• Tidak ada hasil yang ditemukan

บทที่ 4 ผลกำรวิจัย

ภำพ 2 แสดงบ่ำคอแลน

107 และเข้ำใจค ำบริภำษเหล่ำนั้น และยังแสดงถึงวิถีชีวิตที่ผูกพันใกล้ชิดกับธรรมชำติจึงน ำพืชที่อยู่

รอบตัวมำประกอบเป็นค ำบริภำษ

นอกจำกนี้ ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือที่เกี่ยวกับพืชได้แสดงให้เห็นวิธีคิดของ คนภำคเหนือที่น ำเอำชื่อพืชและลักษณะเด่นของพืชมำเปรียบเทียบกับสิ่งต่ำง ๆ ของผู้ที่

ถูกบริภำษ เช่น ซงผมหยั่งป่ำหญ้ำคำ (ทรงผมเหมือนป่ำหญ้ำคำ) เป็นกำรเปรียบเทียบลักษณะ ของทรงผมกับหญ้ำคำซึ่งเป็นวัชพืชที่รกและขึ้นหนำแน่นไม่เป็นระเบียบ อำจกล่ำวได้ว่ำ ผมของผู้ถูกบริภำษรกรุงรังยุ่งเหยิง ผ่อหยั่งบ่ำปินเน่ำ (ดูเหมือนมะตูมเน่ำ) เป็นกำรเปรียบเทียบ ลักษณะของผลมะตูมเน่ำกับผู้ถูกบริภำษ เมื่อผลมะตูมเน่ำจะมีลักษณะเละ สีช้ ำ มีเมือกเหนียว ส่งกลิ่นเหม็นไม่น่ำมอง อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ถูกบริภำษนั้นน่ำรังเกียจ หน้ำผ่อหยั่งเก้ำมะยม (หน้ำ ดูเหมือนต้นมะยม) เป็นกำรเปรียบเทียบหน้ำของผู้ถูกบริภำษกับต้นมะยมที่มีลักษณะขรุขระ เป็นปุ่มปม อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ถูกบริภำษมีผิวหน้ำไม่เรียบเนียน อ่องออเต้ำหน่วยบ่ำคอแลน (สมองเท่ำผลคอแลนหรือลิ้นจี่ป่ำ) กล่ำวคือ คอแลนเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผลรูปวงรีหรือ ค่อนข้ำงกลม ออกลูกเป็นพวงคล้ำยลิ้นจี่ ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงผล 1.5-2 เซนติเมตร ยำว 2.5-3 เซนติเมตร ผิวขรุขระเป็นปมเล็ก ๆ กระจำยทั่วไป (ฐำนข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัช ศำสตร์ มหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี, ม.ป.ป., สื่อออนไลน์) จำกลักษณะของผลคอแลนหรือลิ้นจี่

ป่ำที่มีขนำดเล็กผิวขรุขระ ถูกน ำมำเปรียบเทียบกับขนำดสมองของผู้ที่ถูกบริภำษว่ำมีสมอง เพียงน้อยนิดเท่ำกับผลคอแลนหรือลิ้นจี่ป่ำ อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ที่ถูกบริภำษโง่หรือไม่มีควำมคิด เป็นต้น

