• Tidak ada hasil yang ditemukan

วรรณกรรมที่เกี่ยวของ

5. องคประกอบดานบุคลากร (People) ครอบคลุมใน 2 ประเด็นคือ

3.5. ภาพรวมผลประกอบการทางธุรกิจของโรงแรมบูติก

ความสําเร็จของโรงแรมบูติกในปจจุบันนี้ อยูที่ความสามารถในการตอบสนองไลฟไตล

(Lifestyle) และ ความเปนตัวตน (Individuality) ของนักเดินทาง กลุมเปาหมายไดมากที่สุด พรอม ดวยการพัฒนาการออกแบบและบริการอยางสม่ําเสมอ เพราะองคประกอบของตลาดและ อุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา ธุรกิจโรงแรมบูติกเติบโตขึ้นอยางตอเนื่องเริ่มตั้งแตตนป

ค.ศ.1980 ในทวีปอเมริกาตั้งแตโรงแรม W ในกลุมโรงแรม Starwood hotel & Resort เริ่มเปด ดําเนินงานตั้งแต ค.ศ. 1988 เปนตนมา Barry Sternlicht ผูบริหารระดับสูงของโรงแรมในเครือ ดังกลาว พูดถึงศักยภาพของโรงแรมบูติกในการประชุม CULA Hotel Investment วา โรงแรมบูติก ภายใตชื่อ “W” ทํากําไรไดเพิ่มขึ้นเปน 15% ของรายไดในอเมริกาเหนือ ซึ่งแสดงใหเห็นวา โรงแรมบูติกกําลังเปนที่นิยมของกลุมลูกคาในขณะนี้ โรงแรมบูติกเติบโตและเข็มแข็งขึ้นดวย รากฐานที่มั่นคง จากตัวเลขทางสถิติของ Smith Travel Research ไดแสดงรายไดเฉลี่ยการเขาพักตอ วัน (ADR) อยูที่ 209.45 ดอลลารสหรัฐ และเปอรเซ็นตการเขาพักอยูที่ 71.1 % ในป 2000

จากการรวบรวมขอมูลแนวโนมของโรงแรมบูติก โดย Mark Lamano ประธานของ สถาบันวิจัย Smith Travel Research ตั้งแตป ค.ศ.1995 ถึง ค.ศ.2000 ชี้ใหเห็นวา กลุมลูกคาระดับ 1 (Primary market) ระดับ 2 (Secondary market) และกลุมลูกคาระดับ 3 (Tertiary markets) ตางให

ความสนใจในการเขาพักในโรงแรมบูติกทั้งสิ้น ผลการวิจัยดังกลาวยังแสดงใหเห็นถึงจํานวน หองพักจากโรงแรมบูติกในอเมริกาที่มีจํานวนสูงขึ้นถึง 45,000 หอง เมื่อสิ้นป ค.ศ.2000 อีกดวย จากตารางดานลางแสดงใหเห็นถึงการเปรียบเทียบผลประกอบการของโรงแรมบูติก กับโรงแรมใน ประเทศกลุมอื่น (National hotels) และโรงแรมระดับหรู (Luxury hotels)

  26

      Comparison of RevPAR Trends 

 

$1 60 

$1 40 

1995      1996      1997       1998       1999         

 

‐‐‐U.S.  –‐‐Luxury  ‐‐‐Boutique ภาพประกอบที่3Comparison of RevPAR Trends

ที่มา : Smith Travel Research, 2001

ภาพประกอบที่4 Comparison of Average DailyRate Trends       Comparison of Average DailyRate Trends 

  $2 20 

$2 00 

$1

1995      1996      1997       1998       1999         

 

