Abstracts
2.4 ปรนนิบัติ ชวยบริการ
2.5 เรียนศิลปะวิทยาโดยเคารพ คือ เอาจริงเอาจัง ถือเปนกิจสําคัญของศิษย
ในเรื่องนี้พระพรหมคุณาภรณ (ป.อ. ปยุตฺโต) ทานไดอธิบายถึงหนาที่และความ รับผิดชอบของครูตามหลักคําสอนในพระพุทธศาสนา เมื่อครั้งที่ทานยังดํารงสมณศักดิ์เปนพระ ราชวรมุนี ไดอธิบายไวในหนังสือปรัชญาการศึกษาไทย พอสรุปได 2 ประการ คือ ประการที่
หนึ่ง หนาที่ในการสั่งสอนศิลปะวิทยาการทุกสิ่งทุกอยางใหแกศิษย หนาที่ในดานนี้เรียกวาเปน
“สิปปทายก” หรือ “ศิลปทายก” สวนหนาที่ประการที่สองนั้น คือ เปน “กัลยาณมิตร”
ของศิษย หนาที่ในดานนี้ คือ คอยอบรมสั่งสอนมิใหศิษยกระทําความชั่ว ชวยชี้แนะใหศิษย
กระทําแตความดีทั้งปวง พยายามอบรมสั่งสอนศิษยใหเปนคนดีมีคุณธรรม ในทาง พระพุทธศาสนาใหความสําคัญหนาที่ในดานนี้มากกวาประการแรก ทั้งนี้เพราะถาหากครูคอย สั่งสอนศิลปะวิทยาการทุกสิ่งทุกอยางใหแกศิษยจนศิษยทุกคนมีความรูความสามารถในกิจการ งานทั้งปวง แตทวามิไดอบรมสั่งสอนใหศิษยเปนคนดีมีคุณธรรม คนที่มีความรูความสามารถดี
มีปญญานั้นอาจจะนําความเกงความสามารถของตนไปกระทําในสิ่งที่เบียดเบียนผูอื่นใหไดรับ ความเดือดรอนหรือไมก็นําความเดือดรอนมาสูตนเอง หากเปนเชนนี้ การมีความรูมาก การเปน คนเกง อาจนําความเดือดรอนมาใหตนเองและผูอื่น ซึ่งยอมไมเปนที่ปรารถนาของสังคม สวนรวม (พระราชวรมุนี, 2528, น. 53-57)
การเสริมสรางคุณลักษณะของครูที่ดี
ในหัวขอนี้ผูผูเขียนจะไดอธิบายถึงการเสริมสรางคุณลักษณะของครูที่ดีอยู 2 ประการ คือ คุณลักษณะของครูที่ดีตามหลักคําสอนในพระพุทธศาสนา และคุณลักษณะของครูที่ดีในยุค ศตวรรษที่ 21 ดังมีรายละเอียดตามลําดับตอไปนี้
1. คุณลักษณะที่ดีของครูตามหลักคําสอนในพระพุทธศาสนา
คุณลักษณะของครูที่ดีตามหลักคําสอนในพระพุทธศาสนา ซึ่งเปนหลักคําสอนขององค
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจานั้น สามารถนํามายึดถือปฏิบัติไดทุกหมวดหมู ใหเกิดประโยชนทั้ง ตนเองและผูอื่น อยางไรก็ตามสําหรับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาซึ่งมีความเกี่ยวของกับครู
มากที่สุดและถือวาเปน “คุณธรรมพื้นฐานของความเปนครู” หรือ คุณลักษณะของครูดี
หลักธรรมหมวดนี้ คือ กัลยาณมิตตธรรม ซึ่งมีอยู 7 ประการ คือ
1.1 ปโย (นารัก) คือ บุคคลที่เปนครูนั้นจะตองเปนผูที่นารัก ศิษยไดพบเห็นแลว รูสึกทําใหอยากเขาไปพบหาปรึกษาไตถาม สบายใจเมื่อไดพบปะพูดคุยกับครูอาจารยผูนั้น การกระทําตนใหเปนผูที่นารักของศิษยนั้นมิใชการที่ครูไมยอมวากลาวตักเตือนเมื่อศิษยทําสิ่งใด ผิดพลาด ตรงกันขามจะตองกระทําหนาที่ของครูใหสมบูรณตลอดเวลา นั่นคือ หากศิษยคนใด กระทําไมถูกตอง ครูจะตองคอยชี้นํา ตักเตือน หามปรามมิใหศิษยกระทําสิ่งนั้น ๆ
98 Journal of Graduate Studies Review MCU Phrae Vol. 6 No. 2 (July–December 2020)