108 2.4 โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับสัตว์ กำรด ำเนินชีวิตของคนภำคเหนือ มีควำมผูกพัน พึ่งพิง และเกี่ยวข้องกับธรรมชำติรวมถึงสัตว์นำนำชนิด ค ำบริภำษภำษำไทย ถิ่นเหนือในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮำคนเมือง” สะท้อนให้เห็นควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับสัตว์ เห็นได้จำก ค ำบริภำษจ ำนวน 61 ค ำ ได้แก่ ก ำกึ๊ดงูไซ (ควำมคิดงูไซ) จ้ำดวอก (เผ่ำพันธุ์ลิง) จ้ำดหมำ (เผ่ำพันธุ์สุนัข) บ่ำก๊บปุ่ม (ไอ้กบที่มีผิวเป็นปุ่มปมคล้ำยคำงคก) บ่ำขี้จั๊กกิ้ม (ไอ้ขี้จิ้งจก) บ่ำขี้เปี้ย แมงแส็บ (ไอ้แมลงสำบง่อยเปลี้ย) บ่ำควำย (ไอ้ควำย) บ่ำควำยนำ (ไอ้ควำยนำ) บ่ำควำยปอน (ไอ้ควำยเผือก) บ่ำควำยหงำน (ไอ้ควำยฉกรรจ์) บ่ำงัว (ไอ้วัว) บ่ำจ้ำดหมำ (ไอ้เผ่ำพันธุ์สุนัข) บ่ำจี้กุ่งอมฮอลล์ (ไอ้จิ้งโกร่งอมฮอลล์) บ่ำตั๊บไฮ (ไอ้ตับไร) บ่ำนกกะจอก (ไอ้นกกระจอก) บ่ำแป๊วอวกำศ (ไอ้พยำธิอวกำศ) บ่ำพำยเฮ็บเป็ด (ไอ้ผีพรำยเห็บเป็ด) บ่ำเมือกป๋ำดุ๊ก (ไอ้เมือก ปลำดุก) บ่ำวอก (ไอ้ลิง) บ่ำวอกเฒ่ำ (ไอ้ลิงแก่) บ่ำศอกหมำแม่ด้อง (ไอ้ศอกสุนัขตัวเมียที่ยัง ให้นมลูกอยู่) บ่ำหน้ำกะหล็อกน่องหมำโก้ง (ไอ้หน้ำซอกขำพับสุนัขลำยด่ำง) บ่ำหน้ำมอด (ไอ้หน้ำมอด) บ่ำหน้ำแมวโพง (ไอ้หน้ำแมวครำว) บ่ำหน้ำฮูขี้หมำว้อ (ไอ้หน้ำรูทวำรสุนัขบ้ำ) บ่ำหมำปั๊ดว้อง (ไอ้สุนัขส ำเร็จควำมใคร่ด้วยตนเอง) บ่ำหมำเห่ำบ่ดำย (ไอ้สุนัขเห่ำเฉย ๆ) บ่ำห่ำวอก (ไอ้โรคห่ำลิง) บ่ำเหงือกหมำ (ไอ้เหงือกสุนัข) บ่ำเฮ็บคบห ำ (ไอ้เห็บกัดห ำ) บ่ำอ่องออหมูป่ำ (ไอ้สมองหมูป่ำ) แป๋งขี้ปุ๋มไก้หยั่งอึ่งอ่ำงกั๊ดเม่ำ (ท ำพุงขึ้นอืดเหมือนอึ่งอ่ำงกินแมลงเม่ำจนจุก) พำยหมำ (ผีพรำยสุนัข) สวกปั๋นหมำ (ดุเหมือนสุนัข) หน้ำเปิ้บหยั่งฮูปู๋ตี๋นตื้บ (หน้ำแบนเหมือน รูปูโดนเท้ำกระทืบ) หน้ำหยั่งก๊บหยั่งเขียด (หน้ำเหมือนกบเหมือนเขียด) หน้ำหยั่งควำยกิ๋น จิ๊นส้มบูด (หน้ำเหมือนควำยกินแหนมบูด) หน้ำหยั่งแป๊ะเมื่อย (หน้ำเหมือนแพะป่วย) ห่ำวอก (โรคห่ำลิง) หุ่นปั๋นอึ่งกั๊ดเม่ำ (หุ่นเหมือนอึ่งอ่ำงกินแมลงเม่ำจนจุก) อ่องออเต้ำหีไฮ (สมองเท่ำหีไร) อี่ก๊บยืน (อี่กบยืน) อี่ควำยหงำน (อี่ควำยฉกรรจ์) อี่งูเหลือมกิ๋นหมำ (อี่งูเหลือมกินสุนัข) อี่จ๊ำงน้ ำ (อี่ช้ำงน้ ำ) อี่จ๊ำงมูบ (อี่ช้ำงหมอบ) อี่จ้ำดหมำ (อี่เผ่ำพันธุ์สุนัข) อี่ดอกไม้กำดงัว (อี่ดอกไม้ตลำดวัว) อี่เด้ำหีหมำ (อี่กระเด้ำหีสุนัข) อี่ตั๊บหมำ (อี่ตับหมำ) อี่นกเขำถ่ำยขน (อี่นกเขำผลัดขน) อี่ม้ำแห่