‐‐‐U.S.  –‐‐Luxury  ‐‐‐Boutique

ที่มา : Smith Travel Research, 2001

      Comparison of Occupancy Trends 

          76

74

1995      1996      1997       1998       1999     

ภาพประกอบที่5 Comparison of Occupancy Trends ที่มา : Smith Travel Research, 2001

จากภาพประกอบแสดงใหเห็นวา โรงแรมบูติกมีผลประกอบการที่ดีอยางเห็นไดชัด เมื่อ เทียบคาเฉลี่ยการเขาพัก (ADR) ระหวางกลุมโรงแรมบูติก (Boutique hotels) กับกลุมโรงแรมหรู

(Luxury hotels) และโรงแรมในประเทศกลุมอื่น (National hotels) มีคาเฉลี่ยสูงกวาหรือใกลเคียงกับ กลุมโรงแรมที่กลาวมาขางตนเลยทีเดียว จากแผนภูมิภาพ รายไดจากยอดการเขาพัก (RevPAR) แสดงใหเห็นถึงอัตราการเขาซึ่งเปรียบเทียบระหวาง โรงแรมบูติก กับโรงระดับหรู (Luxury hotels) ซึ่งมียอดรายไดการเขาพักในระดับใกลเคียงกันในป ค.ศ. 1996 แลวขยายตัวกวางขึ้นเปนลําดับ จนถึงป ค.ศ.2000

จากการสํารวจขอมูลในระบบอินเตอรเน็ตของผูวิจัย พบรายงานขาวของ เมียรา เอียโรเซียน (Meara Earozain) จากสํานักขาว CNN ไดกลาวถึงกลยุทธทางการตลาดในการดําเนินธุรกิจของ โรงแรมบูติก ในกลุม Loews ซึ่งเปนโรงแรมระบบเครือขายที่หันมาประกอบธุรกิจ ประเภทโรง บูติก ณ เมืองนิวยอรค ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งประสบผลสําเร็จและไดการตอบรับเปนอยางดีใน การใหบริการภายใตชื่อ “Metro Man Package” โดยเนนลูกคากลุมหนุมเจาสําอางโดยเฉพาะ โดยมี

หลักสูตร (Course) การใหบริการในปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผูชายธรรมดาใหเปนหนุมเจาสําอาง โดยการแนะนําในเรื่องของมารยาทบนโตะอาหาร การเลือกไวนและเครื่องดื่ม การเรียนรูเรื่องการ ประกอบอาหาร และใหคําแนะนําในเรื่องการแตงตัว ตลอด 24 ชั่วโมง

การใหบริการดังกลาวเปนการใหบริการรวมกับใหบริการหองพักโดยมีใหเลือกแบบ 1 คืน (Metro Man) และ แบบ 2 คืน (Metro Man Deluxe) โดยเฉพาะแบบ 2 คืน แขกผูเขาพักยังสามารถ เลือกใชบริการเสริมอื่นๆ เชน การแว็กขน การนวดหนา การฟอกฟนใหขาวไดอีกดวย นอกจากนี้

โรงแรมยังใชจุดขายเรื่องของการใหสิทธแกลูกคาที่ใชบริการ Metro Man Package ดังกลาวโดยให

เปนสมาชิก “LoewsFirst Platinum Membership” ซึ่งลูกคาไดฟรี 1,000 ไมลเลส จากสายการบิน American Airlines สามารถเลื่อนขั้นการเขาพักเปนหองสวีท และสิทธิ์พิเศษอื่นๆ อีกมากมาย โดยมี

ราคาการใหบริการดังตอไปนี้

ตารางที่ 2 แสดงตัวอยางการตั้งราคาแบบ Package สําหรับหนุมเจาสําอาง ของโรงแรม Room rates for the Metro Man Package

Metro Man Metro Man Deluxe

Loews Beverly Hills Hotel $ 525 Loews Beverly Hills Hotel $ 1,895 Loews Santa Monica Beach Hotel $ 630 Loews Santa Monica Beach

Hotel

$ 2,105 The Regency, a Loews Hotel $ 990 The Regency, a Loews Hotel $ 2,370

ที่มา: www.loewshotels.com

  28

อีกทั้งรายงานผลการประชุมผูประกอบการโรงแรมบูติกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไดรับการ สนับสนุนขอมูลของ Smith Travel ทําใหผูจัดการในกลุมโรงแรมดังกลาวตางมองเห็นความ ตองการของกลุมลูกคาตอโรงแรมบูติกซึ่งมากขึ้นเปนลําดับ ซึ่งตัวเลขดังกลาวยังเปนที่ดึงดูดตอ นักพัฒนาโรงแรมและนักลงทุนในการประกอบธุรกิจโรงแรมบูติก มากขึ้น จากขอมูลดานผล ประกอบการของโรงแรมบูติกที่เติบโตและเปนตองการของตลาด เปนเครื่องบงชี้ไดถึงแนวโนมการ เจริญเติมโตตอไปของโรงแรมบูติกในอนาคตไดเปนอยางดี

3.6. การตลาดบริการกับกลุมลูกคาหนุมเจาสําอาง

สําหรับนักการตลาด ผูชายแบบเกาซึ่งอาจเรียกวา Heterosexual เปนกลุมผูบริโภคที่ไมนา ดึงดูด เนื่องจากคนกลุมนี้มีพฤติกรรมการซื้อของที่ไมมาก จากรายไดทั้งหมดที่หามา ผูชายยุคเกา อาจใชซื้อเบียรและบุหรี่ เปนสวนใหญ สวนของใชอื่นๆ จะเปนหนาที่ของภรรยาเปนคนซื้อหามาไว

ใชรวมกันในครอบครัว ดวยเหตุนี้ เมื่อเทียบกับผูชายกลุม หนุมเจาสําอาง จึงนาสนใจมากกวา เพราะมีกําลังซื้อมากวาและซื้อสินคาหลากหลายประเภทกวาดวย จากเดิมที่มีแตสินคาเทคโนโลยี

เทานั้นที่เจาะกลุมผูบริโภคผูชาย ปจจุบันสินคาแฟชั่นและเครื่องสําอางก็มีสวนแบงใหกับผูบริโภค กลุมนี้เชนกัน ในป ค.ศ. 1990 มีผูชายรอยละ 4 ที่ยอมรับวาใชผลิตภัณฑบํารุงผิวเปนประจํา แต

คาดวาตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเปนรอยละ 50 เมื่อยางเขาสูป ค.ศ. 2015 เนื่องจากคนกลุมนี้มีแนวโนมที่จะ แตงงานชาลงแตมีอายุยืนขึ้นกวาอดีต กลุมผูบริโภคเพศชายจึงถือเปนกลุมตลาดใหมที่ยังไมคอยมี

การแขงขันแตมีศักยภาพเติบโตไดอีกมาก (Marketeer ,2551)

เหตุผลหนึ่ง การที่ผูชายยุคใหมตองเขาสังคม จึงตองการความมั่นใจ และเนื่องจาก บุคลิกภาพเปนสิ่งสําคัญในการติดตองาน และที่สําคัญกลุมผูชาย ที่มีชื่อเสียงไมวาจะเปนดารา นักการเมือง ผูบริหารระดับสูง ตางก็ยอมรับในการใชเครื่องสําอาง จนทําใหนักการตลาดเห็นกลุม ผูชายเมโทร นับวันจะมีขนาดตลาดใหญมากขึ้นจึงผลิตสินคา และใชนักแสดงที่เปนชายวัยรุน หรือ วัยทํางาน มาโฆษณาเครื่องสําอาง รวมถึงการแตงกายที่เปนแบบผูชายเมโทรดวย (รณสิงห รอเรือง ,2551)

ในชวง 2-3 ปที่ผานมา มีสินคาที่ตอบสนองตลาดนิช(Niche Market) กลุมนี้ไมมากนัก มีแค

เสื้อผาบางยี่หอ หรือน้ําหอมเทานั้น แตหลังจากที่ลูกกลิ้งภายใตชื่อ แบน ฟอรเมน วางตลาดและ ตามมาดวยคาย "แอกซ" ที่รุกตลาดเครื่องสําอางผูชายทั้งโฟมลางหนา บอดี้โลชั่น สเปรยระงับกลิ่น กาย ลูกกลิ้ง โทนเนอรกระชับรูขุมขน ตลาดกลุมนี้ก็รอนแรงขึ้นมาทันที เนื่องจากผูชายไม

จําเปนตองหลบซอนในการซื้อเครื่องสําอาง หรือใชเครื่องสําอางของผูหญิงอีกตอไป รวมทั้งการที่

ยี่หอดังอยางนีเวียเขามาบุกในตลาดนี้ โดยแตกไลนของสินคาเปนนีเวียฟอรเมน สําหรับสินคาการ ดูแลผิวหนาและผิวกายครบวงจร ก็ยิ่งทําใหตลาดโตขึ้นและมีการแขงขันที่รุนแรงมากขึ้น

ศักยภาพของตลาดเครื่องสําอางสําหรับผูชายมีการเติบโตที่นาสนใจเปนอยางมาก ตลาด เพอรซันนัลแครและน้ําหอมสําหรับผูชายมีมูลคาตลาดรวมประมาณ 4,000-5,000 ลานบาท สวนสกินแครมีมูลคาตลาดอีกประมาณ 3,000-4,000 ลานบาท ซึ่งในขณะนี้มีนีเวียเปนเจาตลาดอยู

โดยมีผลิตภัณฑสําหรับผูชายเปน นีเวียฟอรเมน โดยเฉพาะปจจุบันถือวาเปนเจาที่มีผลิตภัณฑครบ ในไลน ทําใหนีเวียประมาณการวาจะมีมูลคาตลาดไมนอยกวา 750 ลานบาท โดยในชวง 2 ปที่ผาน มา นีเวียฟอรเมนมีอัตราการเติบโตถึง 130% ในขณะที่มูลคารวมของสินคาทั้งกลุมเพอรซันนัลแคร

น้ําหอม และสกินแคร มีการเติบโตเฉลี่ยประมาณปละ 10% นอกจากนีเวียแลว "อูโน" ก็เปนอีกคาย ที่นําเขาสินคาเครื่องสําอางผูชายทั้งโลชั่น โฟมลางหนา โทนเนอรกระชับรูขุมขน และสเปรย

ในขณะที่เครื่องสําอางผูหญิงอยางเอสเต ลอเดอร ก็มีผูชายเปนลูกคาถึง 10% และคลีนิกข ก็มียอด ลูกคาผูชายไมต่ํากวา 5% จากลูกคาทั้งหมด

ไมเวนแมกระทั่งเครื่องสําอางขายตรงชั้นนําแบรนดดังอยางมิสทินก็เตรียมขยายฐานลูกคา เจาะกลุมผูชาย เตรียมแตกซับแบรนดเพอรซันนัลแคร (Personal care) และสกินแคร (Skin care) แขงกับนีเวีย และยังมีเปาหมายที่จะบุกตลาดสกินแครอยางจริงจัง หลังจากที่เริ่มวางตลาดสินคา ประเภท เพอรซันนัลแคร (Personal care) เพื่อทดลองตลอดกอน มิสทิน (Missteen)ไดวางแผน ลวงหนาในการแบงเคกตลาดครื่องสําอางผูชาย ดวยการใชพรีเซ็นเตอรหนุมสุดฮ็อตอยาง ศรราม เทพพิทักษ มาเริ่มชักชวนสาวๆ ใหเปนสาว มิสทินมาแลว

จากมูลคาทางการตลาดที่คอนขางสูง การเติบโตอยางตอเนื่อง และเปนตลาดที่ยังมีคูแขง นอย เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดเครื่องสําอางของผูหญิง ทําใหหลายคายเริ่มหันมามองและใหความ สนใจกับตลาดนี้ (นุชฤดี ลุยใหม, 2548)