• Tidak ada hasil yang ditemukan

เรียนรู้ที่จะหยุด

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2023

Membagikan "เรียนรู้ที่จะหยุด"

Copied!
1
0
0

Teks penuh

(1)

บางคร ั้งต้องเรียนรู้

ที่จะหยุดและก้าวต่อ

ผศ.ชมพู โกติรัมย์

Chompoo.go@spu.ac.th

จุดเริ่มต ้นของการหวนกลับมาสู่บรรยากาศประชาธิปไตยอีก ครั้ง อันเป็นความหวังว่าสังคมไทยจะได ้เด ินผ่านจากทางตันทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่เคยดำารงอยู่ก่อนหน ้านั้นมาเป็นเวลานานแรมปี ในความ เป็นจริงนั้นบางเวลาเมื่อเราก ้าวสู่สนามแข่งขัน ต่างก็ทุ่มเทสรรพกำาลังเท่าที่มีอยู่

นำาออกเสนอต่อประชาชนในสนามเลือกตั้ง ในวิถีทางแห่งการแข่งขันการเลือก ตั้งนั้น แม ้จะมีความขัดแย ้งทางความคิดอยู่บ ้าง น่าจะเป็นเวลาที่เราจะช่วยกัน ศึกษาเรียนรู ้ที่จะอยู่ร่วมกัน แม ้มีความต่างกันด ้วยบทบาทและหน ้าที่ ที่ฝ่ายหนึ่ง เป็นรัฐบาลส่วนอีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายค ้านทำาหน ้าที่ตรวจสอบการทำางานของรัฐบาล ในลักษณะเตือนสติมิให ้หลงในอำานาจจนเกิดความประมาทอันอาจนำาไปสู่ความ เสียหาย แม ้บางครั้งดูเป็นคู่แข่งทางการเมือง หากแต่ว่าเป็นคู่แข่งเพื่อเป็นทาง เลือก มิใช่เป็นคู่แข่งที่มีความอาฆาตบาดหมางทางการเมือง เพราะนั่นมันเป็น บางเวลาบางบทบาทที่ต่างกันแต่กระนั้นมิอาจแยกจากกันโดยส ิ้นเชิงได ้ระหว่าง ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตรวจสอบการทำางานของรัฐบาลซ ึ่งเป็นดังเหรียญสองหน ้า บนหน ้ากระดานการหมุนของเหรียญสามารถออกได ้ทั้งสองทาง เช่นเดียวกันกับ การเสนอตัวเพื่อรับการเลือกตั้งย่อมเป็นได ้ทั้งผู ้แพ ้และชนะ บางครั้งอาจได ้รับ ชัยชนะในวันนี้อาจจะเป็นฝ่ายปราชัยในวันข ้างหน ้าก็เป็นได ้ เพราะบนความ ชัยชนะหรือพ่ายแพ ้มิใช่จุดจบเสียทั้งหมด แต่ว่าเป็นจุดเริ่มต ้นบนเส ้นทางการ แข่งขันที่ยาวไกล ซ ึ่งเป็นจุดเริ่มต ้นในความมุ่งมั่นในความดีที่จะสานต่อ เพราะชัยชนะที่ยั่งยืนคือความดีที่ประจักษ์ต่อประชาชน ถ ้าไม่ตั้งอยู่บนคุณความ ดีที่จริงแท ้ก็อาจจะได ้รับชัยชนะเหมือนกันแต่มันไม่จิรังยั่งยืนมากนัก ที่กล่าว เช่นนี้เกิดจากภาพสะท ้อนในวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาที่ผ่านมา ตามความเป็นจริงแล ้วคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย่อมไม่ไดรับชัยชนะ ณ เวลานั้น ด ้วยเงื่อนไขเช่นนั้น หากแต่ว่าคุณอภิสิทธิ์ถูกเสนอชื่อตามครรลองที่ควรจะเป็น วันนี้เป็นวันของนายสมัครในนามพรรคร่วมรัฐบาลได ้มีโอกาสมาทำาตามคำามั่น สัญญาว่าจะมาอาสาบริหารประเทศ ส่วนนายอภิสิทธิ์ในนามพรรคฝ่ายค ้านนั้น แม ้การอาสาเข ้ามาบริหารบ ้านเมืองยั้งไม่ไม่บรรลุเป้าหมาย แต่ไม่ได ้หมายว่าจะ ยุติเพียงแค่นี้ เพราะมันขึ้นอยู่กับบางเวลาบางจังหวะตามการขึ้นลงของสภาพ แวดล ้อม แต่สิ่งหนึ่งที่จิรังคืออะไรเป็นความบกพรอง อะไรเป็นความดีที่ยังดี

ไม่พอในฐานะผู ้อาสาแก ้ปัญหาของบ ้านเมือง ตรงนี้ต่างหากที่ควรจะมีอยู่ในห ้วง สำานึกของผู ้อาสามาทำากิจกรรมทางการเมืองควรจะมีอยู่ตลอดเวลา มิใช่เฉพาะ กาล หรือบางจังหวะ เมื่อห ้วงเวลานี้เป็นวันของนายสมัครในนามผู ้นำารัฐบาล ขอให ้วันนี้ของท่านผู ้นำาประเทศ จงทุ่มเทสรรพกำาลังสติปัญญาเท่าที่มีอยู่ออก มาบริหารบ ้านเมือง เพราะประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ด ้วยความหวังว่าเราจะได ้รัฐบาล ที่เห็นแก่ประเทศชาติมาก่อน มาร่วมสร ้างสรรทางการเมืองให ้สมกับสังคมไทยมี

ต ้นทุนทางสังคมสูง โดยปราศจากความเห็นแก่ตน จึงเต็มไปด ้วยกิจกรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนอย่างแท ้จริง ในขณะเดียวกันหากเราเรียนรู ้ที่จะ

(2)

ชลอหยุดเพื่อรอโอกาสแทนที่จะก ้าวพลาดอย่างขาดสติ ตรงนี้น่าจะเป็นการ เมืองอย่างสร ้างสรรค์แบ่งรับแบ่งสู ้เรียนรู ้ที่จะทำากิจกรรมทางการเมืองร่วมกันบน เส ้นแบ่งบางๆ คือพรรค หรือฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค ้าน แทนที่จะมาสร ้างเส ้นแบ่ง เป็นกำาแพงเมืองจีนที่มิอาจทะลุมิติแห่งมิตรไมตรีแห่งการทำากิจกรรมร่วมกันได ้ ทั้งนี้เพราะการเมือง เป็นเรื่องของกลุ่มคนหรือเรียกว่า สังคม การที่คนต ้องมา อยู่ร่วมกันนั้นมีโจทย์ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได ้อย่างไร ฝ่ายไหนจะแสดง บทบาทอย่างสอดประสานกันอย่างไร การเมืองในภาคปฏิบัติก็คือการบริหาร จัดการรัฐให ้ขับเคลื่อนไปได ้ด ้วยดี ซึ่งทั้งหมดนี้ จะประสบความสำาเร็จได ้ด ้วย ต ัวรู้ ต ัวปัญญา จะเป็นต ัวทำาหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยส ั่งการและกำาก ับ เมื่อ ใดสังคมขาดองค์ความรู ้ ความจริง หรือรู ้ แต่รู ้ไม่ถูก ไม่ครบถ ้วน การเชื่อมโยงก็

จะผิดเพี้ยน ตัวความจริงนี้ท่านพุทธทาสได ้บอกไว ้ว่า "ธรรม" ธรรมก ับ การเมืองเป็นสิ่งที่แยกก ันไม่ได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต ้องอยู่ร่วมกัน ร่วมกัน จัดสังคมให ้อยู่กันอย่างสงบสุขโดยไม่ต ้องใช ้อาชญา แต่คนสมัยนี้ ดูเหมือนว่า ใช ้การเมืองนั้นเองเป็นเครื่องมือกอบโกย หรือฟาดฟันผู ้อื่น ครอบงำาผู ้อื่น เพื่อ ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว ดังนั้น แทนที่การเมืองจะตั้งอยู่ในฐานะเป็นของการ อาสาเพื่อแก ้ปัญหาบ ้านเมือง ก็กลายเป็นเรื่องเกมการแข่งขันมุ่งเอาชนะแม ้

ท ำา ล า ย ก ัน ก ็ไ ม ่เ ว ้น ไ ป เ ส ีย

เมื่อกล่าวโดยปรัชญาทางศีลธรรม การเมืองก็คือ หน ้าที่ของมนุษย์ที่

เขาจะต ้องประพฤติกระทำาให ้ถูกต ้องตามกฎธรรมชาติอันเฉียบขาด เพื่อผลคือ การอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก โดยไม่ต ้องใช ้อาชญา แต่เมื่อไม่มีการคำานึงถึงศีลธรรม กันเสียแล ้ว การเมืองก็กลายเป็นเรื่องสกปรก สำาหรับหลอกลวงกันอย่างไม่มี

ขอบเขต

1. การเม ืองไม่อาจข ับเคล ื่อนและดำารงอยู่ได ้ ถ ้าไร ้ธรรม นั่น หมายความว่า การเมืองเป็นสิ่งที่แยกจากธรรมไม่ได ้ เมื่อใดแยกการเมืองออก จากธรรม ก็กลายเป็นเรื่องทำาลายโลกขึ้นมาทันที การเมืองคือการจัดการสังคม ทุกระดับ การจัดการทุกระดับต ้องมีธรรมเป็นฐาน ธรรม คือ ความจริงทั้งที่คนและ สภาพแวดล ้อมทั้งที่เป็นธรรมชาติและสังคมวัฒนธรรม การให ้คนได ้รู ้จักตนเอง จ ัด ก า ร ต น เ อ ง ใ ห ้ถ ูก ต ้อ ง ต า ม ค ว า ม จ ร ิง เ ช ื่อ ม โ ย ง ใ ห ้เ ห ม า ะ ส ม 2. ปร ัชญาการเมืองมี 2 สายหล ัก คือ สายส ัตว์ก ับสายมนุษย์ สาย แรกเป็นรูปแบบส ัตว์การเมือง ซึ่งเต็มไปด ้วยความหลอกลวงกันอย่างไม่มี