ลูกแก้ว (อี่ม้ำแห่นำค) อี่วอกแลน (อี่ลิงตะกวด) อี่หน้ำบ่ำกุ๊ดจี่เดือนเกี๋ยง (อี่หน้ำแมลงปีกแข็ง เดือนตุลำคม) อี่หน้ำวอก (อี่หน้ำลิง) อี่อึ่งกั๊ดเม่ำ (อี่อึ่งอ่ำงกินแมลงเม่ำจนจุก) อี่ฮำกหมำ (อี่อำเจียนสุนัข) ไอ้งัว (ไอ้วัว) ไอ้วอก (ไอ้ลิง) ไอ้หน้ำจะเล้ออมฮอลล์ (ไอ้หน้ำจิ้งเหลนอมฮอลล์) และไอ้เฮ็บหมำว้อ (ไอ้เห็บสุนัขบ้ำ)

ค ำบริภำษข้ำงต้นประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์ขำปล้องที่มีขนำดเล็ก และขนำดใหญ่ คือ แมงแส็บ (แมลงสำบ) จี้กุ่ง (จิ้งโกร่ง จิ้งหรีดหัวตะกั่ว) ไฮ (ไร) เฮ็บ (เห็บ) มอด บ่ำกุ๊ดจี่ (แมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง) เม่ำ (แมลงเม่ำ) สัตว์มีกระดูกสันหลัง คือ งูไซ วอก (ลิง) หมำ จั๊กกิ้ม (จิ้งจก) ควำย งัว (วัว) นกกะจอก (นกกระจอก) เป็ด ป๋ำดุ๊ก (ปลำดุก) หมำแม่ด้อง

109 (สุนัขตัวเมียที่ยังให้นมลูกอยู่ มักผอม และนมยำน) หมำโก้ง (สุนัขที่มีลำยเป็นด่ำงดวงโต ๆ) แมวโพง (แมวครำว แมวตัวผู้ที่แก่และชอบเที่ยว) หมำว้อ (สุนัขบ้ำ สุนัขที่เป็นโรคกลัวน้ ำ) หมูป่ำ ก๊บ (กบ) เขียด แป๊ะ (แพะ) งูเหลือม จ๊ำง (ช้ำง) นกเขำ ม้ำ แลน (ตะกวด) อึ่ง จะเล้อ (จิ้งเหลน) สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง คือ แป๊ว (พยำธิ) ปู๋ (ปู) แล ะสัตว์ในนิยำย คือ จ๊ำงน้ ำ (ชื่อสัตว์ในนิยำย รูปร่ำงเหมือนช้ำงอำศัยอยู่ตำมวังน้ ำ) สัตว์ดังกล่ำวได้แสดงให้เห็นว่ำ คนภำคเหนือมีควำมสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตว์ จึงน ำเอำสัตว์ที่รู้จักหรือเห็นในชีวิตประจ ำวัน มำประกอบเป็นค ำบริภำษ

คนภำคเหนือมีควำมคิดเรื่องมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ กำรน ำคนไปเปรียบเทียบ กับสัตว์ และสัตว์ที่น ำมำเปรียบเทียบนั้นเป็นสัตว์เดรัจฉำนหรือชั้นต่ ำ ซึ่งเป็นกำรลดทอนคุณค่ำ ควำมเป็นมนุษย์ลง ท ำให้กำรประกอบสร้ำงค ำบริภำษมีควำมเจ็บแสบมำกยิ่งขึ้น เนื่องจำกเป็น กำรอุปลักษณ์ไปในทำงลบได้หลำกหลำยทำง จึงสำมำรถสร้ำงควำมรู้สึกโกรธเคืองและ เจ็บปวดต่อผู้ถูกบริภำษมำกขึ้น เห็นได้จำกกำรน ำเอำชื่อสัตว์ พฤติกรรม หรือลักษณะบำงประกำร ของสัตว์มำเปรียบเทียบกับสิ่งต่ำง ๆ ของผู้ถูกบริภำษ และสร้ำงเป็นค ำเพื่อใช้บริภำษใน ภำษำไทยถิ่นเหนือ เช่น หน้ำอย่ำงแป๊ะเมื่อย เป็นกำรเปรียบเทียบหน้ำของผู้ถูกบริภำษว่ำ เหมือนแพะที่ก ำลังป่วย อ่องออเต้ำหีไฮ เป็นกำรเปรียบเทียบขนำดสมองของผู้ถูกบริภำษกับ อวัยวะของไรที่มีขนำดเล็ก อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ที่ถูกบริภำษไร้สมองหรือโง่ สวกปั๋นหมำ เป็นกำรเปรียบเทียบพฤติกรรมหรือนิสัยของผู้ถูกบริภำษว่ำดุร้ำยเหมือนสุนัข จำกตัวอย่ำง ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือ ท ำให้เห็นว่ำ กำรน ำสัตว์ ลักษณะของสัตว์ มำใช้เปรียบเทียบใน ค ำบริภำษ มักเป็นกำรสื่อถึงพฤติกรรมหรือลักษณะที่ไม่ดีของผู้ถูกบริภำษ

