124
125 ตาราง 13 (ต่อ)
สาระการเรียนรู้/
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง จ านวนข้อสอบ ทั้งหมด ต้องการ 2. แก้ปัญหาเกี่ยวกับ
ปริมาตรและความจุ
ของทรงสี่เหลี่ยม มุมฉาก
1. โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ปริมาตร หรือ ความจุของทรง สี่เหลี่ยมมุมฉาก
2 1
3. เขียนแผนผัง แสดงต าแหน่งของ สิ่งต่าง ๆ และแผนผัง แสดงเส้นทาง การเดินทาง
1. การเขียนแผนผังแสดง สิ่งต่าง ๆ
2. การเขียนแผนผังแสดง เส้นทางการเดินทาง 3. การเขียนแผนผัง โดยสังเขป
2 1
รวม 12 6
3.4 สร้างแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
เป็นแบบทดสอบอัตนัย จ านวน 12 ข้อ ต้องการใช้จริง 6 ข้อ เสนอต่อกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์
แล้วท าการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะ
3.5 น าแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่
ปรับปรุง แล้วพร้อมกับนิยามศัพท์ และแบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องไป ขอความอนุเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญชุดเดิม จ านวน 5 ท่าน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling) เพื่อพิจารณาประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องระหว่างข้อค าถาม กับพฤติกรรมชี้วัด ด้านความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ต้องมากกว่า หรือเท่ากับ 0.50 ตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้คะแนน ดังนี้
(มนตรี วงษ์สะพาน, 2563)
ให้คะแนน +1 เมื่อผู้เชี่ยวชาญแน่ใจว่าข้อค าถามนั้นวัดตรงตาม พฤติกรรมชี้วัดด้านความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
ให้คะแนน 0 เมื่อผู้เชี่ยวชาญไม่แน่ใจว่าข้อค าถามนั้นวัดตรงตาม พฤติกรรมชี้วัดด้านความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
126 ให้คะแนน -1 เมื่อผู้เชี่ยวชาญแน่ใจว่าข้อค าถามนั้นได้วัด
ไม่ตรงตามพฤติกรรมชี้วัดด้านความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
3.6 วิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC ระหว่างข้อค าถามกับ พฤติกรรมชี้วัดด้านความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยค่าความสอดคล้อง (IOC) ต้องมากกว่า หรือเท่ากับ 0.50 ถือว่าใช้ได้ พบว่า ได้ค่าความสอดคล้องอยู่ในช่วง (0.60-1.00) ผลการประเมินแสดงในภาคผนวก
3.7 พิมพ์ต้นฉบับแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ ที่ปรับปรุงแล้วจ านวน 6 ข้อ น าไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลอง คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนหลักเหลี่ยมวิทยาคม สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จ านวน 20 คน จาก 1 ห้องเรียน และเป็นกลุ่มเดียวกันกับทดลองใช้
แผนการจัดการเรียนรู้
3.8 น าคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าอ านาจจ าแนก (D) ของแบบทดสอบ วัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และควรมีค่าอ านาจจ าแนก ตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป (มนตรี วงษ์สะพาน, 2563) พบว่า ได้ค่าอ านาจจ าแนกอยู่ในช่วง (0.20-0.91) ผลการประเมินแสดงใน ภาคผนวก
3.9 น าแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
ที่คัดเลือกแล้วทั้ง 6 ข้อ มาหาค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (Reliability) โดยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์
แอลฟาของครอนบาค (Cronbach) (ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน, 2558) พบว่า ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.76 ผลการประเมินแสดงในภาคผนวก
3.10 จัดพิมพ์แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
ที่คัดไว้เป็นฉบับจริง จ านวน 6 ข้อ เพื่อน าไปใช้กับกลุ่มทดลองต่อไป
4. คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริม ความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริม ความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีขั้นตอนการสร้าง และหาคุณภาพเครื่องมือ ดังนี้
4.1 ศึกษาหลักการ ทฤษฎี ความส าคัญ องค์ประกอบ ขั้นตอน การจัดท าคู่มือการจัดการเรียนรู้
4.2 ก าหนดองค์ประกอบคู่มือการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 4.2.1 ชื่อคู่มือการจัดการเรียนรู้
4.2.2 ค าชี้แจงการใช้คู่มือการจัดการเรียนรู้
127 4.2.3 หลักการเหตุผล
4.2.4 วัตถุประสงค์การใช้คู่มือ 4.2.5 แนวคิด/ทฤษฎี
4.2.6 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
4.2.7 การเตรียมความพร้อมของครูผู้สอน 4.2.8 การเตรียมความพร้อมของนักเรียน 4.2.9 การวัดผลและประเมินผล
4.2.10 แผนการจัดการเรียนรู้
4.2.11 เครื่องมือในการวิจัย 4.2.12 เอกสารอ้างอิง 4.2.13 ภาคผนวก
4.3 น าคู่มือที่สร้างเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาหลักและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เหมาะสมและประเมินคุณภาพ
4.4 น าคู่มือที่อาจารย์ที่ปรึกษาหลักและผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้ว มาแก้ไข ปรับปรุงให้สมบูรณ์
4.5 จัดพิมพ์คู่มือการจัดการเรียนรู้ฉบับสมบูรณ์ ที่ได้ปรับปรุง เรียบร้อยแล้ว เพื่อน าไปใช้จริง
ขั้นตอนที่ 4 การทดลองใช้รูปแบบ 1. จุดมุ่งหมาย
1.1 เพื่อตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการ พุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6
1.2 เพื่อทดลองใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้น 2. กลุ่มทดลอง
นักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนหลักเหลี่ยมวิทยาคม
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จ านวน 1 ห้องเรียน รวม 20 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
3. เครื่องมือ
3.1 แผนการจัดการเรียนรู้ จ านวน 12 แผน รวมเวลาทั้งหมด 25 ชม.
3.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
128 3.3 แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
3.4 คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริม ความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
4. วิธีการเก็บข้อมูล
4.1 น าหนังสือขออนุญาตทดลองใช้เครื่องมือจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไปขอทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
4.2 จัดการเรียนรูในชั่วโมงวิชาคณิตศาสตร์ สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 25 ชั่วโมง ซึ่งผู้วิจัยปฏิบัติการสอนและเก็บข้อมูลด้วยตนเอง
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) เป็นคะแนนที่ได้จากการท า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ มาวิเคราะห์เพื่อหาค่าคุณภาพเครื่องมือ
6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
จากการศึกษาระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยสามารถ สรุปกระบวนการด าเนินการ ปรากฏดังภาพประกอบ 8
129
ภาพประกอบ 8 กระบวนการด าเนินการวิจัยระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม ทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ขั้นตอนที่ 1
การสร้างรูปแบบ สร้างรูปแบบโดยอาศัยข้อมูลพื้นฐาน
ขั้นตอนที่ 2 การตรวจสอบคุณภาพ
ของรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 3 การพัฒนาเครื่องมือ
ประกอบรูปแบบ
ผู้เชี่ยวชาญ ประเมินตรวจสอบ
ปรับปรุงแก้ไข
ขั้นตอนที่ 4 การทดลองใช้รูปแบบ
ทดลองใช้กับนักเรียน 20 คน
แผนการจัดการเรียนรู้
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
แก้ไขตาม ข้อเสนอแนะ เพื่อให้รูปแบบ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
คู่มือการจัดการเรียนรู้
ใช้ได้
ใช้ไม่ได้
ปรับปรุงแก้ไข อาจารย์ที่ปรึกษา
ตรวจสอบ
ใช้ไม่ได้
ใช้ได้
130 ระยะที่ 3 การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
1. จุดมุ่งหมาย
1.1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
1.2 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียน
2. ประชากร
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กาฬสินธุ์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จ านวน 5 โรงเรียน แบ่งเป็น 6 ห้องเรียน รวมนักเรียนทั้งสิ้น 120 คน
3. กลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จ านวน 1 ห้องเรียน รวม 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม
(Cluster Random Sampling)
4. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
4.1 แผนการจัดการเรียนรู้ จ านวน 12 แผน รวมเวลาทั้งหมด 25 ชม.
4.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
4.3 แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
4.4 คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
5. วิธีการเก็บข้อมูล
ผู้วิจัยน าหนังสือจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อขออนุญาตใช้
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพัฒนาการพุทธิปัญญา เพื่อส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผ่านการประเมินคุณภาพและการทดลองใช้
จากระยะที่ 2 มาใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน ชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ จ านวน 1 ห้องเรียน รวม 30 คน