ในความเห็นต่างในอิสลาม
2.2.1 นิยามความเห็นต่างในอิสลาม
ความเห็นต่างหรือในภาษาอาหรับ คือ “فلاتخلا” อ่านว่า อัลอิคติลาฟ ตามที่นักวิชาการ อิสลามได้ท่านได้ให้ค านิยามทั้งในเชิงภาษาและเชิงวิชาการ และได้มีการน าเสนอค าศัพท์ที่มี
ความหมายคล้ายคลึงและแตกต่างกันนั้น (‘Abd al-Salām al-Sulaymāniy, 1993: 146; Hind Muhammad, ‘Abd al-Salām al-Sulaymāniy:1 9 9 3 nd: 4 9 8 ; Tāhā Jābir Fayyād al-
‘Ulwāniy. 1987: 21-23; Jabbār Dahshun al-Taiiy. 2007: 98; ‘Aliy Wanis, n.d. : 3)
ผู้วิจัยสามารถสรุปได้ ดังนี้
2.2.1.1 นิยามเชิงภาษา
ค าว่า “ف َلا ِتخ ِلا” อ่านว่า อัลอิคติลาฟ ในพจนานุกรม (almaany.com) ระบุว่า َفلتخا َإ َفلتخا ،
ىلع َفلتخا ، ْع َفلتخا ،
ِلتمخ وهف ، اًفلاتخا ، فلتيَ فِ َفلتخا ، ، ف
) يِّدعتملل ( فَلَ تُْمخ لوعفلماو
ให้ความหมายว่า แตกต่าง ขัดแย้ง หรือ ตรงกันข้าม เช่น “نائيشلا َفلَتْخا” แปลว่า ทั้งสองสิ่งนั้น แตกต่างกัน หรือมีไม่ตรงกัน หรือ “ ِيْأَّرلا ِفِ ُهَعَم َفَلَ تْخِا” แปล เขามีความเห็นตรงกันข้ามกับอีกฝ่าย หนึ่ง เป็นต้น
Jabbār Dahshun al-Taiiy (2007: 98) และ‘Aliy Wanis (n.d.: 3) กล่าวว่า ราก ศัพท์ของค า “ف َلا ِتخ ِلا” มาจากค ากริยา “ َف َل ْخ َ ت ِا” อ่านว่า อิคตะละฟะ มีความหมายว่า แตกต่าง ตรงข้ามกับค า “قافِّتلا” อ่านว่า อัลอิตติฟากฺ ซึ่งมีความหมายว่า เห็นพ้องกัน ซึ่งสอดคล้องกับนิยาม ในพจนานุกรมศัพท์ภาษอาหรับ (Ibn Manzur, Lisān al-Arab: 9/82) ได้ให้ค าอธิบายว่า
"
َ تخ ِا َف َل ْلا َأ ْم َر َل نا ْم
َ ي َت ِف َق َو .ا ُْ ُك َم َل ا ْم َ ي َت َس َ ف َوا َق ْد ْخا َ ت َل َف
"
แปลว่า “สองเรื่องนั้นได้แตกต่าง (จึง) ไม่สอดคล้องกัน และทุกสิ่งที่ไม่เสมอกัน จึงถือ ว่า มันได้แตกต่างกัน”
และในการให้ค านิยามค านี้ของ al-Fayruz Abadiy (Basair Zawiy al-Tamjiz:
2/562) และ Muhammad ‘Aawwāmah (2007: 11) ได้อธิบายเชิงภาษา โดยอ้างถึงค าพูดของ
al-Imam al-Raghib al-Asfahaniy ในหนังสือ “Mufradāt al-Qurān” ว่า
هِلْعِف وَأ ِهِلاَح ِفِ ِرَخلآا ِقيِرَط َْيَْغ ًاقْيِرَط ،دِحاَو ُُّْك َذُخَْيَ نَأ :ُةَفَلاَخُمْلاَو ُف َلاِتْخِْلَا”
“
แปลว่า “ความแตกต่างและการขัดแย้งนั้น หมายถึง การที่คนหนึ่งยึดถือแนวทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แนวทาง (เดียวกับ) ของอีกคนหนึ่ง ทั้งในสภาพ (ภาพรวม) หรือการปฏิบัติของ เขา”
