• Tidak ada hasil yang ditemukan

บทที่ 4 ผลกำรวิจัย

2. โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่

ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮำคนเมือง” สะท้อนโลกทัศน์

ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับชำติก ำเนิด ควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำชีพ ควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับพืช ควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับสัตว์ ควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำหำร ควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้

และควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ พบจ ำนวน 184 ค ำ ดังนี้

2.1 โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับชำติก ำเนิด ค ำบริภำษภำษำไทย ถิ่นเหนือในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮำคนเมือง” สะท้อนให้เห็นควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับชำติก ำเนิด ของคนภำคเหนือ ซึ่งเป็นลักษณะกำรเกิดในตระกูลหรือเผ่ำพันธุ์ใดเผ่ำพันธุ์หนึ่ง รวมถึงฐำนะ สถำนภำพหรือสิทธิหน้ำที่ตำมบทบำทของบุคคล เห็นได้จำกค ำบริภำษจ ำนวน 17 ค ำ ได้แก่

ง่ำวหำป้อหยังล้ ำเหลือ (โง่หำพ่ออะไรนักหนำ) จ้ำดง่ำว (เผ่ำพันธุ์โง่) จ้ำดบ่สั่งบ่สอน (เผ่ำพันธุ์

ไม่สั่งไม่สอน) จ้ำดวอก (เผ่ำพันธุ์ลิง) จ้ำดหมำ (เผ่ำพันธุ์สุนัข) บ่ำง่ำวเจื๊อป้อ (ไอ้โง่เหมือนพ่อ) บ่ำจ้ำดง่ำว (ไอ้เผ่ำพันธุ์โง่) บ่ำจ้ำดหมำ (ไอ้เผ่ำพันธุ์สุนัข) บ่ำยะหีแม่มึง (ไอ้ร่วมเพศกับแม่ตนเอง) บ่ำลูกจู๊ (ไอ้ลูกชู้) บ่ำลูกบ่มีป้อ (ไอ้ลูกไม่มีพ่อ) ลูกอี่ห่ำหีหลวง (ลูกอี่โรคห่ำหีใหญ่) ลูกอี่หีตึ๊ด (ลูกอี่หีปิดกั้นอย่ำงแน่นหนำ) มดจ้ำด (หมดเผ่ำพันธุ์) อี่จ้ำดง่ำว (อี่เผ่ำพันธุ์โง่) อี่จ้ำดง่ำวควำย สะตวง (อี่เผ่ำพันธุ์โง่เหมือนรูปปั้นควำยในกระบะกำบกล้วยใส่เครื่องเซ่น) และอี่จ้ำดหมำ (อี่เผ่ำพันธุ์สุนัข)

ค ำบริภำษข้ำงต้นมีกำรน ำค ำที่เกี่ยวกับชำติก ำเนิด ฐำนะและสถำนภำพของ บุคคลมำประกอบเป็นค ำบริภำษ เช่น จ้ำด (ชำติ) หมำยถึงเผ่ำพันธุ์ ป้อ (พ่อ) แม่ ลูก

105 ค ำดังกล่ำวเมื่อประกอบเป็นค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือ มักมีควำมหมำยที่แสดงถึงกำรดูหมิ่น ไม่ให้เกียรติบุพกำรีและบรรพบุรุษ เช่น กำรบริภำษด้วยควำมอปกติ ดังปรำกฏในค ำบริภำษ บ่ำลูกบ่มีป้อ (ไอ้ลูกไม่มีพ่อ) ในสังคมโบรำณนั้นผู้ชำยเป็นคนหำเลี้ยงครอบครัว กำรบริภำษว่ำ เป็นลูกก ำพร้ำจึงเป็นค ำบริภำษที่เจ็บแสบ เปรียบเสมือนกำรบริภำษว่ำครอบครัวขำดเสำหลัก กำรบริภำษด้วยกำรละเมิดครรลองทำงสังคม เช่น บ่ำยะหีแม่มึง (ไอ้ร่วมเพศกับแม่ตนเอง) กำรมีเพศสัมพันธ์กับคนในครอบครัวนั้น นอกจำกเป็นควำมอปกติของครรลองทำงสังคมแล้ว ยังเป็นพฤติกรรมของสัตว์เดรัจฉำน สิ่งเหล่ำนี้เป็นกำรกระตุ้นและสร้ำงควำมโกรธให้กับผู้ที่

ถูกบริภำษ เนื่องจำกคนภำคเหนือยึดมั่นในระบบอำวุโส ให้ควำมเคำรพกตัญญูต่อบุพกำรีและ บรรพบุรุษ ดังที่เรณู อรรฐำเมศร์ (2528, หน้ำ 130) กล่ำวว่ำ “คนล้ำนนำยกย่องควำมกตัญญู

กตเวทีต่อผู้ที่เคยมีพระคุณ กำรท ำลำยล้ำงและไม่รู้บุญคุณของพ่อแม่และผู้ที่เคยช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นลักษณะโทษที่ได้รับกำรต ำหนิติเตียนอย่ำงมหันต์จำกสังคม” จำกข้อควำมแสดง ให้เห็นว่ำ คนภำคเหนือให้ควำมส ำคัญกับควำมกตัญญู โดยต้องประพฤติปฏิบัติตนต่อผู้มีพระคุณ บุพกำรี และบรรพบุรุษอย่ำงให้เกียรติ หำกไม่ให้เกียรติหรือท ำให้เสื่อมเสีย ถือว่ำอกตัญญู

ไม่รู้คุณและจะถูกคนในสังคมประณำม

2.2 โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำชีพ ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือ ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮำคนเมือง” สะท้อนให้เห็นควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับอำชีพของคนภำคเหนือ คือ อำชีพเกษตรกรรมและอำชีพค้ำขำย เห็นได้จำกค ำบริภำษจ ำนวน 13 ค ำ ได้แก่ บ่ำควำย (ไอ้ควำย) บ่ำควำยนำ (ไอ้ควำยนำ) บ่ำควำยปอน (ไอ้ควำยเผือก) บ่ำควำยหงำน (ไอ้ควำยฉกรรจ์) บ่ำงัว (ไอ้วัว) บ่ำพำยเฮ็บเป็ด (ไอ้ผีพรำยเห็บเป็ด) หน้ำหยั่งควำยกิ๋นจิ๊นส้มบูด (หน้ำเหมือนควำย กินแหนมบูด) หน้ำหยั่งแป๊ะเมื่อย (หน้ำเหมือนแพะป่วย) อี่ควำยหงำน (อี่ควำยฉกรรจ์) อี่ดอกไม้

กำดงัว (อี่ดอกไม้ตลำดวัว) อี่เด้ำคันนำ (อี่กระเด้ำคันนำ) อี่ม้ำแห่ลูกแก้ว (อี่ม้ำแห่นำค) และไอ้งัว (ไอ้วัว)

ค ำบริภำษข้ำงต้นประกอบด้วยค ำที่เกี่ยวกับอำชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกำรใช้

ที่ดินเพำะปลูกพืช รวมทั้งกำรเลี้ยงสัตว์ ดังปรำกฏค ำว่ำ นำ เป็นพื้นที่ส ำหรับใช้ในกำรเพำะปลูก พืช คันนำ เป็นดินที่พูนขึ้นเป็นคันตำมท้องนำส ำหรับขังน้ ำไว้ปลูกพืช เนื่องจำกคนภำคเหนือ มักตั้งถิ่นฐำนอยู่บริเวณที่รำบลุ่มแม่น้ ำ ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมำะแก่กำรประกอบอำชีพ เกษตรกรรม (ศรำวุธ หล่อดี, 2564, หน้ำ 411) อำชีพนี้ต้องอำศัยพื้นที่ในกำรปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์

ส ำหรับกำรเลี้ยงสัตว์ ปรำกฏค ำว่ำ ควำย งัว (วัว) เป็ด แป๊ะ (แพะ) และม้ำ เนื่องจำกคนภำคเหนือ อยู่ในวัฒนธรรมกำรเกษตร จึงมีควำมสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง และสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับ คนมำกที่สุด คือ ควำย ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่ควบคู่มำกับวิถีชีวิตของเกษตรกร เป็นแรงงำนส ำคัญใน

106 กำรท ำเกษตรกรรม ชำวนำใช้ควำยในกำรเตรียมดิน ไถนำ ครำดนำ และนวดข้ำว หลังจำก หมดฤดูกำลเก็บเกี่ยว ควำยกลำยเป็นพำหนะในกำรลำกเกวียน ลำกล้อ บรรทุกคน สิ่งของและ ผลผลิตทำงกำรเกษตรต่ำง ๆ ควำยเป็นทรัพย์สินมีชีวิตเป็นหลักประกันควำมมั่นคงของครอบครัว ควำยจึงมีบทบำทส ำคัญที่เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขในวิถีชีวิตของเกษตรกร (เสำวลักษณ์ เล็กประเสริฐ และคณะ, 2555, หน้ำ 107) ถึงแม้กำรประกอบสร้ำงค ำบริภำษ ที่พบจะเป็นกำรใช้มุมมองด้ำนลบอีกด้ำนหนึ่งที่มองว่ำควำยเป็นสัตว์ที่เชื่องช้ำ โง่เง่ำ ไม่มี

ควำมคิดเป็นของตนเอง ยอมให้คนสนตะพำย ใช้ให้ท ำงำนที่หนักหนำสำหัส จูงจมูกไปทำงไหน ควำยก็ไป แต่วิถีชีวิตที่มีควำมผูกพันกับควำยท ำให้เห็นว่ำคนภำคเหนือประกอบอำชีพท ำนำ และอยู่ภำยใต้วัฒนธรรมเกษตรกรรรม

นอกจำกนี้ยังปรำกฏค ำที่เกี่ยวกับอำชีพค้ำขำย คือค ำว่ำ กำด (ตลำด) เป็นสถำนที่ในกำรประกอบกิจกรรมทำงเศรษฐกิจที่มีกำรแลกเปลี่ยนซื้อขำยสินค้ำ เช่น ผลิตผลทำงกำรเกษตร สัตว์ กำดหรือตลำดของคนภำคเหนือเป็นสถำนที่ที่จัดตั้งขึ้นอย่ำงเป็น กิจจะลักษณะ บำงแห่งเป็นสถำนที่ที่ถูกก ำหนดวันและเวลำโดยจัดขึ้นตำมชนบทและตัวเมือง เรียกว่ำ กำดนัดหรือตลำดนัด สิ่งดังกล่ำวท ำให้เห็นสภำพสังคมและควำมเป็นอยู่ของคนภำคเหนือ ที่พบเห็นได้ทั่วไปจนถึงทุกวันนี้

2.3 โลกทัศน์ด้ำนควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับพืช พืชเป็นทรัพยำกรธรรมชำติที่ขึ้นอยู่

ตำมที่ต่ำง ๆ ในแต่ละท้องถิ่น ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮำคนเมือง”

สะท้อนให้เห็นควำมเป็นอยู่เกี่ยวกับพืชเห็นได้จำกค ำบริภำษจ ำนวน 13 ค ำ ได้แก่ ซงผมหยั่งป่ำ หญ้ำคำ (ทรงผมเหมือนป่ำหญ้ำคำ) ผ่อหยั่งบ่ำปินเน่ำ (ดูเหมือนมะตูมเน่ำ) หน้ำผ่อหยั่งเก๊ำ บ่ำยม (หน้ำดูเหมือนต้นมะยม) หน้ำผ่อหยั่งผักบุ้งฟำดเสำ (หน้ำดูเหมือนผักบุ้งฟำดเสำ) หีเต้ำ กีบบ่ำฟัก (หีเท่ำชิ้นฟัก) อ่องออเต้ำหน่วยบ่ำคอแลน (สมองเท่ำผลคอแลนหรือลิ้นจี่ป่ำ) อี่แก๋น ในบ่ำผำง (อี่เมล็ดมะปรำง) อี่ควำยมะโอ (อี่ควำยส้มโอ) อี่จิ๊นส้มห่อต๋อง (อี่แหนมห่อใบตอง) อี่ดอกไม้กำดงัว (อี่ดอกไม้ตลำดวัว) อี่บ่ำขำมข้อเดียว (อี่มะขำมข้อเดียว) อี่บ่ำถั่วเคิ้นซั้ง (อี่ถั่วฝักยำวตกค้ำงที่ค้ำง) และอี่หยวกม้ำนแดด (อี่หยวกผิวเกรียมเพรำะถูกแดดเผำ)ค ำบริภำษ ข้ำงต้นประกอบด้วยพืชที่อยู่ในท้องถิ่นภำคเหนือ คือ หญ้ำคำ บ่ำปิน (มะตูม) บ่ำยม (มะยม) ผักบุ้ง บ่ำฟัก (ฟัก) บ่ำคอแลน (ลิ้นจี่ป่ำ) บ่ำผำง (มะปรำง) มะโอ (ส้มโอ) ต๋อง (ใบตอง) ดอกไม้

บ่ำขำม (มะขำม) บ่ำถั่ว (ถั่วฝักยำว) และหยวก พืชดังกล่ำวเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ำ คนภำคเหนือ มีควำมช่ำงสังเกต มีกำรเชื่อมโยงธรรมชำติรอบตัวมำประกอบสร้ำงเป็นค ำบริภำษ เพรำะเป็นค ำ ที่มีควำมสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนภำคเหนือ ทุกคนในชุมชนรับรู้ร่วมกัน จึงสำมำรถเข้ำถึง

107 และเข้ำใจค ำบริภำษเหล่ำนั้น และยังแสดงถึงวิถีชีวิตที่ผูกพันใกล้ชิดกับธรรมชำติจึงน ำพืชที่อยู่

รอบตัวมำประกอบเป็นค ำบริภำษ

นอกจำกนี้ ค ำบริภำษภำษำไทยถิ่นเหนือที่เกี่ยวกับพืชได้แสดงให้เห็นวิธีคิดของ คนภำคเหนือที่น ำเอำชื่อพืชและลักษณะเด่นของพืชมำเปรียบเทียบกับสิ่งต่ำง ๆ ของผู้ที่

ถูกบริภำษ เช่น ซงผมหยั่งป่ำหญ้ำคำ (ทรงผมเหมือนป่ำหญ้ำคำ) เป็นกำรเปรียบเทียบลักษณะ ของทรงผมกับหญ้ำคำซึ่งเป็นวัชพืชที่รกและขึ้นหนำแน่นไม่เป็นระเบียบ อำจกล่ำวได้ว่ำ ผมของผู้ถูกบริภำษรกรุงรังยุ่งเหยิง ผ่อหยั่งบ่ำปินเน่ำ (ดูเหมือนมะตูมเน่ำ) เป็นกำรเปรียบเทียบ ลักษณะของผลมะตูมเน่ำกับผู้ถูกบริภำษ เมื่อผลมะตูมเน่ำจะมีลักษณะเละ สีช้ ำ มีเมือกเหนียว ส่งกลิ่นเหม็นไม่น่ำมอง อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ถูกบริภำษนั้นน่ำรังเกียจ หน้ำผ่อหยั่งเก้ำมะยม (หน้ำ ดูเหมือนต้นมะยม) เป็นกำรเปรียบเทียบหน้ำของผู้ถูกบริภำษกับต้นมะยมที่มีลักษณะขรุขระ เป็นปุ่มปม อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ถูกบริภำษมีผิวหน้ำไม่เรียบเนียน อ่องออเต้ำหน่วยบ่ำคอแลน (สมองเท่ำผลคอแลนหรือลิ้นจี่ป่ำ) กล่ำวคือ คอแลนเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผลรูปวงรีหรือ ค่อนข้ำงกลม ออกลูกเป็นพวงคล้ำยลิ้นจี่ ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงผล 1.5-2 เซนติเมตร ยำว 2.5-3 เซนติเมตร ผิวขรุขระเป็นปมเล็ก ๆ กระจำยทั่วไป (ฐำนข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัช ศำสตร์ มหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี, ม.ป.ป., สื่อออนไลน์) จำกลักษณะของผลคอแลนหรือลิ้นจี่

ป่ำที่มีขนำดเล็กผิวขรุขระ ถูกน ำมำเปรียบเทียบกับขนำดสมองของผู้ที่ถูกบริภำษว่ำมีสมอง เพียงน้อยนิดเท่ำกับผลคอแลนหรือลิ้นจี่ป่ำ อำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ที่ถูกบริภำษโง่หรือไม่มีควำมคิด เป็นต้น