1.2 ครุ (นาเคารพ) คือ บุคคลที่เปนครูนั้นตองเปนผูที่ประพฤติตนเหมาะสมแก
ฐานะของความเปนครู กระทําตนใหเปนแบบอยางที่ดีแกศิษยทั้งพฤติกรรมทางกายและทาง วาจา จิตใจสงบ เยือกเย็น มีเหตุมีผล ไมเปนคนเจาอารมณ เปนคนเสมอตนเสมอปลายทุก ๆ กรณี มีบุคลิกลักษณะประดุจดังผูทรงศีล ทําใหเปนที่นาเคารพศรัทธาเลื่อมใสของศิษย
1.3 ภาวนีโย (นาเจริญใจหรือนายกยอง) คือ บุคคลที่เปนครูนั้น จะตองกระทําตน ใหเปนที่นาเจริญใจหรือนายกยองของศิษยและบุคคลทั่วไป มีความรูและภูมิปญญาอยางแทจริง มีคุณธรรมความดีควรแกการกราบไหวบูชาของศิษยเสมอ สิ่งตาง ๆ เหลานี้จะบังเกิดมีในตัวครู
ได ผูที่เปนครูจะตองหมั่นฝกอบรมตนใหเจริญงอกงามศึกษาหาความรูอยูเสมอ เปนผูมีวิสัยทัศน
เปดใจรับความรูใหม ๆ ไมกระทําตนย่ําอยูกับที่ เปนครูเวลาทําการสอน เปนนักเรียนเมื่อมีเวลา วาง เปนนักสากลนิยม ถือศาสนาเปนหลักใจ ไมเปนคนมีมิจฉาทิฏฐิ เชื่อกฎแหงกรรม เปน ผูรักษากายดวยศีล ควบคุมจิตดวยสมาธิ และควบคุมความเห็นดวยปญญา หากครูคนใดมี
ลักษณะดังกลาว ยอมเปนที่นาเจริญใจเมื่อศิษยไดพบเห็น หรือเปนที่นายกยองของศิษยและ
บุคคลทั่วไป นอกจากนี้ ผูเปนครูจะตองพยายามพัฒนาชีวิตความเปนอยูในดานอื่น ๆ ใหเจริญกาวหนา ไมปลอยชีวิตใหซอมซอ นาหดหูแกผูพบเห็นทั่วไป
1.4 วัตตา (มีระเบียบแบบแผน) คือ บุคคลที่เปนครูนั้นจะตองกระทําตนใหเปน บุคคลที่เคารพระเบียบกฏเกณฑ มีระเบียบแบบแผน ขณะเดียวกันก็คอยอบรมตักเตือนใหศิษย
เปนผูมีระเบียบแบบแผน วากลาวตักเตือนในสิ่งที่ควรกระทํา เปนที่ปรึกษาที่ดีของศิษยดวย กลาวโดยรวมคุณลักษณะของครูในขอนี้ คือ ความเปนผูมีระเบียบแบบแผนของครูและคอย อบรมตักเตือนศิษยใหอยูในระเบียบกฏเกณฑดวย
1.5 วจนักขโม (อดทนตอถอยคํา) คือ บุคคลที่เปนครูนั้นจะตองเปนผูที่มีความ อดทนตอถอยคําพูดของศิษยที่มากระทบตอความรูสึก เพราะบางครั้งคําพูดของศิษยที่กลาว ออกมานั้นอาจจะทําใหครูรูสึกไมพอใจหรือไมสบายใจ ครูก็ตองอดทนและพรอมที่จะรับฟงขอ ซักถามและใหปรึกษาหารือ แนะนํา ไมเบื่อ ไมฉุนเฉียว
1.6 คัมภีรัญจะ กถัง กัตตา (แถลงเรื่องไดอยางลึกล้ํา) คือ บุคคลที่เปนครูนั้น จะตองมีความสามารถในการสอน มีความสามารถในการใชคําพูดอธิบายเรื่องราวตาง ๆ ให
ศิษยฟงไดอยางแจมแจง มีความรอบรูในเรื่องที่จะพูด และตองพยายามหาวิธีการที่สามารถ ถายทอดใหศิษยเขาใจไดงายที่สุด กลาวคือ สามารถอธิบายเรื่องยากใหเปนเรื่องงายได
1.7 โน จัฏฐาเน นิโยชเย (ไมชักนําศิษยไปในทางที่เสื่อม) คือ บุคคลที่เปนครูนั้น จะตองไมชักนําศิษยไปในที่ต่ําทรามใด ๆ สิ่งใดเปนความเสื่อมโทรมทางจิตใจ จะไมชักนําศิษย
ไปในทางนั้น ในขณะเดียวกัน ผูที่เปนครูก็จะตองไมประพฤติสิ่งเสื่อมทรามทั้งหลายทั้งปวงให
ศิษยเห็น ครูจะตองหลีกเลี่ยงสิ่งที่เปนอบายมุขทั้งปวง
คุณลักษณะของครูตามหลักกัลยาณมิตตธรรม ทั้ง 7 ประการ หากบังเกิดกับผูที่เปนครู
คนใดแลว บุคคลนั้นยอมไดชื่อวาเปนครูที่มีคุณลักษณะที่พึงประสงคของสังคมและประเทศชาติ
2. คุณลักษณะของครูที่ดีในยุคศตวรรษที่ 21
ในยุคศตวรรษที่ 21 หรือที่เรียกกันวายุคโลกาภิวัตน เปนยุคแหงเทคโนโลยีสารสนเทศ แหงโลกไรพรมแดน เปนยุคแหงขอมูลขาวสารที่มนุษยสามารถติดตอถึงกันไดอยางรวดเร็วและ ทั่วถึง เมื่อเปนเชนนี้ ผูที่เปนครูในยุคสมัยใหม จึงจําเปนตองพัฒนาตนเองใหทันตอความ เจริญกาวหนาในวิทยาการใหม ๆ ที่แพรกระจายไปทุกสังคมโลก ความรูจากการศึกษาเลาเรียน จากตําราอาจไมเพียงพอ จําเปนตองศึกษาหาความรูจากแหลงอื่น ๆ เพิ่มเติมเสมอ เพื่อใหมี
ความรอบรูในสถานการณตาง ๆ ที่มีผลกระทบตอการดํารงชีวิตในสังคมปจจุบันที่มีทั้งทางบวก และทางลบ อยางไรก็ตาม คุณลักษณะที่เปนความดีเปนสัจธรรม ดังนั้น หากพิจารณาถึง คุณลักษณะที่สําคัญ ๆ ของครูที่ดีในยุคศตวรรษที่ 21 จะไดแกคุณลักษณะดังตอไปนี้
(ยนต ชุมจิต, 2558, น. 141-148)
2.1 รูดี – เปนคุณลักษณะประการแรกของบุคคลที่เปนครูทุกคน คือ ตองมีความรู
ดี การมีความรูดีที่นี้มีความหมายกวางที่สําคัญ ไดแก (1) ความรูในเนื้อหาที่จะสอน (2) ความรู
ในจิตวิทยาการเรียนการสอน (3)ความรูในหลักการสอน (4) ความรูเรื่องเศรษฐกิจ (5) ความรู
เรื่องการบานการเมือง (6)ความรูทางศาสนาและวัฒนธรรมรวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี
(7) ความรูทางดานประวัติศาสตร ศิลปะและวรรณคดีที่สําคัญของชาติ (8) ความรูและ ความสามารถในการใชภาษาไทยเปนอยางดีและความรูดานภาษาตางประเทศ (9) ความรู
ความสามารถในการประพันธโคลง ฉันท กาพย กลอน (10) ความรูเรื่องสภาพสิ่งแวดลอมทาง สังคม (11) ความรูเรื่องธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (12) ความรูเรื่องการใชคอมพิวเตอร
และเทคโนโลยีตาง ๆ ความรูในดานตาง ๆ เหลานี้ หากครูอาจารยสามารถพัฒนาตนเองไดมาก เพียงใด ยอมชวยสรางศักยภาพความเปนครูและการปรับตัวสมดุลในยุคศตวรรษที่ 21 ไดมาก เพียงนั้น
2.2 สอนดี – ความรูดีดานเดียวไมเพียงพอตอความเปนครูในยุคใหม ครูที่ดีนั้น จะตองเปนผูมีความสามารถในการสอนคนดวย ซึ่งความสามารถในการสอนนั้นจะตองอาศัย องคประกอบหลาย ๆ อยาง ที่สําคัญไดแก (1) รูหลักการสอน (2) รูจักนักเรียนที่จะสอน (3) รูจักสภาพแวดลอมทางบานของนักเรียน (4) มีสภาพแวดลอมทางกายภาพและสังคม เอื้ออํานวยตอการเรียนการสอน (5) สุขภาพอนามัยสมบูรณ (6) บุคลิกภาพเหมาะสม (7) ความ พรอมที่จะเรียนรูของนักเรียน และ (8) มีเครื่องอํานวยความสะดวกตาง ๆ พรอม สวนหลักคํา สอนของพระพุทธศาสนานั้น ครูที่สอนดีนั้นจะตองมีลีลาการสอน 4 ประการ คือ (1) สันทัศนา
100 Journal of Graduate Studies Review MCU Phrae Vol. 6 No. 2 (July–December 2020)
คือ สามารถชี้แจงไดชัดเจน (2) สมาทปนา คือ สอนแลวนักเรียนอยากปฏิบัติตาม (3) สมุตเตช นา คือ สอนแลวนักเรียนเกิดความกลาที่จะกระทําตามที่ครูสอน และ (4) สัมปหังสนา คือ นักเรียนเกิดความราเริงบันเทิงใจกับการไดเรียนรูในสิ่งนั้น ๆ
2.3 มีวิสัยทัศน - นอกจากมีความรูดีและสอนดีแลว ครูดีในยุคสมัยใหมนั้นจะตอง เปนผูที่มีวิสัยทัศนอีกดวย กลาวคือ ผูเปนครูจะตอง “มองการณไกลใชปญญา” หรือในทาง พระพุทธศาสนาเรียกวา “จักขุมา” การมองการณไกลใชปญญาหรือมีวิสัยทัศนนั้น คือ ความสามารถในการมองเหตุการณตาง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การมีวิสัยทัศนจะชวยทําให
บุคคลไดพัฒนาตนเองอยูเสมอ และสามารถปรับตัวไดเทาทันการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น ครูดีในยุคใหมจะตองเปนผูมีวิสัยทัศน
2.4 เจนจัดฝกฝนศิษย - การมีความรูดี สอนดี มีวิสัยทัศน แตถาไมเจนจัดการ ฝกฝนศิษยแลวยังไมสามารถจะเปนครูที่ดีได ทั้งนี้เพราะการสอนใหคนมีความรูในศิลปวิทยา การตาง ๆ นั้น เปนงานที่ไมยากเกินกําลังของผูสอนทั่วไป งานที่ยากยิ่งของผูที่มีวิญญาณความ เปนครู คือ การอบรมฝกฝนใหคนเปนมนุษย การเปนมนุษย หมายถึง การเปนผูมีจิตใจสูง เปนผู
มีคุณธรรม รูจักผิดชอบชั่วดี มีความละอายและเกรงกลัวตอบาป และจะตองสรางแตความดี
ใหกับตนเองและผูอื่นอยูเสมอ สิ่งตาง ๆ ดังกลาว จะบังเกิดแกศิษยไดอยางครบถวนสมบูรณ
จะตองอาศัยครูที่มีความจัดเจนในการฝกฝนศิษย นั่นคือ จะตองมีความยินดีพอใจที่จะอบรมสั่ง สอนศิษย มีความอดทนที่จะพร่ําสอน แมวาศิษยของตนจะฝกฝนยากเพียงใดก็ตาม
2.5 ดวงจิตใฝคุณธรรม - ความเจนจัดในการฝกฝนอบรมศิษยใหเปนคนดีมี
คุณธรรมจะไรผลถาหากผูทําหนาที่ในการฝกฝนอบรม คือ ครูเปนผูที่ไรคุณธรรม ทั้งนี้เพราะ การจะอบรมสั่งสอนใหผูใดเปนอยางไรนั้น ผูที่ทําหนาที่ในการอบรมสั่งสอนจะตองกระทําตนให
เปนแบบอยาง ดังพุทธศาสนสุภาษิตกลาวไววา “อตฺตานฺเจ ตถา กยิรา ยถฺมนุสาสติ.”
แปลวา “ถาพร่ําสอนผูอื่นฉันใด ก็ควรทําตนฉันนั้น” ดังนั้น ครูดีในยุคศตวรรษที่ 21 หรือในยุค ใด ๆ ก็ตามจะตองเปนผูที่ “ใฝดี” หมายความวา ดวงจิตของผูที่เปนครูนั้นจะตองใฝในคุณความ ดีตาง ๆ เพื่อแสดงใหศิษยและบุคคลทั่วไปไดเห็นวา ผูเปนครูนั้นเปนคนดีมีคุณธรรม สมควร ไดรับการยกยองใหเปนปูชนียบุคคล สําหรับคุณธรรมที่ครูควรศึกษาและนอมมาปฏิบัตินั้นมี
มากมายในหลักคําสอนทางพระพุทธศาสนา
2.6 งามเลิศล้ําดวยจรรยา – ครูที่ดีจะตองงามดวยจรรยา คือ ความประพฤติหรือ กิริยามารยาทของความเปนครู สําหรับจรรยามารยาทที่ครูไทยควรตระหนักและฝกฝนปฏิบัติมี
อยู 2 นัยดวยกัน คือ นัยแรกไดแก จรรยามารยาทแบบไทย ๆ คือการปฏิบัติตามมารยาทไทย ใหถูกตองเหมาะสม เชน การไหวพระ การไหวบุคคลตาง ๆ การกราบบุคคล การกราบพระ การประเคนของพระ การรับของการสงของ ตลอดจนการเขารับพระราชทานสิ่งของ เปนตน