Jabbār Dahshun al-Taiiy (2007: 98) กล่าวว่า ตัวอย่างการใช้ค า “ف َلا ِتخ ِلا” ดังปรากฏในค าพูดของท่านเราะสูล เกี่ยวกับเรื่องการห้ามแตกแถวในเวลาละหมาด ว่า
اوُوَ تْسا((
لَو ، اوُفِلَتَْتَّ
َفِلَتْخَت َ ف ))ْمُكَُوُلُ ق
48
ความว่า “ท่านทั้งหลายจงท าแถวให้เสมอกัน และอย่าท าให้แถวไม่เสมอกัน (เพราะ มัน) จะท าให้หัวใจ (หรือความสามัคคี) ของท่านทั้งหลายแตกจากกัน”
48 หะดีษบันทึกโดย Muslim หะดีษหมายเลข 432
ผู้วิจัยพบว่ามีค าศัพท์หลายค าที่มีความหมายใกล้เคียง (almaany.com) เช่น ،فَلاِخ َِتَْفِا ،ذَُاَنَ ت ،ّداَضَت ،فُّلاََتَّ ,ةَقَراَفُم ،ُْياَبَ ت ،عُزاَنَ ت ،ماَصِتْخِا
،دْعُ َ ، ْينََ ،ْوَ َ ،ٌَّداَضُم ،ةَفَلاَُمخ ،قا
عاَزِن ،قْرَ ف ،قِراف ،فلاِخ ،ةَموُصُخ ،تُواَفَ ت ،رُياََْ ت ،فُلاََتَّ ،ُْياَبَ ت ،دُعاَبَ ت ،ُْيابَت
อย่างไรก็ตามจากตัวอย่างค าศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกับค า “ف َلا ِتخ ِلا”ข้างต้น จะมีค า “فلالخا” อ่านว่า อัลคิลาฟ ซึ่งจะมีการเขียนคล้ายกับค า “ف َلا ِتخ ِلا” เนื่องจากมีรากศัพท์
เดียวกัน คือ ف ل خ แต่นักวิชาการหลายท่านได้พยายามอธิบายข้อแตกต่างในการน าไปใช้ว่า
“فلاتخلا”จะใช้ในกรณีที่พบว่า ความแตกต่างนั้นเกิดขึ้นจากการน าเสนอหลักฐานที่แตกต่างกัน
ขณะที่ค าว่า “فلالخا” จะถูกใช้ในกรณีที่พบว่า ความแตกต่างนั้นเกิดจากอารมณ์และความเห็น ส่วนตัวซึ่งไม่มีหลักฐานใดๆ มารองรับ (Tāhā Jābir Fayyād al-‘Ulwāniy, 1987: 21) หรือค าว่า
“فلاتخلا” คือ ความแตกต่างที่เป็นผลจากความเมตตา ขณะที่ “فلالخا” เป็นความแตกต่างที่เกิด
จากการอุตริกรรม (Muhammad ‘Aawwāmah, 2007: 12)
‘Aliy Wanis (n.d.: 3) กล่าวว่า นักกฎหมายอิสลามบางท่านได้ให้การยอมรับว่า ทั้งสองค ามีความหมายเหมือนกัน และสามารถใช้ค านี้ในการให้ความหมายเดียวกัน เช่น ความคิดเห็น ของ al-Shatibiy ในหนังสือ al-Muwafaqāt (4/161) เขากล่าวว่า “فلالخا تاعارم” ซึ่งมี
จุดมุ่งหมาย คือ “اهيف ةفلتمخ ةلدأ” หมายถึง การให้ความสนใจต่อการน าเสนอหลักฐานที่แตกต่างกัน และใน al-Fatawa al-Hindiyyah (3/312) ซึ่งใช้สองค านี้ในความหมายเดียวกัน ระบุว่า
"
َفَلَ تخا نِإ ين َلوَقلا ْيذَ َدَحَأ ىلَع مََُدعََ َْم ََجََأ م ُث ،ِينَلوَق لا ىَلَع َنوُمِدَقَ ت ُمْ لا
،
َفرُي ََْ ،عاجَلإا اذَهَ ف ُفلاِلخا
"مدَقَ ت ُ لما
แปลว่า “หากบรรดาผู้น าเสนอได้มีความเห็นต่างกันเป็นสองกลุ่ม จากนั้นได้พบว่ามี
กลุ่มนักวิชาการรุ่นหลังจากพวกเขาได้มีมติเอกฉันท์ร่วมกัน และยึดความเห็นใด ความเห็นหนึ่ง การมติเอกฉันท์ร่วมกันเช่นนี้ จะท าให้ความเห็นต่างกันของบรรดาผู้
น าเสนอ (อีกฝ่ายหนึ่ง) ตกไปหรือไม่”
‘Abd al-Wahhab bin Muhammad al-Hamiqaniy (n.d.: 24) กล่าวว่า ค าทั้ง สองค ามีความหมายและมีการน าไปใช้เหมือนกัน ทั้งในนิยามเชิงภาษาหรือในนิยามเชิงวิชาการ เนื่องจากมีจุดประสงค์ในด้านความหมายเหมือนกัน คือ ความแตกต่าง หรือความขัดแย้ง ไม่ว่าจะใช้
ค านี้เกี่ยวกับเรื่องความคิดเห็น ทรรศนะ การปฏิบัติ อุดมการณ์ หรือจุดยืนที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ผู้วิจัยพบว่า ค า “ف َلا ِتخ ِلا” ในนิยามเชิงภาษานั้น เป็นค าที่มี
ความหมายตรงกันข้ามกับค าศัพท์หลายค า ซึ่งให้ความหมายว่า สอดคล้อง เสมอกัน เท่ากัน ตรงกัน เหมือนกัน หรือ คล้ายกัน (almaany.com) เช่น
ٌقاَفِّتِإ اضَت ،
،ُْم قافِو ِتْئِإ ، ٌفلا ٌماَجِسْنِإ ، ٌءاقتلا ,،
، ٌلاثتما ٌفُلتآ ،
ٌسُنا ََ ، ٌهَُاشَت ،
ٌقَُاَطَت ، ٌنواعَت ،
،
ٌمَُافَت ٌبُراقَت ، مُؤَلاَت ،
ُْثاََتَ ، ٌمُغانَت ، ٌمُغاَنَ ت ،
ٌقُفاَوَ ت ، وُ نُد ،
ٌهَبَش ، ُ ق، ٌبْر ٌةَلَكاشم ، ٌةَعَراضم ،
،
ٌٌاَاضم ٌةَلَ ثاَُِ،
2.2.1.2 นิยามเชิงวิชาการ
การศึกษานิยามเชิงวิชาการ พบว่า “ف َلاِتخِلا” หมายถึง การที่คนหนึ่งยึดถือ แนวทางหนึ่งซึ่งมีความแตกต่างจากคนอื่น เช่น ความแตกต่างในเรื่องความคิดเห็น ทรรศนะ ค าพูด การปฏิบัติ กลุ่ม หรือจุดยืนที่แตกต่างจากคนอื่น (Tāhā Jābir Fayyād al-‘Ulwāniy, 1987: 21;
‘Abd al-Salām al-Sulaymāniy, 1993: 146; ‘Abd al-Salām al-Sulaymāniy, 1993: 146)
และนิยามของ Jabbār Dahshun al-Taiiy (2007: 98) อธิบายว่า “ف َلاِتخِلا” หมายถึง ความเห็น ต่างระหว่างบรรดาผู้มีความเห็นขัดแย้งกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง หรือน าเสนอความ ถูกต้อง หรือเพื่อขจัดข้อมูลที่เป็นเท็จ
ทั้งนี้ จากนิยามเชิงวิชาการดังกล่าว ผู้วิจัยพบว่า นักวิชาการหลายท่านได้จ าแนก ระดับความเห็นต่างออกเป็น 3 ระดับ (Jabbār Dahshun al-Taiiy, 2007: 98; Tāhā Jābir Fayyād al-‘Ulwāniy. 1987: 22-23) ได้แก่
1) ระดับการความเห็นต่างทั่วไป โดยนักวิชาการส่วนใหญ่จะเรียกระดับนี้ว่า
“ف َلا ِتخ ِلا” หมายถึง การยึดถือแนวทางที่แตกต่างกันของแต่ละคน หรือการยึดถือแนวทางใด แนวทางหนึ่งที่มีความแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งอาจจะน าไปสู่การแสดงความเห็นที่ต่างกันหรือการเกิด ความขัดแย้งได้ (Tāhā Jābir Fayyād al-‘Ulwāniy. 1987: 21; Muhammad ‘Aawwāmah, 2007: 11) ดังตัวอย่างในอัลกุรอาน
َف َفَلَ تْخا ،ميِظَع ،مْوَ ي ِدَهْشَّم ِْم اوُرَفَك َْيِذَّلِّل ٌْْيَوَ ف ۖ ْمِهِنْيَ َ ِْم ُباَزْحَْلِا
:يمرم( 37 )
ความว่า “ดังนั้น คณะต่าง ๆ ได้ขัดแย้งระหว่างกันเอง ดังนั้น ความหายนะจงประสบ แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา เมื่อมีการชุมนุมแห่งวันอันยิ่งใหญ่เถิด” (มัรยัม: 37)
َنوُلاَزَ ي َلَو ۖ ًٌَدِحاَو ًةَّمُأ َساَّنلا ََْعََلج َكََُّر َءاَش ْوَلَو َينِفِلَتُْمخ
:دوَ( 119 )
ความว่า “และหากพระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์ แน่นอนพระองค์จะทรงท าให้ปวง มนุษย์เป็นประชาชาติเดียวกัน แต่พวกเขาก็ยังคงแตกแยกกัน” (ฮูด: 118)
،لْوَ ق يِفَل ْمُكَّنِإ ،فِلَتُّْمخ
:تيَراذلا( 9
)
ความว่า “แท้จริงพวกเจ้าอยู่ในค าพูดที่ขัดแย้งกัน” (อัซซาริยาต: 8)
َّنِإ َْيَ ِهيِف اوُناَك اَميِف ِةَماَيِقْلا َمْوَ ي ْمُهَ نْ يَ َ ُِْصْفَ ي َوَُ َكَََّر َت
َنوُفِل :ٌدجسلا( 85
)
ความว่า “แท้จริงพระเจ้าของเจ้า พระองค์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในวันกิยามะฮฺ
ในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น” (อัสสะญะดะฮฺ: 25)
2) ระดับความเห็นต่างที่มีการโต้แย้ง เรียกว่า “ل َد َج َا ْل ” อ่านว่า อัลญะดัล หมายถึง การโต้แย้ง หรือโต้เถียง เป็นระดับความคิดเห็นต่างที่มีการอ้างหลักฐาน เพื่อให้ฝ่ายตรงข้าม พึงพอใจต่อความเห็นและหลักฐานที่ตนน าเสนอมีความน่าเชื่อถือมากกว่า โดยส่วนมากจะเป็น ประเด็นความเห็นต่างระหว่างบรรดานักกฎหมายอิสลามในเรื่องการให้น้ าหนักของหลักฐาน ดัง ที่อัลลอฮฺ ได้ทรงสั่งใช้ท่านเราะสูล และบรรดาผู้ศรัทธาว่า
َو مُْلَِداَج َُْسْحَأ َيَِ ِتَِّلِبِ
(
ْحنلا : ةيلآا ْم ضعَ
185 )
ความว่า “และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า” (อันนะล์: ส่วนหนึ่งจากอายะฮฺ 125) َلَو اوُلِداََُ
ۖ ْمُهْ نِم اوُمَلَظ َْيِذَّلا َّلِإ َُْسْحَأ َيَِ ِتَِّلِبِ َّلِإ ِباَتِكْلا َََْْأ (
توبكنعلا :
ةيلآا ْم ضعَ
66 )
