพวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ... 17
ภำพประกอบ 3 แผนผังเมืองอ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ... 35
ภำพประกอบ 4 พระพุทธมงคล (วัดพุทธมงคล) พระพุทธมิ่งเมือง (วัดสุวรรณำวำส) ... 37
ภำพประกอบ 5 กำรสืบสำนประเพณีบุญบั้งไฟ... 40
ภำพประกอบ 6 ประเพณีบุญกฐิน ถวำยกฐิน ... 41
ภำพประกอบ 7 วัดพุทธมลคล (วัดพระยืน) ... 45
ภำพประกอบ 8 แท่งหิน หรือ ใบเสมำ ... 46
ภำพประกอบ 9องค์พระพุทธมงคล(พระยืน) ... 47
ภำพประกอบ 10พิพิธภัณฑ์พื้นบ้ำนวัดพุทธมงคล ... 48
ภำพประกอบ 11งำนศิลปะประเภทประติมำกรรมภำพนูนต่ ำ ... 48
ภำพประกอบ 12 งำนศิลปะงำนศิลปะภำพถ่ำยเซรำมิค ... 49
ภำพประกอบ 13กิจกรรมกำรกวำดลำนวัดพุทธมงคล ... 50
ภำพประกอบ 14 กิจกรรมกำรกวำดลำนวัดพุทธมงคล ... 51
ภำพประกอบ 15สัมภำษณ์นำยวีระ เนื่องคันธีร์ ... 54
ภำพประกอบ 16 สัมภำษณ์ชำวบ้ำนวัดพุทธมงคล ... 54
ภำพประกอบ 17 สัมภำษณ์เด็กในชุมชน ... 55
ภำพประกอบ 18 ระดมควำมคิดร่วมหำประเด็นที่น่ำสนใจของในพื้นที่ของตนและวิธีทำงแก้ไขปัญหำ ... 56
ภำพประกอบ 19 ระดมควำมคิดร่วมหำประเด็นที่น่ำสนใจของในพื้นที่ของตนและวิธีทำงแก้ไขปัญหำ (วันที่ 1 เมษำยน2560 ) ... 57
ภำพประกอบ 20กิจกรรม ท ำ ท ำ ท ำ ... 62
ฐ
ภำพประกอบ 21กิจกรรมสงบนิ่งแล้วจะรู้... 63
ภำพประกอบ 22 กิจกรรมลองท ำดูสิ... 64
ภำพประกอบ 23 นักแสดงรับบทเป็นคุณครูสมคิด ... 72
ภำพประกอบ 24 นักแสดงรับบทเป็นเด็กนักเรียน1 ... 73
ภำพประกอบ 25 นักแสดงรับบทเป็นเด็กนักเรียน2 ... 73
ภำพประกอบ 26 นักแสดงรับบทเป็นเด็กนักเรียน3 ... 74
ภำพประกอบ 27นักแสดงรับบทเป็นเด็กนักเรียน4 ... 74
ภำพประกอบ 28 นักแสดงรับบทเป็นเด็กนักเรียน5 ... 75
ภำพประกอบ 29 นักแสดงรับบทเป็นนักท่องเที่ยว ... 75
ภำพประกอบ 30 นักแสดงรับบทเป็นนักท่องเที่ยว ... 76
ภำพประกอบ 31ลักษณะเครื่องแต่งกำยผู้หญิง ... 77
ภำพประกอบ 32 ลักษณะเครื่องแต่งกำยผู้ชำย ... 78
ภำพประกอบ 33 ลักษณะเครื่องแต่งกำย ... 78
ภำพประกอบ 34 ลักษณะเครื่องแต่งกำยนักท่องเที่ยว ... 79
ภำพประกอบ 35อุปกรณ์เครื่องส ำอำง ... 80
ภำพประกอบ 36 ลักษณะกำรแต่งหน้ำผู้หญิง ... 81
ภำพประกอบ 37 ลักษณะกำรแต่งหน้ำผู้ชำย ... 81
ภำพประกอบ 38 กำรออกแบบฉำกในกำรแสดงเรื่องต ำนำนหลวงพ่อพระยืน กับพื้นที่ควำมทรงจ ำ ทำงสังคม ... 82
ภำพประกอบ 39 บริเวณฉำกในกำรแสดงและพื้นที่ในกำรแสดง ... 82
ภำพประกอบ 40 ผู้ชมที่เข้ำร่วมชมกำรแสดงละคร ... 83
ภำพประกอบ 41 เครื่องดนตรีพิณไฟฟ้ำ ... 83
ภำพประกอบ 42 เครื่องดนตรีโหวด ... 84
ภำพประกอบ 43 เครื่องดนตรีแคน ... 84
ฑ
ภำพประกอบ 44 กำรร ำประกอบเข้ำกับท ำนองดนตรี... 85
ภำพประกอบ 45 กำรร ำประกอบเข้ำกับท ำนองดนตรี... 85
ภำพประกอบ 46 กิจกรรมแนะน ำตัวนักแสดง ... 87
ภำพประกอบ 47 กิจกรรมแนะน ำตัวนักแสดง ... 87
ภำพประกอบ 48 กำรฝึกซ้อมกำรอ่ำนบทละคร ... 88
ภำพประกอบ 49 กำรฝึกซ้อมกำรอ่ำนบทละคร ... 88
ภำพประกอบ 50 กำรฝึกซ้อมกำรอ่ำนบทละคร ... 89
ภำพประกอบ 51 กำรฝึกซ้อมกำรอ่ำนบทละคร ... 89
ภำพประกอบ 52 ตัวอย่ำงกำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ... 90
ภำพประกอบ 53 กำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ที่ 1 ... 91