ขอบเขต จนทำาโลกนี้ให ้เป็นโลกแห่งการหลอกลวง เป็นโลกที่เต็มไปด ้วยสัตว์

การเมือง ที่มีการกอบโกยหรือฟาดฟันกันครอบงำาผู ้อื่นเพื่อประโยชน์ตนฝ่าย เดียวส่วนรูปแบบที่สอง เป็นรูปแบบหน้าที่มนุษย์ ที่จะต ้องประพฤติกระทำาให ้ ถูกต ้องตามกฎของธรรมชาติอย่างเคร่งครัด และเฉียบขาด เพื่อผลดีคือการอยู่

ร่วมกันอย่างสันติสุขของหมู่ชน โดยไม่ต ้องใช ้อาชญาอำานาจ แต่ใช ้ศีลธรรมเป็น ตัวกำากับควบค ุมพฤต ิกรรมค ือ การพูด การทำาและการค ิดของมนุษย ์ การเมืองกับประชาธิปไตยกล่าวได ้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่าง กันอยู่ในเนื้อในและระดับชั้นการพัฒนา การเมือง เป็นเรื่องความรู ้ ความคิด และ การปฏิบัติจัดการสังคมทั่วไป ส่วนประชาธิปไตย เป็นเรื่องเดียวกัน แต่มีระดับที่

สูงกว่า คือ ต ้องรู ้ในขั้นที่รู ้ดีคิดได ้และใช ้เป็นรู ้อะไรคิดอะไรใช ้อะไรรู้ธรรม คิด ตามธรรม และปฏิบ ัติตามธรรมดังที่กล่าวแล ้วในตอนต ้น ท่านพุทธทาสได ้ให ้

(3)

แนวทางแก่เราไว ้ว่า"ประชาธิปไตยที่ว่าเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดย ประชาชน นั้น ใช้ได้เฉพาะประชาชนที่มีธรรมเท่าน ั้น ถ ้าประชาชนไม่มีธรรม มันก็กลายเป็นประชาธิปตาย เท่านั้นเอง ดังนั้น ต ้องหว่านพืชธรรมก่อนพืช ประชาธิปไตย เพื่อลดหรือป้องกันความเห็นแก่ตัว ถ ้าเห็นแก่ตัวก็มีแต่ประชาธิป ตายวาทกรรมชิ้นนี้เตือนสติเราในเรื่องใด เตือนเรื่องประชาธิปไตยกับเรื่อง ธรรมว่าประชาธิปไตยที่เราพูดถึงกันว่าเป็นการให ้ประชาชนเป็นใหญ่ ช่วยตนเอง ช่วยกันเอง โดยมีพิธีกรรมการเลือกตั้ง ส่งผู ้แทนเข ้าไปบริหารจัดการชุมชน ประเทศนั้น ตัวประชาชนเองจะต ้องมีธรรม นั้นคือ ประชาชนส่วนใหญ่จะต ้องมี

ธรรม โดยเฉพาะผู ้นำาในทุกระดับและทุกภาคส่วนจะต ้องมีธรรม และตัวธรรมที่

ท่านพุทธทาสชี้แนะ คือ "ความไม่เห็นแก่ต ัว" หรือความไม่หมกหมุ่นอยู่กับการ ใฝ่รู ้ ใฝ่คิด ใฝ่ทำา เพื่อกาม เพื่อกิน เพื่อเกียรติ เพื่อตนเองและพวกพ ้องของตน ในวงแคบตัวประชาชนที่จะเข ้าไปใช ้อำานาจที่เป็นของประชาชนส่วนใหญ่นั้น จะ ต ้องมีธรรมสัจจะ ที่ว่า " สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด-แก่-เจ็บ-ตายด ้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น"อยู่ในใจตัวประชาชนที่เป็นผู ้ร่วมพิธีกรรมเลือกตั้ง (ลงคะแนน) ช่วยพัฒนาความเป็นมนุษย์ให ้เคารพในความเป็นมนุษย์ของเพื่อนมนุษย์

Referensi

Dokumen terkait

The pre- service teachers had improved their learning management competency which was significantly higher than before experiment at 0.01 and the pre- service teachers had attitude

บริโภคตามแรงกระตุ ้นของตลาด การยึดถือเงินตราเป็นตัววัด ความเจริญทางเศรษฐกิจ การให ้ความสำาคัญกับธุรกิจภาค เอกชน ได ้เป็นตัวจักรขับเคลื่อนในรูปของยุทธศาสตร์และ นโยบายพัฒนา เส