ความว่า “และพวกเจ้าอย่าโต้เถียงกับพวกอะฮ์ลุลกิตาบเว้นแต่ด้วยวิธีที่ดีกว่า” (อัล อันกะบูต: ส่วนหนึ่งจากอายะฮฺ 46)
3) ระดับความเห็นต่างที่มีความต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายผู้มี
ความเห็นต่างจากตนเอง โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีความพึงพอใจหรือยอมรับหลักฐานที่ตนเองยึดถือ หรือไม่ จนกระทั่งท าให้เกิดความแตกแยกและการเป็นศัตรูกัน ซึ่งจะเรียกระดับความเห็นต่างนี้ว่า
“قاَقِشلا” อ่านว่า อัชชิก๊อก หมายถึง การแตกแยก ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า
ْمُتْفِخ ْنِإَو َقاَقِش
يِرُي نِإ اَهِلََْأ ِّْْم اًمَكَحَو ِهِلََْأ ِّْْم اًمَكَح اوُثَعْ َاَف اَمِهِنْيَ َ اًح َلاْصِإ اَد
َّنِإ اَمُهَ نْ يَ َ َُّللَّا ِقِّفَوُ ي اًيِْبَخ اًميِلَع َناَك ََّللَّا
:ءاسنلا( 35
)
ความว่า “และหากพวกเจ้าหวั่นเกรงการแตกแยกระหว่างเขาทั้งสอง พวกเจ้าก็จงส่งผู้
ตัดสินคนหนึ่งจากครอบครัวของฝ่ายชาย และผู้ตัดสินอีกคนหนึ่งจากครอบครัวฝ่าย หญิง หากทั้งสองปรารถนาให้มีการประนีประนอมกันแล้ว อัลลอฮฺก็จะทรงให้
ความส าเร็จในระหว่างทั้งสอง แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงสัพพัญญู” (อันนิ
สาอ์: 35)
ِفِ ْمَُ اََّنَِّإَف اْوَّلَوَ ت نِإَّو ۖ اوَدَتَْا ِدَقَ ف ِهَِ مُتنَمآ اَم ِْْثِِبِ اوُنَمآ ْنِإَف ،قاَق ِش
َُّللَّا ُمُهَكيِفْكَيَسَف ۖ
ُميِلَعْلا َُيِمَّسلا َوََُو (
ٌرقبلا : 137 )
ความว่า “แล้วหากพวกเขาศรัทธาอย่างที่พวกเจ้าศรัทธาแล้ว แน่นอนพวกเขาก็ย่อม ได้รับข้อแนะน าที่ถูกต้อง และหากพวกเขาผินหลังให้ แน่นอนพวกเขาย่อมอยู่ในความ แตกแยกกัน แล้วอัลลอฮฺก็จะทรงให้เจ้าพอเพียงแก่พวกเขา และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรง ไว้ซึ่งการได้ยิน ทรงไว้ซึ่งความรอบรู้” (อัลบะเกาะเราะฮฺ: 137)
โดยสรุปความหมายข้างต้น ผู้วิจัยพบว่า ความเห็นต่าง หรือ อัลอิคติลาฟ
“ف الَِتخ ِلاا” หมายถึง การยอมรับหรือการยึดถือความคิดเห็น หรือทรรศนะ หรือค าพูด หรือ แนวทางปฏิบัติที่มีความแตกต่างกันระหว่างบุคคลหรือกลุ่ม ซึ่งอาจเป็นความเห็นที่ท าให้ทั้งสองฝ่ายที่
มีความเห็นต่างกันได้รับความเข้าใจที่ถูกต้อง หรืออาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง หากความเห็นต่างนั้น ไม่ได้ตั้งอยู่บนเจตนาหรือจุดมุ่งหมายเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและยอมรับความถูกต้อง