ภำพประกอบ 54 กำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ที่ 2 ... 92
ภำพประกอบ 55 กำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ที่ 3 ... 93
ภำพประกอบ 56 กำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ที่ 4 ... 94
ภำพประกอบ 57 กำรเคลื่อนไหวบนเวที (blocking) ที่ 5 ... 95
ภำพประกอบ 58 กำรซ้อมใหญ่ ... 96
ภำพประกอบ 59 กำรซ้อมใหญ่ ... 97
ภำพประกอบ 60 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 99
ภำพประกอบ 61 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 100
ภำพประกอบ 62 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 101
ภำพประกอบ 63 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 101
ภำพประกอบ 64 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 102
ภำพประกอบ 65 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 103
ภำพประกอบ 66 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 103
ภำพประกอบ 67 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 104
ฒ ภำพประกอบ 68 วันน ำเสนอผลงำนสร้ำงสรรค์... 104
บทที่ 1 บทน า
ภูมิหลัง
ภำคอีสำนเป็นแหล่งอำรำยธรรมที่มีควำมเจริญสะสมมำเป็นระยะเวลำอันยำวนำนโดยเฉพำะ กำรได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมสมัยทวำรำวดีในรำวพุทธศตวรรษที่ 12 ถึง 16 ได้ก่อให้เกิดควำม เจริญรุ่งเรืองทำงด้ำนศำสนำ ศิลปะ และวัฒนธรรมซึ่งปรำกฏจำกร่องรอยหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์
และโบรำณคดีกระจำยอยู่ในพื้นที่ภำคอีสำน จำกกำรส ำรวจของกองโบรำณคดีกรมศิลปำกรพบ หลักฐำนกำรตั้งถิ่นฐำนของผู้คนที่เป็นชุมชนขนำดใหญ่ ที่จัดเป็นชุมชนโบรำณในสมัยทวำรวดีกว่ำ 30 แห่ง กระจำยอยู่ทั่วพื้นที่ภำคอีสำน ในจังหวัดมหำสำรคำมและปรำกฏหลักฐำนชุมชนโบรำณสมัย ทวำรวดีหลำยแห่งเช่นนครจ ำปำศรี(อ ำเภอนำดูน)บ้ำนเชียงเหียน (อ ำเภอเมืองมหำสำรคำม) บ้ำนเมืองเสือ (อ ำเภอพยัคฆ์พิสัย) เป็นต้น รวมทั้งชุมชนโบรำณสมัยทวำรวดีที่ส ำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดมหำสำรคำมคือเมืองโบรำณคันธะวิสัย (อ ำเภอกันทรวิชัย) ซึ่งปรำกฏหลักฐำนกำรตั้งถิ่นฐำน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศำสตร์ตอนปลำยสืบเนื่องมำจำกสมัยทวำรวดีโดยมีหลักฐำนที่บ่งบอกถึงกำร ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมสมัยทวำรวดีที่ส ำคัญ คือเสมำหิน พระพิมพ์ดินเผำ และพระพุทธรูปยืน เป็นฝีมือของช่ำงท้องถิ่นตั้งอยู่กลำงเนินหินภำยในบริเวณวัดพุทธมงคล และพระพุทธรูปยืนนั้นคนใน ชุมชนได้มีกำรสร้ำงและให้ควำมหมำยกับพระพุทธรูปยืนนี้ว่ำ" หลวงพ่อพระยืน" (ทม เกตุวงศำ และ คณะ, 2551 : 1)
ในกำรศึกษำประวัติศำสตร์ท้องถิ่นต ำนำนเป็นหลักฐำนประเภทหนึ่งที่น ำมำใช้ในกำรศึกษำ ค้นคว้ำได้ ต ำนำนของท้องถิ่นมีควำมส ำคัญมำกในกำรที่จะท ำให้ทรำบถึง สภำพด้ำนสังคม วัฒนธรรม ของคนในอดีตซึ่งแต่ละกลุ่มชนจะมีต ำนำนถึงกำรบอกเล่ำในกำรก่อตั้งชุมชนกำรสร้ำงเมือง สร้ำงวัด วิหำร คูน้ ำ คันดิน กำรเกิดศึกสงครำม กำรติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนอื่นกำรเปลี่ยนแปลงของดินฟ้ำ อำกำศ และสภำพแวดล้อม เรื่องรำวที่มีควำมเป็นมำในอดีตของชุมชนซึ่งจะเป็นกำรเล่ำสืบต่อกันมำ จำกปำกต่อปำกโดยไม่มีกำรบันทึกไว้เป็นหลักฐำน เช่นเดียวกับประวัติศำสตร์ในต ำนำนของเมือง โบรำณกันทรวิชัย ทั้งนี้ดังปรำกฏหลักฐำนทำงโบรำณคดีสมัยตั้งแต่ก่อนประวัติศำสตร์ทวำรวดี ขอม และล้ำนช้ำงตกทอดมำจนถึงปัจจุบันและนอกจำกนี้ยังได้ปรำกฏต ำนำนเล่ำขำนกันมำเกี่ยวกับ ประวัติศำสตร์ของเมืองโดยมีกำรผูกโยงเรื่องรำวเกี่ยวกับโบรำณสถำนโบรำณวัตถุที่ปรำกฏให้เห็น ควำมว่ำ
