• Tidak ada hasil yang ditemukan

อะไรคือเครื่องมือทางการเมืองในยุค ค.ศ.2009

N/A
N/A
Protected

Academic year: 2023

Membagikan "อะไรคือเครื่องมือทางการเมืองในยุค ค.ศ.2009"

Copied!
1
0
0

Teks penuh

(1)

อะไรคือเครื่องมือทางการเมืองในยุค ค.ศ. 2009

นายนพดล ปกรณ์นิมิตดี

อาจารย์ประจำาคณะนิติศาสตร์

มหาวิทยาล ัยศรีปทุม noppadon.pa@spu.ac.th ถ ้าใครที่เคยได ้ชมภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง คน เหล็ก เครื่องจักรกลแห่งโลกอนาคต ที่มีรูปร่างหน ้าตาเป็นมนุษย์

หุ่นยนต์ โดยเจ ้ามนุษย์หุ่นยนต์นี้เดินทางจากโลกแห่งอนาคต กลับมายังโลกปัจจุบัน เพื่อแก ้ไขปัญหาบางอย่าง ตามคำาสั่งของ พระเอก แต่ในท ้ายที่สุดเจ ้ามนุษย์หุ่นยนต์ตัวนี้ กลับมีความคิด เห็นในบางเรื่อง ที่เป็นตัวของตัวเองหรือขัดแย ้งหรือแตกต่างจาก สิ่งที่ได ้รับคำาสั่งมา

จริงอยู่ นั่นคือภาพยนตร์ นั่นคือ จิตนาการของผู ้สร ้าง ที่

กำาลังจะบอกว่า มนุษย์หุ่นยนต์แห่งโลกอนาคต อาจจะพยายามมี

ความคิดความอ่านให ้เหมือนมนุษย์ให ้ได ้มากที่สุด มีความคิด ความอ่านเป็นของตัวเองให ้มากที่สุด

แต่แล ้วประชาชนธรรมดาเดินดินอย่างเราๆ ในยุคโลก ปัจจุบันจริงๆ จะยอมแพ ้หรือยอมเสมือนเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ ที่ถูก ป้อนความคิดตามความต ้องการของผู ้ป้อนข ้อมูล โดยไม่รู ้ตัว กระนั้นหรือ

ในทางการเมือง ประชาชนอย่างเราๆ ควรจะเชื่อใคร ดี

อริสโตเติล บิดาแห่งรัฐศาสตร์ ที่เคยกล่าวไว ้เมื่อ 384 – 322 ปี ก่อนคริสตกาล

รูปแบบการปกครอง แบ่งออกได ้เป็น 3 ประเภทด ้วยกัน คือ

1.บุคคลคนเดียว เป็นผู ้มีอำานาจสูงสุด 2.บุคคลกลุ่มเล็ก เป็นผู ้มีอำานาจสูงสุด

3.คนส่วนใหญ่เป็นผู ้มีอำานาจสูงสุด บางท่านเรียกรูปแบบ การปกครองนี้ว่า ประชาธิปไตยนั่นเอง

ปัจจุบัน การแสดงออกซึ่งความประสงค์ของคนส่วนใหญ่ จะ แสดงออกโดยผ่านผู ้แทนขอ

ปวงชน ดังความที่ปรากฎในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 122 ที่บัญญัติว่า “สมาชิกสภาผู ้แทนราษฎร และสมาชิก วุฒิสภา ย่อมเป็นผู ้แทนปวงชนชาวไทย...”

(2)

ย ้อนกลับมาที่บ ้านเรา ปัจจุบัน การเมืองไทยเราใน หลายเรื่อง ได ้พยายามปรับเปลี่ยนให ้เป็นเรื่องการเมืองภาค

ประชาชนมากขึ้น โดยมิใช่เรื่องการเมืองโดยผ่านทางผู ้แทนอย่าง เดียว แต่พยายามให ้ประชาชนทุกคนได ้เข ้ามามีส่วนในทางการ เมืองให ้ได ้มากที่สุด

ดังตัวอย่าง เช่น ร ัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจ ักร ไทย ได้บ ัญญ ัติกำาหนดไว้ในหมวด 7 การมีส่วนร่วมทางการ เมืองโดยตรงของประชาชน

มาตรา 163 ประชาชนผู ้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่า 10,000 คน มีสิทธิเข ้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ

มาตรา 164 ประชาชนผู ้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่น ้อยกว่า 20,000 คน เข ้าชื่อร ้องขอต่อวุฒิสภาให ้มีการถอดถอนบุคคล ตามมาตรา 270 ออกจากตำาแหน่ง

มาตรา 165 ประชาชนผู ้มีสิทธิเลือกตั้งย่อมมีสิทธิออก เสียงประชามติ

อาจเป็นเพราะ ระบบประชาธิปไตย ที่จะต ้องรับฟัง เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ นี้เอง จึงมีผู ้ใช ้ประโยชน์จากคำาว่า ประชาชน ในการแสวงหาประโยชน์ หรือเมื่อมีความขัดแย ้ง ทางการเมือง และไม่สามารถเอาชนะกันได ้ตามระบบที่มีอยู่ ก็

ต ้องใช ้ ประชาชน เป็นเครื่องมือ โดยวิธีการรวบรวมผู ้คนให ้อยู่ฝ่าย ตนให ้ได ้มากที่สุด เพื่อร ้องขอความชอบธรรมให ้แก่ตนเอง โดย การกล่าวอ ้างเสียงของพี่น ้องประชาชน

และดูเป็นวิธีปฏิบัติไปแล ้วกระมัง ที่จะต ้องอ ้างเสรีภาพ ในการชุมนุม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 63 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและ

ปราศจากอาวุธ ... จริงอยู่แม ้รัฐธรรมนูญ มาตรา 28 จะ บัญญัติว่า บุคคลย่อมอ ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช ้สิทธิและ เสรีภาพของตนได ้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล อื่น... แต่ในเนื้อหาแห่งรัฐธรรมนูญ เข ้าใจว่าก็คงมิน่าจะมี

เจตนารมณ์ให ้กล่าวอ ้างความในรัฐธรรมนูญมาตรานี้ไปเพื่อการ เอาชนะกันทางการเมือง ของบุคคลเพียงบางกลุ่ม โดยการใช ้ ประชาชนเพื่อการแสดงออกซึ่งความชอบธรรมของฝ่ายตน

อาวุธนิวเคลียร์ ที่เคยทำาลายล ้างผู ้คนในบางประเทศ ในอดีตที่ผ่านมา แม ้จะสร ้างความเจ็บปวดรวดร ้าวแสนสาหัสทาง

(3)

กายและจิตใจ ดังร่องรอยที่ปรากฎจากสถานที่และผู ้คนมาจนถึง ทุกวันนี้ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า การใช ้อาวุธรูปแบบใหม่ ที่

อาจสร ้างความเจ็บปวดได ้มากกว่าอาวุธเคมีอื่นใด ก็คือการใช ้ มนุษย์ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจ และดำารงเผ่าพันธุ์เดียวกัน มาฆ่า ล ้างกันเอง เพื่อการเอาชนะกันทางการเมือง แก่อีกคู่กรณีฝ่ายหนึ่ง ประชาชนจึงกลายเป็นเครื่องมือที่มีพลังประสิทธิภาพในเรื่อง

ทางการเมืองไปแล ้ว ใช่จริงหรือ

ประชาชน ย่อมมิใช่เครื่องมือของใครอยู่แล ้ว...?

มนุษย์อย่างเรา ประชาชนอย่างเราบางครั้งบางคนก็ดูเหมือนมี

ม่านมาบังตา เหมือนตัวอย่างผู ้ชายบางคน หลงรักผู ้หญิงที่ตน ชอบ รักเขาอยู่ข ้างเดียว ผู ้หญิงคนที่เราชอบ คนนี้ จะพูดจา อะไรไปเราก็เชื่อทั้งหมด ถึงมีคนเตือนว่าผู ้หญิงคนนี้กำาลังหลอก ใช ้ ฝ่ายชายที่หลงรักเขาข ้างเดียว ก็ยังหาเหตุแก ้ต่าง ให ้เขาจน ได ้ คนที่หวังดี หรือใครเตือนก็ไม่ฟัง แต่เมื่อสติกลับมา ก็จะ เข ้าใจเรื่องราวทั้งหมด และรู ้ว่าควรจะทำาอย่างไรกับตัวเอง คง เหมือนที่เขาว่า ความรัก คงไม่มีเหตุผล ความรักทำาให ้ขาดสติ

กระมัง

การมีอุดมการณ์ ร่วมกันมิใช่สิ่งที่ผิด การมีความคิด ความเห็นที่เป็นไปในทางเดียวกัน ก็มิใช่สิ่งที่ผิด การเกลียดคนๆ เดียวกัน ก็ไม่ผิด หรือการชื่นชมดาราคนเดียวกัน ก็ไม่ผิด แต่การ คิดอย่างขาดสติร่วมกันและหลงร่วมกันจนนำามาซึ่งความเดือดร ้อน แก่ตนเองและผู ้อื่น จะเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ ก็ยังเป็นคำาถาม ที่ต ้อง ค ้นหาคำาตอบกันต่อไป

ประชาชน อย่างเราๆ คนธรรมดาอย่างเรา ถูกใครหลอก หลวง เรายังไม่ยอมเลย และถ ้า จะตกเป็นเครื่องมือของใคร ไป โดยไม่รู ้ตัวหรือเปล่า จะทำาใจยอมรับได ้หรือ คงต ้องขอฝากเป็น คำาถามแก่ท่านผู ้อ่านทุกคน เพื่อจะได ้ไม่หลวมตัวถูกใครหลอก เสียทั้งเงินทอง ทรัพย์สิน และสุดท ้ายก็คือ เสียใจ

สุดท ้ายนี้ การมีสติเป็นตัวของตัวเอง ฟังเขาได ้แต่ก็ต ้อง ใช ้เหตุใช ้ผลได ้ด ้วยความคิดของเราเองจริงๆ มิได ้หลง หรือเชื่อ ตามใคร มิได ้ใช ้อารมณ์พาตนเองไปสู่การสร ้างปัญหาแก่ตนเอง หรือสังคม และถ ้าเราจะเชื่อ เราจะเชื่อด ้วยสติของเราเอง ความ สงบสุขในบ ้านเมือง ก็คงจะมาถึงในเวลาไม่นานนี้กระมัง สวัสดี

ครับ

(4)

Referensi

Dokumen terkait

พิจารณาเพื่อรับสิทธิ์ทางการศึกษาพิเศษต้องได้รับการประเมินพฤติกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของการ ประเมินคัดกรองความบกพร่อง ต่อมามีสาระส าคัญในการปรับปรุงพระราชบัญญัติในปี 2004 Simonsen, 2015