วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพและการกีฬา. ผลของโปรแกรมการฝึกแบบเซอร์กิตและโปรแกรมการฝึกวิ่งออกกำลังกายต่อดัชนีมวลกายและเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย วิทยานิพนธ์ที่ส่งในบางส่วนของข้อกำหนดสำหรับการศึกษามหาบัณฑิต การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลระหว่างการวิจัยเชิงสำรวจและการวิจัยวงจร และการวิ่งจ๊อกกิ้งหาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายของนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 โรงเรียนศึกษานารี จำนวน 30 คน ที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายตั้งแต่ 26.1% ขึ้นไป
The sample group was derived by purposive sampling and divided into two groups by zigzag matching. The first group of 15 participants practiced circuit training and the second group of 15 participants practiced jogging. According to tests conducted separately with the first and second group pre-training and post-training after the fourth, sixth and eighth and was statistically significant at a level of .05.
There was no difference in the results of the comparison of mean BMI test and body fat percentage obtained after the fourth, sixth and eighth test weeks. It was concluded that both circuit training and jogging training, respectively, effectively lowered students' body fat percentage.
การออกก าลังกาย
การออกก าลังกายแบบแอโรบิก
การก าหนดโปรแกรมการออกก าลังกายส าหรับความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ชนิด (Stretching Exercise) เลือกกล้ามเนื้อที่ต้องการยืดให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ความหนักของ การออกก าลังกายมีการยืดค้างไว้ 15-30 วินาที เวลาที่ใช้ควรใช้เวลาประมาณ 5-10 ครั้ง ในแต่ละ กลุ่มกล้ามเนื้อ หรือจนกว่ากล้ามเนื้อจะลดความตึงตัว ความถี่ 3 รอบต่อวัน สามารถท าได้ทุกวัน. สมพล สงวนรังศิริกุล (2555) กล่าวว่า การออกก าลังกายแบบแอโรบิก หมายถึง การออก ก าลังกายที่ท าให้กล้ามเนื้อได้พลังงานจากการใช้ออกซิเจน ในการเผาผลาญสารอาหารในการ ออกก าลังกายแบบนี้มักจะมีการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อแขนขาอยู่ตลอดเวลา และพบว่าถ้า มีการออกก าลังกายให้มีความเหนื่อยโดยอัตราการเต้นของหัวใจ 50-60% ของอัตราการเต้นหัวใจ สูงสุดกว่า 20 นาที จะเป็นผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งการควบคุมน้ าหนักเพราะ ร่างกายจะใช้สารอาหารไขมันเป็นหลักในการเผาผลาญเพื่อให้ได้พลังงานจะเห็นว่าชนิดกีฬาที่. มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที และควรออกก าลังกายอย่างสม่ าเสมออย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ควบคุมความหนักของการออกก าลังกายอยู่ในช่วง 60-70% ของอัตราการเต้นของ หัวใจสูงสุด และรูปแบบกิจกรรมในการออกก าลังกายต้องเหมาะสมกับความต้องการและระ ดับ สมรรถภาพทางกายของแต่ละบุคคล.
การออกก าลังกายแบบสถานี
การวิ่ง
ภาวะโภชนาการเกิน หรืออ้วน
ดัชนีมวลกาย
เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กรอบแนวคิดงานวิจัย
ประสบการณ์จะต้องเป็นการฝึกประจำสถานีประมาณ 8-12 สถานี หากต้องการพัฒนาความสามารถทางกายภาพที่ผสมผสานความแข็งแกร่งและความอดทน ความแข็งแรงความอดทนหรือความเร็วความอดทน ร่วมกับระบบไหลเวียนเลือด คุณสามารถเพิ่มสถานีฝึกเป็น 12-18 สถานีต่อการฝึก 1 รอบ แบบฝึกหัดที่นักเรียนต้องฝึกในแต่ละชุดและในแต่ละสถานีที่จะใช้ ค่าดัชนีมวลกายในการประเมินโรคอ้วน มีการพิสูจน์แล้วว่าค่าดัชนีมวลกายที่ตัดออกในเด็กแตกต่างจากค่าดัชนีมวลกายในผู้ใหญ่ เนื่องจากความสูงในวัยเด็กเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ BMI จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอายุและปัจจุบัน
International BMI-for-age เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างประเทศ แต่ในบรรดาประชากรที่มีส่วนสูงต่างกัน มีการใช้ BMI-for-age เพื่อระบุสถานะของโรคอ้วน จากรายงานของสถาบันวิจัยโภชนาการเกี่ยวกับการสำรวจเด็กอายุ 9 ถึง 12 ปี มีความต้องการความจำเพาะของประชากรโดยใช้มาตรวัด
เกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเพศหญิง อายุ 5-18 ปี
เกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเพศหญิง อายุ 5-19 ปี
การวิจัยในครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงกึ่งทดลอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบ ผลการของโปรแกรมการฝึกแบบสถานี และโปรแกรมฝึกวิ่งเหยาะที่มีผลต่อดัชนีมวลกายและ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนศึกษานารี ได้เก็บ รวบรวมข้อมูลก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4, 6 และสัปดาห์ที่ 8 ของกลุ่มทดลองทั้ง 2 กลุ่ม จ านวน 30 คน เพื่อน ามาวิเคราะห์ผลตามระเบียบวิธีการทางสถิติ จึงน าเสนอในรูปตารางประกอบ ความเรียง ดังนี้. ระยะเวลาของโปรแกรมฝึกแบบสถานี และโปรแกรมฝึกวิ่งเหยาะที่มีผลต่อค่าดัชนีมวล กายและเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ในช่วงระยะเวลาการฝึกส่งผลต่อค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายและ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายก่อนการทดลอง หลังการทดลองสัปดาห์ที่ 4, 6 และสัปดาห์ 8 ระหว่าง กลุ่มทดลอง 2 กลุ่ม ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายก่อนการทดลอง หลังการทดลองสัปดาห์ที่ 4, 6 และ สัปดาห์ที่ 8 แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายและ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ระหว่างกลุ่มที่ฝึกแบบสถานีและกลุ่มที่ฝึกแบบวิ่งเหยาะไม่ความ แตกต่างกัน และเมื่อน ามาพิจารณาปฏิสัมพันธ์ พบว่า ระยะเวลาการฝึกกับโปรแกรมการฝึกไม่มี.
วิธีการจับคู่แบบสลับฟันปลา ( Matching Group)
กราฟแสดงค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายการฝึกโปรแกรมฝึกแบบสถานี
กราฟแสดงค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายการฝึกโปรแกรมฝึกวิ่งเหยาะ ก่อน
กราฟแสดงค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายการฝึกโปรแกรมฝึกแบบสถานี ก่อนการฝึก หลัง
กราฟแสดงค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายการฝึกโปรแกรมฝึกวิ่งเหยาะ ก่อนการฝึก หลัง
Short-term effects of a physical activity intervention on obesity and aerobic fitness of adolescent girls. International Journal of Preventive Medicine. Effect of an aerobics-based exercise program on the physical fitness of 10-15 year old girls. The effect of a twelve-week aerobic exercise program on health-related physical fitness components and blood lipids in obese girls.