2
" ...ณ เมืองคันธรำชมีผู้ปกครองเมือง ชื่อท้ำวลินจง ได้ปกครองรำษฎรหัวเมืองใหญ่น้อย ทั้งหลำยด้วยควำมร่มเย็นเป็นสุขตลอดมำ ท้ำวลิงจงมีลูกชำยหนึ่งคนชื่อท้ำวลินทอง ท้ำวลินทองนั้น เป็นบุคคลที่ขำดควำมเมตตำ มีควำมโกรธแค้นบิดำที่ไม่ยกเมืองให้ตนเองครอบครอง จึงได้จับบิดำไป ขังคุก ห้ำมให้ข้ำวให้น้ ำ ไม่ให้ใครเข้ำเยี่ยมนอกจำกมำรดำเพียงผู้เดียว จำกนั้นท้ำวลินทองจับได้ว่ำ มำรดำแอบเอำข้ำวเอำน้ำไปให้บิดำ จึงห้ำมไม่ให้มำรดำเข้ำเยี่ยมโดยเด็ดขำด ท ำให้บิดำทุรนทุรำยจำก กำรอดข้ำวอดน้ ำจนถึงแก่ควำมตำยในที่สุด ส่วนมำรดำต่อว่ำท้ำวลินทองจนท้ำวลินทองไม่พอใจเกิด โทสะจึงได้ฆ่ำมำรดำของตนเอง จำกนั้นท้ำวลินทองได้ขึ้นปกครองบ้ำนเมือง บ้ำนเมืองจึงมีแต่ควำมระ ส่ำระส่ำยไพร่ฟ้ำ ประชำรำษฎร์ได้รับแต่ควำมเดือดร้อน ได้มีโหรทำนำยว่ำจะล้ำงบำปกรรมได้ก็เมื่อได้
มีกำรสร้ำงพระพุทธรูป เพื่ออุทิศส่วน ."(อรดี ประนิสอน และคณะ, 2559 : 1-2)
บริเวณพื้นที่วัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ถือได้ว่ำเป็นบริเวณพื้นที่อัน ศักดิ์สิทธิ์ที่คนในชุมชนยังคงให้ควำมเคำรพศรัทธำอย่ำงแรงกล้ำโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งควำมศรัทธำของ คนในชุมชนที่มีต่อองค์พระพุทธมงคล(หลวงพ่อพระยืน) ที่ประดิษฐำนอยู่ที่วัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทร วิชัย จังหวัดมหำสำรคำม และเมื่อพิจำรณำจำกหลักฐำนที่เป็นโบรำณวัตถุสถำน ประติมำกรรม พระพุทธรูป พระพิมพ์ดินเผำ และแท่นหินหรือใบเสมำรวมทั้งลักษณะบริเวณพื้นที่ทำงกำยภำพของ ผังเมืองที่มีลักษณะเป็นคูน้ ำคันดินรอมรอบนั้น ท ำให้อธิบำยได้ว่ำพื้นที่เมืองกันทรวิชัยมีควำมเป็นพื้นที่
อันศักดิ์สิทธิ์ กล่ำวคือมีกำรผสมผสำนคติควำมเชื่อในหลักพระพุทธศำสนำเข้ำกับกำรด ำรงชีวิตของคน ในชุมชนในลักษณะที่เป็นชุมชนชำวพุทธหรือเป็นชุมชนในพุทธศำสนำที่มีกำรปฏิบัติสืบต่อกันมำ (สมชำติ มณีโชติ และคณะ, 2550 : 208-211)
อย่ำงไรก็ตำมเมื่อสภำพสังคมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอันมีสำเหตุมำจำกทั้งปัจจัยภำยใน และปัจจัยภำยนอกของชุมชนได้ส่งผลให้วิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ของคนในสังคมอีสำนเปลี่ยนแปลงไปวิถี
ชีวิตของคนในชุมชนที่อำศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุมชนกันทรวิชัยก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน โดยเฉพำะควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และควำมตระหนักในคุณค่ำของรำกเหง้ำ และมรดกทำงวัฒนธรรมที่
สะสมสืบทอดมำจำกบรรพบุรุษได้เลือนรำงจนเกือบจะสูญหำยไปจำกวิถีชีวิตและควำมทรงจ ำของ ผู้คนในชุมชนสิ่งที่เกิดขึ้นตำมมำก็คือควำมไม่สนใจและกำรละเลยต่อกำรอนุรักษ์กำรพัฒนำคุณค่ำของ มรดกทำงวัฒนธรรมรวมทั้งกำรขำดควำมรักควำมภำคภูมิใจต่อชุมชนท้องถิ่นของตน
ในกำรน ำศิลปะกำรละครมำประยุกต์ใช้ในชุมชนนั้นมีหลำยรูปแบบส่วนใหญ่เป็นละครขนำด เล็กมีต้นทุนต่ ำ เป็นละครเร่เพื่อเสริมควำมรู้ในโรงเรียน และละครรณรงค์ให้ควำมรู้เพื่อพัฒนำใน
3 ชุมชน หรือเป็นกิจกรรมละครเพื่อกำรพัฒนำกลุ่มคน กำรละครที่ออกมำแสดงนอกโรงละครนั้นล้วนมี
ควำมสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับประชำชนในชุมชนอำจเป็นชุมชนเมืองหรือชนบทก็ได้ กำรแสดงละครที่
พัฒนำจำกทุนทำงศิลปวัฒนธรรมของชุมชนเป็นกิจกรรมที่สำมำรถรวมจิตใจผู้คนในชุมชน และ น ำเสนอชีวิตเรื่องรำว หรือประวัติชองชุมชนโดยกำรเล่ำเรื่องอำจเป็นประโยชน์ของชุมชนที่จะได้
เรียนรู้ และจดจ ำ ประวัติ ควำมเชื่อ ของชุมชน ขณะเดียวกันเป็นกำรท ำงำน และใช้ทุนของชุมชนทั้ง ในเชิงประวัติ หรือ ในเชิงศิลปะ วัฒนธรรม กำรสร้ำงกิจกรรมเชิงสร้ำงสรรค์ อำจเป็นกิจกรรมในเชิง ศิลปะกำรแสดง หรือกำรสร้ำงสรรค์งำนกับชุมชนที่ได้ผลผลิตที่เป็นรูปธรรม และเป็นที่ภำคภูมิใจของ ชุมชนเช่นกัน (พรรัตน์ ด ำรุง, 2555 : 68-84 )
จะเห็นได้ว่ำกำรแสดงละครชุมชนมีควำมสัมพันธ์กับคนในชุมชนอย่ำงมำกเมื่อเริ่มจำกทุนทำง ศิลปวัฒนธรรมเดิมของคนชุมชนเอง มำเป็นกิจกรรมที่สำมำรถรวมจิตใจของคนในชุมชน และน ำเสนอ ชีวิตเรื่องรำว หรือประวัติของชุมชน โดยผ่ำนกำรเล่ำเรื่อง และจดจ ำ ประวัติ ควำมเชื่อ ของชุมชน ทั้ง ในเชิงประวัติ หรือ ในเชิงศิลปวัฒนธรรมท ำให้เกิดภำพควำมทรงจ ำทำงสังคมในอดีตจนถึงปัจจุบันของ คนในชุมชนให้ได้คิดและเป็นที่ภำคภูมิใจของชุมชน
ด้วยเหตุผลดังกล่ำวจึงท ำให้ผู้วิจัยมีควำมสนใจที่จะศึกษำเกี่ยวกับต ำนำนหลวงพ่อพระยืนกับ พื้นที่วัดพุทธมงคลในกำรสร้ำงควำมทรงจ ำทำงสังคม (Social Memory)กับกำรสร้ำงสรรค์ละคร ชุมชน (Community Drama) ซึ่งเป็นกำรท ำงำนร่วมกันของนักกำรละครจำกภำยนอกชุมชนร่วมกับ ผู้คนในชุมชนเป็นกำรสร้ำงสรรค์ละครแบบใหม่โดยมีกำรเขียนบทละครขึ้นมำใหม่ซึ่งเป็นบทละครที่
คนในชุมชนช่วยกันเขียนขึ้นเพื่อมุ่งหวังว่ำจะเกิดควำมรู้ และตระหนักในปัญหำ เพื่อน ำสู่กำร เปลี่ยนแปลงพัฒนำตนเองของคนในชุมชน หรือพัฒนำองค์กรในชุมชนไปในทิศทำงที่เป็นประโยชน์
มำกขึ้น ซึ่งผู้สร้ำงสรรค์งำนจะรวบรวมเรื่องรำว ประเด็นควำมสนใจจำกชุมชนอำจเป็นเรื่องรำว ประวัติศำสตร์ของชุมชนเอง ผ่ำนกำรบอกเล่ำของผู้รู้ในชุมชนหรือคนในชุมชนเพื่อกระตุ้นให้เกิด จิตส ำนึก และให้ควำมส ำคัญกับพื้นที่ของตนเองมำกขึ้น โดยคนในชุมชนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตควำม เป็นอยู่ของคนในชุมชมในสมัยอดีตโดยผ่ำนกระบวนกำรละครที่มีทั้งคนในชุมชนและผู้วิจัยได้ช่วยกัน พัฒนำกระบวนกำรละครให้มีควำมน่ำสนใจ และยังช่วยปลูกฝั่งให้คนในชุมชนมีกำรสร้ำงจิตส ำนึกที่ดี
มีคุณธรรม รักในพื้นที่ท้องถิ่นของตนเพื่อน ำไปสู่กำรกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชนที่มีคุณค่ำต่อไป
4 ความมุ่งหมายของการวิจัย
1.เพื่อศึกษำพื้นที่ทำงกำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคมชุมชนกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม ผ่ำนกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน
2. เพื่อสร้ำงและน ำเสนอผลงำนละครชุมชนผ่ำนต ำนำนหลวงพ่อพระยืน อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
ค าถามในการวิจัย/การสร้างสรรค์ศิลปกรรมศาสตร์
1. พื้นที่กำยภำพกับควำมทรงจ ำทำงสังคมชุมชนกันทรวิชัยมีควำมสัมพันธ์กันอย่ำงไร 2. กระบวนกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชนผ่ำนต ำนำนหลวงพ่อพระยืน กับพื้นที่ควำมทรงจ ำทำง สังคมของชุมชนวัดพุทธมงคล มีกระบวนกำรสร้ำงสรรค์อย่ำงไร
ความส าคัญของการวิจัย
1. ผู้วิจัยได้เรียนรู้กระบวนกำรท ำละคร โดยให้ เด็ก เยำวชน รวมถึงคนในชุมชนมีส่วนร่วมใน กำรประกอบสร้ำงกระบวนกำรละคร
2. ผลงำนละครชุมชนเรื่องต ำนำนหลวงพ่อพระยืนสำมำรถสื่อสำรประเด็นปัญหำที่ผู้มีส่วน ร่วมในกระบวนกำรค้นพบจำกชุมชนไปสู่ผู้ชมและน ำไปสู่กำรเรียนรู้ กำรเข้ำใจและให้ควำมส ำคัญกับ พื้นที่ของตนให้มำกขึ้น ตลอดจนตระหนักถึงปัญหำของชุมชน
5 นิยามศัพท์เฉพาะ
พื้นที่ หมำยถึง พื้นที่ที่มีควำมหมำยกับคนในชุมชนวัดพุทธ มงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม หมำย รวมถึง ควำมเป็นอยู่ ผู้คน และสังคมวัฒนธรรมของคนใน ชุมชนวัดพุทธมงคล(วัดพระยืน)
ควำมทรงจ ำทำงสังคม หมำยถึง ควำมทรงจ ำทำงสังคมที่คนในชุมชนวัด (พุทธ มงคล อ ำเภอกันทรวิชัยจังหวัดมหำสำรคำม ในอดีตให้
ควำมส ำคัญกับวัดพุทธมงคล(วัดพระยืน) ทำงด้ำนศำสนำ ศิลปะ และวัฒนธรรม พิธีกรรมต่ำง ๆ ได้แก่ ฮีตสิบสอง คลองสิบสี่ คือ จะมีประเพณีครบทั้ง 12 เดือน ดังเช่นภำค อีสำนทั่วไป
ละครชุมชน หมำยถึง กำรสร้ำงละครแบบใหม่ ที่น ำเรื่องรำว ส ำคัญ ของคนในชุมชนหรือประเด็นที่น่ำสนใจจำกชุมชนวัดพุทธ มงคล(วัดพระยืน)มำปรับเปลี่ยนกระบวนกำรสร้ำงสรรค์
ละครชุมชนผ่ำนเรื่องรำวหรือเรื่องเล่ำ และน ำมำพัฒนำ เป็นบทละครขึ้นจำกผู้คนในชุมชน เพื่อน ำไปสู่กำรท ำงำน ร่วมกันของคนในชุมชน และเปลี่ยนแปลงชุมชนสังคม ให้ดีขึ้น
(Social Memory) (place/space)
(Community Drama)
6 ระเบียบวิธีการวิจัย
กำรวิจัยเรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำรสร้ำงสรรค์
ละครชุมชน ผู้วิจัยได้ด ำเนินกำรวิจัย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจำกเอกสำร ข้อมูลภำคสนำม ใช้วิธีกำร ส ำรวจ เบื้องต้น กำรสัมภำษณ์ กำรสังเกต และกำรสนทนำกลุ่ม และน ำข้อมูลมำวิเครำะห์เพื่อหำ แนวทำงตอบปัญหำตำมควำมมุ่งหมำยของกำรวิจัย โดยมีวิธีด ำเนินกำรวิจัยดังนี้
1.ขอบเขตของการวิจัย 1.1 ด้านเนื้อหา
1. เพื่อศึกษำประวัติศำสตร์ ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
2. เพื่อศึกษำพื้นที่ทำงกำยภำพวัดพุทธมงคลกับกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน 1.2 ด้านพื้นที่ในการวิจัย
พื้นที่ท ำกำรวิจัยเกี่ยวกับต ำนำนหลวงพ่อพระยืน อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัด มหำสำรคำม ผู้วิจัยได้เลือกพื้นที่กำรศึกษำเฉพำะบริเวณลำนวัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัด มหำสำรคำม
1.3 ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชำกรในกำรวิจัย คือจะใช้วิธีกำรวิจัยที่เน้นกำรท ำงำนสนำม และได้ก ำหนด ประชำกรกำรวิจัยประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ
1. ผู้รู้ (Key Informant) จ ำนวน 5 คน คือ
1. พระครูอนุรักษ์ พุทธมงคล เจ้ำอำวำสวัดพุทธมงคล อ ำเภอ กันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
2. นำย วีระ เนื่องคันธีร์ ผู้ดูแลวัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
3. นำงสุรีพร พลศรี ผู้ปกครองเด็กในชุมชนที่เข้ำร่วมกิจกรรม 4. นำยสัมฤทธิ์. เหล่ำต้น ผู้ใหญ่บ้ำน หมู่ที่ 11
5. นำงลำภิณี ดอนพลก้อม ผู้ใหญ่บ้ำน หมู่ที่ 2
2. กลุ่มผู้ปฏิบัติ (Casual Informants) ประกอบด้วยเยำวชนใน ชุมชน 5 คน และนิสิตเอกศิลปะกำรละคร มหำวิทยำลัย มหำสำรคำม จ ำนวน 5 คน รวมทั้งหมด 10 คน
7 โดยผู้วิจัยมีเกณฑ์การคัดเลือกนักแสดงจากความสมัครใจ และสนใจของ เด็ก และเยาวชน รวมไปถึงคนในชุมชนที่มีสนใจจะร่วมท ากิจกรรม ทั้งนี้ผู้วิจัยได้คัดเลือกนักแสดงภายนอกมาร่วมท า การแสดงเพื่อให้กิจกรรมสร้างสรรค์ละครชุมชนของผู้วิจัยนั้นออกมาสมบูรณ์ที่สุดโดยเลือกนิสิต วิชาเอกศิลปะการละคร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาเป็นนักแสดงสมทบ
1.ด.ญ.พัชริดำ พลศรี
2. ด.ญ.พลอยไพริน โนนใหญ่
3. ด.ญ.ฟ้ำใส ใจฟักสี
4. ด.ช.ต้นกล้ำ โนนใหญ่
5. ด.ญ.เตยขวัญ ใจฟักสีนำย 6. นำยศุภกิตต์ สุวลักษณ์
7. นำงสำว สุธรรมำ ศรีมหำโชติ
8. นำย ณัฐพงษ์ ค ำไสย 9. นำยภำณุพงษ์ อันสนธิ
10. นำยพุฒิพงศ์ มำตย์จันทร์
3. กลุ่มบุคคลทั่วไป (General Informants) ประกอบด้วยผู้ชม จ ำนวน 20
1.4 ด้านวิธีวิจัย
กำรวิจัยเรื่องนี้ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภำพและกำรสร้ำงสรรค์ (Qualitative Research and Creation) โดยกำรเก็บรวบรวมข้อมูลจำกเอกสำร เก็บรวบรวมข้อมูลจำกภำคสนำม โดยกำรส ำรวจ สัมภำษณ์ สังเกต กำรสนทนำกลุ่มแล้วน ำข้อมูลมำวิเครำะห์และสร้ำงสรรค์ผลงำน
1.5 ด้านระยะเวลา
ในกำรวิจัยเรื่อง ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำร สร้ำงสรรค์ละครชุมชน ผู้วิจัยได้ก ำหนดระยะเวลำในกำรด ำเนินกำรวิจัยตั้งแต่เดือนสิงหำคม พ.ศ.
2560 ถึงเดือน พฤษภำคม พ.ศ. 2561
8 2. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัยในที่นี้หมำยถึงเครื่องมือที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งมี
ข้อมูลจำกปรำกฏกำรณ์สนำม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเอกสำรต่ำง ๆผู้วิจัยจะได้ใช้เครื่องมือหลัก คือแบบ สัมภำษณ์ แบบบันทึกกำรท ำงำนสนำม กล้องถ่ำยภำพ กล้องถ่ำยวิดีโอรวมถึงเครื่องมือบันทึก ข้อมูล โสตทัศนสำรต่ำง ๆ และในกรณีที่มีกำรจัดกำรแสดงพร้อมกันนั้นจ ำเป็นต้องมีผู้ช่วยวิจัย เพื่อช่วยใน กำรเก็บรวบรวมข้อมูล อย่ำงไรก็ตำมในกำรศึกษำงำนวิจัยนี้ผู้วิจัยได้ท ำงำนสนำมต่อเนื่องมำเป็น ระยะเวลำ 2 ปีแล้ว ดังนั้นผู้วิจัยจึงสำมำรถมองเห็นภำพปรำกฏกำรณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณวัดพุทธมงคล อ ำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม
2.1 แบบส ำรวจ (Inventory) เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้ำงขึ้นเพื่อใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ทั่วไปของกลุ่มประชำกรหรือตัวอย่ำงประชำกร โดยผู้วิจัยก ำหนดประเด็นกำรเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติต ำนำนหลวงพ่อพระยืน และบริเวณพื้นที่ควำมทรงจ ำทำงสังคมของวัดพุทธมงคล อ ำเภอ กันทรวิชัย จังหวัดมหำสำรคำม กับกำรสร้ำงสรรค์ละครชุมชน
2.2 แบบสังเกต (Observation) เป็นแบบสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) และแบบสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-Participant Observation) ใช้ในกำรสังเกต กลุ่มคนในชุมชนที่มำสักกำระหลวงพ่อพระยืนทั้งบุคคลภำยนอกและภำยในชุมชน
2.3 กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
กำรเก็บรวบรวมกำรวิจัยในครั้งนี้ใช้วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ยึดหลังข้อมูลที่มี
ลักษณะสอดคล้องกับควำมมุ่งหมำยของงำนวิจัย ได้แก่ กำรเก็บข้อมูลจำกเอกสำร และเก็บรวบรวม ข้อมูลภำคสนำม
2.3.1 กำรเก็บรวบรวมข้อมูลจำกเอกสำรเป็นกำรศึกษำจำกเอกสำรที่มีกำร บันทึกเอำไว้ หรือที่มีกำรศึกษำไว้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับต ำนำนหลวงพ่อพระยืน ควำมรู้เกี่ยวกับ พื้นที่ควำมทรงจ ำบริเวณวัดพุทธมงคล กระบวนกำรสร้ำงสรรค์ละคร แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง งำนวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยท ำกำรค้นคว้ำจำกข้อมูลจำกหน่วยงำนรำชกำร สถำนบันกำรศึกษำ หนังสือ ต ำรำ วิทยำนิพนธ์ อินเตอร์เน็ต เป็นต้น
9 2.4 กำรเก็บข้อมูลภำคสนำม ใช้วิธีกำรเก็บข้อมูลโดยวิธีกำรต่ำง ๆ ดังนี้
2.4.1 ใช้เทคนิคกำรส ำรวจกับกลุ่มนักแสดงเพื่อศึกษำควำมรู้พื้นฐำนที่มีต่อ ต ำนำนหลวงพ่อพระยืน
2.4.2 ใช้เทคนิคกำรสังเกตแบบมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ เจ้ำ อำวำสวัด ผู้ดูแลวัด คนในชุมชน
2.4.3 ใช้เทคนิคกำรสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่
ประชำชนภำยนอกชุมชนและคนในชุมชนที่มำสักกำระพระพุทธรูปหลวงพ่อพระยืน 3 การเก็บข้อมูลการวิจัย
ผู้วิจัยได้น ำข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำเอกสำรและข้อมูลจำกภำคสนำม โดยแยกตำมควำมมุ่ง หมำยของกำรวิจัย มำจัดกระท ำดังนี้
3.1 น ำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จำกเอกสำรต่ำง ๆ มำศึกษำอย่ำงละเอียดพร้อม จัดระบบหมวดหมู่ตำมควำมมุ่งหมำยของกำรวิจัยที่ก ำหนดไว้
3.2 น ำข้อมูลจำกภำคสนำมที่เก็บรวบรวมได้จำกกำรส ำรวจเบื้องต้น กำรสังเกตกำร สัมภำษณ์และกำรสนทนำกลุ่ม ซึ่งได้จดบันทึกไว้ และน ำแถบบันทึกเสียงมำถอดควำมแยกประเภทจัด หมวดหมู่และสรุปสำระส ำคัญตำมประเด็นที่ท ำกำรศึกษำวิจัย
3.3 น ำข้อมูลทั้งที่เก็บรวบรวมได้จำกเอกสำรและข้อมูลภำคสนำมตำมที่รวบรวมได้
จำกกำรที่ส ำรวจเบื้องต้น กำรสังเกต กำรสัมภำษณ์ และกำรสนทนำกลุ่ม มำตรวจสอบควำมถูกต้อง สมบูรณ์
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ผู้วิจัยด ำเนินกำรวิเครำะห์ข้อมูลตำมควำมมุ่งหมำยของกำรวิจัย โดยกำรน ำข้อมูลที่ได้จำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลจำกเอกสำรและข้อมูลภำคสนำมที่ได้จำกกำรสังเกต สัมภำษณ์ กำรสนทนำกลุ่ม มำท ำกำรวิเครำะห์โดยมีขั้นตอนดังนี้
4.1 ตรวจสอบข้อมูลที่สัมภำษณ์จำกกลุ่มประชำกร 4.2 น ำข้อมูลที่ได้มำจัดหมวดหมู่
4.3 สรุปและวิเครำะห์ข้อมูลแต่ละกลุ่มจำกเครื่องมือ 4.4 น ำข้อมูลที่ได้มำเรียบเรียงตำมควำมมุ่งหมำย
10 5 การน าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ผู้วิจัยน ำเสนอผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลโดยเรียบเรียง ผลกำร วิเครำะห์ข้อมูลตำมควำมมุ่งหมำยที่ก ำหนด โดยใช้กำรน ำเสนอผลงำนในรูปแบบกำรสร้ำงสรรค์ละคร ชุมชนและมีกำรพรรณนำวิเครำะห์เพื่อเป็นบทสรุปสุดท้ำยของงำนวิจัย
กรอบแนวคิดการวิจัย
ในกำรศึกษำต ำนำนหลวงพ่อพระยืน : พื้นที่แห่งควำมทรงจ ำทำงสังคมกับกำรสร้ำงสรรค์
ละครชุมชนผู้วิจัยได้วำงกรอบแนวคิดในกำรวิจัย ดังนี้
ภำพประกอบ 1กรอบแนวคิดกำรวิจัย ที่มำ : นำงสำวทรรณรต ทับแย้ม ต านานหลวง
พ่อพระยืน
การมีส่วนร่วม ของคนในชุมชน Creation
Social Memory
Drama process
11 แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
1. แนวคิดเรื่องพื้นที่ (place/space)
อังรี เลอแฟบว์ (Lefebrve) โดย คณะสังคมวิทยำและมำนุษยวิทยำ (2554 : 43- 44). กล่ำวว่ำ แนวคิด เรื่องพื้นที่ที่ได้มองเรื่องของ “พื้นที่ (space)” ว่ำเป็น “ผลผลิต (product)” ที่
เกิดจำกกระบวนกำรกำร ผลิตที่มนุษย์ผลิตขึ้น ทั้งนี้ Lefebvre ได้สร้ำงแนวคิดเรื่อง space ไว้ 3 ส่วน ปรำกฏในงำนเรื่อง Production of Space ได้แก่ 1) Spatial Practice 2) Representation of Space 3) Representational of Space
จำกแนวคิดเรื่องพื้นที่ทำงสังคม อองรี เลอเฟป ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ประเภท (กำญจนำ แก้วเทพ, 2549 : 587) ดังนี้
1) Spatial Space หมำยถึง ปฏิบัติกำรทำงสังคมต่ำง ๆที่ถูกก ำหนดให้อยู่
ในพื้นที่ทำงกำยภำพ เช่นพื้นที่ของกำรท ำงำนกับพื้นที่ของเวลำว่ำง ซึ่งแตกต่ำงกันไปตำมลักษณะทำง สังคมของแต่ ละบุคคล บ้ำนเป็นพื้นที่กิจกรรมยำมว่ำงส ำหรับผู้ชำย แต่เป็นพื้นที่ท ำงำนของผู้หญิง 2) Representation of Space หมำยถึง พื้นที่ที่มีอยู่ในควำมรู้สึกคิดของ ผู้คน(conceptualization space) เช่น สถำปนิก มัณฑนำกร นักวำงผังเมือง เป็นพื้นที่ที่จะใช้ควำมรู้
ควำม เข้ำใจส ำหรับกำรจัดกำรใช้ประโยชน์ โดยพิจำรณำจำกส่วนประกอบของพื้นที่
3) Representational of Space หมำยถึง รหัสที่เกี่ยวกับพื้นที่ดังเช่นพื้นที่
ที่มีแสงสว่ำง หมำยควำมถึงควำมอบอุ่น ปลอดภัย ตรงข้ำมกับพื้นที่มืดทึบ กำรสร้ำงควำมหมำยให้กับ พื้นที่ต่ำง ๆ เช่น สลัม ศูนย์กำรค้ำ ฯลฯ กำรสร้ำงควำมหมำยดังกล่ำวนั้นมีกำรต่อสู้และเปลี่ยนแปลง อยู่โดยตลอด
นิธิ เอียวศรีวงศ์, (2545) ได้กล่ำวว่ำ พื้นที่ในเรื่องพื้นที่ในคติไทย ว่ำ พื้นที่และเวลำ เป็น เรื่องที่สัมพันธ์กัน โดยควำมสัมพันธ์ของสิ่งต่ำง ๆ นั้น นิธิมองว่ำเป็นเรื่องที่มนุษย์สร้ำงควำมหมำย ขึ้นมำทั้งนั้นอำนันท์ กำญจนพันธุ์, (2544) แสดงทัศนะต่อเรื่องแนวคิดเรื่องพื้นที่ โดย อำนันท์มองว่ำ คนไทยเคยเข้ำใจควำมหมำยของสถำนที่โดยผ่ำนสื่อหรือสัญลักษณ์บำงอย่ำง สัญลักษณ์เหล่ำนี้ก็คือ เรื่องของพิธีกรรมและควำมเชื่อต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งพิธีกรรมและควำมเชื่อเหล่ำนั้นท ำหน้ำที่เป็น กฎเกณฑ์ในกำรดูแลรักษำพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ให้ควำมหมำยนั้นเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องควำมสัมพันธ์
ระหว่ำงมนุษย์กับธรรมชำติไม่ให้มนุษย์ท ำลำยธรรมชำติมำกเกินไปโดยชี้ให้เห็นว่ำคนไทยไม่ได้มอง สถำนที่เพียงแค่ตัวสถำนที่แต่ให้ควำมสนใจแก่ “ระบบคุณค่ำ” ที่รองรับควำมเชื่อในเรื่องของสถำนที่
นั้น ๆ