2.5 โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำหำร อำหำรเป็นภูมิปัญญำอย่ำงหนึ่ง ที่มีควำมหลำกหลำยและแตกต่ำงกันไปตำมสภำพสังคมและวัฒนธรรม อำหำรจึงเป็นสิ่งที่

แสดงให้เห็นวิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นนั้น ๆ ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือในเฟซบุ๊ก แฟนเพจ “ฮำคนเมือง” สะท้อนให้เห็นควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำหำรของคนภำคเหนือ เห็นได้จำก ค ำบริภำษจ ำนวน 9 ค ำ ได้แก่ แก่นต๋ำเต้ำมะลำนต้ม (ลูกตำเท่ำลูกลำนต้ม) บ่ำจี้กุ่งอมฮอลล์

(ไอ้จิ้งโกร่งอมฮอลล์) หน้ำหยั่งควำยกิ๋นจิ๊นส้มบูด (หน้ำเหมือนควำยกินแหนมบูด) อี่จิ๊นส้มห่อต๋อง (อี่แหนมห่อใบตอง) อี่น้ ำพิกน้ ำผัก (อี่น้ ำพริกน้ ำผัก) คนเฒ่ำป๋ำปิ้ง (คนแก่ปลำปิ้ง) อี่ป๋ำฮ้ำโอ่

(อี่ปลำร้ำเหม็น) อี่หน่อโอ่แฮมคืน (อี่หน่อไม้เหม็นค้ำงคืน) และไอ้หน้ำจะเล้ออมฮอลล์

(ไอ้หน้ำจิ้งเหลนอมฮอลล์)

ค ำบริภำษข้ำงต้นประกอบด้วยชื่ออำหำรท้องถิ่นภำคเหนือดั้งเดิมและชื่อ อำหำรสมัยใหม่ ซึ่งอำหำรท้องถิ่นภำคเหนือดั้งเดิมเป็นของกินที่ท ำจำกพืชหรือเนื้อสัตว์ คือ

110 มะลำนต้ม (ลูกลำนต้ม) จิ๊นส้ม เป็นแหนมที่ท ำจำกเนื้อหมู น้ ำพิกน้ ำผัก (น้ ำพริกน้ ำผัก) เป็นกำรน ำน้ ำผักมำผสมกับพริกแดงปิ้งไฟให้หอมป่นละเอียดและเติมเกลือให้พอกับรสที่ชอบ ป๋ำปิ้ง (ปลำปิ้ง) ป๋ำฮ้ำ (ปลำร้ำ) และหน่อโอ่ เป็นหน่อไม้ที่แช่น้ ำทิ้งไว้จนมีกลิ่นเหม็นแล้ว จึงน ำไปต้มเพื่อกินกับน้ ำพริกด ำ (อุดม รุ่งเรืองศรี, 2547, หน้ำ 218, 629, 895) ส ำหรับอำหำร สมัยใหม่ เป็นของหวำนที่ท ำมำจำกน้ ำตำล คือ ฮอลล์ ค ำบริภำษดังกล่ำวมีกำรน ำเอำรูปลักษณ์

ของอำหำรมำใช้ในกำรเปรียบเทียบและสร้ำงค ำเพื่อใช้ในกำรบริภำษ ท ำให้เห็นวิถีชีวิตของคน ภำคเหนือที่มีควำมเกี่ยวข้องและพึ่งพิงธรรมชำติ จึงน ำเอำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นมำประกอบ อำหำร รวมทั้งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมกำรกินของคนภำคเหนือที่เปลี่ยนแปลงไปตำมยุคสมัย ดังเห็นได้จำกชื่ออำหำรหรือของกินสมัยใหม่ที่น ำมำประกอบเป็นค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือ