ผลงานวิจัยที่เกี่ยวของ
จากการทบทวนผลงานวิจัยที่เกี่ยวของ วรรณกรรมที่เกี่ยวของ งานนิพนธหรือ วิทยานิพนธ รายงานผลการวิจัย วารสารวิชาการ หรือ การประชุมวิชาการ ที่มีการตีพิมพระหวาง ป ค.ศ. 1993 – ป ค.ศ. 2003 ประกอบดวย
Houn-Gee, Edward T., and Ayi (2003) ศึกษาเกี่ยวกับ อิทธิพลของ ผลประโยชนของ ความสัมพันธ (Relationship benefits), ตนทุนการเปลี่ยนแปลง (switching costs), ความสามารถ ของลูกคา (customer skill), การติดตอสื่อสาร (communication), พันธสัญญา (relationship commitment), และความเชื่อมั่น (trust) เปนจุดสําคัญที่มีผลในการคงอยูของลูกคา ผลการทดลอง, พันธสัญญา (relationship commitment) และความเชื่อมั่น (trust) เปนผลที่อธิบายไดจาก ผลประโยชนของความสัมพันธ (relationship benefits), ตนทุนการเปลี่ยนแปลง (switching costs), ความสามารถของลูกคา (customer skill), การติดตอสื่อสาร (communication) หากสรางใหเกิดกับ ลูกคาดานบวกแลว จะทําใหเกิดพันธสัญญาและความเชื่อมั่นในตัวลูกคากับกิจการในดานบวกดวย
จุดศูนยรวมของ กิจการ
หุนสวนของคูแขง (Lateral Partnerships) หุนสวนของผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier Partnerships)
หุนสวนของผูซื้อ (Buyer Partnerships) หุนสวนภายใน
(Internal Partnerships)
ชองทางการจัดจําหนาย (Intermediate Customers)
กิจการไมแสวงกําไร (Nonprofit organizations) หนวยธุรกิจ (Business Units)
ที่มา : Robert M. Morgan & Shelby D. Hunt, 1994
ผูบริโภค (Ultimate Customers)
รัฐบาล (Government) แผนกในบริษัท
(Functional Departments) พนักงาน (Employees)
คูแขง(Competitors) ผูจัดหาวัตถุดิบ
(Goods Suppliers)
ผูใหบริการ (Services Suppliers)
รูปที่ 2.9 การแลกเปลี่ยนความสัมพันธในตลาดเชิงสัมพันธภาพ (The Relational Exchanges in
พันธสัญญาเปนกลยุทธสําคัญในการพัฒนาความสัมพันธระหวางลูกคากับกิจการ กิจการทั้งหลาย ตางลงทุนในการพัฒนาพันธสัญญาและความเชื่อมั่นระหวางลูกคากับกิจการใหคงอยูตลอดไป เนื่องจากจะสามารถทําใหผลกําไรของบริษัทคงอยูและกิจการสามารถดําเนินงานได Pelton, Strutton, and Lumpkin, (1993) ศึกษาเกี่ยวกับระดับของความขัดแยงระหวาง ผูผลิตและคนกลาง (Levels of conflict between manufacturers and resellers) ตนตอของความขัดแยงเปนลักษณะที่ไม
สามารถแยกออกจากการพึ่งพากันระหวางสมาชิกในชองทางการจัดจําหนายได สมาชิกในชองทาง การตลาดมีความชํานาญในการทํางานเฉพาะตัว ฝายผลิตจะชํานาญในการผลิตสินคาและการทําการ โฆษณาประชาสัมพันธสินคา สวนพอคาคนกลางมีความชํานาญในการขายสินคา กระจายสินคา และการทําโฆษณาประชาสัมพันธในพื้นที่ของตน สมาชิกในชองทางการจัดจําหนายตางสงเสริม ใหเกิดการพึ่งพากันชองทางการจัดจําหนาย และมิไดมุงเนนในเรื่องของการใชเงินแตเพียงอยาง เดียว หากแตรวมถึงการใชความชํานาญที่แตละฝายมี เพื่อใหเขาถึงสวนตลาด แตอยางไรก็ตาม การพึ่งพาซึ่งกันและกันยังตองการขอบเขตของการรวมมือกันและหนาที่การทํางานในแตละระดับมิ
ใหกาวกายกัน ฉะนั้นบางครั้งสมาชิกในชองทางการตลาดจึงเกิดการขัดแยงกันเนื่องจากความ ตองการในการเขาถึงสวนครองตลาดเดียวกัน ความรุนแรงและความถี่ของการขัดแยงและระหวาง สมาชิกในชองทางการจัดจําหนายสงผลใหการมีพันธสัญญา (Commitment) ตอกันนั้นลดนอยลง ไปดวย Shankar (1994) ศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมั่น (Trust) มีผลกับการเกิดความสัมพันธระยะยาว (Long –Term Relationships) ในทิศทางเดียวกัน หากลูกคา มีความเชื่อมั่น (Trust) ตอกิจการนอย หรือไมมีความเชื่อมั่น (Trust) ตอกิจการ ความผูกพันกับกิจการหรือการติดตอสัมพันธกันในระยะ ยาว (Long – Term Relationships) จะลดนอยลง ความเชื่อมั่น(Trust) ในการประกอบธุรกิจรวมกัน ของผูรวมทุน ประกอบดวย ความสามารถ (Skill) ความเชื่อมั่นในธุรกิจที่รวมลงทุนดวย วามี
ความสามารถในการผลิตสินคาและการบริการที่มีคุณภาพสูง และสามารถใหขอมูลที่เปน ประโยชนและทันเวลาตอผูประกอบการรวม, ความรูความชํานาญ (Technical knowledge) ความ เชื่อมั่นในความสามารถของแตละธุรกิจที่รวมลงทุนดําเนินธุรกิจรวมกันในการประกอบการ, ความสามารถในการดําเนินธุรกิจ ระหวางธุรกิจดวยกัน (ability to operate business – to – business) Cummings and Bromiley (1996), Doney and Cannon (1997), Morgan and Hunt (1994), Ring and Van de Ven (1994), และ Smith and Barclay (1997) พันธสัญญา (Commitment) เปนกุญแจสําคัญที่
ชวยสนับสนุนนักการตลาดใหสรางการตลาดเชิงสัมพันธภาพที่ยืนยาว โดยพันธสัญญานั้นจะทําให
กิจการ 1) มีความมั่นใจวาจะไดรับการคุมครองการทํางานในการลงทุนรวมกันทางเศรษฐกิจกับ หุนสวนการคา 2) ไดรับผลประโยชนจากการมีความสัมพันธอันยาวนานกับหุนสวน 3) มีความ เชื่อมั่นวาหุนสวนจะไมกระทําการใดๆ ที่เปนผลเสียกับตนเอง
ตัวอยางธุรกิจในเมืองไทยที่นําระบบความสัมพันธในชองทางการจัดจําหนาย (Channel Relationships) มาใชไดแก
1.) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) จํากัด หรือ DTAC ได
กําหนด 4 เปาหมายหลักเพื่อสนับสนุนการดําเนินงานของบริษัทฯ และใชเปนเกณฑปฎิบัติมาโดย ตลอด ไดแก 1. ความเปนเลิศดานการใหบริการแกลูกคา 2. ความเปนเลิศดานการสรางสรรค
นวัตกรรมรูปแบบการใหบริการ 3. ความเปนเลิศดานคุณภาพเครือขาย 4. ความเปนเลิศในการมี
ความสัมพันธอันดีกับตัวแทนจําหนายและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ลฯ ใหความสําคัญกับ ชองทางการจัดจําหนาย โดยถือวาเปนกุญแจสําคัญของความสําเร็จในการเพิ่มจํานวนลูกคาใน ระยะเวลา 2 ปที่ผานมา ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2546 บริษัท โทเทิ่ลฯ มีจํานวนราน DTAC เปนของบริษัทเองจํานวน 10 ราน รานที่ไดรับสัมปทาน (Franchise) จํานวน 363 ราน ตัวแทน จําหนายอิสระจดทะเบียนกับบริษัท จํานวน 752 ราน และรานที่ขายสินคาโทรคมนาคมและรานคา ทั่วไปอีกจํานวน 14,787 ราน โดยทางบริษัท โทเทิ่ลฯ ไดรวมกันดําเนินงานกับทางพันธมิตรทาง ธุรกิจในลักษณะของหุนสวน โดยเนนใหพันธมิตรทางธุรกิจเหลานั้นสรางมูลคาเพิ่มใหกับบริการ ของบริษัทฯ และบริษัทฯ เปนผูดําเนินการดานเครือขายในการเผยแพรบริการนั้นๆ ปจจุบันบริษัท ฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจในดานการผลิตขอมูล (Content Provider) จํานวน 150 (รายงานประจําป
2546 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน)
2.) บริษัท ยูนิลีเวอร ประเทศไทย จํากัด มีการทําเรื่องนี้มาตั้งแตป พ.ศ. 2536 เมื่อยัง เปนบริษัท ลีเวอร ประเทศไทย โดยคุณวิโรจน ภูตระกูล ประธานบริษัท ไดประกาศเปาหมายใน การสรางหุนสวนธุรกิจ (Partnership) ซึ่งลีเวอรจะถือวาคูคาของตน ตั้งแต ผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier), ผูคาปลีก (Retailer) ตลอดจนผูบริโภคและพนักงานบริษัททุกคน รวมทั้งสังคม คือ หุนสวนทางธุรกิจของตน ยูนิลีเวอรมีการดําเนินการในภาคปฏิบัติ โดยการเขาไปใหคําปรึกษาใน ดานการจัดการแก ผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier), ผูคาปลีก (Retailer) ทั้งรานโชวหวย และ รานคาปลีก สมัยใหม(Modern Trade) ผลที่ไดคือ บริษัทยูนิลีเวอรมีตนทุนการผลิตที่ต่ําลง มีประสิทธิภาพใน การขายผานชองทางตางๆ ไดดีขึ้น ดวยการใชโปรแกรมการจัดการเชน Space Management และ Category Management ในปจจุบัน และยังมีโปรแกรมอื่นๆ อีกหลายโปรแกรม บริษัทยูนิลีเวอรฯ ไดพัฒนาสินคาเพื่อตอบสนองความตองการของผูบริโภค ดวยการผลิตสินคาตรงตามความตองการ ของผูบริโภค รวมถึงการตั้งศูนยบริการลูกคา (Call Center) ขึ้นเปนบริษัทแรกๆ ในประเทศไทย เพื่อรับขอเสนอแนะและตอบปญหาของผูบริโภค ผลที่เห็นไดชัดจากการปฏิบัติ คือ ผลิตภัณฑของ บริษัท ยูนิลีเวอรฯ ยังคงยืนหยัดอยูอยางมั่นคง และยกระดับตัวเองขึ้น เชนแชมพูซันซิล, สบูลักส,
เครื่องสําอางพอนดส ที่ปจจุบันเปลี่ยนจากเครื่องสําอางของผูหญิงมีอายุ เปนเครื่องสําอางของ วัยรุนไดสําเร็จ
3.)บริษัท โตโยตา มอเตอร ประเทศไทย จํากัด ไดใหการสนับสนุนผูจัดจําหนาย (Dealer) ทั้งดานตัวสินคา โดยเสนอราคาที่สามารถแขงขันได และสมเหตุสมผล รวมถึงการ สนับสนุนดาน อื่นๆ เชน การทําโฆษณา หรือสงเสริมการขาย ซึ่งทําในลักษณะการโฆษณา ระดับชาติ (National Advertising) ในการสนับสนุน การสงเสริมการขาย ดานตัวแทนจําหนายก็ได
ทํากิจกรรมเองบางบางสวน โดยบริษัทโตโยตา มอเตอร ฯใหการสนับสนุนในระดับที่เหมาะสม และยังมี TLT (Toyota Leasing Thailand) บริษัทในเครือโตโยตาที่ชวยเหลือในเรื่องดาวนต่ํา ดอกเบี้ยถูก หรือผอนดวยระยะเวลาที่นานขึ้น ทําใหลูกคาสามารถเปนเจาของรถยนตไดงายขึ้น และ มีการพัฒนาบุคลากรอยางตอเนื่อง เนื่องจากบริษัท โตโยตา มอเตอร ฯขายรถหลายประเภท พนักงานขายจําเปนตองมีความรู จึงตองอบรมความรูทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ หรือ แนะนําสินคาใหมสูตลาด ซึ่งปจจุบันเทคโนโลยีมีความใกลเคียงกัน พนักงานขายตองสามารถ อธิบายจุดเดนของผลิตภัณฑไดอยางชัดเจน ตองรูวาโตโยตามีอะไรที่ Outstanding หรือแตกตางกัน โดยสรุปโตโยตาจะใหการสนับสนุนผูจัดจําหนาย (Dealer) ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีโนวฮาว (know how) ระบบการจัดการ และการสนับสนุนดานโชวรูม สวนในเรื่องเงินจะใหความชวยเหลือ ในลักษณะของการตั้งสวนตางกําไรในระดับที่ผูจัดจําหนาย (Dealer) สามารถทําตลาดได
4.) บริษัท ไทยรุงยูเนี่ยนคาร จํากัด (มหาชน) เปนผูผลิตรถยนตดัดแปลงแบรนดไทย รายเดียว และเปนผูผลิตชิ้นสวนยานยนตใหกับบริษัทรถยนตขามชาติ แสดงใหเห็นถึง ความสามารถในการแขงขันทางธุรกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของพันธมิตรทางธุรกิจ ไทยรุงยูเนี่ยน คาร เปนผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier) ของบริษัทรถยนตขนาดใหญ และมีผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier) ที่เปนปจจัยสําคัญในการสงมอบผลิตภัณฑที่มีคุณภาพใหกับลูกคา โดยทางบริษัทวางตําแหนงอยู
ในฐานะผูผลิตชิ้นสวนยานยนตที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง ใหความสําคัญกับการสงมอบสินคาดวย 3 หลักการคือ Q – Quality, C – Cost, และ D – Delivery ผลิตภัณฑที่นําสงใหลูกคานั้นตองมีคุณภาพ ราคาที่ลูกคาพอใจ และสงมอบทันเวลา นอกจากบริษัทฯ จะเปนผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier) ของ ผูผลิตรถยนตไทยรุงยูเนี่ยนคารเอง บริษัทยังมีผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier) ของบริษัทเองเปนจํานวน มาก บริษัทจึงมีระบบการบริหารผูจัดหาวัตถุดิบ (Supplier) ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มจากการคัดเลือก และประมินตามระบบ ISO 9001 ซึ่งกําหนดหัวขอในการเลือกเพื่อเขามาอยูใน Vender List การ สั่งซื้อสินคาจะมีการประเมินผลทุกเดือน ในเรื่อง 1. คุณภาพของสินคา และ 2. การสงมอบ ปจจัย สําคัญที่สุดสําหรับการสรางพันธมิตรทางธุรกิจอยางยั่งยืนคือ ผลระโยชนรวมกันของทั้ง 2 ฝาย ระบบการทํางาน ระบบการบริหารคนที่มีประสิทธิภาพเทาเทียมกัน สามารถพัฒนาไปดวยกันได